All Blog
|
น่าน...แบบไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มา - วันที่ 3 และครึ่งวันสุดท้าย เคยมั้ยครับ เวลานอนหลับในวันที่ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป อากาศดีสดชื้น รู้สึกถึงความชื้นนิดๆ แต่พอตื่นมา...โอ้-มาย-โก้ดดด เปิดหน้าต่างทิ้งไว้แล้วไม่มีมุ้งลวด รับลมเต็มๆพร้อมเหล่าแมลง ผมนอนริมหน้าต่างส่วนคนอื่นนอนลึกเข้าไปตามลำดับ พวกเรา 4 คนนอนในห้องเดียวกันแต่ถามๆกันแล้ว "มีใครโดนยุงกัดมั้ย?" ส่ายหัวกันหมดทั้ง 3 คน คำถามคือ "ทำไมมีเราโดนกัดอยู่คนเดียว?" การนอนริมหน้าต่างที่เปิดไว้มันสามารถทำให้เราโดนยุงกัดได้คนเดียวจริงหรือ? ทริปนี้น่าจะช่วยตอบคำถามนี้ได้ครับ ยาพ่นกันยุงตะไคร้หอมไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าหลังฉีด 30 นาที แถมเรายังเป็นคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม ยุงมันชอบกัดคนหนุ่มคนสาวไม่ใช่เหรอ? น่าคิดครับ เช้านี้หลักจากตื่นนอน พวกเราได้ติดต่อเจ้าของบ้านพักเรื่องไฟฟ้าดับเมื่อคืน ทางนั้นพอได้ทราบก็รีบบึ่งมาหาเราแล้วก็ทำการปั่นไฟด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเป็นการใหญ่ ซึ่งก็ทำให้เราชาร์จอุปกรณ์ต่างๆที่พกมาบ้างได้บ้างแต่ไม่เต็มร้อยเพราะเราต้องรีบออกเดินทางต่อ เป้าหมายแรกของวันนี้คือ "คาเฟ่หยุดเวลา" ที่ทั้งสามคนบอกว่า "ดังมากกก!!!" (แต่ผมไม่เคยได้ยินชื่อเลย) เป้าหมายถัดมาคือ นาขั้นบันไดที่ "บ้านเวร" จุดชมวิวบนยอดเขาสูงที่ 1715m จากระดับน้ำทะเลที่ดอยภูคาแล้วก็มุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอ "ปัว" เพื่อไปยังดอยสกาดที่เราจองที่พักคืนสุดท้ายไว้ที่นั่นครับ คาเฟ่ "หยุดเวลา" น่าจะเป็น Top rated ของวันนี้ได้ไม่ยากเลยครับ สถานที่วิวดีมากเว่อร์ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงดังมาก Latte หยุดเวลาแก้วละ 105 บาท ยอมจ่ายครับ เพื่อบรรยากาศนี้ ดีกว่ากินกาแฟร้านเขียวเยอะมาก ขอนั่งนานหน่อยนะ แฟนผมนี่นั่งนิ่งเลย นานมาก ไม่กลัวร้อน!! สู้!!! หลังจากที่เราหยุดเวลาไปกับการกินกาแฟและวิวที่ดีงามนั้นแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไปยังจุดนัดพบถัดไปครับ นาขั้นบันไดที่บ้านเวร โดยส่วนตัวผมคิดว่ายังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความชันของภูเขาเท่าที่ควรครับ ดูแล้วพื้นที่นาส่วนใหญ่อยู่ในที่ราบ มีความเป็นขั้นบันไดนิดๆหน่อยๆ 5-6 ชั้นครับ การขึ้นเขาวันนี้คดเคี้ยวและสูงกว่าเมื่อวานครับ ผมเองก็มีออกอาการเมารถบ้างแต่วิวก็ดีขึ้นตามระดับความสูง (ถึงแม้ภูเขาจะหัวโล้นไปหน่อยก็ตาม) จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มาถึงตรงนี้ราวบ่ายโมงกว่าๆ ระหว่างทางไม่มีร้านอาหารเลยครับ ต้องรอลงเขาไปที่ตัวอำเภอก่อน ใครขับรถมาก็วางแผนการกินดีๆนะครับเพราะพวกผมได้กินข้าวเที่ยงตอนบ่ายสาม หลังจากที่เราเข้ามาในตัวอำเภอปัว เติมน้ำมันเต็มถัง เช็คอินเข้าที่พักแล้วก็ออกมาเที่ยวดอยสกาดกันครับ วิวตรงนี้สวยครับ มีที่จอดรถเป็นลานกว้าง เดี๋ยวพวกผมก็จะเข้าไปหาซื้อขนมกินกันที่นั่นครับ ที่พักคืนสุดท้าย "บ้านสวนข่วงน้ำ" ที่พักสวยครับ มื้อเย็นวันนี้เป็นกับข้าวพื้นบ้านครับ ผักดีมากๆ น้ำพริกไม่เผ็ดจัด รสกำลังดี ยัง...