Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

Darkness Summer

Darkness Summer [Rewrite]

- บทที่ 1: ปฐมบทเข้าค่าย -
ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง...
นักเรียนชั้น ม.2 ในเทอมสุดท้าย กำลังนั่นคุยกันอย่างออกอรรถรส ซึ่งหัวข้อสนทนาก็เป็นเรื่องค่ายวิชาการสร้างทักษะเรียนรู้ที่จะไปกันตอนปิดเทอมจบการศึกษานั่นเอง

ในม.2/6 นักเรียนหลายคนก็แยกย้ายไปคุยกับกลุ่มของตนเอง แต่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง เดียวดาย ราวกับว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องนี้ด้วยซ้ำ

แต่มีเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง หันมามองเธอแวบหนึ่ง แล้วจึงปลีกตัวออกจากกลุ่มคน เดินเข้าไปหาเธอ

“นี่ๆ เธอสนใจไปด้วยเหรอโซกี้?”

“ไปสิ...แต่ใครจะรับฉันอยู่ร่วมห้องก็ไม่รู้เลยนะ”

เด็กผู้หญิงคนที่ชื่อโซกี้ตอบท่าทางเศร้าสร้อย ผมสีดำขลับน้ำตาลที่รวบไว้ดูช่วยให้เธอสวยขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ช่วยให้เธอดูร่าเริงได้ ตาสีน้ำตาลดำเฉดสีเดียวกับผมฉายแววเศร้า ซึ่งเป็นบุคลิกของคนที่เงียบเป็นหลักอยู่แล้ว แถมยิ่งไม่มีเพื่อนอีก

เด็กผู้หญิงคนที่ถามเธอ เดินไปยังกลุ่มคน ที่โซกี้เองคาดว่าเป็นกลุ่มของคนที่ถาม เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดคุยกับเพื่อนๆของเธอพักใหญ่ ก่อนที่จะเดินกลับมาหาโซกี้

“นี่...เธอเข้ากลุ่มไปค่ายกับพวกเรานะ”

..........................................

ไม่นานต่อมา

...ฟ้าเริ่มมืด ดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้าในอีกไม่ถึงสองชั่วโมง...ท่ามกลางบรรยากาศป่าเขาลำเนาไพรผสมกับทะเลมีต้นสนขึ้นมากมาย ตามปกติของชายทะเลฝั่งอ่าวไทยส่วนมาก...

รถแล่นมาจอดที่ลานจอดรถของรีสอร์ท...มีต้นมะพร้าวขึ้นสูง เข้ากันกับตึกหลักของโรงแรม ที่ดูหรูหรา แต่ก็ดูมีอายุมานานพอสมควร ถนนลาดเข้าสู่ตัวโรงแรมยาวพอสมควร

รถแล่นไปเรื่อยๆ จนค่อยๆชะลอ...และจอดสนิท ประตูอัตโนมัติเปิดขึ้น

เด็กสาวหลายคนต่างทยอยกันลงจากรถทีละหลายๆคน จนเรียกได้เต็มปากว่าเป็นการเบียดเสียด จนอาจารย์อาวุโสคนหนึ่งต้องถึงกับใช้โทรโข่งห้ามทัพนักเรียนหญิงทั้งหลายทั้งปวง ที่ออกันอยู่ตรงช่องเก็บสัมภาระของรถ

“จัดแถว!!! ให้มันเป็นระเบียบหน่อยสิ!!!...............นี่!อภัสรา ครูบอกว่าให้อยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยไงเล่า! ไม่ต้องแย่งกัน ให้เจ้าหน้าที่เขาหยิบกระเป๋าออกมากันก่อน นั่งกันตามห้องเดี๋ยวนี้!”

