จัด 5 แพ็กเกจช่วย ลูกจ้าง-นายจ้าง ให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ ′ซ่อมบ้าน-โีรงงาน.′หมื่นล้าน

กระทรวงแรงงานจัดเต็ม งัด 5 แพ็กเกจอุ้มลูกจ้าง-นายจ้าง ควักกระเป๋าช่วยจ่ายเงินเดือนลูกจ้าง รายละ 2 พันบาท/เดือน อัดฉีด 1 หมื่นล้านให้โรงงาน-แรงงานกู้ซ่อมบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ 2-3% ต่อปี "สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์" ฟันธงขาดแคลนแรงงานวิกฤตหนักกว่าถูกเลิกจ้าง


น.พ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กระทรวงได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างและผู้ประกอบการที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายและช่วยให้ผู้ประกอบการฟื้นฟูกิจการกลับมาประกอบธุรกิจได้ 5 มาตรการ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกจ้างในโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมกลับมาทำงานได้ตามปกติ และได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการแรงงานทั้งระบบในระยะยาว เพื่อพัฒนาทักษะและยกระดับฝีมือลูกจ้างแรงงานรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต และป้องกันปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

สำหรับมาตรการช่วยเหลือประกอบด้วย 1.การให้เงินช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินเดือนค่าจ้างให้กับลูกจ้าง 2,000 บาท/เดือน/ราย โดยผู้ประกอบการต้องทำข้อตกลงจะว่าจ้างลูกจ้าง 3 เดือนขึ้นไปเป็นอย่างน้อย ขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 324 ราย คิดเป็นจำนวนลูกจ้างรวม 210,170 ราย ได้รับอนุมัติงบฯแล้ว 1 แสนคน 606 ล้านบาท อยู่ระหว่าง เสนอของบฯจากรัฐบาลเพิ่มเติมอีกกว่า 1.2 พันล้านบาท

2.ช่วยเหลือลูกจ้างที่สถานประกอบการประสบภัยน้ำท่วม ยังไม่ถูกเลิกจ้างแต่ได้รับเงินเดือน 75% ของเงินเดือนค่าจ้างตามกฎหมายแรงงานให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจัดทำโครงการให้ทำงานชั่วคราวเป็นงานสาธารณประโยชน์ รับค่าจ้างวันละ 150 บาท คนละไม่เกิน 120 วัน หรืออาจจะรับจ้างทำงานชั่วคราวในโรงงานอื่นภายใต้โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องการจ้างแรงงานถึง 7-8 หมื่นราย เมื่อสถานประกอบการเดิมกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติก็กลับมาทำงานที่เดิมได้ หรือจะรับจ้างในสถานประกอบการใหม่ถาวรก็ได้

3.ได้รับการอนุมัติโครงการสินเชื่อ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นให้ลูกจ้างกู้ 8 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.5 คงที่ 2 ปี สำหรับซ่อมแซมบ้าน

4.ที่เหลือ 2 พันล้านบาทให้ผู้ประกอบการกู้ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 คงที่ 3 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องในการจ้างงาน จะเริ่มปล่อยกู้ได้ในวันที่ 1 มกราคม 2555 โดยผู้กู้จะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถกู้ได้ในอัตราร้อยละ 5 คงที่ 3 ปี แบ่งเป็นสถานประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 50 คน กู้ได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท, สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 51-200 คน กู้ได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท และลูกจ้างตั้งแต่ 201 คนขึ้นไป กู้ได้ไม่เกิน 4 ล้านบาท สามารถยื่นกู้ได้ 3 ธนาคาร ได้แก่ กรุงไทย ออมสิน และอิสลามฯ

และ 5.ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ย. มีมติให้ลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ที่จากเดิมนายจ้าง และลูกจ้างจะต้องส่งเงินเข้าสมทบกองทุนร้อยละ 5 ส่วนรัฐบาลจ่ายสมทบร้อยละ 2.75 จะผ่อนภาระด้วยการให้ลูกจ้าง นายจ้างลดการส่งเงินสมทบเข้ากองทุน 2 ระยะ ระยะแรกให้นายจ้างและลูกจ้างลดการจ่ายเงินลงเหลือร้อยละ 2 ของอัตราค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม ถึงมิถุนายน 2555 ระยะที่สองให้ลดการจ่ายเงินสมทบลงร้อยละ 1 ของอัตราค่าจ้างเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม 2555 ส่วนรัฐจะยังคงจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในอัตราเดิม

น.พ.สมเกียรติกล่าวว่า จากข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ณ วันที่ 29 พ.ย. 2554 มีสถาน ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมรวม 14,031 แห่ง จำนวน 9.9 แสนราย ในจำนวนนี้มีแรงงานยังไม่ได้ทำงานยังรับเงินเดือนโดยไม่ถูกเลิกจ้าง 661,627 คน มีสถานประกอบการเปิดกิจการแล้ว 14,647 แห่ง แรงงานกลับเข้าทำงานแล้ว 332,302 คน ส่วนที่ถูกเลิกจ้างจริงในขณะนี้มี 9,572 คน จากสถานประกอบการ 31 แห่ง

โดยกระทรวงแรงงานเตรียมตำแหน่งงานรองรับอยู่ขณะนี้อีกกว่า 1.4 แสนอัตรา ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าภัยน้ำท่วมจะทำให้มีการเลิกจ้างงานจำนวนมากนั้น ตนขอยืนยันว่าตามข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือวิกฤตขาดแคลนแรงงานซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแรงงานต่างด้าวในระบบ 1.2 แสนคนช่วงเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมพากันเดินทางกลับประเทศบางส่วน ไม่รวมตัวเลขแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว กัมพูชา ที่ไม่ได้อยู่ในระบบอีก 2-3 แสนรายที่ส่วนหนึ่งก็เดินทางกลับบ้านเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแรงงานภาคการก่อสร้างจากนี้ไปจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องเตรียมมาตรการไว้เตรียมการในระยะยาว 4 มาตรการ

ได้แก่ 1.เติมคนเข้าสู่ระบบ โดยการจัดคนจากกลุ่มเป้าหมายคนว่างงานที่มีจำนวนสูงสุดถึง 4 แสนคน 2.ใช้คนที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3.จัดระบบการทำงานให้เอื้อต่อการใช้คนให้น้อยลง โดยการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาช่วยผ่อนแรง 4.การพัฒนาระบบการทำงานให้รองรับกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เช่นการวางระบบโลจิส ติกส์เข้ามาช่วยส่งเสริมระบบงานให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฤกษ์ดี วันมงคล ปี 2555

แบบบ้านสวย หลากหลายสไตล์

ตกแต่งภายใน บ้าน อพาร์ทเมนท์ หอพัก ห้องนอนแคบๆ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น

เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน อิเกีย IKEA

ความรู้คู่บ้าน บทความดีๆ เพื่อบ้านคุณ คู่มือบ้านหลังน้ำลด

โปรโมชั่น ลดแลก แจกแถม เฟอร์นิเจอร์ บริการ วัสดุก่อสร้าง ของแต่งบ้าน

Create Date : 04 ธันวาคม 2554		0 comments
Last Update : 4 ธันวาคม 2554 14:09:08 น.
Counter : 897 Pageviews.
Share Tweet