สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 8 : วัดองค์ตื้อ วัดอินแปง วัดมีไซ วัดหายโสก ประตูชัย พระธาตุหลวง เฝอบ้านพิม

1
สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 8 ปี2011:

เที่ยววัดลาวหน้าฝน
-  วัดองค์ตื้อ วัดอินแปง วัดมีไซ วัดหายโสก
-  พระธาตุหลวง ชมวิวบนประตูชัย  
- หอพระแก้ว วัดสีสะเกด 
- ช้อปตลาดเช้า แวะกินเฝอบ้านพิม 


----------------------------------------


จันทร์ 17/10/54 เที่ยวมืองลาวหน้าฝน

ทริปนี้มาเยือนเมืองลาวในวันฟ้าครึ้ม ฝนทำท่าจะตกตั้งแต่ออกจากหนองคาย วันนี้เรามาเวียงจันทน์ 5คนเท่านั้น วันนี้มาเพราะอยากมาไหว้พระวัดอื่นๆนอกจากวัดที่เคยมาประจำ เด็กๆปิดเทอมไม่รู้จะพาไปไหน มาไหว้พระดีกว่า

ครั้งนี้เราไปทุกวัดเหมือนเคย รวมทั้งแลนด์มาร์คสำคัญๆ แต่จะขอเน้นวัดที่ไม่ค่อยได้ไปบ่อย คือ

วัดองค์ตื้อ  วัดอินแปง  วัดมีไช  วัดหายโสก




หลังจากผ่านด่านลาว เราขึ้นรถตู้เจ้าประจำที่จอดรออยู่แล้ว วันนี้คนน้อยแต่ได้รถคันใหญ่ใหม่กว่าทุกครั้ง เด็กๆแทบจะวิ่งเล่นในรถได้เลย



ห้ามควายขึ้นรถ 5555 ใครเป็นควายต้องรีบลง




สถานที่แรกที่แวะคือ พระธาตุหลวง เพราะเส้นทางเราจะวนขึ้นเหนือแล้วอ้อมกลับอีกทาง ไม่ย้อนทางเดิม

พระธาตุหลวง

ที่ตั้ง: ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย
เวลาเปิด-ปิด: 08.00 น. - 12.00 น. และ 13.00 น. - 17.00 น.

เรามาในวันที่ใกล้งานบุญประจำปีของพระธาตุหลวง บริเวณด้านหน้ามีการเตรียมออกร้านคล้ายงานวัดบ้านเรา มีปาโป่ง บ้านลมสไลเดอร์ เราจอดรถด้านหน้าและเดินจากด้านหน้าเข้าไป

งานบุญนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ปีนี้ จัดระหว่างวันที่ 3 - 10 พฤศจิกายน พ.ศ 2554 ที่ นครหลวงเวียงจันทน์.
งานเทศกาลบุญนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ถือว่าเป็นงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ประจำปี มีงานตลาดนัด,วางแสดงสินค้า และ การแสดงศีลปะ วัฒนธรรมลาว, คอนเสิร์ต จากค่ายเพลงดัง และ การละเล่น อื่นๆ มหรสพตลอดทั้งงาน







หอธรรมสภา อยู่ด้านซ้ายมือก่อนเดินเข้าไปถึงพระธาตุหลวง
โดยหลวงพ่อคูณ’ มอบเงิน ๓๐๐ ล้านกีบ ในการสร้างหอธรรมสภา-กุฏิ

สำหรับหอธรรมสภา เดิมเป็นอาคารไม้ ชาวลาวเรียกว่า ศาลาพันห้อง อายุยืนยาวหลายร้อยปี โดยได้รับการอุปถัมภ์จากพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ล้านช้างในอดีต กษัตริย์ผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่งนัก จนกาลเวลาผ่านไป ศาลาพันห้องมีสภาพชำรุดทรุดโทรม รัฐบาลลาว, องค์การศาสนาสัมพันประเทศลาว และชาวลาว จึงร่วมกันรื้อถอนและก่อสร้างหอธรรมสภาขึ้นใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนพิธี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาว และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางศาสนาที่สำคัญของชาติลาว ใช้งบประมาณในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ 18 ตื้อกีบ





พระธาตุหลวงมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ ด้วยระเบียงสูงใหญ่ที่โอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้โดยรอบ ประตูทางเข้านั้นเป็นประตูไม้บานใหญ่ลงรักสีแดงไว้ทั้งหมด รอบๆ องค์พระธาตุใหญ่มีเจดีย์บริวารล้อมรอบอยู่โดยรอบอีกหลายองค์ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ปรากฏอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักพญานาค พระพุทธรูปปิดทอง ลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์









ค่าธรรมเนียมในการเข้าชม: เสียค่าธรรมเนียม 5,000 กีบ/คน









หลังจากไหว้พระแล้ว สถานที่ต่อไปที่ต้องแวะคือ ประตูชัย

ประตูชัย

ที่ตั้ง: ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครหลวงเวียงจันทน์ บนถนนล้านช้าง
เวลาเปิด-ปิด: 08.00 น. - 12.00 น. และ 13.00 น. - 17.00 น.
ค่าธรรมเนียมในการเข้าชม: เสียค่าธรรมเนียม 3,000 กีบ/คน ในการขึ้นชมวิว

 








 แม่หญิงลาวน่าฮักในชุดนักเรียน

 ด้านล่างประตูชัย มีภาพประดับเพดาน

 ซื้อปี้ที่บ่อนขายปี้เพื่อชมวิวข้างบน




ข้างบนมีร้านขายของที่ระลึก แต่ราคาแพงกว่าซื้อที่ตลาดเช้า




วันนี้เด็กๆปีนขึ้นชมวิวถึงจุดสูงสุด





วิวข้างบนอีกมุม มองเห็นโรงแรมดอนจันริมแม่น้ำโขงลิบๆ



สำนักนายกฯจากภาพมุมสูง


จะลงแล้วครับ เบื่อแล้ว


ระหว่างมุมตึกบนประตูชัย รอบนี้สังเกตุเห็นผนังด้านในประตูชัยถูกทาสีใหม่ทับร่องรอยการขีดเขียนตามฝาผนังของนักท่องเที่ยว ที่เคยสกปรกจนสะอาดตา





หน้าสำนักนายก ก่อนจาก


หิวแล้วค๊าบคุณแม่ แอบกินเก้าอี้หายไปครึ่งตัวแล้วค๊าบ



อาหารเที่ยงทริปนี้ ขอกินเฝอเจ้าประจำเพราะเด็กๆไม่ยอมกินอย่างอื่น

เฝอ  บ้านพิม






ชามน้อย 50 ชามใหญ่ 60 แซ่บหลายๆๆๆ




หน้าร้าน วันนี้มีแม่ค้าเอาน้ำผึงมาขายด้วย



ผึ้ง ห่อละ5000กีบ (20บาท)





ตัวต่อนึ่ง ก็มีขาย



หลังจากอาหารมือเที่ยงแล้ว ได้พาเด็กๆแวะตลาดเช้าเพื่อซื้อซีดีราคาถูก ข้างบนส่วนที่เป็นตึกมีบรรไดเลื่อน ชั้นที่สาม จะมีร้านขายซีดีราคาถูกหลายร้าน เมื่อก่อนเมื่อ3ปีที่แล้วราคา10บาท แต่ตอนนี้ปรับราคาแผ่นละ20บาท หรือ6แผ่น100 บางร้าน7แผ่น100 คุณภาพดูได้แต่บางเรื่องหน้าปกกับแผ่นไม่ตรงกันก็มี




ตลาดเช้าโครงการสอง กำลังจะเสร็จ








>

ชายตาบอดชาวลาวพาลูกชายมาเลือกซีดี

ใครหิว มีศูนย์อาหารราคาไม่แพงให้นั่งทานได้ค่ะ


 