นักเรียนสาวที่เบียดเสียดกันเมื่อครู่นี้ได้หยุดการกระทำของตนเอง ก่อนจะนั่งลงกันเป็นกลุ่มตามห้อง

เมื่ออาจารย์อาวุโสเห็นว่าบรรดานักเรียนได้นั่งลงกันเรียบร้อย ก็ประกาศ ”เอาละ ครูจะประกาศไว้นะว่าใครอยู่ห้องไหนบ้าง เอาละ 111 นาทสุชา ม.2/4 ออกมาได้”

ก่อนจะเหล่มายังกลุ่มใหญ่ๆที่นั่งกันอยู่อีกฝั่งหนึ่ง รวมทั้งโซกี้ที่อยู่ในกลุ่มหนึ่งที่มีนามว่า “บานาน่า”

“เอาละ สำหรับกลุ่มใหญ่ๆสองสามกลุ่มนั่น ครุจัดห้องไว้ให้พวกเธอแล้วละนะ และก็ขอลัดคิวให้พวกนี้ก่อนแล้วกัน ซึ่งกลุ่มของสรัญญา (ปุ๊ก) จะอยู่ห้อง 421,422,423 และ 424 เอาละ 422 และ 423 ออกมาหยิบกระเป๋ารับกุญแจไปได้”

กลุ่มบานาน่าที่อยู่ห้อง 422 และ 423 ซึ่งรวมปุ๊กผู้เป็นหัวหน้าด้วย ออกมารับกุญแจจากอาจารย์อาวุโส ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินไปยังบ้านพัก

“เอาละ ต่อไปเบอร์ 421,424 ออกมาหยิบกระเป๋ากันได้ เดี๋ยวมารับกุญแจ แล้วเข้าห้องได้.........เฮ้อ เหนื่อยๆ”อาจารย์อาวุโสพูดสั่งนักเรียนซ่าแสบเสร็จจึงนั่งลง รับน้ำมะนาวจากอาจารย์อีกคนหนึ่ง ซึ่งดูท่าทางใจดี แต่จริงๆไม่ได้ใจดีอะไรหรอก เฮี้ยบที่สุดในโรงเรียนด้วยซ้ำ

ส่วนหน้าที่ที่เหลือปล่อยเป็นของอาจารย์ที่เสิร์ฟน้ำมะนาวเมื่อครู่ มีนามว่าอาจารย์ศศิธร ซึ่งจะต้องประกาศอีกกลุ่มคือกลุ่มลูกหมี

เด็กผู้หญิงแปดคน ลุกออกมาจากกลุ่มที่นั่งกันเมื่อสักครู่ ก่อนจะเดินมาที่กองกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งมีโซกี้อยู่ในกลุ่มนั้น แล้วจึงหยิบกระเป๋าของตน ก่อนจะไปรับกุญแจห้อง

เมื่อโซกี้หยิบกระเป๋าแล้ว เธอจึงเดินตามเพื่อนร่วมห้องไป ซึ่งประกอบด้วยสาวหมวย รูปร่างขาวๆ อวบๆ นามว่าผิง , สาวเซอร์ประจำกลุ่มบานาน่าน่านามว่าจิน และดาวม.2 นามว่ามินท์

ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังบ้าน C42-1 ซึ่งประกอบด้วยห้องสี่ห้อง เป็นอันครบแก๊ง มีด้วยกัน 15 คนพอดี ประกอบด้วยหัวหน้าคือปุ๊ก ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง 421 และแนท รองหัวหน้าที่บุคลิกดูจะเป็นคนเงียบๆ ไม่น่าเป็นรองหัวหน้ากลุ่มใดได้ (แต่เป็นไปแล้ว) ยืนอยู่ข้างๆ

มินท์ จิน และผิงไปทักทายสมาชิกคนอื่นๆในกลุ่ม แต่เธอก็สงสัยว่าเพื่อนในกลุ่มเธอสามคนไม่อยู่ นั่นคือ...

“ปุ๊ก เหมียว บัว และแนทหายไปไหนน่ะ?” มินท์เอ่ยปากถามปุ๊ก ซึ่งกำลังคุยอยู่กับคนอื่นๆ

“สงสัยไปเดินเล่นละมั้ง หรือว่าไงล่ะ” ปุ๊กหันหน้ามาตอบ ก่อนจะหันกลับไปคุยกับเพื่อนคนอื่นต่อ

“ถ้าเดินเล่นก็พอเป็นไปได้ แต่ว่ายน้ำล่ะ? ครูสั่งห้ามเล่นนี่หว่า เพราะดูอากาศซะก่อน”มินท์เริ่มวิตกกังวล เพราะสภาพอากาศวันนี้ครึ้มๆเหมือนฝนจะตกแต่ก็ไม่ตกสักที แถมตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมีทีท่าว่าฝนจะตกแล้วด้วย

