ทะเลทุกข์อยู่ไกลสุดสายตา ถ้ากลับใจจะเห็นฝั่ง

hanniban
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หน้าตาดีคนที่
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
18 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hanniban's blog to your web]
Links
 

 

สบายดีหลวงพระบาง วันที่ 3

เช้าวันที่สาม
ตื่นเช้ามาก ตีห้าครึ่งเหมือนเดิมโอโจ้ด้วย ไม่อาบน้ำ ไปใส่บาตรข้าวเหนียว ไปถึงยังมืดอยู่เลย มีกระติ๊บมาตั้งแล้ว เป็นของนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มใหญ่ ของพวกเรามาช้าหน่อย แต่ก็มา ได้นั่งข้างอุ๊ย อุ๊ยหมายถึงย่ายายน่ะ ไม่ใช่คำอุทาน ถนนสายนี้เมื่อก่อนไม่ค่อยมีคนใส่นอกจากชาวบ้านไม่กี่คน ตอนนี้โดนยึดโดยนักท่องเที่ยวไปแล้ว เมื่อก่อนเหมียวบอกว่านักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะเท่าไหร่ เหมียวย้ายมาหลายที่แล้ว

กระติ๊บของคนอื่น



ไม่รู้ว่าอยากรู้อะไร



สาธุ๊ ขออย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย เอ้ยยยย ม่ายช่าย ขอให้ได้เจอกันทุกชาติเลย



พระมาแว้ววววว



ส่วนมากเป็นเณร เณรความจำดีมาก จำได้ว่าเราใส่ไปแล้วหรือยังถ้าใส่แล้วเณรจะปิดบาตรไม่ให้เราใส่อีกข้าวเหนียวหนึ่งกระติ๊บใส่กันเมื่อยมือเลย จกไม่ทัน



ถ่ายรูปกับอุ๊ย ไม่เข้าใจทำไมต้องเอียงซะขนาดนั้น



อุ๊ยบ้านอยู่ข้างวัดข้างหลังนั่นแหล่ะ ประจบไว้แล้วคราวหน้าถ้าไปหลวงพระบางไปนอนบ้านอุ๊ยได้

ทำบุญแล้วก็ทำทานให้นกกากิน



นี่ก็ทำทาน เรียงซะสวยเชียว



ตอนเช้านี้ใส่แต่ข้าวเหนียว ส่วนกับชาวบ้านจะนำไปถวายพระที่วัด

ใส่บาตรเสร็จแล้วไปกินอาหารเช้าที่ร้านกาแฟประซานิยมกินกาแฟกับปาท่องโก๋ตัวเดียวก็อิ่มแล้ว กาแฟเป็นกาแฟลาว ชงเหมือนกาแฟโบราณบ้านเรานั่นแหล่ะ หวานมาก



กินกันอิ่มหนำก็ไปตลาดเช้ากัน มีของขายสารพัดชนิด ไคที่เรากินเมื่อคืน มาเป็นก้อนๆ



มาเป็นกองๆ



วิธีเลือกเขาก็จะสลัดๆ เอาแต่เส้นยาวหน่อย แล้วก็เป็นพวงๆอ่ะ บอกไม่ถูกเห็นเขาสลัดกันใหญ่

หนังควาย อันนี้เข้าไปถามเขาว่าคืออะไรเขาบอกว่าหนังคว_ (เซ็นเซอร์) เราก็อ๋อออออ หนังควาย เขาก็บอกว่าไม่ใช่หนังคว_ (เซ็นเซอร์) แต่เราพูดไม่ได้อ่ะ



ไฮไลท์ของตลาดนี้เลย ตัวอ่อนของตัวต่อ เห็นแล้วเราก็สงสัยเข้าไปถามว่าอะไรเขาบอกว่าต่อ เขาเห็นเราสนใจเลยหยิบให้ชิม หน้าที่นี้เป็นของเอ ถือไว้ในมือไม่ยอมกินซะที คนข้างๆ เขาคงนึกว่ากินไม่เป็น เลยจับไปปลอกเปลือกให้เอ เอทำท่าคืนเขาเขาก็เลยบิครึ่งให้เขาจะให้ครึ่งใหญ่ เอเอาครึ่งเล็ก กัดไปหน่อยนึง เก็บอาการอ้วกไว้ได้เนียนรีบเดินออกมาทำงัยดีๆ จะทิ้ง เราก็บอกว่าเอาไปให้พี่น้ำเต้ากับพี่อังกินดีกว่า ห่อใส่ถุงอย่างดี เอาไปให้พี่น้ำเต้า อ่ะ กินหน้าตาเฉยมาก แหวะ ไอ้ตัวนี้แหล่ะที่ต่อยเรา ฆ่ามันนนนน แต่ให้คนอื่นฆ่านะ กลัว



เดินตลาดเช้าเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว มานั่นหน้าวัดใหม่รอไกด์กับคณะพรรค เอเจอหนุ่มหน้าตาดีบอกว่าเนี่ยต้องเป็นไกด์ของเราแน่นอน เลยเข้าไปถามใช่จริงๆด้วย นั่งคุยซักพัก เหมียวโทรมาว่าอยู่ในวัดแล้ว
เลยย้ายที่คุย เจอพี่น้ำเต้าให้หนอนชาเขียวกิน หน้าตาเฉยมาก เซ็ง พี่แต๋วปวดท้อง ท้องเสีย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอาหารที่นี่ใส่ผงชูรสเยอะหรือเปล่า แต่พี่แต๋วสู้เต็มที่บอกว่าไหว

ไกด์แนะนำว่าชื่อเวียงสวรรค์ อ้ายเวียงจะเป็นคนพาเราเที่ยววันนี้ ที่แรกก็คือวัดใหม่ที่เรานั่งนี่แหล่ะ ชื่อเต็มๆก็คือ วัดใหม่สุวันนพูมาราม เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง แล้วถ้าเป็นช่วงสงกรานต์จะอัญเชิญพระบางจากหอพิพิธภัณฑ์มาไว้ที่วัดใหม่ให้ประชาชนได้สรงน้ำ





การสรงน้ำของชาวลาวจะไม่เหมือนของเราที่จะสรงตรงๆไปที่องค์พระ แต่จะใช้คล้ายท่อหรือรางน้ำให้ประชาชนเทน้ำใส่รางไปสรงที่องค์พระ ความจริงจะยาวกว่านี้เป็นรูปพญานาคกำลังกลืนมังกร เป็นนิทานเรื่องหนึ่ง อ้ายเวียงเล่าว่าพญานาคกับมังกรประลองฤทธิ์กัน ไม่รู้แพ้ชนะ ก็เลยท้ากันว่าใครจะกลืนใครได้หมด มังกรกลืนพญานาคก่อน พอกลืนใกล้ๆหมด พญานาคก็แสดงอิทธิฤทธิ์ยืดตัว สุดท้ายมังกรก็กลืนพญานาคไม่ได้ ถึงคราวพญานาคกลืนมังกรบ้าง ก็กลืนได้หมด ตั้งแต่นั้นพญานาคก็เป็นใหญ่ ตะแล่น ตะแล่น ตะแล่น



ออกจากวัดใหม่เดินไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลาว เป็นพระราชวังหลวงเดิม ก่อนเข้าต้องฝากของก่อน ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ฝากของเสร็จแล้วก็ไปกราบพระบาง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง ชื่อหลวงพระบางก็ได้มาจากชื่อของพระบางนี่แหล่ะ พระบางเป็นพระปางห้ามสมุทรตามประวัติว่านำมาจากลังกา หล่อด้วยทองคำหนัก 45 กิโลกรัม แต่คงไม่ใช่ทองทั้งหมดน่าจะผสมพวกทองแดงด้วย เหมียวกระซิบบอกว่าพระบางองค์ที่แสดงอยู่นี้ไม่ใช่องค์จริง องค์จริงเก็บอยู่ในเซฟ อันนี้เราก็ไม่รู้อ่ะเนอะว่าเป็นยังงัย แต่ถ้าเป็นเราคงเก็บไว้ในเซฟอ่ะ กลัวหาย

ต้นตาลหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์



รูปด้านหน้าพิพิธภัณฑ์



ด้านในพิพิธภัณฑ์มีหลายห้อง แสดงห้องฮับต้อน ห้องพระโรงใหญ่ ห้องพิธีการ ห้องบรรทม ของเจ้ามหาชีวิตและมเหสี และแสดงเครื่องใช้และของขวัญจากประเทศต่างๆ

ถ่ายรูปพระบางไม่ได้เลยไปหาตามเนทได้รูปนี้มา



ด้านข้างพิพิธภัณฑ์ด้านนี้จะมีประตูออกอีกทางเลยถ่ายรูปไว้เยอะหน่อย ไม่ได้วนไปดูอีกด้านนึง





ระหว่างที่รอเข้าห้องน้ำกัน พี่น้ำเต้าเอาเซียมซีที่เสี่ยงได้มาให้อ้ายเวียงแปลให้ฟัง ปรากฎว่าอ้ายเวียงอ่านแล้วแปลแล้ว ก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี



มีปั๊มน้ำมันตราหอยอยู่ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ายังใช้ได้อยู่หรือเปล่า