ออกจากตลาดเช้า เพื่อไปไหว้พระตามวัดต่างๆในเวียงจันทน์






วัดองค์ตื้อ


ที่ตั้ง : ตั้งอยู่บนถนนพระไชยเชษฐา อยู่ห่างจากหอพระแก้ว
มาทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร

สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 16 แห่งคริสตศักราช (ค.ศ. 1566) ภายหลังที่เจ้าไชยะเชษฐาธิราช สร้างเมืองเวียงจันทน์ 6 ปี และสันนิษฐานว่า สร้างครอบวัดเก่าในสมัยขอม เพราะอยู่บริเวณวัดอินแปงได้พบเห็นวัฒนธรรมขอมหลายแห่ง ซึ่งแต่ก่อนวัดองตื้อ, วัดอินแปง, และวัดหายโศก ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าว่าแต่ก่อนเรียกว่า "วัดไชยะภูมิ" เมื่อมีพระพุทธรูปองตื้อ มาประดิษฐานที่นี่แล้ว คนทั้งหลายจึงเรียกว่า "วัดองตื้อ" มาจนถึงปัจจุบัน วัดองตื้อในสมัยสงคราม (ค.ศ. 1828-1829) ได้ถูกทำลายเสียหายเช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ในนครเวียงจันทน์ เหลือไว้เพียงแต่ซากเสา เริ่มแต่ปี 1911-1912 ได้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ แต่ก็ยังสามารถรักษารูปเดิมของฝาผนังไว้ได้ ส่วนหลังคานั้นทำขึ้นมาใหม่ พุทธสีมาวัดองตื้อเป็นพุทธสีมาตัวแม่ต่ำเตี้ย สกุลช่างสถาปัตยกรรมศิลป์สมัยพระเจ้าไชยะเชษฐาธิราชศตวรรษที่ 16 ส่วนบานประตู 3 บาน ด้านหน้าพุทธสีมานั้น เป็นสมัยเจ้าศรีสว่างวัฒนา นำมาถวายเมื่อปี ค.ศ. 1966 ประติมากรรมศิลป์พระพุทธรูปใหญ่องตื้อทำด้วยทองเหลืองที่สวยงาม ประดิษฐ์สร้างขั้นโดยคนลาว ซึ่งมีความประณีตไม่น้อยกว่าสกุลช่างศิลปะใด และไม่ซ้ำแบบใคร ตามพงศาวดารลาวกล่าวไว้ว่าพระเจ้าไชยะเชษฐา ธิราชได้นำพาประชาชนหล่อพระพุทธรูปทองที่สำคัญขึ้นในปี 1566 มีจำนวน 4 องค์ คือ พระเจ้าองตื้อ, พระสุก, พระใส, และพระเสริม ตามการเล่าสืบทอดกันมากว่าวว่าพระสุกจมอยู่ในน้ำเวินสุกในเวลาที่แม่ทัพสยามพยายามเอาข้ามน้ำโขงไปบางกอก, พระใส ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวัด โพธิ์ชัยหนองคาย, พระเสริม ปัจจุบันประดิษฐานอยู่วัดปทุมวนาราม บางกอก ประเทศไทย

วัดองค์ตื้อ มีพระอุโบสถใหญ่อยู่ 1 หลัง กว้าง 16 เมตร 34 เซนติเมตร ยาว 40 เมตร สูงประมาณ 25 เมตร มีพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
เป็นพระประธาน หน้าตักกว้าง 3 เมตร 40 เซนติเมตร สูง 5 เมตร 80 เซนติเมตร

เป็นที่ ประกอบ พิธีที่สำคัญต่าง ๆทางราชการในสมัยก่อน เช่น พิธีถือน้ำ(ดื่มน้ำสัตยาบรรณ) ๆ อีกทั้งงานประเพณีบุญพระธาตุหลวงเสร็จสิ้นลง ยังต้องมาประกอบ พิธี ทำบุญอยู่วัดองตื้อ - วัดอินแปง อีกจึงจะถือว่างานประเพณีบุญพระธาตเสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์

