สุขที่สุดที่ "นครพนม" (2 วัน 1 คืน : Day 1)
"พาหม่าม้าไปนครพนมหน่อย อยากไหว้พระธาตุประจำปีเกิด" เพราะประโยคนี้ล่ะ ทำให้เกิดทริปนครพนมขึ้น 
นครพนม เมืองริมโขง ดินเเดนเเห่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ เเละจังหวัดที่คนมีความสุขที่สุด เพราะเมื่อปี 2555 สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประกาศว่าจากการสำรวจข้อมูลความสุขของคนไทยต่อเนื่องกัน 5 ปี พบว่าคนในจังหวัดนครพนมมีความสุขมากสุด
อืม ...... เเสดงว่านครพนมนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ต้องมีอะไรดีๆซ่อนตัวอยู่มากมายเเน่ๆ ตามมาดูกันค่ะว่า เมื่อมาเที่ยวนครพนม มวลของความสุขจะเพิ่มขึ้นขนาดไหน 
เราเดินทางจากกรุงเทพฯมานครพนม โดยสายการบินเเอร์เอเชีย
เรามาถึงสนามบินนครพนม ประมาณ 10.00 น.
รับกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก็มารับรถที่จองไว้กับทาง Avis เเละมุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองเพื่อไปไหว้ศาลหลักเมือง เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนค่ะ ปกติเวลาไปเที่ยว ถ้าพอมีเวลาจะไปไหว้ศาลหลักเมืองของจังหวัดนั้นๆ เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองค่ะ
ข้างๆ ศาลหลักเมือง เป็นหอสมุดเเห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ตัวเมืองนครพนมมีอาคารบ้านเรือนเบบเก่าๆที่สวยงามมากมายเลยค่ะ หอสมุดเเห่งชาติฯ นครพนม ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น อาคารนี้เดิมเป็นศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2458 ตัวอาคารเป็นเเบบตะวันตก ดูๆเเล้วทำให้นึกถึงวังบางขุนพรหมเหมือนกันนะคะ
ด้านหน้ามีพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่5 สามารถมาสักการะบูชาได้ค่ะ
"หม่าม้า เริ่มหิวๆเเล้วลูก" เราจึงตัดสินใจเเวะทานข้าวกลางวันกันที่ สบายดี@นครพนม ขับมาไม่ไกล ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงถนนคนเดินเลยค่ะ เเต่ตอนกลางวันยังไม่มีถนนคนเดินนะคะ
เห็นว่าเปิดมานานกว่า 30 ปีเเล้ว
อาหารมีหลากหลาย พวกเมนูปลาน้ำโขงต่างๆ อาหารเวียดนามก็มีค่ะ เราเน้นสั่งพวกปลา เพราะหม่าม้าทานปลาเป็นหลัก
ส่วนตัวคิดว่าอาหารที่นี่อร่อย อันดับหนึ่งในใจคือกุ้งกระเบื้อง ติดใจ คิดๆเเล้วอยากกลับไปทานอีก  เมี่ยงปลา ปลาทอดน้ำปลา ต้มยำปลาคังก็อร่อยค่ะ
ของคาวจบไปเเล้ว ท้องยังเหลือที่ว่าง เเวะไปทานขนมกับเครื่องดื่มอร่อยๆ กันดีกว่า เราเลือก Wayla Cafe
ขอลงเเค่สองรูปก่อนนะคะ ด้วยความที่ Day1 ยังมีรูปอีกมากมาย สำหรับ Wayla Cafe ขอเขียนเเยกออกมา ในหมวด Go for Food&Drink ได้อ่านเร็วๆนี้เเน่นอนค่ะ
ก่อนจะเข้าที่พัก เราเเวะ วัดศรีเทพประดิษฐาราม ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือพระเเสง เราเคยมีโอกาสได้ไปนมัสการหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย ซึ่งพระเเสงเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นพร้อมกับหลวงพ่อพระใส ตั้งเเต่สมัยล้านช้าง นั้นล่ะเป็นเหตุว่าทำไมเราถึงอยากมาวัดนี้
ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า 108 ภาพ งดงามมาก
บ่ายสองนิดๆได้เวลาทำการเช็คอินที่พัก " The River " โรงเเรมตั้งอยู่ในตัวเมือง ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยว เเละอยู่ติดริมเเม่น้ำโขง
เช็คอินกันก่อนค่ะ
เราจองห้องพักเเบบ River Sky View จริงๆห้องนี้สำหรับสองคน เเต่ถ้ามาสามคน สามารถเสริมเตียงได้ ขนาดห้องกำลังดี ที่สำคัญเห็นเเม่น้ำโขงเต็มตาเลยค่ะ
