ทะเลทุกข์อยู่ไกลสุดสายตา ถ้ากลับใจจะเห็นฝั่ง

hanniban
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หน้าตาดีคนที่
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hanniban's blog to your web]
Links
 

 
สบายดีหลวงพระบาง วันที่ 2

เช้าวันที่สอง
ตื่นตอนหกโมงยี่สิบ ง่วงมากไม่อยากตื่นเลย ไม่อาบน้ำด้วย ไม่หนาวนะ แต่ไม่มีเวลา ไปตลาดเช้าหาของกิน เป็นตลาดสดชาวบ้านเอาพวกผักสด ของป่ามาขาย ที่เห็นก็กระจง ตุ่น หมูป่า นกตัวเล็กๆ ไม่รู้นกอะไร ถอนขนกันสดๆ ดิ้นกระเด่วๆ









เดินดูของไม่รู้จะกินอะไร ไม่อยากกินเลย เพราะต้องนั่งรถไปหลายลูกเขา ตัดสินใจกินแค่กาแฟกับปาท่องโก๋หิน เอกินโจ๊ก คนอื่นๆ กินเฝอกัน





เสร็จแล้วเดินตลาดเช้ายังไม่ค่อยมีอะไรขาย มีซิ่นขาย เอซื้อซิ่นหนึ่งผืนบางมาก เราเดินดูเรื่อยๆ เจอหนังสือประถมหนึ่งซื้อมาหนึ่งเล่ม อยากได้หนังสือเพลง อยากดูเนื้อร้องโอ้ดวงจำปาหาไม่ได้ เดินไปเดินมา รถออกประมาณเก้าโมง ไปเที่ยวถ้ำจัง ถ้ำน้ำ มีรีสอร์ตที่มีสะพานสวยๆ เมื่อก่อนคงเป็นสีทอง เขาว่าเป็น golden gate แต่ตอนนี้เป็นสีส้มเลยเป็น orange gate ไปแทน รีสอร์ตนี้ปิดกิจการไปแล้ว ลงจากรถเจอเด็กคนนึง รหัสน้องหน้าเดียวหนึ่ง ชื่อน้องปูนา น่ารักดี แม่เขาขายกล้วยปิ้งน้องก็เล่นอยู่แถวนั้น



ข้ามสะพานไป



มีของขายนิดหน่อย มีลูกเดือยต้มขาย กินยากมากแกะแล้วบางทีไม่ได้กิน เราเลยใส่ปากเคี้ยวแล้วค่อยคายเปลือกทิ้ง ก็มันๆ คนที่นี่เขานิยมกินกันมากเลย เข้าไปหลวงพระบางมีขายเยอะมาก ระหว่างทางเจอวัว พี่เต้าขี้เกียจกินลูกเดือยแล้ว พยายามจะให้เอาให้น้องวัวกิน แบบว่าวัวยังเมินเลยอ่ะ



ที่ลานหน้าถ้ำมีผู้บ่าวนั่งเล่นกีตาร์ ร้องเพลงอยู่ เราเลยไปขอให้อ้ายร้องเพลงดวงจำปาให้ฟัง เพราะมากเลย

"โอ้ดวงจำปา เวลาซมน้อง
นึกเห็นบ้านซ่อง มองเห็นหัวใจ
เฮานึกขึ้นได้ ในกิ่นเจ้าหอม
เห็นสวนดอกไม้ บิดาปลูกไว้ตั้งแต่นานมา
เวลาง่วงเหงา ยังช่วยบันเทาเฮาหายโสกา
เจ้าดวงจำปา คู่เคียงเฮามา แต่ยามน้อยเอย
กิ่นเจ้าสำคัน ติดพันหัวใจ
เป็นน่าฮักใค่ แพงไว้เซยซม
ยามเหงาเฮาดม โอจำปาหอม
เมื่อดมกิ่นเจ้า ปานพบเพื่อนเก่าที่พัดพากจากไก
เจ้าเป็นดอกไม้ ที่งามวิไล
ตั้งแต่ใดมา เจ้าดวงจำปา
มาลาขวันฮักของเฮียมนี้เอย
โอดวงจำปา บุบผาเมืองลาว
งามดั่งดวงดาว ซาวลาวเพิ่งใจ
เกิดอยู่พายใน แดนดินลานซ้าง
มื้อใดพัดพาก เมื่อไปไกจาก
บ้านเกิดเมืองนอน เฮียมจะเอาเจ้า
เป็นเพื่อนร่วมเงา เท่าสิ้นซีวา
เจ้าดวงจำปา มาลางามยิ่ง มิ่งเมืองลาวเอย"
(เพลงดอกจำปา หรือ จำปาเมืองลาว แต่งคำร้องและทำนอง โดยท่านอุดตะมะ จุนละมะนี อดีต รมช.กระทรวงศึกษาลาว เพลงนี้แต่งขึ้นตั้งแต่สมัยลาวยังถูกฝรั่งเศสยึด เป็นอาณานิคม)





ไม่ได้ขึ้นไปบนถ้ำเพราะไฟดับ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากเดินขึ้นนะ ด้านล่างก็น้ำใสมากเลยมีฝรั่งมาว่ายน้ำเล่นด้วย



กลับมาจากถ้ำ เจอปูนาชวนไปเมืองหลวงด้วยกัน จะไปล่ะ แต่แม่ปูนาบอกว่าให้ใหญ่ก่อนค่อยไป

