ผมยังไม่ได้ตามไปอ่านในลิงก์ที่ให้ไว้น่ะครับ แต่ก็อยากจะแสดงความเห็น

ในส่วนตัวผมแล้ว การออมเงินชุดแรก จะมีไว้เพื่อรองรับกับความเสี่ยงระยะสั้น ๆ เช่น เงินเดือนออกผิดเวลา เจ็บป่วยเล็กน้อย หรือต้องเดินทางไกล ซึ่งเงินจำนวนนี้ ก็จะประมาณเท่ากับ เงินเดือน ๑ เดือนครับ

ต่อไป ก็เพื่อรองรับปัญหาขาดแคลนเงินจากการทำงาน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะต้องลาออก หรือ ถูกเลิกจ้างก็แล้วแต่ ผมคำนวณเงินก้อนนี้ไว้เท่ากับเงินเดือนประมาณ ๓ เดือนครับ

ต่อไป ก็คือ ยอดเงินออมเพื่อที่จะสามารถลงทุนต่อยอด หรือคว้าโอกาสดี ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ผมตั้งไว้ที่ ๑๐๐,๐๐๐ บาทครับ

เป็นบันได ๓ ขั้นง่าย ๆ น่ะครับ และเป็นสูตรที่คิดขึ้นมาเอง ไม่ตรงกับใคร ที่นี้ผมมีหลักคิดอย่างไร

๑. ในเดือนตุลาคมของทุกปี ผมซึ่งทำงานราชการ แต่ไม่ได้เป็นราชการ จะมีสิทธิที่จะไม่ได้รับเงินเดือนเนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อของปีงบประมาณ (เขาเรียกว่า ตกเบิก) ครับ

๒. การว่างงานหมายถึงขาดรายได้ แต่ว่า เมื่อเราว่างงานเราสามารถขอใช้สิทธิประกันการว่างงานกับสำนักงานประกันสังคมได้ ซึ่งถ้าลาออก ก็จะได้เงินชดเชยร้อยละ ๓๐ ของค่าจ้างงวดสุดท้ายไป ๓ เดือน ถ้าถูกเลิกจ้าง ก็จะได้ ร้อยละ ๕๐ ของค่าจ้างงวดสุดท้ายไป ๖ เดือน รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่บล็อกของผม ที่ชื่อ "ประกันสังคม กรณีว่างงาน" ได้ครับ

๓. เป็นตัวเลขสมมติเท่านั้นเองครับ แค่สร้างเป้าหมายของตัวเองเท่านั้นเอง อาจจะไปไม่ถึงก็ได้ แต่ผมก็เชื่อว่า สำหรับคนที่ดิ้นรนต่อสู้ แม้จะไม่ชนะ แต่ก็จะมีร่องรอยของการต่อสู้ทิ้งไว้เสมอ หนึ่งแสนยังไม่ได้ แต่ถ้าไม่ตั้งไว้เลย อาจจะไม่มีสักกะบาทก็ได้ครับ (ผมตั้งเวลาไว้ด้วยน่ะครับ เพราะเรื่องเงินต้องมีปัจจัยด้านเวลามีเกี่ยวข้องด้วยเสมอ)

ปล. บล็อกนี้น่าติดตามครับ ขอแอดนะครับ