ย้อนวันวาน ... ดอยอ่างขาง
ใกล้จะสิ้นปีอีกแล้ว ผ่านมาถึงเดือนตุลา ปีนึงผ่านไปไวเหมือนโกหก ทำให้คิดถึงลมหนาวเมื่อปีก่อน ใกล้จะครบขวบปีที่เราเดินทางกันไปสัมผัสความหนาวกันที่เชียงใหม่ เลือกที่จะไปดอยอ่างขาง เพราะยังไม่เคยไป แล้วก็อยากชมดอกไม้สวย ๆ กับบรรยากาศโรแมนติค ๆ อิอิ เชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง และในหลาย ๆ แห่ง "ดอยอ่างขาง" เป็นที่หนึ่งเคยวาดหวังว่าจะได้ไปเยือน แล้วก็ไม่ผิดหวัง ...
บันทึกการเดินทาง
ค รั้ ง แ ร ก ของการเดินทางขึ้นดอยอ่างขาง ตื่นเต้นดี ก่อนไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางพอสมควร หวั่น ๆ กับการขึ้นทางชัน คนขับก็ไม่เคย หลงในเมืองมาแล้วเล็กน้อย อิอิ ค่อย ๆ ไป เลยเลือกเส้นทางอ้อมซึ่งตามที่อ่านเค้าบอกว่าชันน้อยกว่า ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ถ้าไปทางที่ชันประมาณ 25 กิโลเมตร เก็บเกี่ยวบรรยากาศรอบ ๆ ที่เป็นทิวเขาเรียงราย มีอยู่วัดนึงสวยดี แต่ไม่ได้แวะกะว่าขากลับถ้าผ่านจะแวะลงไปถ่ายรูปแต่เปลี่ยนเป็นลงทางที่ชันแทนเกรงน้ำมันจะหมด
ระหว่างทางเกิดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา จอดลงร้านอาหารข้าง ๆ ทางแบบชาวบ้าน ๆ ได้ก๋วยเตี๋ยวไปหนึ่งชามกับกาแฟชาวดอยเอสเปรสโซร้อนหนึ่งแก้ว รสชาติกาแฟถูกอกถูกใจ แก้วกาแฟกับขวดน้ำมีตราของโครงการหลวงอ่างขางด้วย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกนิดนึง อากาศเริ่มเย็น ๆ แล้ว น้ำในห้องน้ำเย็นมาก ๆ ซื้อขนมตุนเล็กน้อย นั่งเล่นซักพักก็ออกเดินทางต่อ
เรื่อยมาถึงดงที่เป็นซากุระเมืองไทย หรือเจ้าพญาเสือโคร่งที่คลาดกันหลายครั้ง แม้จะยังออกดอกผลิใบไม่เต็มต้น แต่ก็ยังพอให้เห็นเป็นถนนสีชมพูได้ คราวนี้ล่ะยิ้มดีใจเลยทีเดียว จอดอีกทีตรงจุดชมวิวและร้านขายของ ถ่ายรูปเส้นทางที่ลดเลี้ยวเคี้ยวคดเป็นระยะ ๆ พอถึงตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 อีกนิสเดียวขอเป็นที่ระทึกหน่อยละกัน ^^
และแล้วเราก็มาถึงเส้นชัย เตรียมจัดการหาที่พักที่จองไว้ อ่างขางวิลล่า คนเริ่มทยอยมา เอาของไปเก็บสำรวจห้องหับเตรียมตัวเข้าโครงการหลวงอ่างขางต่อ มีเวลาอีกครึ่งวัน เสียค่าเข้าคนละ 50 รถบวกคนขับอีก 50 เข้าออกได้ทั้งวัน ด่านแรกผ่านไปไปด่านที่สองดงดอกไม้และวิวทิวทัศน์ แล้วก็จอดด่านต่อ ๆ ไปเป็นช่วง ๆ วนอยู่สองรอบหาไร่สตรอเบอรี่ไม่เจอ ไปอยู่ที่สวน 80 นานหน่อย มีดอกไม้แล้วก็พวกกะหล่ำประดับ คะน้าประดับ สวยดี