ปุ๊กเห็นสีหน้ามินท์ที่ดูจะเป็นกังวลกับเพื่อนรักมาก จึงเอ่ยปากขึ้น

“งั้นแกไปตามหาสามคนนั่นเอาเองละกันนะ สงสัยพวกมันต้องไปเดินเล่นแหงๆ”

มินท์ยืนเฉย แต่สักพักเธอก็พยักหน้าตอบรับ

“ก็ได้ปุ๊ก...เฮ้ย! จิน ผิง พวกแกมากันฉัน”

จินและผิงรีบวิ่งตามมินท์ไป ทั้งสามคนจึงวิ่งไปทางชายหาดที่เงียบสงบและไร้ผู้คน

โซกี้ยืนอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ ซึ่งคนอื่นๆกำลังคุยกันสนุกสนาน แต่เธอกลับไม่มีใครให้คุย...แม้แต่คนเดียว

ไม่สิ! เธอเองก็มีครอบครัว พ่อ แม่ พี่ และเพื่อนเก่าหลายๆคน ซึ่งคุยกันบ่อยๆ และนัดไปเที่ยวบ้างเป็นบางครั้ง

แต่ว่าเมื่ออยู่ที่ตรงนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่กับเธอ โซกี้จึงคิดหนทางที่ไม่ชวนบาดหมางจนเกินไป

และเธอก็คิดได้

“เอ่อ...งั้นฉันขอตัวเข้าห้องนะ” โซกี้กล่าวลอยๆ แล้วเธอจึงเดินเข้าห้องของตัวเองไปพร้อมกระเป๋าที่ถืออยู่อย่างนั้น

เมื่อโซกี้เข้าห้อง เธอจึงปิดประตู และมานั่งลงบนเตียง ภายในห้องบรรยากาศเหมือนโรงแรมหรูแห่งหนึ่งเลยทีเดียว และเตียงก็เป็นเตียงเดี่ยวสี่เตียง และผ้าปูก็นุ่มสบาย ไม่เหมือนโรงแรมทั่วไปที่มีแค่ผ้าปูสีน้ำตาล อันเป็นมาตรฐานของโรงแรมระดับสามถึงสี่ดาวทั่วไป

โซกี้หงายหลังลงไปบนเตียง เธอรู้สึกถึงน้ำหนักสร้อยที่เธอใส่ มันเป็นสร้อยจี้ไม้กางเขนอันหนึ่ง รูปร่างคล้ายหยดน้ำ มีอัญมณีสีน้ำเงินติดไว้ตรงกลาง แต่ตรงปลายจะคล้ายกุญแจ และอีกอันเป็นรูปดอกไม้ มีก้านยื่นมาคล้ายกุญแจอีกเช่นกัน มีทับทิมสีแดงเข้าติดไว้เหมือนเกสร ซึ่งเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนสมัย ป.6 ของเธอให้ก่อนที่จะกลับไปยังอเมริกา ทำให้เธอคิดถึงเขามาก เพราะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ

“เฮ้อ...เขาจะกลับมาอีกมั้ยเนี่ย ไม่ได้เจอนานแล้วนะ คิดถึงชะมัด ถ้ากลับไปนะจะเล่าเรื่องไปเที่ยวให้ฟังเลย” โซกี้รำพึง เธอกับเพื่อนคนนี้แลกอีเมล์กันก่อนที่จะแยกกันเมื่อวันจบการศึกษา และทั้งสองก็คุยกันมาตลอด ซึ่งโซกี้ก็ต้องดีใจ ว่าเพื่อนคนนี้จะมาเที่ยวเมืองไทยในไม่กี่วันนี้

โซกี้นึกถึงสิ่งที่ดีๆ เกี่ยวกับเรื่องที่บ้าน ซึ่งจะมีปาร์ตี้รวมมิตรให้เธอโดยเฉพาะ และเธอก็จะเจอกับเพื่อนที่เธอรักทุกๆคน เธอคิดไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่สติเธอจะลอยไปในจินตนาการ ในห้วงนิทรา และก็หลับอย่างมีความสุข


...ด้านชายฝั่ง มินท์ จิน และผิงได้เดินตามหาเพื่อนๆที่หายไป ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดทุกขณะแล้ว ดวงอาทิตย์กำลังจะลับของฟ้าในไม่ช้าทำให้พวกเขาสามคนเริ่มเป็นกังวล

