“เครื่องดื่มสมุนไพร...น้ำกระเพราปั่นสด” เป็นที่รู้กันดีว่าผักสดดีต่อสุขภาพแค่ไหน จากการที่เราพยายามหาวิธีให้กินผักได้มาก ๆ ในแต่ละวันก้อยังมีข้อจำกัดอยู่ เพราะมีผักดี ๆ ที่มีประโยชน์บางอย่างเรากินไม่ได้ทั้งสดและสุก หลายครั้งผักที่เหลือในตู้เย็นใช้ทำอะไรต่อไม่ได้ เสียก้อต้องทิ้งไป ที่เรากินอยู่ในปัจจุบันบางรูปแบบก้อเบื่อได้เหมือนกัน จึงเป็นที่มาทำยังไงถึงจะหาวิธีกินผักให้หลากหลายรูปแบบ ยิ่งง่ายก้อยิ่งดี จะได้ไม่ซ้ำซากจำเจนะคะ และน้ำผักถือว่าเป็นเมนูที่เรากินได้ยากมาก ต้องขวนขวายหาวิธีที่ทำจะให้กินผักได้แบบยังคงสภาพกากใยอยู่และกินสด ๆ ข้อสำคัญต้องกินได้ไม่กระอักกระอ่วน จึงเป็นที่มาของน้ำปั่นผักสดเพื่อสุขภาพในเบรคนี้ สำหรับเมนูแรกน้ำกระเพราปั่นสด มันสุดยอดมาก อย่าเพิ่งทำหน้าเบ้กันซะก่อน อย่างน้อยที่สุดเราอยากให้เพื่อน ๆ ลองดู เผื่อจะถูกโฉลกกันนะคะ

“วัตถุดิบ” ไม่ยุ่งยากสำหรับการหาวัตถุดิบ ทุกอย่างราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดและซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป เพื่อน ๆ อาจนำไปประยุกต์ใช้ผักชนิดอื่นแทน ไฮไลท์ไม่มีอะไรมากมาย ไม่ลองก้อไม่รู้ เพราะเราลองมาจึงรู้ว่าต้นเหตุจากน้ำกระเพราปั่นนั้นกลายเป็นที่มาอีกหลาย ๆ ปั่นเพื่อสุขภาพ ไม่ต้องไปซีเรียสว่ากินผักสดแล้วมีสารเคมีแยะ มีสารมากมายที่นิยมมาใช้ล้างผัก มัวแต่คิดมากก้อไม่ต้องกินอะไรแล้ว ปัจจุบันไม่มีอะไรที่ไร้สารเคมี ยิ่งทำเองแล้วไม่ต้องซีเรียสเลย เพราะขั้นตอนการล้างสบายใจว่าจะสะอาดกว่าตามร้านขายอาหารแน่นอนนะคะ






1. กระเพรา สมุนไพรคู่ครัวไทยมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ทำไมเมนูแรกถึงเป็นกระเพรา? ตรงนี้มีที่มา แต่จะขอข้ามไป เพราะเรื่องมันยาวค่ะ

2. ผักคะน้า ซื้อมาแค่ต้นเดียวก้อพอ ใช้ได้หลายครั้ง ในข้อสองนี้ถือเป็นผักเสริมให้ได้สารอาหารมากขึ้น และครั้งต่อไปเราจะเสริมด้วยผักต่าง ๆ ตอนนี้เราเสพติดกระเพราอยู่ แต่กินอะไรมากไปก้อไม่ดี จึงต้องมีผักเสริมที่แตกต่างกันออกไป คะน้ามีไฮไลท์พิเศษคือความมัน จะมีรสมันกล้อมแกล้ม และผักอะไรที่เรากินไม่ได้จับใส่ไปอย่างละนิดละหน่อย ปรากฏว่าเวิร์คมาก การใส่ไปนิดเดียวทำให้เราไม่รับรู้กลิ่นของผักที่เราไม่ชอบ เช่น มะเขือเทศ ใบบัวบก ฯลฯ วันนี้ไม่มีผักอย่างอื่น ใช้คะน้า เพราะใช้แค่ใบเดียว ที่เหลือเราเอาไปทำอย่างอื่นได้

