เรื่อยเปื่อยอีกแล้ว
ธรรมดาข้าพเจ้าจะมาห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ทางรถส่วนตัว ยกเว้นครั้งนี้ที่ข้าพเจ้ามานั่งสำรวจเพื่อเก็บข้อมูล ห้างแห่งนี้อยู่ห่างจากบ้านข้าพเจ้าค่อนข้างมากพอประมาณ
หลังจดบันทึกลักษณะท่ารถแล้ว ข้าพเจ้าก็ขอแวะไปหาอาหารเที่ยงรับประทานเสียหน่อยเพราะใกล้จะบ่ายสองโมงแล้วแต่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย เดินผ่านประตูห้าง ได้กลิ่นตุๆ สายตาเหลือบเห็นถังใส่ถังขยะที่มี4ช่อง ...อืมถึงจะมาวางหน้าประตูทางเข้าแต่ก็เป็นการแยกประเภทขยะที่ใช้ได้เลยนะ
เดินผ่านลานแสดงสินค้า คนเยอะจริงๆ บู๊ทสาวขายรถเรียกความสนใจผู้เดินผ่านไปมาได้มากกว่าใครเพื่อน ทั้งเสียงและความขาวเปล่งประกายดึงดูดผู้ชมดีจริง
มองไปตามร้านอาหาร มีแต่ร้านเดิมๆ ฟิซซ่าซะ2-3ร้าน ร้านอาหารญี่ปุ่นก็มีแต่ราคาแพงไปสำหรับคนเดียว เคยมาห้างนี้มาตั้งนานแล้ว คนก็แน่นหนาแบบนี้ทุกครั้ง เพราะที่ตั้งมันอยู่ชานเมืองกทม.และเป็นทางที่จะไปภาคกลางและภาคตอ.เฉียงเหนือ
หรือจะไปฟู้ดเซนเตอร์ใต้ดิน แต่เห็นคนแล้วไปที่อื่นดีกว่า เลยเดินออกจากตัวห้าง ข้ามถนนที่มีน้ำขังไปยังโรงหนังเมเจอร์ฯ
ใต้สะพาน เห็นช้างหนึ่งเชือก และคนเฝ้าอีกหนึ่งคน ในใจคิดว่า "ควาญช้างเดี๋ยวนี้แต่งตัววัยรุ่นดีจริง" หลายคนที่ข้ามถนนมาด้วยกันเดินตรงไปข้ามที่กั้นเพื่อเข้าไปยังหนังโรงหนังเลย หันไปมองเชิงสะพานลอย ป้าย"ถ้าจะไปเมเจอร์ให้ขึ้นสะพานลอย"ปักเอียงอยู่ด้านซ้ายจนแทบจะอ่านไม่เห็น
พอเดินขึ้นสะพานลอย สังเกตบริเวณพื้น มีแต่ทรายและเศษกระดาษธุรกิจสินเชื่อเต็มไปหมด ถ้ามาช่วงฝนตก คงแฉะและมีเศษกระดาษติดรองเท้าเป็นแน่
หน้าโรงหนังมีร้านมาเปิดขายสินค้าอยู่ตรงฟุตบาท เห็นช้างอีกหนึ่งเชือก คราวนี้ไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ เชือกนี้ต้องทำงานไปด้วย อยากเล่นกับมันเหมือนกันแต่ไม่ได้
ในใจคิดว่า "ใช้งานสัตว์ไม่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลานี่นะ"
ร้านอาหารก็เหมือนในห้างเลย
วินาทีนั้น พบใบหน้าที่คุ้นเคย สายตาคู่เดิม
"The Departed"
ติดตามต่อบล็อคหน้า
Create Date : 16 ตุลาคม 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 16 ตุลาคม 2549 11:01:12 น. |
Counter : 718 Pageviews. |
|
|