ทั้งสามคนเดินมาอย่างไร้จุดหมาย แต่ละก้าวที่เดิน สายตาที่มองไปรอบๆชายหาด ซึ่งว่างเปล่า ไร้ผู้คน แถมเปลี่ยวอีกต่างหาก แต่ดูจากสภาพ ก็ไม่น่าจะมีคนอยู่อาศัย ทำให้ทั้งสามคนพอโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง

มินท์มองไปรอบๆ แล้วจึงมองไปยังดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับทำให้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเปล่งรัศมีเป็นสีส้มสวย เหนือขึ้นไปเป็นสีไล่ระดับกับส่วนบนซึ่งเป็นสีฟ้าเข้มขึ้นทุกขณะ

มันก็ดูโรแมนติกดีนะ...แต่ไม่ใช่เวลานี้...มินท์คิด

ส่วนจินมองมายังผิงที่พยายามกดโทรศัพท์เพื่อจะติดต่อทั้งสามคน แต่เหมือนจะไร้ความหมาย เมื่อผิงส่ายหน้าทุกครั้ง ก่อนจะบอกจินและมินท์ด้วยน้ำเสียงที่หมดหวัง

“เฮ้ยพวกแก ฉันติดต่อสามคนนั่นไม่ได้เลยทั้งๆที่สัญญาณก็เต็มขีดนะแถวนี้”

“นี่ผิง แกเติมเงินหรือยังล่ะ” มินท์ถาม

“เติมมาหลายร้อยเลยละ ตั้งแต่เมื่อคืนด้วยซ้ำ”ผิงทำสีหน้ากังวล

“แล้วเป็นไปได้มั้ยละ สมมติว่าพวกนั้นปิดมือถือน่ะ” มินท์ถามอีกครั้งเพื่อให้ได้ความแน่ใจ

ผิงส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้เลย พวกนั้นหัวเด็ดตีนขาดไม่มีวันปิดแน่ๆ เพราะพวกนั้นเป็นโรคติดการสื่อสารขั้นรุนแรง”

มินท์หัวเราะกับคำพูดของผิง แต่จินกลับทำสีหน้ากังวล ทำให้มินท์หันหน้าไปถาม “นี่! กังวลอะไรกันนักหนายะจิน”

จินหันหน้ามาหาทั้งสอง “ทำไงดีล่ะพวกแก แถวนี้วังเวงจะตาย ช่วยกันคิดสิว่าจะทำยังไงดี” จินเริ่มกลัว เพราะบรรยากาศแถวนี้เป็นป่าลึก ประกอบกับท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วจึงทำให้ทั้งสามคนตกอยู่ในสภาวะไม่ปลอดภัย แม้ว่าจะมั่นใจได้ว่าไม่มีพวกบ้ากามแถวนี้ เพราะเป็นป่าลึก แต่สัตว์ป่าล่ะ? หรือ...สิ่งที่หลายคนกลัว ก็คือวิญญาณ!

จู่ๆมินท์หันไปทางข้างหน้า จนจินกับผิงเริ่มผิดสังเกต เพราะมันมีเสียงแว่วๆเกิดขึ้นในทิศทางที่มินท์หันไปพอดี

และทั้งสามคนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเดินเข้ามา เสียงใบไม้ดังสวบๆ ทั้งจิน ผิง และมินท์ ก็ต่างเริ่มกลัว

“เฮ้ย...อะไรกัน” ผิงรำพึงกับตนเอง ในขณะที่สิ่งนั้นเริ่มเดินเข้ามาหาทั้งสามอย่างช้าๆ

มินท์เริ่มกำมือแน่น ผิงเริ่มกลัวจนขยับขาไม่ออก ส่วนจินก็ขยับเท้าถอยหลังไปสองก้าว จนกระทั่งสิ่งนั้นเริ่มเดินออกมาจนสังเกตได้ชัด!

...แต่สิ่งที่ว่านั้น ไม่ใช่สัตว์ร้าย โจรบ้ากาม หรือวิญญาณ...