3. น้ำตาลทรายแดง อันนี้เอามาทำเป็นน้ำเชื่อมก่อน ถุงละไม่กี่สะตัง เชื่อมเก็บใส่ขวดไว้แช่ตู้เย็นอยู่ได้นานค่ะ

5. มะนาว ใช้ครั้งละ 1 ลูก หรือลูกครึ่ง จะได้วิตามินซีเพิ่ม ของดี ๆ ท้างน้านที่บรรจุลงไปในน้ำปั่นเพื่อสุขภาพของเรา มันดับกลิ่นและสร้างความหอมแบบเปรี้ยว ๆ

6. น้ำแข็ง, น้ำต้มสุก และเกลือ

“วิธีการทำน้ำกระเพราปั่น” อุปกรณ์ที่ใช้มีเพียงเครื่องปั่นน้ำผลไม้ อันนี้ไม่ได้ลงทุนเอง อภินันทนาการมาจากห้องคุณพี่ชาย ท่านซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ เราเลยหอบกลับมาใช้ที่ห้อง ครั้งแรกซ้อมเสียบปลั๊กอยู่นานมาก กลัวมันปั่นนิ้วขาด ปั่นผักยากเหมือนกัน ครั้งแรกผ่านไปค่อยรู้หลักขึ้นมาหน่อย ถือว่าพอใช้ได้ แต่ไม่ค่อยจ๊าบสักเท่าไหร่ มีสะตังค่อยไปถอยเครื่องเจ๋ง ๆ มาใช้ หรือเราจะใช้ยังไม่คล่องก้อไม่รู้นะคะ

1. เริ่มกันที่นำกระเพราะมาล้างให้สะอาด ซีเรียสก้อใช้ด่างดับทิม หรือผงโซเดียมไบคาร์บอเนต ไม่น่าจะถึงสิบบาท เป็นผงครอบจักรวาล สารพัดประโยชน์ ใครใคร่ใช้อย่างอื่นก้อเลือกใช้ตามสะดวก เราเลือกใช้อย่างหลัง เพราะใช้บ่อยมาก ว่าง ๆ จะมาบ่นให้ฟังว่าผงโซเดียมไบคาร์บอเนตใช้ทำอะไรได้บ้าง สุดยอดค่ะ จากนั้นนำใบกระเพรามาพักให้สะเด็ดน้ำ เก็บใส่กล่องแช่เย็นไว้ได้สัก 2 วัน เพราะกระเพรามันเน่าง่ายเหมือนกัน






2. นำคะน้ามาล้างให้สะอาดเช่นเดียวกัน จากนั้นเก็บใส่ถุง เราจะใช้แต่ใบของมัน ซื้อพร้อมใบกระเพรามา 1 ต้น ซื้อมามากเหลือไว้ก้อเน่า ใช้แค่ใบเดียว ถ้าใบเล็กก้อ 2 ใบ ส่วนก้านมันเก็บไว้แทะเล่นเป็นของว่าง ใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้นนะคะ