ในสมัยก่อนวัดองค์ตื้อมีอาณาเขตติด กับวัดอินแปง วัดมีไชย และวัดหายโศก แต่ในปัจจุบันนี้ การพัฒนาของบ้านเมือง มีการขยายตัว มีการตัดถนนหนทางเพื่อความสวยงาม และการ เป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นจึกทำให้วัดทั้ง 4 คือ วัดองค์ตื้อ วัดอินแปง วัดมีไชย วัดหายโศก ต้องแยกออกจากกันดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้




 



 

 


 


 

เราจอดรถไว้ที่วัดองค์ตื้อและเดินไปยังวัดใกล้เคียง

มีโรงแรมเก๋ๆมากมายในบริเวณนี้ เช่น โรงแรมสาละนา ตกแต่งได้เก๋ไก๋ น่ารัก













วัดอินแปง

วัดอินแปง เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งอยู่ในนครเวียงจันทน์ภายในวัดประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลายอันที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม เช่น พุทธสีมา, หอไหว้, หอไตร, พระธาตุเจดีย์, พระพุทธรูป, เสาหิน,ใบเสมาหินรูปสิงห์ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนแต่แสดงถึงประวัติศาสตร์ช่วงใดช่วงหนึ่งของนครเวียงจันทน์ วัดอินแปงทางประวัติศาสตร์นั้นยากที่จะหาหลักฐานแน่นอนว่าวร้างขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้าง เรื่องนี้ต้องอาศัยหลักฐานทางโบราณคดีที่พบเห็นอยู่ในวัดคือใบเสมาหิน พระพุทธรูป, เสาหิน… ซึ่งเป็นวัฒนธรรมสมัยมอญและขอม ถึงแม้ว่าวัตถุดังกล่าวนี้จะมีการเคลื่อนย้ายก็ตาม แต่วัฒนธรรมนี้ก็ยังเกี่ยวพันกับชื่อของวัดอินแปง คำว่า "อิน" อาจนำมาจากคำว่าพระอินทร์ ซึ่งหมายถึงเทพเต้าพระองค์หนึ่งของลัทธิศาสนาพราหมณ์ ดังนั้นวัดอินแปงนี้อาจสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์ หรือสถานที่ทางศาสนาสมัยมอญ-ขอม ก็อาจเป็นได้ พุทธสีมาวัดอินแปงเป็นสถาปัตยกรรมศิลป์ที่สวยงาม สกุลช่างศิลปะสมัยพระเจ้าไชยะเชษฐาธิราช ศตวรรษที่ 16






วัดอินแปงมีงานไม้ประดับกระจกงดงาม

















ด้านนอกวัดมีงานศิลป์อาร์ตๆวางขายข้างกำแพงวัด





 

 วัดหายโสก

 

ตั้งอยูฝั่งตรงข้ามกับวัดองค์ตื้อ เยื้องๆเดินเลยไปไม่ไกล

ประวัติความเป็นมาไม่ค่อยมีปรากฏ รู้แต่ว่าคนขับรถชาวลาวที่เราเหมาไปทุ่งไหหินเคยเล่าว่าไกด์ลาวจะไม่นิยมพาลูกทัวร์มาเที่ยวที่นี่ จากปมในประวัติศาสตร์ความขัดแย้งไทยลาว

วัดหายโสก (วัดหายโศก): บูรณะใหม่กลางสมัยปีพศ 2400 ถูกโอบล้อมไปด้วยหมู่ตึกอาคาร

ด้านหน้าทางเข้าวัดมีอาคารทรงโบราณสวยงาม

วันที่เราเข้าไป วัดเงียบสงบ เห็นมีพระเดินสวนเข้ามารูปเดียว

 เดินถัดไปไม่ไกล มาถึงวัดที่สร้างแบบไทย

วัดมีไซ
(วัดมีไซยาราม หรือ วัดมีชัย)

: สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเมื่อปี 2112 ภายหลังมีชัยชนะเหนือทัพพม่า ที่มารุกรานล้านช้าง ปัจจุบันบูรณะใหม่กลางสมัยปีพศ 2400 สิมมีระเบียงรอบ กุฏิปรากฏอิทธิพลสมัยอาณานิคม หอไตรแบบเวียงจันทร์ที่ปรับเปลี่ยนขึ้น และเป็นที่ตั้งโรงเรียนประถมศึกษาด้วย

มีการบูรณะทาสีใหม่เอี่ยมสูญเสียความสวยงามไปเลย ได้แต่มองๆเพราะมีรั้วกั้น ด้านข้างของสิมเป็นโรงเรียนเด็กประถม ซุกซนไม่เบา บางคนแอ็คท่าทะเล้นหน้ากล้อง บางคนอายแอบอยู่หลังเพื่อน

รายนี้แอบหลังเพื่อนเห็นแต่หัว

 บริเวณใกล้เคียงกับวัด มีเกสท์เฮ้าท์และร้านอาหาร

เด็กน้อยฝรั่งนั่งเล่นหน้าที่พัก น่ารักดี

เดินอ้อมไปอีกถนนก็ถึงทางเข้าวัดองค์ตื้ออีกด้านที่รถเราจอดรออยู่

อีกที่ที่เราต้องแวะทุกครั้ง

หอพระแก้ว หอคำ และวัดสีสะเกด

Mr BEAN ขวัญใจเด็กๆ CD 7แผ่นร้อยจากตลาดเช้า ช่วยคุณแม่ไว้ได้มาก

หน้าหอคำ มีการปิดประตูบูรณะซ่อมแซม ปกติเราต้องถ่ายรูปหน้าประตูเห็นวิวด้านในสวยๆ  วันนี้ขอเดินผ่านค่ะ

ลองอ่านป้ายนี้เริ่มเวียนหัว

ถึงตรงนี้เด็กๆไม่ยอมไปด้วยแล้ว เพราะนี่คือรอบ8ที่พามาวัดนี้ น้องแทนไทและกองทัพขอคุณแม่นั่งดูCDในรถ 

ดูหน้าสิคะ ไม่ไหวแล้ว เบื่อเต็มที

 ตกลงแม่เดินคนเดียวก็ได้ ขอเวลาแป๊บเดียว ครับลูก ต้องมาค่ะกี่รอบก็ยังชอบอยู่

 

หอพระแก้ว

ค่าเข้าชม คนละ 5,000 กีบ
เปิดเวลาเข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น., 13.00 น. - 16.00 น.
หมายเหตุ ภายในหอพระแก้ว ห้ามการถ่ายรูปทุกชนิด

หอพระแก้ว ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดสีสะเกด บนถนน เชษฐาธิราช ติดกับทำเนียบประธานประเทศ แต่เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเชษฐาธิราชมีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2108 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากล้านนา เมื่อต้องเสด็จกลับมาครองราชบัลลังก์ล้านช้างหลังจากที่พระราชบิดาคือพระเจ้าโพธิสารสิ้นพระชนม์ลงในการทำศึกสงครามกับประเทศสยาม เมื่อปีพ.ศ.2322 นครเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามตีแตก กองทัพสยามได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของนครเวียงจันทน์ไป พร้อมทั้งกวาดต้อนราชวงศ์ชาวลาวกลับไปยังกรุงเทพฯมากมาย

สำหรับหอพระแก้วที่นักท่องเที่ยวเห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด ในปีพ.ศ.2480-2483 ภายใต้การควบคุมดูแลการก่อสร้างของ เจ้าสุวรรณภูมา ผู้ที่จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และต่อมายังได้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหลังจากได้รับเอกราชอีกด้วย แม้หอพระแก้ปัจจุบันจะไม่ใช่วัดอีกต่อไป

จ่ายค่าปี้คนละ5000กีบแล้ว คุณแม่ก็ขอเดินดู เด็กๆเข้าห้องน้ำแล้วก็กลับไปที่รถนั่งดูซีดีMr Bean รอ 