ยังไม่หมด มะระหวานผัดไข่ ของดีที่เพิ่งเคยกินครับ คืนนี้ กินอิ่ม นอนหลับ ไฟฟ้าเพียงพอ ผมวูบไปตั้งแต่ยังไม่ 5 ทุ่มเพราะฟ้าปิดอีกแล้วอดล่าช้างเหมือนเดิมครับ น่าน - ครึ่งวันสุดท้าย ( 3 ตุลาคม 2024) เช้าวันนี้ เจ้าของบ้านส่งอาหารเช้าขึ้นมาให้บนระเบียงตั้งแต่ 7 โมงเช้าครับ เมื่อคืนมีแมวเหมียวร้องทั้งคืนเหมือนจะพยายามขึ้นมากินปลาทูที่เรากินเหลือไว้บนระเบียง ร้องโหยหวนนานมากจนหลอนนึกว่าเป็นแมวผีแบบในละคร(เหอๆ) ไปๆมาๆ หลายรอบได้ยินเสียงกุกกักๆหลายครั้ง ซึ่งพอตื่นเช้ามาก้างปลาทูหายไปแน่ใจได้เลยว่า "เสร็จน้องไปเรียบโร้ยย" อาบน้ำเเต่งตัวแล้วก็ได้เวลาอาหารเช้าครับ อาหารเช้านี้มี 2 ยกครับ ยกแรกก็อย่างที่เห็นครับ ปาท่องโก๋ ผลไม้(ฝรั่ง อโวคาโด้) วุ้นกะทิ กาแฟ(drip) และชาร้อน ชุดชา กาแฟน่ารัก บดเมล็ดเองนะจ๊ะ ยกที่ 2 จะเป็นข้าวต้มทรงเครื่อง ผัดผักแล้วก็ไข่ต้มครับ ตารางวันนี้เราจะไปคาเฟ่ 2 ที่ใกล้ๆกันครับ เริ่มที่โรงบ่มปัวก่อน ที่นี่เคยเป็นโรงบ่มยาสูบมาก่อนแต่ตอนนี้เปลี่ยนแนวมาเป็น Cafe เต็มตัว ยังรับซื้อใบยาสูบอยู่บ้างแต่ก็น้อยแล้ว ชานม(65 บาท) กับวาฟเฟิ่ล (70 บาท) ครับ และที่เที่ยวสุดท้ายก่อนกลับบ้านเรา Cocao Valley cafe ที่นี่นอกจากเป็น cafe ที่มีโกโก้ขายหลายแบบแล้ว ยังมี workshop ดูการผลิตโกโก้จากสวนด้วยนะครับ (หัวละ 500 บาท) แต่พวกเราไม่มีเวลาขนาดนั้นครับ แก้วแรก Medium roasted 65% แบบเย็น ต้องบอกว่ารสผลไม้เปรี้ยวๆยังอยู่เต็มเปี่ยมครับ สดชื่นครับ ด้วยความที่ไม่ได้นัดแนะกันก่อน ผมก็สั่งเมนูเดียวกันเลยแต่เป็นแบบร้อน รสเดียวกันเด๊ะๆครับ แก้วนี้มีสตรอเบอร์รี่ปั่น on top ครับแล้วก็เป็น dark cocao 85% ก็จะขมขึ้นแต่ยังมีความเปรี้ยวนิดๆครับ ร้านตกแต่งสวยครับ สมกับเป็น Cocao farm & cafe จริงๆใครชอบช็อคโกแลตแนะนำให้มาครับ มี Cocao products ทุกอย่างเท่าที่จะนึกออกเลย และแล้ว ก็ถึงเวลาอำลาน่านแล้วครับ เป็นทริปสั้นๆที่รู้สึกว่าได้พักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติดีมาก พวกเรามีความเห็นตรงกันว่าทริปนี้สั้นไปหน่อยน่าจะมีต่ออีกซัก 2 วันแต่วันหยุดมีเท่านี้ (เราเน้นมาวันธรรมดาเลยครับ เพราะไม่ชอบคนเยอะ) กระนั้นก็เหอะ คนก็เยอะอยู่ดี กลับมายังไม่ทันไรก็เริ่มวางแผนซ้ำรอบสองอีกแล้วครับ แต่วันหยุดกับเงินจะพร้อมเมื่อไหร่ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไป ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ น่าน -Dream trip ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ผมเองก็เพิ่งจะหาเวลาว่างมาเริ่มนั่งเขียน Blog จริงจัง ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะเขียนเลยครับ ถ้าเพื่อนๆมีคำแนะนำ ติชมก็พิมพ์ลง comment ได้เลยนะครับ ผมขอน้อมรับไปปรับปรุงในวันข้างหน้าครับ แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ ตามเที่ยวต่อครับ วิวหลักล้านสวยงามน่าไปครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องวิ่งครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 17 ตุลาคม 2567 เวลา:22:45:28 น.
|
กะริโตะคุง
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ชอบปั่นจักรยาน เที่ยวแถวๆบ้าน (แต่จริงจังนะ) แวะคาเฟ่ไปเรื่อยๆครับ เครื่องดื่มที่ชอบ : Espresso (คั่วอ่อน) Latte (คั่วกลาง) ชาไทย (ไม่หวาน) ชาเขียว (ก็ไม่หวาน) โกโก้ (ไม่หวาน ขมๆ 90%) ชาฮ่องกง (Ceylon) ก็ไม่หวานเหมือนกันครับ ถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกมาตั้งแต่ปี 2014 แต่ฝีมือไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ครับ ถ่ายตามใจฉัน จะพยายามอัพ Blog บ่อยๆครับ
Link |
เคยไป Cocao Valley cafe ครับ