มาเบรคให้กำลังใจปากตัวเองกันนิดหนึ่ง ก้านคะน้าที่ว่านี้เอามาหั่นแล้วอบให้สุกแบบกรอบ ๆ จากนั้นโยนลงน้ำเย็น ตักขึ้นใส่จานเล็ก ๆ โรยด้วยซอสน้ำมันหอยลีกุมกี ก่อนจะได้กินน้ำกระเพราปั่น ซัดก้านคะน้าโรยซอสน้ำมันหอยไปก่อน บางทีเราก้อเก็บก้านใส่ตู้เย็นไว้ก่อน เอามาอบให้สุกแบบนี้ แล้วใส่ในมาม่าอะไรก้อว่าไป บางครั้งดึก ๆ หิวก้อซัดมาม่าใส่ผักที่มีอยู่ในตู้ ใบคะน้าที่เก็บไว้ก้อใช้ได้ คะน้าต้นเดียวใช้ได้ครอบจักรวาล ดึก ๆ หิวเอาใบที่เหลือในตู้เย็นมาอบแล้วราดซอสน้ำมันหอยก้อโอเคค่ะ เมนูกระเพราปั่นสดแถมคะน้าราดน้ำมันหอย ตั้งแต่เกิดมายังไม่ประทับใจน้ำมันหอยยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ ยี่ห้อลีกุมกีก้อเฉย ๆ ค่ะ ขวดละร้อยกว่าบาท หากวันไหนอารมณ์บรรเจิดว่าจะลองมานั่งปรุงน้ำมันหอยดู อาจต้องผสมกับอย่างอื่นจึงจะถูกใจ








3. เราตวงกระเพราเท่าที่เห็นในถ้วยสีขาว และคะน้า 1 ใบใหญ่ เอามาหั่น ๆ จากนั้นเอาใบกระเพรามาหั่น ๆ ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วเอารวมกัน ค่อย ๆ หยอดลงเครื่องปั่นทีละน้อย ๆ ใส่น้ำต้มสุกนำร่องไปนิดหนึ่ง (น้ำต้มสุกก้อต้มในไมโครเวฟนั่นแหละ) ต้องปั่นอยู่หลายครั้งจึงละเอียด ไม่ต้องละเอียดมากหรอก เอาแค่พอประมาณ จากนั้นใส่น้ำแข็งลงไป แล้วระดมพลังปั่นเต็มที่ คนปั่นเก่ง ๆ อาจมีเทคนิคที่ดีกว่า






4. ปั่นไปได้สักระยะหนึ่งใส่เกลือ และน้ำเชื่อมและมะนาวอีก 1 ลูก บีบตามลงไปค่ะ น้ำเชื่อมเราทำมาจากน้ำตาลทรายแดง เอามาผสมน้ำแล้วเคี่ยวในไมโครเวฟ พอมันเย็นแล้วเทใส่ขวดน้ำดิ่มเช่เย็นไว้ น้ำตาลทรายแดงจะมีสารอาหารมากกว่าน้ำตาลทรายขาว และกลิ่นจะหอมกว่า บางคนอาจไม่ชอบก้อได้ น้ำตาลกินมากไม่ดีเป็นที่รู้กัน แต่เราไม่มีปัญหากับน้ำตาล ออกกำลังกายทุกวันไม่กังวลค่ะ ปริมาณที่ใส่ไม่มาก เพราะเราไม่กินหวานมากอยู่แล้ว อย่างถ้ากินไมโลหรือโอวัลตินทั้งร้อนและเย็น เราจะไม่ใส่อะไรเลย กินโอวัลตินหรือไมโลเพียว ๆ มาเข้าเรื่องค่ะ จากนั้นตั้งหน้าตั้งตาปั่นต่อไปจนละเอียด แรก ๆ ต้องชิมเป็นช่วง ๆ หลัง ๆ จะเป๊ะ ๆ ไม่ต้องชิมบ่อยแล้ว






เรียบร้อยแล้วค่ะ จะได้สีออกมาประมาณนี้ รสซ่า ๆ จากใบกระเพราเล็กน้อย ออกมัน ๆ จากใบคะน้า ได้รสเปรี้ยวจากมะนาว และหวานเบา ๆ จากน้ำตาลทรายแดง วันต่อไปจะเปลี่ยนเป็นผักอย่างอื่นบ้าง เป้าหมายของเรากินเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่กินเป็นยารักษาโรค ดังนั้นอย่ากินซ้ำซากเป็นเวลานาน อันนี้สำคัญนะคะ