เพราะนั่นคือลุงแก่ๆคนหนึ่งเดินออกมาจากป่า อายุอานามเท่าที่คาดคะเน อาจจะประมาณ 60 ปี หรืออาจจะ 70 ปีด้วยซ้ำ ก่อนที่จะหยุดพิจารณาสามสาวด้วยสีหน้างงงวย

“พวกหนูมาทำอะไรกันที่นี่น่ะ?” ลุงคนนั้นถาม หลังจากพบว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งอันตราย สามสาวก็โล่งอก ถอนหายใจดังเฮือก

“ตามหาเพื่อนค่ะ”มินท์ตอบ

“แล้วพวกหนูพักอยู่โรงแรมไหนล่ะ? เพราะแกรนด์แอนด์ทาวน์มันอยู่ตั้งอีกกิโลครึ่งเลยนะหนู เพื่อนๆหนูคงไม่ดันทุรังมาหรอก” ลุงถาม

“พวกหนูอยู่โรงแรมบีชการ์เด้นค่ะ” จินกล่าวแทนเพื่อน

ลุงคนนั้นได้ฟังก็ทำหน้าครุ่นคิด หน้าดูซีดเซียว

“โรงแรมนั่นปิดไปแล้วไม่ใช่หรือ....? ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นน่ะ”ลุงคนนั้นรำพึงออกมาเบาๆ แต่ก็ทำให้พวกมินท์ได้ยินอยู่ดี

“เหตุการณ์อะไรเหรอคะ?” มินท์สงสัย

“ช่างเถอะหนู...รีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวเพื่อนๆกับอาจารย์เป็นห่วงเอานะ”

เมื่อพูดจบ ลุงคนนั้นจึงเดินกลับเข้าไป จนลับสายตามินท์

“กลับโรงแรมกันเถอะนะ” จินกล่าว

“กลับก็ได้”

“งานนี้วิ่งไปเลยนะ นี่ทุ่มนึงแล้วนะเนี่ย” ผิงยกมือดูนาฬิกา แสงจากหน้าปัดทำให้ผิงอ่านได้ว่าเป็นเวลา 7:10 PM

“หา! ตายละ อาจารย์จะว่าเอามั้ยเนี่ย” มินท์ทำหน้าเหวอ เพราะมันได้เวลาทานข้าวแล้ว

ส่วนจิน ได้วิ่งไปไกลพอสมควรแล้ว ตั้งแต่จบประโยคของผิงซึ่งบอกว่าเป็นเวลาหนึ่งทุ่ม

“เฮ้ย! ใจคอแกจะทิ้งเพื่อนเลยเรอะไอ้จิน! หยุดนะ” สองสาววิ่งตามจินออกไปโดยไม่เหลียวหลัง

แล้วทั้งสามคนก็วิ่งกลับไปยังโรงแรม ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ลับฟ้าไป...



ปล.นี่เป็นนิยายที่ได้แรงบันดาลใจจากการไปค่ายพละหลังจบม.2 ละค่ะ เป็นนิยายเรื่องแรกที่คิดจะเขียน(ในปีก่อน) แต่ว่าเอามารีฯใหม่ปีนี้ค่ะ




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2549
1 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2549 18:26:29 น.
Counter : 516 Pageviews.

 

โทดทีครับ

อันแรก กดผิด ไป enter



ยังงงๆ อยู่ ว่าใครที่หายไป ไม่เล่าถึงฝ่ายนั้นเลย

ตอนจบน่ะครับ น่าจะบอกหน่อย (หรือว่าตอนต่อไป)

แล้วชื่อน่ะครับ
คนอื่นก็ฟังดูธรรมดาอยู่หรอก
แต่โซกี้ นี่สิ ฟังดูยังไงๆก็ไม่รู้

แต่ก็ตั้งใจเขียนดีครับ
บรรยายดี

แต่เนื้อหา หวิว ไปหน่อย ครับ

ตั้งใจเขียนต่อนะครับ

 

โดย: VietMinH (เวียดมินห์_VietMinH ) 31 พฤษภาคม 2549 18:36:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Amani
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีค่า
บล็อกนี้อายุการใช้งานคงอยู่ได้อีกไม่นาน
เนื่องจากมีการฟันธงแล้วว่า
เจ้าของบล็อกจาเปลี่ยนล็อกอินใหม่ หุหุหุ

ขอบคุณที่เข้ามาดูค่ะ
Chermeat_Crazy_Diary
Friends' blogs
[Add Amani's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.