รักมุมนี้ 
ถ่ายจากบนห้อง
อีกสิ่งที่สำคัญคือ ห้องน้ำ ไม่ต้องหรูหราเเต่ขอให้สะอาด ที่นี่ห้องน้ำสะอาดดี เเยกส่วนเปียกเเละเเห้ง เอาเข้าจริงๆเวลาอาบน้ำ น้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนพื้นแห้งบ้าง เเต่ก็ไม่ได้เลอะจนเปียกเเฉะ
มาดูด้านหลังโรงเเรมที่ติดกับเเม่น้ำโขงกันค่ะ
หลังจากหลับกันไปคนละงีบ เเดดร่มลมตก เราสามคนมาไหว้พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์ เรากับหม่าม้าเกิดวันเสาร์ทั้งคู่ ตั้งใจมานมัสการพระธาตุนครมากๆ นอกจากนี้เค้าว่ากันว่า ใครได้มาไหว้พระธาตุนคร จะได้รับอนิสงส์ให้มีบุญบารมีเป็นเจ้าคนนายคน
พระธาตุนคร บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ พร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำ เเละของมีค่าที่ผู้มีจิตศรัทธานำไปถวาย
ด้านหน้าวัดมหาธาตุ ข้ามถนนไปจะเป็นทางสำหรับเดินเลียบเเม่น้ำโขง มีเลนจักรยาน ใครมีเวลามาปั่นจักรยานเที่ยวชิลล์มากค่ะ เสียดายเรามาเเค่ 2วัน 1 คืน เเละพาผู้ใหญ่มาด้วย จะทิ้งหม่าม้าไว้เเล้วไปปั่นก็กระไรอยู่ พาท่านมาเเล้วก็ต้องดูเเลดีๆ จะได้เป็นทริปที่ Happy กันทุกคน 
ขับรถแป็ปเดียวจากวัดพระธาตุ ไม่ถึงสิบนาทีก็จะเห็นเเลนด์มาร์ค จ.นครพนม "พญาศรีสัตตนาคราช" สังเกตว่าริมฝั่งเเม่น้ำโขงทั้งลาวเเละไทยจะนับถือพญานาคกันมาก เพราะผู้คนเเถบนี้ เชื่อว่าพญานาคอาศัยอยู่ในเเม่น้ำโขง คอยดูเเลคุ้มครองผู้คนแถบลุ่มเเม่น้ำโขง
เเนะนำให้มาตอนเย็น หรือไม่ก็เช้าค่ะ ตรงนี้เป็นที่กลางเเจ้งกลางวันร้อนมาก แดดเเรงสุดๆ
มื้อเย็น ทานข้าวที่ร้านเรือนริมน้ำ ตั้งใจว่าจะมาทานข้าวพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศพระอาทิตย์ลับฟ้าที่เเม่น้ำโขง อันนี้คือสิ่งที่คิดเอาไว้ ส่วนความเป็นจริงคือมาถึงตอนฟ้ามืดแล้ว Bye Bye พระอาทิตย์ 
อาหารที่สั่งเป็นพวกปลาเเม่น้ำคล้ายๆตอนกลางวันค่ะ รสชาติโดยรวมใช้ได้ ชอบลาบปลาคังเป็นพิเศษ
หนังท้องตึงๆ มาเดินย่อยอาหารกันหน่อยที่ถนนคนเดินนครพนม เป็นถนนเลียบริมโขง หน้าหอนาฬิกา ระยะทางไม่ยาวมาก มีทุกศุกร์ - เสาร์ ตั้งเเต่เวลา 17.00 - 22.00 น. ค่ะ
มีทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของกิน ให้เลือกซื้อ
ผ่านร้านขนมครก หม่าม้าหยุดซื้อเเละบอกว่าร้านนี้ทำเเบบเก่าเหมือนสมัยม้ายังเด็กๆ หาทานยาก เราชิมเเล้วก็โอเคนะคะ ปกติไม่ค่อยอินกับขนมครกเท่าไหร่ 
ขนมโตเกียวของโปรด ร้านชายโก้โตเกียว
เราสั่งโคตรพิเศษรวมกับโตเกียวที่มีสาหร่ายห่อ อร่อยทั้งคู่เลย ใครเจอเเบบนี้ที่ไหน บอกกันมั้งนะคะ
หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ สร้างโดยชาวเวียดนามที่เคยอาศัยใน จ.นครพนม เพื่อเป็นที่ระลึกก่อนย้ายกลับเวียดนามตามท่านโฮจิมินห์
ร้านนั่งชิลล์ก็มีนะคะ
ปลาหมึกย่าง ไม้ละสิบบาทเอง น้ำจิ้มอร่อย
ปิดท้ายด้วยน้ำเต้าหู้ ขอบอกว่าเต้าหู้จริงๆ เข้มข้นมาก หวานน้อย
ทิ้งท้ายด้วยภาพจักรยาน อีกหน่อยนครพนมคงเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีเส้นทางปั่นจักรยานที่ชิลล์ที่สุดในประเทศไทย
Day 2 ยังมีอีกหลายสถานที่เที่ยว ที่จะพาไปอิ่มทั้งใจทั้งกาย พร้อมภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่เเม่น้ำโขงยามเช้า รอติดตามกันนะคะ
หมายเหตุ การเดินทางไปเเต่ละสถานที่ เราใช้ GPS เเละ Google Map นำทาง
| Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2561 |
| Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2561 3:21:38 น. |
|
5 comments
|
| Counter : 2050 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [