Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
มะเร็งร้ายของอารมณ์
ดอกไม้ใบหญ้า
ชวนเที่ยวใกล้บ้าน
อาหารการกิน
ทำนาย...ความในใจ
มุมเล็กๆ หลังเลนส์
สรรสาระ(สุขภาพ&หุ่นสวย)
ชวนเที่ยวต่างเมือง
เรื่อยๆมาเรียงๆ
การออกกำลังกาย
Fw. mail
My Doggie
เรื่องราวและภาพถ่าย
สูตรทำอาหาร
สิ่งประดิษฐ์(งานฝีมือ)
<<
กรกฏาคม 2553
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
5 กรกฏาคม 2553
ความรักและความผูกพันที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป
All Blogs
ความรักและความผูกพันที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป
ด้วยรักและอาลัย ลูกชายตัวเล็กสี่ขาของบ้านเรา
My Doggie...จากวันนั้นถึงวันนี้...
ลูกชายสี่ขา
เผยโฉมซะที...
ความรักและความผูกพันที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
จากบล็อกที่แล้ว
ด้วยรักและอาลัย ลูกชายตัวเล็กสี่ขาของบ้านเรา
..........................................................
วันนี้ครบรอบเจ็ดวัน ที่ไปป์จากไป
ถึงจะยังมีความรู้สึกเศร้าอยู่บ้างแต่ก็ทำใจได้แล้วและก็สุขใจทุกครั้งที่ได้นึกถึงสิ่งดีๆ และช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมา
...เพราะเค้าไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นอะไรที่พิเศษกว่านั้นสำหรับครอบครัวของเรา
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฎจักรที่เข้าใจ ว่าเราได้ทำบุญร่วมกันมาเพียงเท่านี้ และเมื่อถึงวาระสิ้นอายุขัยก็ถึงเวลาที่ไม่ว่าใครก็ต้องจากไป
ในช่วงเวลาที่มีชีวิตเค้าก็ได้อยู่อย่างมีความสุขท่ามกลางความรักและความอบอุ่นในครอบครัวของเรามาตลอด แม้ว่าเค้าอาจจะเคยอยู่อย่างลำบากถึงหนึ่งปีก่อนที่จะได้ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ของฉัน
อย่างที่ฉันเคยเขียนไว้ในบล็อกเก่าๆ ว่าเค้ามาอยู่กับฉันตอนอายุได้ 6 ขวบ แล้วก็ไปอยู่กับพ่อแม่ตอนอายุ 11 ขวบที่บ้านตจว. ที่อยู่ในเมืองได้สี่ปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่บ้านสวนในตอนนี้
..................................
เมื่อครั้งที่เค้ายังมีชีวิตและสุขภาพยังแข็งแรง เค้าชอบวิ่งเล่นในที่กว้างๆ แล้วถ้าเห็นใครแต่งตัวจะออกไปข้างนอก ก็จะร้องหงิงๆ อ้อนกระโดดหาคนโน้นคนนี้ให้อุ้มเหมือนขอไปด้วย ร้องและทำแบบนี้จนกว่าจะมีคนอุ้มและให้เค้าไปด้วย และพวกเราก็ใจอ่อนทุกครั้ง
ก็เพราะอย่างนี้ไม่ว่าจะไปใกล้ไกลหรือต้องค้างคืนที่ไหน ก็ต้องพาเค้าไปด้วยเสมอ เลยทำให้เค้าชินที่ต้องอยู่กับคนตลอดเวลา
....ตอนสมัยที่อยู่กับฉันที่กรุงเทพ เค้าก็อยู่กับฉันเกือบตลอด นอนด้วยกัน ยกเว้นก็ตอนที่ฉันต้องออกไปทำงาน ที่ต้องปล่อยให้อยู่ตัวเดียวแต่เค้าก็ยังอยู่ได้
แต่พอเค้าได้ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ของฉันที่อยู่บ้านตลอด จึงกลายเป็นว่าเค้าได้อยู่ด้วยกันและเห็นกันตลอด 24 ชม. แถมยังนอนด้วยกันอีก เค้าจึงติดพ่อกับแม่มาก...ถึงมากที่สุด แต่สรุปแล้วต่างฝ่ายต่างก็ผูกพันซึ่งกันและกันไปโดยปริยาย
...พอมาช่วงปีกว่าๆ ที่ผ่านมาเค้าเริ่มสุขภาพไม่ค่อยดี ดูเหมือนเค้าก็รู้ตัวเองไม่ระริกระรี้เหมือนก่อน แต่ก็มีบางครั้งแสดงอาการอยากไปมาก ก็เลยพาไปด้วยนั่งรถไป-กลับ 200 กิโลฯ พอกลับมาบ้านก็ช็อคเพราะเหนื่อย หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่อยากให้เค้านั่งรถนานๆ ยิ่งถ้าอากาศร้อนๆ ด้วย ก็กลัวเค้าจะเหนื่อยแล้วก็ช็อคอีก
ถ้าวันไหนพ่อหรือแม่จำเป็นต้องไปธุระ อีกคนก็ต้องอยู่กับเค้า ดีว่ายังมีพี่สาวที่คอยช่วยดูแลอีกคน แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ...เค้าก็จะชะเง้อคอรอ คอยแต่มองทาง รอจนพ่อหรือแม่กลับมานั่นแหละจึงยอมนอน ทำเอาคนไปก็เป็นพะวงคอยเป็นห่วงลูกชายสี่ขาตัวน้อยนี้เหมือนกัน
((ไปป์นั่งคอยแม่อยู่หน้าบ้าน ขนาดว่าง่วงแต่ไม่ยอมเข้าไปนอนในบ้าน))
...มาช่วงหลังๆ รู้สึกเค้าจะติดแม่มากกว่าพ่อ บางครั้งแม่ไปธุระต้องค้างคืนไม่กลับบ้าน เค้าก็จะไม่ค่อยนอน เทียวผุดลุกนั่งรอดูว่าเมื่อไรแม่จะกลับ ข้าวปลาก็ค่อยยอมกินเหมือนตอนแม่อยู่บ้าน
เพราะอย่างนี้นี่แหละส่วนใหญ่สภาพแวดล้อมชีวิตของเค้าจึงคลุกคลีกับคน แทบจะไม่ได้มีสมาคมกับน้องหมาด้วยกันเลย
บ่อยครั้งแม่มักบ่นด้วยความเอ็นดู ว่าไปป์ทำตัวเหมือนคน บางครั้งก็มีนิสัยคล้ายคนด้วย บางทีแม่บ่นหรือด่า ก็ร้องหงิงๆ เหมือนเถียงหรือไม่ก็ไปอ้อนเหมือนฟ้องพ่อ เพราะปกติแล้วเค้าจะไม่ค่อยเห่าอยู่แล้ว
พูดถึงเรื่องความผูกพันที่จิตที่สื่อถึงกัน ไม่รู้ว่ามีใครเป็นเหมือนฉันบ้าง หรืออาจเป็นเพราะฉันคิดและอุปทานไปเองก็ได้ คือตั้งแต่ฉันมาอยู่ตปท. มักจะฝันถึงเค้าเสมอ ตอนนั้นก็คิดว่าคงเพราะคิดถึงและเป็นห่วงเค้า ก็เลยเก็บเอาไปฝันถึง จนเค้าย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ แต่ฉันก็ยังคงฝันถึงเค้าอยู่ดี
ถ้าฉันฝันว่าเค้าเจ็บป่วยหรือไม่สบาย พอโทรกลับบ้าน พ่อแม่ก็บอกว่าเค้าอยู่สบายดี
แต่ถ้าฝันว่าเค้าแข็งแรง ดูร่าเริง แต่นั่นกลับกลายเป็นว่าเค้าไม่สบาย เจ็บป่วยโน่นนี่ซะอย่างนั้น
ส่วนพ่อกับแม่ก็จะฝันเหมือนกัน แต่ฝันออกไปในแนวหวยมากกว่า
(อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ)
ก็พยายามคิดว่าคงเป็นอุปทานหรือคิดไปเองนั่นแหละ....แต่บ่อยครั้งที่ฝันแบบนี้แล้วมักมีตัวเลขของมาเกี่ยวข้องเสมอ และมักจะถูกด้วยสิ ก็ถ้าพ่อหรือแม่ฝันว่าเค้าตาย มักจะมีเลข 22 หรือ 23 แทงหวยทีไรก็ถูก
((แอบถ่าย...ตอนเค้านอนกลางวันกัน))
....พูดถึงอาการช็อคของเค้า ก็เกิดจากที่เหนื่อยมากๆ บางทีก็ไอจนเหนื่อย หมอเคยบอกว่าเค้ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจด้วย และทุกครั้งที่ช็อค จะมีอาการเกร็งไปทั้งตัว ลิ้นซีดและหยุดหายใจไปประมาณ 15-30 วิ แต่ก็ดีว่าทุกครั้งก่อนที่จะมีอาการ และคงรู้ตัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น เค้ามักจะเข้ามาใกล้คนและก็โชคดีที่ช่วยชีวิตเค้าคืนมาได้เสมอ อีกอย่างเค้าใจสู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อด้วยมั๊ง
และทุกครั้งอย่างที่แม่ทำก็คือจะน้ำหยดใส่ปาก ร้องเรียกชื่อเค้าแล้วก็บีบนวดตามหน้าอกและขา ที่ขาดไม่ได้ก็ยาหอมยาดม แล้วเค้าก็ฟื้นกลับมา
จนครั้งสุดท้ายนั่นแหละ....เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่เค้าช็อคถึง 4 ครั้งภายในวันเดียว และหยุดหายใจไปนานเกือบสองนาที จนตอนแรกพ่อกับแม่นึกว่าเค้าจะไม่รอดแล้ว แต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตเค้ากลับมาได้
หลังจากนั้นก็กินข้าวได้ปกติสองวัน ก็นึกว่าคงจะหาย แต่เค้ากลับมีอาการทรงๆ ทรุดๆ และนั่นก็เป็นลางบอกเหตุว่าสุขภาพเค้าเริ่มแย่มากแล้ว พ่อกับแม่ก็เทียวไปหาหมอ หาหยูกยาหลายขนานเพื่อมารักษาเพราะนอกจากอาการไอแล้วเค้ายังมีน้ำมูกด้วยซึ่งก็เป็นๆ หายๆ มานาน แต่ดูเหมือนอาการก็ยังทรงๆ ทรุดๆ เหมือนเดิม
แต่ตอนนั้นไม่ว่ายังไง พวกเราก็ยังคงมีความหวัง....หวังว่าเค้าจะอยู่ไปได้อีกสักระยะและรอถึงวันที่ฉันจะได้กลับบ้านในอีกไม่นานนี้ เพราะฉันเคยบอกกับเค้าว่าขอให้อยู่ต่อไปและรอฉันด้วยนะ
จนวันสุดท้ายก่อนที่เค้าจะจากไป พ่อพาเค้าไปหาหมอ และหมอก็บอกว่าให้ทำใจ เพราะระบบภายในร่างกายเริ่มไม่ทำงานแล้ว สังเกตจากสองวันที่ผ่านมาแม่ป้อนอาหารและนมโดยใส่กระบอกฉีดยาให้กิน แต่เค้าก็สำรอกออกมาหมด หมอก็ฉีดยาบำรุงให้หนึ่งเข็มบอกว่าจะช่วยยืดอายุเค้าไปได้หน่อยนึง หรือถ้าจะให้อยู่รพ. นอนให้น้ำเกลือสักคืนแล้วค่อยมารับกลับบ้านก็ได้ แต่พ่อไม่ยอม เพราะไม่อยากทิ้งเค้าไว้โดดเดี่ยว และรอรับโทรศัพท์จากหมอว่าให้มารับศพกลับ อีกอย่างหมอก็ไม่ได้บังคับด้วยเพราะเห็นว่าเค้าก็ไม่ไหวแล้วจริงๆ
ที่สำคัญพ่อคิดว่าไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ขอให้เค้ากลับไปตายอยู่บ้าน
((แต่หมอจะรู้มั้ยนะ...ว่ายาบำรุงที่ว่าจะช่วยยืดเวลาที่ฉีดให้ในวันนั้น และในคืนวันนั้นไปป์ก็ได้จากไป))
((
ที่บ้านยังเลี้ยงแมวอีกตัว แต่ไม่ค่อยจะผูกพันกันเท่าไร มันก็อยู่ไปตามประสา และเพิ่งอายุสองขวบ พ่อตั้งชื่อว่า...ซัดดัม
เจ้าตัวนี้ออกแนวโหดหน่อยนึง ชอบออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก แล้วก็ฟัดกับแมวตัวอื่นไปทั่ว มันจะกลับมาบ้านกินข้าว แต่ก็ยังดีที่คอยไล่จับหนูให้
รูปนี้ถ่ายเมื่อสองปีก่อนตอนไปป์ไม่ค่อยสบาย เจ้าซัดดัมไม่รู้มันอารมณ์ไหนมานอนด้วย ))
คืนนั้นฉันคุยกับพ่อ แล้วเริ่มทำใจยอมรับและบอกพ่อว่าถ้าเค้าต้องทรมานก็ขอให้เค้าไปอย่างสบายดีกว่า อีกอย่างอายุก็มากด้วย และสองวันก่อนเค้าจะจากไป เค้าจะร้องและเห่าเพราะปกติแล้วจะไม่ร้องและเห่ากระซิกๆ แบบนี้ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร หรือเค้าเจ็บปวด รู้สึกไม่สบายตัว แม่ก็ต้องอุ้มเค้าไว้ในอ้อมแขนตลอด
และในวันที่เค้าจากไปนั่นแหละ ฉันฝันว่าตัวเค้าแยกออกเป็นสองท่อนเป็นฝันที่แปลก ตั้งแต่เค้าจากไปก็ไม่ฝันถึงอีกเลย ทั้งที่ฉันคิดถึงเค้ามากๆ ก็ได้แต่คิดว่าเค้าได้ไปสู่สุขคติแล้ว แม้แม่ก็ยังไม่ฝันถึง ทั้งๆ สองอาทิตย์ที่เค้าป่วยหนักแม่เป็นคนที่รับหน้าที่หนักที่สุด ทำเอาน้ำหนักลดไป 3 กิโล ไม่ค่อยได้หลับได้นอน ต้องคอยดูแลเค้าไม่ห่าง เวลากินข้าวก็ต้องผลัดกันกินกับพ่อ แต่แม่ก็ไม่เคยบ่นเพราะคิดว่าเค้าเป็นเหมือนลูกคนนึง และสำหรับพวกเราแล้วเค้าเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเราจริงๆ
...แต่แล้วเค้าก็จากพวกเราไปแล้วจริงๆ ในวันที่ 29 มิ.ย. เวลาตีหนึ่ง 35 นาที พ่อแม่และพี่สาวได้อยู่กับเค้าในวาระสุดท้ายของชีวิต พ่อพยายามโทรมาบอกฉันตั้งแต่ตอนเค้าจากไป ตื่นเช้าขึ้นมาฉันเห็นสายเรียกเข้าแต่ไม่ได้รับหกครั้ง ก็รู้สึกได้ว่ามีเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ
และสิ่งที่คิดมันก็เป็นจริง ทุกคนต่างก็ร้องไห้ แม้กระทั่งพ่อที่เข้มแข็ง ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับอะไรง่ายๆ ก็ยังต้องร้องไห้ให้กับลูกชายสี่ขาตัวนี้ พ่อรอเวลาสักพักจนคิดว่าเค้าคงไปจริงๆ แล้วพ่อกับแม่เอาผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามเนื้อตัวของเค้าให้สะอาด แปรงขนให้เรียบร้อยแล้วก็ใส่เสื้อผ้าประแป้งและพรมน้ำหอมให้เค้าด้วย แม่บอกว่าตอนนั้นตัวเค้ายังอุ่นๆ อยู่เลย
((ชุดที่ใส่ให้ในวันที่ส่งเค้าไป))
ส่วนที่ที่ฝังร่างเค้าอยู่ก็ไม่ไกลจากตัวบ้าน เดินแค่สิบก้าวก็ถึง พ่อจัดให้เค้าอยู่ใกล้กับกอไผ่ ตามความเชื่อคนจีนว่าเค้าจะได้ร่มเย็นไม่ร้อน พ่อปูที่นอนให้ก่อนที่จะเอาร่างเค้าวางลง แล้วก็เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ของเค้า พ่อให้กับเค้าไปทั้งหมด
ตอนแรกฉันกะว่าจะห้เอาเสื้อผ้าของเค้าที่มีหลายตัวให้กับน้องหมาตัวอื่นไป แต่พ่อบอกว่าทำใจไม่ได้ ไม่อยากเห็นใครใส่ พ่อเลยใส่ทุกอย่างให้กับเค้า
...แล้วก็มีเรื่องให้แปลกใจกัน คือตอนแรกแม่อุ้มเค้าจะวางลงในหลุม แต่วางไม่ถึงเลยส่งให้พ่ออุ้มต่อบอกว่า...ให้วางลูกลงหน่อย
จู่ๆ เค้าก็ลืมตาขึ้นมา ทั้งๆ ที่เค้าเสียตอนตีหนึ่งครึ่ง แล้วกว่าจะส่งเค้าก็ตอนเช้าแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร....หรือว่าเค้ายังมีห่วงอยู่ แต่อีกใจก็คิดว่าอาจเป็นเพราะเส้นกระตุกจึงทำให้เค้าลืมตาขึ้นมา...
พ่อก็ลูบตาเค้าให้ปิดลงและบอกว่าไปให้สบายเถอะนะ แล้วก็จุดธูปเทียนให้ ในตอนแรกแม่กับพี่สาวเป็นคนจุดเทียน จุดเท่าไรก็ไม่ติดสักทีเพราะมีลมด้วย แต่พอให้พ่อมาจุดก็จุดติด และเทียนก็ไม่ดับจนหมดไส้ไปเอง ทั้งๆ ที่มีลมพัดอยู่เป็นระยะ นี่ก็เป็นเรื่องแปลกอยู่เหมือนกัน
ซึ่งก็อีกนั่นแหละ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ฉันเองก็พยายามหาเหตุผลมาหักล้างอยู่เหมือนกัน
หลังจากวันที่เค้าจากไป แม่ก็ไปทำบุญให้และยังเอาอาหารกับน้ำไปวางไว้ให้เค้าตลอดเจ็ดวัน ส่วนพ่อก็ทำหลังคาต่อสายไฟจากตัวบ้านออกไปยังที่เค้าอยู่และจะทำเป็นสุสานให้เค้าด้วย
สำหรับบางคนอาจคิดว่าอาจดูเว่อไป...หรือเปล่า แต่ไม่ว่าใครจะว่าหรือคิดยังไง มันเป็นความสุขใจของครอบครัวเราที่เสมือนว่าได้สูญเสียสิ่งที่รักไป เราจึงอยากทำให้ดีที่สุด
และวันนี้ที่ครบรอบ 7 วัน ฉันก็ได้ฝันถึงเค้าอีกครั้ง...ในฝันดูเค้าเหนื่อยมากและพูดได้บอกฉันว่าเค้าไม่ไหวแล้ว และหลังจากนั้นก็ดูจะลางเลือนไป ก็ตั้งแต่เค้าจากไปฉันสวดมนต์ไหว้พระและอธิษฐานแผ่ส่วนกุศลให้เค้าตลอด
หวังว่าเค้าคงได้รับรู้...
ครั้งหน้าที่ฉันจะกลับบ้านถึงแม้จะไม่มีเค้าอีกต่อไป
แต่เค้าก็ยังอยู่ความทรงจำของฉันเสมอ
ด้วยรักตลอดไป
ลป. ตอนค่ำโทรกลับบ้าน คุยกันเรื่อยเปื่อยสัพเพเหระ แต่ทุกๆ ครั้ง มักจะมีเรื่องของไปป์ด้วยเสมอ ก็ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เค้ามีชีวิตหรือจากไปแล้วเราก็อดที่จะคุยเรื่องของเค้าไม่ได้
ตอนนี้พ่อกับแม่ก็พอจะทำใจได้แล้วเหมือนกัน แต่ดูท่าจะเหงาและคิดถึงไปป์มากๆ เพราะเค้าเคยอยู่ด้วยกันทุกวัน ตอนนี้ก็อยู่กันสองคนแต่ก็ยังบ่นๆ ถึงไปป์อยู่ จัดบ้านเอาอัลบั้มรูปไปป์มาดูแล้วก็น้ำตารื้น เห็นแม่บ่นๆ ว่านอนไม่ค่อยหลับด้วย เพราะว่าจิตไม่สงบยังนึกและคิดถึง (ก็เค้าดูแลกันใกล้ชิดที่สุด)
...........................
แต่ชีวิตก็คือ....ชีวิต
ชีวิตของคนที่ยังเหลืออยู่ก็ต้องก้าวไปข้างหน้า
ตามกลไกของกาลเวลา
ก็คงต้องใช้เวลาสักพัก
กว่าจะทำใจให้ยอมรับได้จริงๆ
Create Date : 05 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 0:31:58 น.
11 comments
Counter : 3314 Pageviews.
Share
Tweet
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของไปป์ ด้วยนะจ้า
จอมแก่นเองก็สูญเสียน้องหมาไป 2 ตัวในเวลาไม่ต่างกัน เค้าทั้งสองเป็นอะไรที่กว่าสัตว์เลี้ยงสำหรับจอมแก่น
เพราะเค้าคือ เพื่อนในทุกๆๆเวลาของเราเลย
ความผูกพันมันมากมายเกินที่จะบอก
ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงเค้าทั้งสอง จอมแก่นก็จะมีเหรียญ์ที่ทำชื่อเค้าติดตัวไปด้วยเสมอ
โดย:
จอมแก่นแสนซน
วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:22:53 น.
อ่านไปก็น้ำตาร่วงไป นึกถึงน้องหมาของตัวเอง ที่เสียไปเมื่อปีที่แล้ว เข้าใจความรู้สึกค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ
โดย:
moonoy1966
วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:30:54 น.
ทักทายยามเย็นคะ ทานข้าวให้อร่อยนะคะ ^^
โดย:
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:00:29 น.
ป้าแจ้น ...
กว่าจะเข้ามาอ่านก็ผ่านวันที่น้องหมาเค้าจากไปกว่า 7 วันแล้ว...
เสียใจกับน้องไปป์ด้วยจ้ะป้า นี่คุยๆ กันก็เพิ่งมาเห็นและได้อ่านเรื่องราวของเค้าแบบเต็มๆ กันบล็อกนี้ล่ะ มันเป็นความผูกพันนะป้า พอเลี้ยงดูเค้ามามันก็อย่างว่ารักและก็ห่วง พอเค้าเป็นอะไรมาก็กลุ้มใจ แล้วยิ่งอยู่ไกล ไม่ได้ดูแลกันมันก็ยิ่งกว่าอะไร แต่ยังดีว่าพ่อแม่เค้ายังดูแลให้และรักมากกว่าที่เราคาดหวัง เพราะเค้าดูแล อยู่ด้วยกันทุกวันมันก็เลยเป็นอะไรที่มันเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ เน๊าะ
อ่านไปแล้วเราก็คิดถึงเจ้าหมาตัวเก่าเราจัง อารมณ์คงเหมือนป้าแจ้นนี่ล่ะจ้ะ แต่อาการอาจจะไม่ได้รุนแรงมากเพราะเจ้าป็อกกี้มันก็แก่ด้วยเพราะอายุขัยของมันเอง
วันเวลานะจ้ะจะช่วยให้คนที่รักน้องไปป์ดีขึ้น อาจจะเหงาๆ คิดถึงเค้าหน่อยแล้วมันก็ผ่านไป ...
โดย:
JewNid
วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:35:35 น.
ชีวิตต้องเดินหน้าค่ะ...สู้ สู้นะคะ
โดย:
น้ำหวานกับน้ำพุ
วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:00:49 น.
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ เพราะเคยเสียน้องหมาสองตัว ตอนที่ตัวเองอยู่ไกลจากเค้าเหมือนกัน แถมเสียเค้าในเวลาไล่เลี่ยกันอีก เหมือนตัวนึงไป อีกตัวก็อยู่ไม่นาน เค้าเคยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็ก ก็ต้องผูกพันธ์กันเป็นธรรมดา และที่สำคัญคือคนเลี้ยง หัวใจแทบสลายเลย ตอนแอ๊กจะมาอยู่อิตาลี่ ยังคิดจะเอาเค้ามาด้วยเลย แต่แม่ไม่ให้เอามา กลัวหมาจะหนาว จะงั้นจะงี้ จริงๆแกก็รักของแกนั่นแหละ
คงต้องใช้เวลาซักนิดละค่ะคุณแจน ที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของทุกคน ตอนนี้น้องไปป์เค้าก็ไปสบายแล้ว เก็บความสุขที่เคยมีร่วมกันเอาไว้ดีกว่าเนอะ
เทคแคร์นะคะ
โดย:
ปลาทอง9
วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:24:45 น.
เวลาเยียวยาหัวใจค่ะ...
เข้มแข็งนะคะ จดจำคืนวันดีๆ ที่ได้อยู่ร่วมกัน
โชคดีของเราที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเค้าและได้รักเค้า
โชคดีของเค้าที่ได้เกิดมาให้เรารักและรักเรา
เป็นกำลังใจเหมือนเคยนะคะ...
โดย:
palomaw
วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:17:26 น.
มาจิ้มรายงานไว้ก่อนนะคะ อิอิ
มิไม่มีเน็ตให้ใช้ซะนานเรยยย .....
โดย:
nompiaw.kongnoo
วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:34:44 น.
มาแสดงความเสียใจกับการจากไปของไปป์อีกรอบคะ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
โดย:
Maew-Tua-Lek
วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:29:19 น.
ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ
ขอแสดงความเสียใจที่ต้องสูญเสียเจ้าไปป์ไปนะคะ อ่านบล็อคแล้วประทับใจในความรักความผูกพันมากเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่า
โดย:
haiku
วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:23:57 น.
ขอบคุณค่ะที่แวะไปหา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ หนังสือเล่มที่เขียนถึงเนี่ยดีจริงๆคะ ตอนเขียน เค้ายังไม่ได้ทำออกมาขาย เป็นหนังสือทำแจกเพื่อทำบุญของครอบครัวคนเขียน บังเอิญไปอ่านเจอแล้วชอบ ตอนนี้มีขายแล้ว ถ้ามีโอกาสลองหาอ่านดูนะคะ อาจจะอ่านแล้วเศร้าๆบ้าง แต่ก็ได้อะไรเยอะแยะจากในหนังสือค่ะ
โดย:
moonoy1966
วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:18:06 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
jan_tanoshii
Location :
Japan Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
If you never talk to strangers, you'll never meet anyone.
ถ้าจะฝากข้อความถึงกัน รบกวนหลังไมค์นะคะ
เพราะถ้าฝากไว้ในกระทู้เก่าจะไม่ได้เข้าไปดูค่ะ
ตัวตน
ลึกร้าย
สะท้อน
หลายอักษร
เร้นความรู้สึก
ใส
หยาบฤาละเอียด
อยู่ใต้จิตใจ
ใต้สำนึกใคร
ลืมใคร่ครวญ
(จาก...พราย)
►►►►►►Friends' blogs ◄◄◄◄◄◄
goddess_piggy
ยอดสน
black shadow
Fruit_tea
fudge-a-mania
yadegari
ปาน-Sapporo
ธูปหอมเทียนสว่าง
นู๋นิดหน่อย มหาศาล
Hana*
erina
JewNid
namit
ตะกร้าหวายสีขาว
jisi
มัชฌิมา
prncess
Qooma
คุณย่า
ขนมชั้น...เธอห้ามกิน!!!
สายลมโชยเอื่อย
เกือกซ่าสีชมพู
นู๋โนริ
แม่โกลเด้นฯ
blueberry_cpie
varissaporn327
แม่ยูริค่ะ
M1ku
มัชชาร
ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน
เสียงซึง
ป้ามด
คุณป้ายังปิ๊ง
อินทรีทองคำ
ซออู้
นู๋ส้มจุก
ตี๋สีชมพู
นุทศรี!!
แ ม ง ป อ
ตงเหลงฉ่า
me2you
cottonbook
กวางตุ้งหวาน
nature-delight
sutida_jeaw
แพนด้ามหาภัย
Star in the Sky
katase
ยัยบี๋
rebel
Jannyfer
ป้อจาย
สาวไกด์ใจซื่อ
พลอยสีรุ้ง
petunia lover
Petit Patty
ปลาทอง9
infonoom
PADAPA--DOO
Arefa Gold
p_tham
MeTaBoLism
พ ริ ก ขี้ ห นู @ UK
goken
อพันตรี
ultraman seven
อัยคุง
House Of FlyingBird
ลำพูริมน้ำ
อ.ปมโปโกะ
Mu_in_love
sirind
Mumukung
มามี๊วินนิ่ง
jayjayกะน้องถ้วยฟู
~oกิ๊กกะโป๋ โลเปสo~
แครอทเค้ก
เชอเบทส้ม
อยู่ไกลบ้าน
thai_friends
suparatta
หัวใจสีม่วง
ไร้หัวใจ
jail
Oakyman
ameagari
เกดจัง
YRFP
uggie*
ดา ดา
ทูน่าค่ะ
marinesnow
BBwindy
หยิ๋งแป๋ม
soulfighter
ป้าแจ๋วแหวว
หวานเย็นผสมโซดา
I am just fine^^
Black Tulip
tenno_jung
Hachi_chan
เทพบุตรตบะแตก!!
9A
brasserie 1802
แร้ไฟ
VA_Dolphin
fonkoon
อาราลียะ
Bluejade
รอยเท้าบนพื้นทราย
nods
เงาไม้เหงาฯ
สายลมอิสระ
เกย่า
แป๊กก
++SpY++
C'est ma vie
MOMO
aoiyuki
bigsize
puenka
counter
:ย้อนรอยบล็อกเก่า:
::ย้อนรอย ใบไม้เปลี่ยนสี@Shinjiku Gyoen::
::ย้อนรอย ท่าเรือ Osanbashi ๒๐ พ.ย. ๕๓ ::
::...กับอีกวันของฤดูใบไม้ร่วง::
::เดินเล่นชิวๆ ชมวิว (ใบไม้เปลี่ยนสี) ใกล้บ้าน (2)::
::เดินเล่นชิวๆ ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีใกล้บ้าน (1)::
::ออนเซนร้อนๆ ในหน้าร้อนของวันฟ้าใส ตอนจบ::
::ออนเซนร้อนๆ ในหน้าร้อนของวันฟ้าใส::
::รวมมิตรอาหารร้านมิโซะระ (2)::
::รวมมิตรอาหารร้านมิโซะระ (1)::
::อิซาคายะร้านใหม่ที่ไปลิ้มลองแถว Kamioooka::
::Yamashita Park & Minatomirai at Yokohama::
::ความรักและความผูกพันที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป::
::ด้วยรักและอาลัย ลูกชายตัวเล็กสี่ขาของบ้านเรา::
::Harbor View Park (Minato-no-mieru-oka-koen)::
::Yamate Italian Garden "Diplomat's House"::
::แสร้งว่า::
::ดอกไม้...ในมุมที่(เลือก)มอง::
::อาหารญี่ปุ่นร้าน Kichijo Dining::
::อาหารจีน คอร์สหูฉลาม::
:: Teppanyaki 鉄板焼き::
::เซตอาหารร้าน Misora และคานินะเบะ(หม้อไฟปู)::
::เมื่อตะวันจะลับฟ้า พรุ่งนี้ใกล้จะมาถึง....::
::จิตฟุ้ง...::
::แพล่ม รำพัน รำลึก::
::ตะลอนเที่ยวลาสเวกัส ตอนที่ 4::
::ตะลอนเที่ยวลาสเวกัส ตอนที่ 3::
::ตะลอนเที่ยวลาสเวกัส ตอนที่ 2::
::ตะลอนเที่ยวลาสเวกัส ตอนที่ 1::
::ย้อนรอย...ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต ตอนที่ 3::
::ย้อนรอย...ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต ตอนที่ 2::
::ย้อนรอย...ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต ตอนที่ 1::
::ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Katsunuma จังหวัดYamanashi::
::บรรยากาศแถว Minatomirai ยามค่ำคืน...ที่เก่า เวลาใหม่กับกล้องใหม่::
::There is a difference between knowing the path and walking the path ::
Friends' blogs
กิน ๆ เที่ยว ๆ
ชานไม้ชายเขา
Webmaster - BlogGang
[Add jan_tanoshii's blog to your web]
Links
เบอร์โทรศัพท์ทั่วไทย
พยากรณ์อากาศประเทศไทย
อัตราการแลกเปลี่ยน
365jukebox.com
ไทยเที่ยวไทย
bangkokhealth.com
shutterphoto.com
health & cuisine
women-worldmedic
รอบรู้เรื่องอาหาร
KanjiQuick - Japanese-English Kanji Dictionary
เรื่องราวต่างๆในญี่ปุ่น
รู้จักญี่ปุ่น
japan-guide.com
japanese-learning
Happyบริการออนไลน์
Longdo
ตารางค่าสีที่ใช้ในเว็บไซท์
kanji-step
Saikam Online Dictionary
NHK World
japankiku.com
thejapanesepage.com
kanjisite.com
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
จอมแก่นเองก็สูญเสียน้องหมาไป 2 ตัวในเวลาไม่ต่างกัน เค้าทั้งสองเป็นอะไรที่กว่าสัตว์เลี้ยงสำหรับจอมแก่น
เพราะเค้าคือ เพื่อนในทุกๆๆเวลาของเราเลย
ความผูกพันมันมากมายเกินที่จะบอก
ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงเค้าทั้งสอง จอมแก่นก็จะมีเหรียญ์ที่ทำชื่อเค้าติดตัวไปด้วยเสมอ