ระบบย่อยอาหาร
ระบบย่อยอาหาร 1อวัยวะในระบบย่อยอาหาร 1.1 ปาก ภายในปากมีอวัยวะที่สำคัญอีก คือ 1.1.1ฟัน .ในมนุษย์มีฟัน 2 ชุด คือ 1ฟันน้ำนม จะมี 20 ซี่ จะเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 6 ขวบ จนครบอายุ 2 ขวบจะครบ 20ซี่(ครบ) ซี่เล็กกว่าฟันแท้ และมีสีขาวกว่า และมีรากฟันเหมือนฟันแท้ 2 ฟันแท้ จะมี 32 ซี่ จะเริ่มขึ้นมาดันฟันน้ำนมให้หลุดออกไปจนอายุประมาณ12-13 ปี ฟันแท้จะขึ้นมา 28 ซี่ จนอายุ 18 ปีฟันแท้จะขึ้นครบ 32 ซึ่โดยฟันที่ขึ้นมาอีก 4 ซี่คือฟันกราม การขึ้นของฟันกรามอาจจะขึ้นไม่ครบ 32ซี่เพราะขึ้นมาไม่ได้ เนื่องจากไม่มีฟื้นที่ให้ขึ้น 1.1.2ลิ้น เป็นอวัยวะรับสัมผัส ทำหน้าที่รับรสตัวของลิ้นประกอบด้วยกล้ามเนื้อและจุดรับสัมผัส ซึ่งลิ้นจะ รับรสได้ 4อย่างด้วยกันคือ 1รสหวาน(Sweet) อยู่บริเวณปลายลิ้น 2รสเค็ม(Salty) อยู่บริเวณปลายลิ้นและข้างลิ้น 3รสเปรี้ยว(Sour) อยู่บริเวณข้างลิ้น 4รสขม(Bitter) อยู่บริเวณโคนลิ้น ลิ้นทำหน้าที่ในการกลับอาหารในปากให้ฟันได้เคี้ยวได้ทั่วถึงและทำให้น้ำลายคลุกกับอาหารได้ดีทำให้สารที่สามรถย่อยทางเคมีได้มีการย่อยได้อย่างทั่วถึงลิ้นเป็นตัวที่ทำให้การย่อยในปากเป็นไปอย่างดีและทำให้รู้ถึงรสของอาหารทำให้กินอาหารได้อย่างอร่อยยิ่งขึ้น 1.1.3ต่อมน้ำลาย น้ำลายเป็นน้ำย่อยอาหารคาร์โบไฮเดรตต่อมน้ำลายมี 3 ชุด คือ 1 ต่อมน้ำลายใต้ลิ้น(Sublingual Gland) จะมีอยู่1 คู่ 2 ต่อมน้ำลายข้างกกหู(Parotid Gland) มีอยู่ 1 คู่ 3 ต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกรชุดล่าง(Submandibulary Gland) มีอยู่ 1 คู่ ต่อมน้ำลายมีหน้าที่สร้างน้ำลาย ในน้ำลายจะมีน้ำย่อยแป้งชื่อว่า อะไมเลส(Amylase)เมื่ออาหารเข้าปากมาจะโดนฟันทำให้แตกตัวออกไปและอาหารจำพวกแป้งจะถูกย่อยทางเคมีเป็นครั้งแรกที่นี่โดยน้ำย่อยอะไมเลสจะย่อยแป้งจนเป็นน้ำตาลมอลโตสและน้ำลายก็เสมือนสารหล่อลื่นเพื่อให้อาหารผ่านเข้าหลอดอาหารและลงที่กระเพาะได้ง่ายขึ้น 1.2 หลอดอาหาร หลอดอาหาร ( oesophagus) เป็นท่อกลวงประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่อาหารจะผ่านจากคอหอยไปยังกระเพาะอาหาร ในมนุษย์หลอดอาหารต่อเนื่องกับส่วนกล่องเสียงของคอหอย (laryngeal part of thepharynx) อาหารจะเคลื่อนตัวไปในหลอดอาหารโดยกล้ามเนื้อจะบีบตัวและหดตัวทำให้บีบไล่อาหารให้เคลื่อนลงต่ำไปยังกระเพาะอาหารในหลอดอาหารไม่มีการย่อยอาหารเป็นเพียงทางผ่านของอาหารไปยังกระเพาะอาหารเท่านั้น 1.3 กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารมีขนาดประมาณ 50 