ห้องน้ำที่นี่สะอาดค่ะ เป็นจุดแวะพักเข้าห้องน้ำได้ดีจากการเดินเที่ยววัดต่างๆ

 

 

 

  

 

 

 ข้างหอพระแก้ว มีไหหินจากแขวงเชียงขวางที่เราได้เดินทางไปดูของจริงมาแล้ว

 

สุดท้ายของวันนี้ คือ วัดสีสะเกด


วัดสีสะเกด

 สร้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3 หรือพระเจ้าอนุวงศ์ในปี พ.ศ. 2361 เนื่องจากในสมัยนั้นลาวตกเป็นเมืองขึ้นของไทย เจ้าอนุวงศ์จึงออกแบบวัดตามอย่างศิลปะไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งกล่าวกันว่า พระองค์ทรงโปรดปรานศิลปะเช่นนี้ตั้งแต่ครั้งได้มาศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกรุงเทพฯ ภายใต้การอุปถัมภ์โดยรัชกาลที่ 2 จึงเป็นสาเหตุให้วัดศีรษะเกศเป็นวัดเดียวในเมืองเวียงจันทน์ที่ไม่ถูกเผาโดยกองทัพไทยเมื่อครั้งศึกเจ้าอนุวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2371 วัดศีระษะเกศ ถือเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์ วัดนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า "วัดศีรษะเกศสตสหัสสาราม" แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดศีรษะเกศ เนื่องจากกล่าวกันว่า ยามพระเจ้าอนุวงศ์บรรทอยู่ในพระราชวังนั้น จะต้องหันพระเศียรมายังทิศที่ตั้งของวัดนี้เสมอ


สิ่งที่น่าชมในวัด ได้แก่ หอไตร ซึ่งยกคอสองเป็นชั้นคล้ายวัดไทยใหญ่หรือวัดพม่า แต่คัมภีร์ถูกกองทัพสยามอัญเชิญไปไว้ยังกรุงเทพฯ หมดแล้ว ส่วนผนังด้านในของพระระเบียงที่ล้อมรอบพระอุโบสถเอาไว้นั้น มีการเจาะซุ้มเล็กๆ ขึ้นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปเงินและพระพุทธรูปดินเผากว่า 6,840 องค์ ส่วนใหญ่เป็นพระที่สร้างขึ้นที่เวียงจันทน์ในช่วงศตวรรษที่ 16 ถึง 19 ระเบียงด้านตะวันตกเป็นที่เก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนพระพุทธรูปที่ถูกทำลายลงในสงครามปี 1828 ด้านหลังพระอุโบสถมีรางไม้รูปคล้ายพญานาคสองตัว สำหรับใช้เป็นรางสำหรับสรงน้ำพระในเทศกาลสงกรานต์โดยเฉพาะ ปัจจุบัน วัดศีรษะเกษเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของลาว

 หลังจากครั้งล่าสุดที่เรามาคือ กพ.54 วัดมีการรื้อและบูรณะทาสีใหม่ วันนี้เรามาดูวัดสีสะเกดอีกครั้ง

น้องแทนไทและกองทัพลงจากรถมากับแม่ด้วย

ซื้อปี้เข้าดู 5000กีบ 

วันนี้วัดดูใหม่กว่าเดิม และขาดเสน่ห์แห่งความเป็นวัดสีสะเกดไปเยอะ

เพราะความงามของวัดสีสะเกดคือ ความเก่าแก่ที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ลองดูเปรียบเทียบกับภาพเมื่อม.ค.53 ที่มาครั้งโน้นนะคะ

สีลอกๆเก่าๆของสิม คือเสน่ห์ที่ทำให้วัดนี้ดูดีที่สุด

ภาพนี้มาปี53ค่ะ

ครั้งนั้น สภาพสิมดูทรุดโทรม มีกระเบื้องหล่นจากหลังคาและมีการกั้นเชือกไม่ให้เดินผ่าน แต่ความเก่านั้นกลับมีความงดงามที่ประทับใจ

