เที่ยวตูนิเซีย ภาคหลัง
อ้ะ มาเที่ยวกันต่อนะ คราวก่อน หลังจากเที่ยวบ้านลุ้คแล้ว ก็เดินทางต่อไป คืนนี้เราจะไปค้างคืนกันที่เมืองสแฟกซ์ เมืองนี้เป็นเมืองท่าอยู่ทางฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตูนีเซีย และเป็นศูนย์กลางการค้าและการประมงเมืองสแฟกซ์ในยามเช้าภาพมุมสูง ถ่านจากหน้าต่างในห้องที่พักเช้านี้ เราจะไปเดินเล่นดู เมดิน่า มันก็คือ ตลาดเก่านั่นเอง เมืองใหญ่ต่างๆ มักจะมีเมดิน่า ลักษณะของมันก็คล้ายๆ กับตรอกในสำเพ็งนั่นล่ะ แคบๆ มีร้านสองข้างทาง แขวนสินค้ากันเต็มพื้นที่ แต่วันนี้เรามาเข้า เขายังไม่เปิดกัน ก็ดูบรรยากาศยามยังไม่เปิดร้านก็แล้วกันนะ นี่เป็นภาพด้านหน้าของเมดิน่า เราต้องผ่านประตูเข้าไปอีกที------------------จากนั้น เราก็ออกเดินทางจากสแฟกซ์ ไปเมืองเอลเจม ระหว่างทางจะมีแนวต้นมะกอกและอัลมอนด์เป็นทิวแถว ลูกทัวร์พากันร่ำร้องเสียงระงมเพื่อให้จอดรถ เพราะอยากถ่ายรูป ก็จัดให้นี่เป็นต้นอัลมอนด์ เห็นดอกเต็มต้นสวยชมดอกไม้โดยไม่ได้เด็ดแล้ว ก็เดินทางต่อจนถึงเอลเจม เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่อาณาจักรโรมัน เคยแผ่ขยายอำนาจมาถึง เรามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กันก่อน ที่นี่มีศิลปวัตถุของโรมันและภาพโมเสค ซึ่งมีขนาดทั้งเล็กและใหญ่ ที่ว่าใหญ่นี่คือ เขาต้องไปตัดเอามาทั้งกำแพงเลยนั่นล่ะออกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว อย่างที่พูดไว้เมื่อกี้ว่า เมืองนี้เคยได้รับอิทธพลของอาณาจักรโรมัน ซึ่งพวกนี้ไปถึงไหนก็มักจะไปสร้างโคลอสเซียมเอาไว้ด้วย โคลอสเซียมที่เมืองเอลเจมนี้ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของที่เหลือๆ อยู่ แต่ของที่นี่ยังค่อนข้างสมบูรณ์อยู่มากแล้วก็เดินทางต่อสิ ป้ายหน้าคือเมืองซูส เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของตูนีเซีย อยู่แถบเมดิเตอร์เรเนียน เราจะไปเดินเล่นที่เมดิน่าของเมืองซูสกันบริเวณด้านหน้า มีป้อมกำแพงเมือง แต่เมดิน่าอยู่ด้านหลังเนื่องจากเราไม่ใช่ขาช้อปปิ้ง ชอบเดินดูอะไรเรื่อยเปื่อยมากกว่า เขาบอกว่า กรงนก เป็นสินค้าที่คนนิยมซื้อเป็นของที่ระลึก แต่ดูขนาดแล้ว ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแทนก็แล้วกันนะแล้วก็เลยหยุดดูลุงเจ้าของร้านแกกำลังตอกจานทองเหลือง เพื่อทำเป็นลวดลายต่างๆ แล้วลงสี เรานอกจากไม่ซื้อแล้ว ยังถ่ายรูปแกมาเสียอีกเดินเล่นแถวๆ นั้น เห็นรถเข็นขายอะไรก็ไม่รู้ เลยเดินเข้าไปดู ไกด์บอกว่า ตังเมแขก ก็เลยซื้อมาลองชิมดู หวานแสบใส้ ขนาดเรากินของหวานเป็นปกติ ยังกินไม่หมดเลย แต่ดูท่าทางตัดแบ่งของคนขายแล้วมันดูน่ากินดี 55นี่ก็เย็นแล้ว เหล่านกขมิ้นเหลืองอ่อนทั้งหลายก็ต้องหาที่นอนกันล่ะ เราเดินทางย้อนขึ้นไปเมืองเดิม พักคืนนึง แล้วเช้าค่อยเดินทางไปเมืองใหม่------------------------เช้าแล้วจ้า วันนี้เราจะออกเดินทางไปยังเมืองนาบูล เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องการทำเซรามิค ก็จะไปแวะร้านขายเซรามิค ดูสินค้าเฉยๆ ไม่ซื้อตามธรรมเนียม--------------ออกจากนาบูล ก็ไปเมืองคาร์เธจ เพื่อไปชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มันคือที่อาบน้ำของคนโรมันในสมัยโบราณ เขาจะแบ่งออกเป็นห้องๆ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอบไอน้ำ ห้องนวด ก็จินตนาการเอาก็แล้วกันนะ เพราะตอนนี้มันเหลือแต่ซากแล้ว-----------------ออกจากคาร์เธจ เราก็เดินทางต่อไปเมืองสุดท้าย ท้ายสุดแล้ว คือ เมืองตูนิส เมืองหลวงของตูนีเซีย เรามาถึงเย็นๆ เก็บข้าวของเข้าโรงแรมเสร้จ ก็ออกมาเดินเล่นกัน ไปเมดิน่าอีกแระ บอกแล้วเขามีทุกเมืองดูบ้านเรือน ถนนหนทางของเขา ทันสมัยนะจีะ มีร้านกาแฟริมฟุตบาทเป็นระยะๆ เย็นก็กินข้าว เข้านอนตามปกติ พรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายในประเทศตูนีเซียแล้ว เช้าแล้ว ห้องในโรงแรมอยู่ชั้นสูง กลางเมืองด้วย เลยถ่ายภาพเมืองแบบกว้างๆ มาดูเล่นวันนี้เราจะไปชมพิพิธภัณฑ์กัน เดิมมันเป็นพระราชวังเก่า มีศิลปวัตถุเก็บสะสมมากมาย ต่อมาลูกอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งได้ไอเดีย พัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์เสียเลยหน้าพิพิธภัณฑ์จ้าเรามากันตั้งแต่เช้าเขายังไม่เปิดเลยล่ะ แต่มาต่อคิวเข้าแถวไว้ก่อน เพราะไม่ใช่มีแค่กลุ่มเราเท่านั้น สักพักก็เริ่มมีขบวนนักท่องเที่ยวมาสมทบ ต่อจากนี้ไป ก็ขอชมภาพภายในพิพิธภัณฑ์ตามสบายเลยนะ ที่นี่มีโมเสคอีกมากเลยเหมือนกัน ถ่ายรูปกันไม่หวาดไม่ไหว จากเดินดูแบบจ้อง ตอนหลังต้องเดินหนีขอตบท้ายสั่งลาตรงระเบียงนี่ละกันนะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ และขอกราบขอบพระคุณ แม่สมัย ผู้ล่วงลับไปแล้วของเรา ที่เป็นสปอนเซอร์ให้เราได้ไปเที่ยวยังที่ต่างๆ แทนแม่ คิดถึงแม่นะเนี่ย