ตอน ทำงานหางานตอนสมัยยังเรียนที่บ้านให้ไปเรียนต่างประเทศไม่ยอมไปมั่วแต่ติดผู้ชายพอเรียนจบมหาวิทยาลัยก็คิดจะไปหาประสบการณ์แต่พอไปเรียนภาษาแล้วท้อก็ภาษาอังกฤษยังไม่เริ่ดดันไปซ่าส์เรียนภาษาเยอรมันกับฝรั่งเศสภาษาอะไรว้ามีการแบ่งเพศไหนจะแกรมม่าอีกก็ยากไปยุโรปนะมันมีที่เที่ยวมากดีแต่เปลี่ยนแล้วอยู่เมืองไทยดีกว่าที่จะไปนี้ไม่ใช้บ้านรวยมากมายนะ แค่มีกินไปวันๆแต่มีญาติต่างแดนพอแก่ตัวเริ่มขยันตั้งใจเรียนขึ้นมาซะงั้นทั้งภาษาอังกฤษ เยอรมันเธอสามารถทั้งๆที่สามีก็คนไทยนี้แหละแต่ว่าชอบอ่านหนังสือถ้าไม่ติดว่าญี่ปุ่นตัวหนังสือมันจำยากก็จะเรียนอีกพอดีปีที่แล้วขออนุญาตสามีไปต่างแดนได้เลยได้โกอินเตอร์ไปหาประสบการณ์และก็ด้วยความที่ตลอดมามั่วแต่ทำงานและสังคมคับแคบก็อยู่แต่โรงเรียนกับครัวเลยโดนเอเจนหลอกซะแฟนเราบอกแล้วความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
พอเริ่มทำงานนายจ้างก็สืบประวัติเลยนะตอนทำงานก็ถามตลอดอยู่เมืองไทยทำงานเงินเดือนเท่าไรมีบ้านหรือเช่าเขาอยู่ ขับรถไปทำงานหรือปล่าว เคยทำงานอะไรมาบ้าง ทำไมแฟนไม่มาด้วยทำไมไม่เปิดร้านเอง คือรวมแล้วจะถามว่ามีเงินแค่ไหนนะ แต่ตอบบ้างไม่ตอบบ้างเขาคงคิดว่าเรานี่ต้องมาตายเอาดาบหน้าที่ออสเตรเลียแน่ถึงได้กล้าทำกับคนงานอย่างนี้เราเริ่มงานตั้งแต่ 10 .00ถึงร้านปิดก็เกือบเที่ยงคืนไม่มีหยุดทำตลอดไม่มีการเบรกจะมีก็ตอนกินข้างเย็นพนักงานแล้วทำต่อเริ่มงานวันแรกก็จัดเตรียมของขาย ทำความสะอาดร้าน ทำอาหารให้ลูกค้า และแล้วแต่นายจ้างสั่งวันแรกก็โดนใครจะรู้ผัดของร้านไหนต่อให้ชื่อเดียวกันแต่ผัดออกมาทีใส่ผักเป็นสิบใครจะรู้ท่านต้มยำแกงผักก็เพียบไหนจะน้ำกระบวยครึ่งเอานั้นมันที่ตักให้เราดันเกือบ2กระบวยเครื่องต้มยำก็ทั้งราทั้งดำยังให้ใส่อีกใบโหระพา3 ใบพอเอาเจ้านายใส่เป็นกำเตรื่องต้มยำสำเร็จให้ใส่ช้อนเอานายเล่นใส่ไปเกือบกระบวยเดียวเรียกไปผัดของเรียกทำแกงเรียกไปหยิบของเอาไอ้ห้องเย็นนี้มันเก็บไม่เคยจัดเลยจะหาเจอไม่นี้นี้ทำงานวันแรกคงจะแกล้งลองใจมังคิดแง่ดีก่อนเอาวันต่อไปทำไมยิ่งด่ามากขึ้นว้าอ้อ!คงยังทดลองอยู่เฮ่อ+ลองนานไปแล้วแม้ลองไม่จ่ายเงินอีกเอาไม่สบายไหนลองด่าอีกทีซิท่าทางจะติดใจเริ่มงานก็ส่อแววแล้วว่านายจ้างเป็นคนอย่างไรเอาเสียเงินมาเองนะอนาคตไม่รุ่งแน่และก็ด้วยความซ่าส์อีกลาออกมันซะก็มีปัญหาวีซ่าซิคราวนี้ได้ใช้วิชาภาษาแล้วก็ถูๆไถๆกับแหม่มimmi ขอต่อรองไม่ทำงานแล้วนะร้านที่เป็นนายจ้างขอหานายจ้างใหม่ขอเวลาจนกว่าจะเรียนจบเทอมแรกคราวนี้ก็ได้เวลาลุยเสนอหน้าไปสมัครงานทั้งร้านไทยจีนแขกฝรั่งชีวิตช่วงนี้เหมือนกับพม่าหนีเข้าเมืองเลยต้องคอยเสนอหน้าวิชาความรู้บุกก้นครัวเพราะตั้งใจว่าจะเปิดร้านเองใช้จังหวะนี้และได้ดูแต่พอถึงคราวได้ร้านดีๆสมใจที่บ้านดันไม่ให้ทำขอร้องให้กลับบ้านก่อนร้องไห้ขี้มูกไหลเป็นสายน้ำที่เมืองไทยสั่งกลับเพราะดันไปทำเรื่องฟ้องนายเก่าที่บ้านรู้เรื่องห่วงกลัวว่าเขาจะเอาไปนั่งยางแบบเมืองไทยร้านอาหารที่ออสเตรเลียจะทำจานใหญ่ใส่ผักมากร้านอาหารส่วนใหญ่เน้นราคาถูกปริมาณมากต่างจากเมืองไทยเรียกว่ากินจานหนึ่งของที่นี้เป็นสองเท่าครึ่งของเมืองไทยยกเว้นก็ร้านอาหารที่เป็นแบบหรูหรา หรือแบบฝรั่งเศษเรียกว่าผัดไทย 3 จานเต็มกะทะเบอร์ 17 แขนเดี้ยงไปเลยส่วนครัวที่นี้นิยมทำเป็นแบบเปิดเพราะคนจะใช้น้อยกว่าและร้านก็เป็นแบบTAKE AWAY เพราะพอเข้าหน้าหนาวแขกเข้าเร็วและซื้อกลับไปกินบ้าน