ระหว่างเดินไปวัดเชียงทองเจอน้องดาวิด น้องน่ารักมากเป็นลูกครึ่ง ดาวิดจะดีใจมากถ้ามีใครมาเล่นด้วย เลยผลัดกันซื่นซม ดาวิดนี่รหัสน้องหน้าเดียวสองนะ



พออยู่กะพี่เอ เลยเปลี่ยนหน้าได้หน่อยนึง



วัดเชียงทองเป็นสถาปัตยกรรมล้านช้างที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศลาว

ลานหน้าวัดเชียงทอง



โบสถ์หรือสิมของวัดเชียงทอง



เยื้องกับโบสถ์เป็นโรงเก็บราชรถและเก็บพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ผนังด้านหน้าของโรงเป็นงานแกะสลักไม้เรื่องรามเกียรติ์ สามารถถอดออกเป็นส่วนๆได้ เพื่อนำรถเข้าออก

ตอนกลางวันถ่ายรูปไม่สวยก็เลยไปถ่ายอีกทีวันที่ 22 ตอนเย็นๆ



เด็กที่ไหนเนี่ย



โบสถ์สีชมพู หรือหอพุทธไสยาสน์ ข้างในจะมีพระพุทธรูปอธิษฐานสำหรับให้อธิษฐานขอแล้วลองยกดู ไม่กล้าขอ กลัวยกไม่ขึ้นอ่ะ



ด้านข้างจะประดับกระจกเป็นนิทานธรรมต่างๆ อ้ายเวียงเล่านิทานให้ฟังแต่เรามัวแต่ถ่ายรูป ไม่ได้ฟังเลย น่าสงสารอ้างเวียงขอโทษนะคะ เป็นลูกทัวร์ที่ไม่มีเลย แต่ส่งตัวแทนเพื่อนเอไปฟังแล้ว แต่ไม่เห็นเล่าอะไรให้ฟังเลย



ด้านหลังของโบสถ์มีลายประดับกระจกสีเป็นรูปต้นทองหรือต้นงิ้ว



รู้มั๊ยรูอะไรเอ่ย



เฉลย เป็นรูแอบดูพระข้างในอ่ะอ้ายเวียงบอกว่าพระด้านในขี้อายต้องแอบดู

ท่าเรือถ้าจำไม่ผิดน่าจะใช้ข้ามไปฝั่งเชียงแมนได้



ตั้งใจโพสท่ากันเต็มที่ เอ่ออออ ....



ต่อไปวัดวิชุน โบสถ์วัดวิชุนเมื่อก่อนเป็นโบสถ์ไม้ แต่ไฟไหม้หมด ที่เห็นนี้ก่อสร้างใหม่
พระธาตุหมากโม เป็นพระธาตุปรางค์แตงโมหรือระฆังคว่ำ เอขอพักเก็บแรงไปเที่ยวน้ำตก





ด้านในโบสถ์ มีพระพุทธรูปปรางแถวตรง



มีกลองเรื่องสี่ยอดกุมารด้วย ที่นางเอกคนสุดท้ายอยู่ในนั้นอ่ะ



ลานด้านนอกมองไปเห็นพระธาตุพูสี



ออกจากวัดวิชุนไปกินข้าวกลางวันร้านข้างทาง พี่น้ำเต้าเห็นมะพร้าวอ่อนอยากกิน สั่งผ่ามาสามลูกกินได้ทุกคน พี่แต๋วอาการยังไม่ดีขึ้นเลยกินแต่ข้าวต้มกับเกลือ พิเศษมีสไปรซ์ใส่เกลือกินด้วย เรากินลาดหน้า อร่อยดี ไม่กินผักอีกเช่นเคย กลับไปส่งพี่แต๋วที่ห้องพัก เพราะเพลียมาก

และแล้วถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ไปน้ำตกตาดแส้กัน น้ำตกตาดแส้เป็นหินปูน ไม่สูงมาก มีแอ่งให้เล่นน้ำหลายแอ่ง ต้องนั่งเรือล่องน้ำคานไปประมาณห้านาที ข้างทางก็เป็นป่าซะส่วนมาก ไปถึงใกล้ท่าเรือตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะ มีน้ำตกไหลลงแม่น้ำแรงมาก

น้องๆ เมื่อกี๋ยังสลบอยู่เลย



ท่าเรือไปน้ำตก



น้ำตกน่าเล่นมาก เย็นเจี๊ยบเลย



รูปนี่สีมือพี่ปุ๋ม ถ่ายภาพสวยมาก



สามสาวทีสเกิ้ต



น้ำตกมีหลายชั้น น้ำแรงมากๆ เหมือนจากุสซี่เลย พากันปีนขึ้นไปนั่งให้น้ำไหลผ่าน เหมือนได้นวดตัว เราเลยแกล้งเป็นจระเข้นอนขวางทางน้ำได้หมดเลย