ครั้งนี้เป็นครั้งที่8ที่เรามาเยี่ยมเยือนในรอบ3ปี

มาทีไรก็อดมาดูที่นี่ไม่ได้ 

กองทัพเป็นตากล้อง

 

 

 จบสิ้นในวันนี้ที่วัดสีสะเกด 

เราเดินทางกลับไปถึง Duty Freeในเวลาไม่เย็นมาก แวะผ่านร้านบาร์แก็ตแสนอร่อยแวะซื้อมาทานบนรถด้วย

ปิดท้ายด้วยการช๊อปกาแฟลาวแสนอร่อยที่ร้านดาวเรือง ขาประจำ

จบสิ้นการเดินทาง สะบายดีเวียงจันทน์ SmileySmiley

 

ติดตามทริปท่องเที่ยว การเดินทางของแทนไท กองทัพ ได้ต่อไปทางนี้ครับ

เที่ยวเอง เวียงจันทน์ สปป.ลาว 19 ครั้ง 

- สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 19 :ปี2013 
Joma bakery /วัดสีสะเกด หอคำ หอพระแก้ว  พระธาตุหลวง ประตูชัย ตลาดเช้า / ไก่ปิ้งนาโป่ง ส้มตำรสแซ่บเมืองเวียงจันทน์ / ตลาดเช้า 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=23-11-2013&group=18&gblog=35

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 18 : ปี2013 
ทริป หม่ำพิซซา ปะทะ ตำหมากหุ่ง ณ  เวียงจันทน์ 2013
พระธาตุหลวง  /ประตูชัย/  ตลาดเช้ามอลล์ /ตลาดเช้า / ช้อป Itec Laos 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-09-2013&group=18&gblog=33

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 17 :ปี2013
ทริป วิสาขะบูชา ณ  เวียงจันทน์ 2013
พระธาตุหลวง  /ประตูชัย/  ตลาดเช้า /แหนมเนืองเวียงสะหวัน
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=30-05-2013&group=18&gblog=31

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 16 :ปี2012 
ทริปกินๆเที่ยวๆ เวียงจันทน์ 2012
รอบ16: พระธาตุหลวง วัดสีเมือง เวียงเเหนมเนือง ตำส้มตลาดเช้า ช้อปไอเต็คลาวปิดทริป 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=12-12-2012&group=18&gblog=29

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 15 :ปี 2012
ทริปนี้เพื่อบุฟเฟต์อร่อย ขอบใจเด้อ ณ เวียงจันทน์ 2012
 : บุฟเฟต์ร้าน ขอบใจเด้อ /พระธาตุหลวง/หอพระแก้ว/วัดสีสะเกด /ตลาดเช้า
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-12-2012&group=18&gblog=25

- สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 14 :ปี2012 
สงกรานต์เมืองลาว ณ เวียงจันทน์ 3D2N (13-15April2012)
วัดเชียงควน- วัดท่าเดื่อ-พระธาตุหลวง -ประตูชัย -วัดสีสะเกด- หอพระแก้ว -วัดสีเมือง- วัดเซียงยืน -วัดองค์ตื้อ- วัดมีไซ -วัดหายโสก -วัดอินแปง /Joma /citi inn Vientian hotel/ Best ewstern Hotel
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=17-04-2012&group=18&gblog=15


-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 13 :ปี2012 

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 12 :ปี2011 
ทริปช็อปกระจายส่งท้ายปี  in เวียงจันทน์
Joma bakery /วัดสีสะเกด หอคำ หอพระแก้ว  พระธาตุหลวง ประตูชัย ตลาดเช้า / แวะ เฝอ "บ้านพิม" เฝออร่อยร้านดังแห่งเมืองเวียงจันทน์
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-01-2012&group=18&gblog=14