ตกเย็นอากาศเริ่มเย็นมากขึ้นลืมดูอุณหภูมิว่าตอนนั้นเท่าไหร่ รู้แต่ว่ามือเริ่มชาแล้วล่ะ กินนมร้อน ๆ ผสมน้ำผึ้งรสชาติกลมกล่อม ได้เวลาอาหารเย็น เดินวนแถว ๆ ร้านค้า ได้เสื้ออ่างขางมาเป็นที่ระลึกกันคนละตัว ตัดสินใจเข้าไปร้านนึงเริ่มหิวแล้ว มื้อเย็นของเราวันนั้นมี ถั่วหวานผัดน้ำมันหอย ขาหมูยูนนาน แล้วก็ต้มยำไก่(มั๊ง) อร่อยดี ราคาก็ไม่แพง
มีคนสะกดรอยเท้าเราตามมาที่รถ เป็นเด็กดอยเข้ามาหาแล้วตกลงนัดแนะว่าจะพาเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูทะเลหมอก ไร่สตรอเบอรี่ ในเช้าอีกวัน ที่ว่าสะกดรอยเท้าเพราะรู้หมดว่าเราอยู่ห้องไหน ค่าพาแล้วแต่พี่จะให้ เลยบอกกันว่า ถ้าพี่ให้ 5 บาท ล่ะ เด็กน้อยที่ดูฉลาดและกล้ามิใช่น้อยก็ตอบว่า ก็แล้วแต่พี่ ฮ่า ๆ ถูกเด็กสะกดรอยไม่รู้ตัว เลยถามทางลงดอยตรงทางชันว่ามันแค่ไหน หนุ่มน้อยบอกก็ชันแต่พี่ลงได้ แค่ 5 หักเอง หมายถึงตรงที่หักโค้งของถนน
คืนนั้นหลังจากโหลดรูปลงคอมพ์เป็นที่เรียบร้อย ยังหนาวไม่หาย น้ำที่ว่าอุ่นพอราดไปที่ตัวควันขึ้นจากตัวเลย หนาวดีจัง พรุ่งนี้นัดกับเด็กว่าตีห้าครึ่งจะมาปลุก
เช้าวันรุ่งขึ้น ผ่านจนจะหกโมงเช้าก็ไม่มีวี่แววว่าคนที่จะมาปลุกเลย เราเลยต้องออกไปผจญความมืดแต่เช้าตรู่ กลัวจะไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น ไปชมพระอาทิตย์ ขึ้นไปทางพระธาตุดอยอ่างขาง และโรงเรียนบ้านขอบด้ง เสียดายมุมมองตรงนั้นติดสายไฟบดบังทัศนียภาพไปไม่น้อย คลื่นบนฟ้าสีส้มสีแดงสีชมพู สวยดี รอจนเจ็ดโมงเช้าพระอาทิตย์เพิ่งจะโผล่ นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว
ตรงจุดที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอก มีผู้คนมากมายไปรอชม หมอกไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนพระอาทิตย์ก็ตื่นช้าไปหน่อย เล่นเอาซะเจ็ดโมงกว่า ๆ เห็นจะได้ สาย ๆ หน่อย อากาศหนาว ๆ ต้องโจ๊ก ปาท่องโก๋ กาแฟ ที่มีชาวบ้านชาวดอยจัดตั้งร้านเพื่อบริการนักท่องเที่ยว มีขายของแบกะดิน มีเด็กอยู่คนนึงอายุไม่น่าเกิน 5 ขวบ กำลังถ่ายรูปอยู่ดี ๆ ได้ยินเสียงเด็ก "ช่วยซื้อถุงมือหน่อยครับ คู่ละ 20 เอง จะได้กระจายรายได้" จริง ๆ ยาวกว่านี้ อิอิ จำไม่ได้ ขำดี แก่ท่องซะยาวเลย แต่แล้วก็ไม่ได้ซื้อหรอก ตอนนั้นกำลังใจจดใจจ่อ และบอกกับเด็กว่า มีแล้ว น่าจะช่วยซื้อซักหน่อย มาคิดได้เอาทีหลัง
สาย ๆ กลับที่พักเตรียมลงจากอ่างขาง ถ่ายรูปนางพญาเสือโคร่งอีกนิดหน่อยระหว่างทาง พอถึงทางชัน ที่ว่า 25 กิโล คุณน้องบอกว่าแค่ 5 หักอ่ะ สงสัยจะเกินห้ากระมัง นับไม่ถูกเลย อิอิ ลุ้น ๆ แล้วก็ลงสู่พื้นราบได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล
ทริปนี้เป้าหมายอยู่ที่อากาศหนาว ๆ กับเจ้าพญาเสือโคร่ง แม้จะยังบานไม่เต็มที่ แต่ก็สรุปว่าสุขสมอารมณ์หมายทั้งสองอย่าง ^^
ไปชมภาพกันค่ะ
บนถนนแห่งการเดินทาง สวนกับนักปั่นจักรยาน

ทุ่งดอกไม้ ทิวเขา และเด็กดอย ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

สีสันของดอกไม้เมืองเหนือ ช่างงดงาม

ห้อยระย้า กลีบดอกแบ่งเป็นชั้น เกสรนำสายตา

ชูดอกรับแสงตะวัน

ผีเสื้อตัวน้อย ลายจุดน่ารัก กางปีก ดูดดื่มเกสรดอกไม้

สีขาวโดดเด่น น่ามอง

สวน 80 ปี มีกะหล่ำดอกประดับสวยงาม หลากหลายพันธุ์

ตอนแรกยังคิดว่าจะกินได้รึป่าว แต่คงไม่ได้ เพราะเค้าเขียนไว้ว่า ... ประดับ

ดูใกล้ ๆ กลีบใบซ้อนกัน แซมใบเขียวด้วยสีม่วงและสีขาว

เช้ามืดของอีกวัน เดินทางไปดูพระอาทิตย์กัน ... นักท่องเที่ยวต่างรอคอย เตรียมกล้อง ขาตั้งกล้องพร้อม

พระอาทิตย์ดวงกลมโต โผล่พ้นขึ้นมาให้ได้ยล

ภาพนี้เป็นช่วงแดดอุ่น ๆ ท่ามกลางอากาศหนาว ๆ แต่ยังไงก็ยังอบอุ่นอยู่ดี ^^

ผู้คน กับสีสันของเสื้อกันหนาว ด้านหลังเป็นต้นพญาเสือโคร่ง มีออกดอกให้เห็นกันพอสมควร

สาย ๆ หน่อย มีชาวบ้านตั้งของแบกะดินขายนักท่องเที่ยว จริง ๆ คงมารอตั้งแต่เช้ามืดแล้ว

มีเณรออกบิณฑบาตร ให้นักท่องเที่ยวได้ใส่บาตรทำบุญ


แสงสะท้อนขวดน้ำผึ้งที่ชาวบ้านนำมาวางขาย

ส่วนใหญ่ของที่ชาวบ้านมาวางขายจะเป็นผักสด ปลอดสารพิษ น่าซื้อ แต่ว่าเราเดินทางอีกหลายวัน กว่าจะถึงบ้าน ผักคงเหี่ยวร้อยเรียบแน่ ๆ

มาจุดชมวิวอีกที่นึง "ฐานปฏิบัติการนอแล" เข้าไปด้านในจะเห็นวิวทิวเขา เสียดายไม่ค่อยมีหมอกให้เห็นช่วงที่ไป แต่ก็ยังสวย อากาศดีเป็นทุนเดิม

ประมาณแปดโมงเช้า ได้เวลาเคารพธงชาติพอดี ทหารเชิญธง เข้าแถวกัน นักท่องเที่ยวเสมือนจะเข้าแถวตรงด้วยเหมือนกัน แม้แต่เจ้าสุนัขมันก็ยืนตรงเคารพธงชาติด้วย อิอิ

ใกล้ ๆ ที่พัก มีร้านอาหารหลายร้าน คิดว่าคงอร่อยทุกร้าน แต่ร้านที่ทานนี่เมนูที่เค้าแนะนำ จานนี้เลย ถั่วหวาน หน้าตากับรสชาดไปด้วยกันได้ อร่อยค่ะ

ผ่านจุดกางเต้นท์ ดูเอาไว้ เผื่อคราวหน้าเปลี่ยนจากการนอนบ้านพักมานอนเต้นท์ดู มีห้องน้ำรวมไว้รองรับอยู่ใกล้ ๆ

ก่อนกลับ แวะไร่สตรอเบอรี่บนดอยอ่างขาง ที่ได้รับข้อมูลมาว่า ปลอดสารพิษ ไม่ต้องล้าง สามารถทานได้เลย และแล้วก็ได้ลิ้มลองเด็ดจากต้นสด ๆ

ไร่สตรอเบอรี่ บนดอยอ่างขาง ดอกสีขาวสวยดีเหมือนกัน

สองข้างทางบนดอยอ่างขาง พญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพูเริ่มบานให้ได้ชม


ปิดท้ายด้วยภาพนี้ ... บนถนนแห่งการเดินทางเช่นกัน ถ้ามีโอกาสคงได้ไปเยือนอีก ... อ่างขาง ^^

Create Date : 13 ตุลาคม 2553 |
|
18 comments |
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 19:13:58 น. |
Counter : 2555 Pageviews. |
|
 |
|