หลังจากเล่นน้ำตกกันซีดเลย มานั่งพักกินกล้วยทอดกัน ก็เป็นเสบียงที่เหลือๆ จากเมื่อเช้า ลงไปเล่นน้ำอีกรอบ ขึ้นจากน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า คุยเล่นกันซักพัก ช้างเดินผ่านถ่ายซะหน่อย



กลับแล้ว ท่าเรือน้ำตก



ขึ้นจากเรือ เจอน้องคนนึง คนนี้ไม่ใช่รหัสน้องหน้าเดียวอ่ะ หน้าตาเฟรนด์รี่มากๆ



กลับจากน้ำตก แวะดูพระอาทิตย์ตกดินที่วัดพระบาท มีพระปางค์แปลกอีกแล้ว ปางค์ประสูติ



มีรอยพระพุทธบาท อยู่ริมน้ำ มีการโบกปูนป้องกันพระบาทไว้



ระหว่างที่รอพระอาทิตย์ตก ก็คุยกันเรื่องการเมือง ความเป็นอยู่ ของชาวลาว แต่อ้ายเวียงไม่ค่อยกล้าพูดมาก เด๋วโดนดี ระหว่างฟังนิทานมั่ง นินทามั่ง (นินทานักการเมืองนะ) เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ส่วนมากเป็นเออ่ะนะ





มีเรือผ่านมาพอดี



บรรยากาศนั่งคุยกัน



พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว



กล้องพี่ปุ๋ม ถ่ายรูปสวยมากๆ



ระหว่างรอกินข้าว ถ่ายรูปกัน









กลับจากวัดพระบาทไปกินข้าวร้านริมโขงอีก เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องลาบเป็ดหมึกแดงเคยไปถ่ายทำที่ร้านนี้ แต่อาหารก็ธรรมดานะไม่ได้อร่อยมาก แต่จัดสวย น้อยไปหน่อย กินไม่พอ แพงด้วย



กินข้าวเสร็จแล้วเดินไปตลาดกัน ระหว่างทางเราปวดฉี่มาก เอทำหน้าที่ PR ไปขอเข้าห้องน้ำ guest house นึงเขาก็ใจดีนะให้เข้าด้วย ห้องน้ำสวยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ถ่ายรูปหน้าร้านมา



เดินตลาดกันอีกแล้ว ได้ปืนมากระบอกนึง เป็นปืนเด็กเล่นอ่ะ เดี๋ยววันหลังถ่ายรูปมาให้ดู เอได้เสื้อมาตัวนึง เสื้อเขยลาว ผ่านพิพิธภัณฑ์ เห็นเปิดไฟสวยดี แต่ฝีมือไม่ดี ถ่ายภาพได้ไหวมาก กลั้นหายใจแทบตายได้เท่าเนี้ย



แล้วก็กลับมารอที่รถ วันนี้ปวดหัวด้วยเอให้ยาไปหลายเม็ด เขียนบันทึกไม่จบด้วย นอนดีกว่า

จบแล้วจ้าสำหรับวันนี้ เฮ้อเหนื่อย




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2550
10 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2550 23:35:14 น.
Counter : 3663 Pageviews.

 

แวะมาราตรีสวัสดิ์ก่อน แล้วค่อยมาอ่านทีหลังนะจ๊ะ

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 19 พฤศจิกายน 2550 22:14:44 น.  

 

มาราตรีสวัสดิ์จ้า

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 22 พฤศจิกายน 2550 23:49:36 น.  

 

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 24 พฤศจิกายน 2550 8:50:04 น.  

 



ฝันดีนะจ๊ะ

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 25 พฤศจิกายน 2550 20:45:00 น.  

 

สวัสดียามเย็นจ้าแวะมาเยี่ยมนะจ๊ะสบายดีมั้ย

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 28 พฤศจิกายน 2550 18:09:32 น.  

 

สวัสดีวันอาทิตย์จ้า เที่ยวให้สนุกน้า
แล้วอย่าลืมของฝากเรานะจ๊ะอิอิ

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 2 ธันวาคม 2550 10:13:09 น.  

 

แวะมาเยี่ยมจ้า

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 12 ธันวาคม 2550 13:23:24 น.  

 

แวะมาเยี่ยมจ้า กลับมาจากเขมรยังเอ่ย อิอิ

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 14 ธันวาคม 2550 19:16:38 น.  

 

เพิ่งตามมาเที่ยวค่ะ อยากไปบ้างจัง

 

โดย: บุษ-สะ-บ้า (butbbj ) 19 ธันวาคม 2550 7:57:39 น.  

 

สวัสดีปีใหม่จ้า มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง 2 มกราคม 2551 14:47:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.