เดินทางสู่หลวงพระบาง ได้ยาระงับพฤติกรรมตั้งแต่เช้า วันนี้ไม่กลัวแล้ว ถนนผ่านหลายลูกเขา ความจริงระยะทางจากวังเวียงไปหลวงพระบางไม่ไกลมากแต่ที่ต้องใช้เวลานานก็เพราะเป็นทางไปตามไหล่เขาต่างๆ เหมียวให้สังเกตเสาไฟฟ้าที่อยู่ไกล บอกว่านั่นแหล่ะ ที่ถนนเห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะไปได้เลยไกลลิบๆ ขึ้น ลง ขึ้น ลง แต่ถ่ายรูปไม่ได้มากยังกลัวอ้วกอยู่ โค้งอย่างนี้



และมากกว่านี้ถ่ายไม่ได้เวียนหัว ตอนกลางวันแวะกิ่วกะจำกินข้าวเหนียวหมูอะไรไม่รู้หวานๆ เหมือนหมูแดง ส้มตำ ไข่เจียวอาหารประจำชาติ มีแจ่วบองที่เหมือนกับน้ำพริกเผาเลย แต่ไม่เหมือนของแม่หรอกเผ็ดกว่า แถบนี้เป็นชาวเขาตัวเล็กๆ แล้วเหมือนว่าไม่มีเกลือทะเลกินอ่ะ แบบนั้นแหล่ะ ระหว่างทางถ้าตื่นก็จะเห็นชาวเขามาอาบน้ำ ซักผ้า ตรงซอกเขา คงต่อท่อน้ำมาจากบนภูเขา เขาจะอาบน้ำบ่ายๆ กำลังมีแดด เพราะเย็นๆ อากาศบนภูเขาจะหนาวมาก ตื่นมาตอนที่ผ่านหมู่บ้านชาวเขาเด็กตัวนิดเดียว อายุไม่น่าจะเกิน 4-5 ขวบ เลี้ยงน้องอีก 1-2 คน ขยันจริงๆ ออกจากกิ่วกะจำเหมียวบอกว่าอีกไม่ไกลแล้ว ก็หลับไปอีก

ถึงหลวงพระบางสี่โมงกว่าๆ เข้าที่พักล้างหน้าล้างตาแค่นั้น



ออกไปอีกแล้วไปพระธาตุพูสี ดูพระอาทิตย์ตก แต่ก่อนนั้นเหมียวให้ลุงผุยวนรอบเวียงหนึ่งรอบให้ดูรอบๆ แต่... จำทางไม่ได้เลย ทางขึ้นพระธาตุอยู่ติดลำน้ำคาน จะไหลไปบรรจบน้ำของ (แม่น้ำโขง) เป็นแม่น้ำสองสี ต้องขึ้นบรรได 300 กว่าขั้นเท่านั้นเอง



ระหว่างทางเจอคนรู้จักมาทำอะไรกันก็ไม่รู้



ลำน้ำคาน มีคนคอย....



พระอาทิตย์มารอแล้วรีบไปกันเถอะ



วิวเมืองหลวง



ระฆังที่ใครๆก็เตือนว่าอย่าไปตี



พระธาตุภูสี



พระอาทิตย์จะตกแล้ว บรรยากาศเหงาๆ มีใครมาเหงาไม่รู้ เห็นข้างหลังคุ้นๆ



เอากล้องไปสองตัวส่วนมากตอนเย็นๆ จะถ่ายด้วย cannon พี่ตุ้มซื้อมาใหม่ปรับเป็น manual ได้ แต่ยังถ่ายไม่ค่อยเป็นเลยปรับมั่วๆ ขากล้องก็ไม่มีตอนที่แสงไม่พอสั่นมากมาย ต้องไปหาซื้อขาตั้งกล้องซะแล้ว ขา total ใช้ไม่ได้ซะด้วย





ที่เห็นไกลๆนั่นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลาว เคยเป็นพระราชวังเก่า จะไปเที่ยวกันพรุ่งนี้



ระหว่างทางลงมืดแล้ว น่าจะเป็นต้นจำปา ต้นไม้ประจำชาติ หรือต้นลั่นทมของเรา



กินข้าวริมน้ำของ ก็เป็นอาหารปลาเป็นหลัก เหมียวสั่งไครแผ่นมากินกับเบยลาว ไครเค็ม เบยลาวก็เบียร์นั่นแหล่ะ

กินเสร็จแล้วปล่อยให้เดินตลาด ส่วนมากเป็นผ้า ไม่ใช่แนวเรา






เดินตลาดเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว แวะซื้อโปสการ์ด ส่งหาตัวเอง ไปรอที่รถ กลับไปนอน พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปตักบาตรกัน



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 21:36:10 น. 5 comments
Counter : 4162 Pageviews.

 
น่าสนุกน๊ะ...แต่...ภาพที่ถ่ายผ่านกระจกหน้ารถกะภาพสุดท้ายน่ากลัวพิลึกอะ..งิงิ..ข้างๆเพ่เอเลย ชัตเตอร์..อิอิ


โดย: jah IP: 58.10.99.88 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:14:23 น.  

 
อยากไปเที่ยวมั้งอะ ไม่รู้แม่สาวเมืองลาวจะน่ารักอะป่าววว


โดย: เด่นดำ IP: 58.10.99.88 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:48:08 น.  

 
ทำไมระฆังถึงห้ามตี อยากรู้จริงๆเลย รูปต้นจำปา ได้อารมณ์ เหงา - เศ้รา บอกมิถูกเลย


โดย: แม่ษะกิฟ IP: 58.10.99.174 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:27:10 น.  

 
สวัสดีจ้า
บรรยากาศดีมากเลยเนอะ
มีผ้าขายเยอะมากเลยอ่ะ
มีของมาฝากเราด้วยอะเปล่า อิอิ


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:19:06 น.  

 
สวัสดียามเย็นจ้าไปเที่ยวถึงไหนแล้วน้อ


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:26:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.