ลูกบาศก์เซนติเมตรและถ้ามีอาหารเข้าไปจะขยายขนาดได้ถึง 10 40 เท่าตัว จะอยู่ด้านซ้ายของร่างกายใต้กระบังลมกระเพาะอาหารแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ 1ส่วนบนสุดเรียกว่า Cardiac Region หรือ Cardiumเป็นส่วนที่อยู่ติดกับหลอดอาหาร มีกล้ามเนื้อหูรูด(CardiacSphincter ) ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้อาหารไหลย้อนกลับสู่หลอดอาหาร 2ส่วนที่สองเป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางเรียกว่า Fundus เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดมีลักษรณะเป็นกระพุ้ง 3กระเพาะอาหารส่วนปลาย เรียกว่า Pylorus หรือ PyloricRegion อยู่ติดกับลำไส้เล็กตอนต้น จะเป็นส่วนที่เล็กเรียวแคบลงมีกล้ามเนื้อหูรูดกั้นอยู่เช่นกัน จะเป็นส่วนที่ติดต่อกับลำไส้เล็ก ผนังของกระเพาะอาหารเป็นกล้ามเนื้อสามารถหดตัวและขยายตัวได้ดีมากประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อเรียบ 3 3 ชุด คือ ชั้นนอก เป็นกล้ามเนื้อเรียบตามแนวยาว ชั้นกลาง เป็นกล้ามเนื้อวงตามขวาง.ชั้นในสุด เป็น กล้ามเนื้อในแนวทะแยงลักษณะพับไปมา เรียกว่า Rugae ช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการย่อยอาหาร หน้าที่ของกระเพาะอาหาร 1ย่อยอาหารให้โมเลกุลเล็กลงโดยใช้กรดเกลือ(hydrochloric acid) 2สร้างเอนไซม์เพพซิน (pepsin) สำหรับใช้ย่อยโปรตีน 3ดูดซึมน้ำ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และยาบางชนิด 4ผลิตสารอินทรินซิค แฟคเตอร์ (intrinsic factor) ช่วยในการดูดซึมวิตามินบี12 5สร้างน้ำเมือกที่มีฤทธิ์เป็นเบสฉาบผิวของกระเพาะอาหารไม่ให้เป็นอันตราย การทำงานของกระเพาะอาหาร แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1.ระยะรับกลิ่น รส หรือนึกถึงอาหาร เส้นประสาท Vagus จากสมองจะกระตุ้นให้กระเพาะเคลื่อนที่ และการหลั่งสาร 2.อาหาร เข้าสู่กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารจะเคลื่อนที่และการหลั่งฮอร์โมน Gastrinจากชั้นมิวโคซา ไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่ง HCl ออกมารวมกับ Pepsinogen 3.อาหาร ออกจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วน Duodenum เนื้อเยื่อมิวโคซาของDuodenum จะหลั่งฮอร์โมนSecretin ออกมายับยั้งการหลั่งฮอร์โมน Gastrin 1.4 ลำไส้เล็ก ลำไส้เล็กเป็นอวัยวะที่ยาวที่สุดในระบบย่อยอาหารยาวประมาณ 7-8 เมตรขดอยู่ในช่องท้อง เป็นอวัยวะที่อยู่ ระหว่างกระเพาะอาหารกับลำไส้ใหญ่ ด้านในของลำไส้เล็กมีลักษณะเป็นปุ่มเป็นจำนวนมากเรียกว่าวิลลัส (Villus) หรือ วิลไล (Villi) ทำหน้าที่ในการดูดซึมอาหาร ลำไส้เล็กแบ่งออกเป็น 3ส่วนได้แก่ 1 ดูโอดีนัม(Duodenum) เป็นลำไส้เล็กส่วนต้นยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร รูปร่างเป็นตัวยู อยู่ต่อจากกระเพาะอาหารเป็นบริเวณที่มีสารเคมีหลายชนิด เช่น - PancreaticJuice เป็นน้ำย่อยที่สร้างจากตับอ่อน - น้ำดี (Bile)สร้างจากตับ หลั่งออกมาจากกถุงน้ำดี ช่วยให้ไขมันแตกตัวเป็นหยด ไขมันขนาดเล็ก(Emulsifying) -IntestinalJuice เป็นน้ำย่อยที่สร้างจากกผนังลำไส้เล็กของดูโอดีนัมจัดเป็นส่วนที่มีการย่อย อาหารเกิดขึ้นมากที่สุด 2เจจูนัม (Jejunum) เป็นส่วนที่ต่อจาก Duodenum ยาวประมาณ2 ใน 5 หรือประมาณ 3-4 เมตรเป็นส่วนที่มีการดูดซึมอาหารมากที่สุด 3.ไอเลียม (Ileum) เป็นลำไส้เล็กส่วนสุดท้าย ปลายสุดของ Ileumต่อกับลำไส้ใหญ่มีขนาดเล็กและ ยาวที่สุดประมาณ4.3 เมตร หน้าที่ลำไส้เล็ก 1 ดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ระบบของร่างกาย โดยใช้Villi ในการดูดซึม 2 สร้างเอนไซม์ ชื่อ มอลเตส แลกเตส และ ซูเครสสำหรับย่อยสารอาหารคาร์โบไฮเดรต 3เป็นที่ที่มีการย่อยอาหารมากที่สุดและมีน้ำย่อยจากแหล่งต่าง ๆมาย่อยอาหารมากที่สุด เอนไซม์จากแหล่งต่าง ๆ(ที่ลำไส้เล็กไม่ได้สร้างเอง แต่นำมาใช้ในลำไส้เล็ก) 1เอนไซม์จากตับอ่อนชื่อทริปซิน สำหรับย่อย โปรตีน และ ไลเปส สำหรับย่อยสารอาหารไขมัน 2 ตับ มีการสร้างน้ำดี น้ำดีทำหน้าที่กระจายสารอาหารไขมันให้แตกตัวเป็นเม็ดเล็กๆ ก่อน เพื่อให้ สะดวกต่อการย่อยของเอนไซม์ไลเปสจากตับอ่อน เอนไซม์ต่างๆ จะทำหน้าที่ได้ดีถ้าในร่างกายมีภาวะเป็นเบส(ด่าง) 1.5 ลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6เซนติเมตร แบ่งเป็น 3 ส่วน 1 ซีกัม(Caecum) เป็นลำไส้ที่ต่ออยู่กับลำไส้เล็กจะรับกากอาหารจากลำไส้เล็ก จะมีไส้ติ่งอยู่บริเวณนี้ด้วย 2 โคลอน(Colon) เป็นส่วนที่ยาวที่สุดของลำไส้ใหญ่ประกอบด้วยลำไส้ใหญ่ขวา ลำไส้ใหญ่กลาง ลำไส้ ใหญ่ซ้ายทำหน้าที่ดูดซึมน้ำและวิตามินบี 12(วิตามินนี้สร้างโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่) 3 เรกตัม(Rectum) กากอาหารจากโคลอนจะถ่ายมาที่เรกตัมความดันในลำไส้ใหญ่จะมากขึ้นทำให้ กล้ามเนื้อหูรูดด้านใน(อยู่นอกอำนาจจิตใจ)เปิดออก ทำไห้มีอาการปวดอุจจาระ และกล้ามเนื้อหูรูด อันนอกจะเปิดออกเมื่อร่างกายต้องการทำให้เกิดการถ่ายอุจจาระขึ้นทางทวารหนัก(Anus)
Create Date : 22 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2556 15:15:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1476 Pageviews. |
|
|