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 11 :ปี2011 

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 10 :ปี2011 

- สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 9 :ปี2011 
วัดสีสะเกด  พระธาตุหลวง ประตูชัย ตลาดเช้า /อาหารเที่ยง นางคำบาง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=26-01-2012&group=18&gblog=13

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 8 :ปี2011 
วัดองค์ตื้อ วัดอินแปง วัดมีไซ วัดหายโสก-  พระธาตุหลวง ชมวิวบนประตูชัย  
- หอพระแก้ว วัดสีสะเกด - ช้อปตลาดเช้า แวะกินเฝอบ้านพิม 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=26-01-2012&group=18&gblog=12

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 7 :ปี2011 
มาฆะบูชา เวียงจันทน์ / พระธาตุหลวง /หอพระแก้ว 
อาหารเที่ยงริมโขง 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=30-03-2012&group=18&gblog=11

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 6 :ปี2011 

-สะบายดีเวียงจันทน์ รอบ 5 :ปี2011


368 เที่ยวเอง 4D3N ลาวเหนือ ทุ่งไหหิน /เชียงขวาง/วังเวียง 2011  : 9-12  Dec 2011
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=06-01-2012&group=3&gblog=1

368  เที่ยวเองลาวใต้ 1day trip : ปากเซ จำปาศักดิ์ 2012   (Nov2012)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=23-11-2012&group=18&gblog=22

=======================================

ติดตาม ทริปเที่ยวเอง การเดินทางของพี่แทนไท น้องกองทัพ 

Switzerland /France /Germany /Italy /Austria/Liectenstein /Japan /Singapore/ Hongkong/ Malaysia 
 

Smiley  เที่ยวเอง 17d in Switzerland 2018 (31 March - 16 April2018) 
Switzerland- Germany(Stuttgart) /Italy (Milan)/Austria (Bregenz)/Liectenstein (Vaduz)  
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-05-2018&group=28&gblog=2
 

Smiley  เที่ยวเอง 14 d in  Switzerland 2016 (6-20 April2016) 
Switzerland- France (Strasbourg/Colmar) -Germany (Freiburg) -Italy (Milano) -Austria (Innsbruck) - Liectenstein (Vaduz)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=20-07-2016&group=24&gblog=4

 

Smiley  เที่ยวเอง 17d in Switzerland 2014 (5-21 April2014)
Switzerland- France (Strasbourg ) -Germany () -Italy (Milano)  - Liectenstein (Vaduz)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=04-05-2014&group=22&gblog=23


Smiley  เที่ยวเอง Japan 2019 : Tokyo 8D7N(3-10April2019)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=06-06-2019&group=29&gblog=2

 

Smiley  เที่ยวเอง Japan2017: Tokyo 6D5N (17-24April2017)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=21-05-2017&group=27&gblog=12



Smiley  เที่ยวเอง Singapore + Malaysia2015 : 6D7N (12-18 April 2015)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=29-04-2015&group=23&gblog=8


Smiley  เที่ยวเอง Singapore 2012 ทริปเริ่มเที่ยว 3D2N (27-29 Feb2012)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-03-2012&group=5&gblog=1

 

  Smiley  เที่ยวเอง Hongkong 2013 : Disneyland Dec 2013
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tantailovegongtup&month=12-2013&date=30&group=21&gblog=13




Create Date : 26 มกราคม 2555
Last Update : 12 สิงหาคม 2562 22:17:53 น.
Counter : 5812 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

momarmy
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]



เทคนิคการแพทย์ที่มีฝัน รักการเดินทาง เขียนบันทึกการท่องเที่ยว และรักการถ่ายภาพลูกชายเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เก็บกระเป๋า สะพายกล้องออกเดินทาง รักอิสระชอบวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวเอง มีความฝันอยากพาผู้คนไปท่องเที่ยวให้มีความสุข บันทึกการเดินทางในบล็อคนี้คือการบันทึกวันเวลาแห่งความสุขเก็บไว้ และยินดีแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในการท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้กับผู้ที่มีความฝันเหมือนกัน
Group Blog
มกราคม 2555

1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
All Blog