ตุลาคม 2561

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ปิล๊อค-สังขละ-เมืองกาญ ฮ้อนใบ้ฮ้อนง่าว Sep 2018


 หายไปนานมากๆ 
ใกล้จะปี 2019 แล้ว อัพล่าสุดก็คือหนึ่งปีที่แล้ว
รอบนี้
ไปเที่ยวกาญจนบุรีกันดีกว่าจ้า

Smiley

โอเค เข้าเรื่องเลยดีกว่า
เราเดินทางกันด้วยรถส่วนตัว โดยจะขับไปที่หมู่บ้านอีต่อง 
แต่ระหว่างทางก็จะแวะเรื่อยๆ ตามใจ
ออกเดินทางจากกรุงเทพ เกือบหกโมงเช้าได้ 

แวะกินข้าวหมูกรอบร้านปฐมโภชนา ก่อนจะยิงยาวเข้าเมืองกาญ
แป๊บเดียวก็ถึง เราแวะไหว้พระที่วัดถ้ำเสือก่อน
บันไดชันมาก ชันแบบตกไปคือนอนยิ้มอยู่ข้างล่างอย่างเดียว

มีกระเช้าด้วยขึ้นลง 10 บาท แต่รู้สึกว่าเดินขึ้นบันไดดูปลอดภัยกว่า

วันนี้คนน้อยมากอาจเพราะเป็นวันธรรมดาด้วย  วัดสวย เห็นวิวข้างล่างดีงามมาก
แต่ถ้าแดดจัดๆคงร้อนไฟลวก





ออกจากวัดเราไปต่อกันที่ รักษ์คันนา ซึ่งอยู่ใกล้ๆวัดแบบออกจากวัด เลี้ยวขวาแล้วเจอเลย

ดูบรรยากาศภายนอก ต้องร้อนแน่ๆ
แต่พอเข้าไปนั่ง ปรากฎว่าลมเย็นสบายมากเว่อ

ก็เป็นร้านแบบชิคๆ ริมนาให้ถ่ายรูปที่เค้ากำลังฮิตกัน





แต่ก๋วยเตี๋ยวทำออกมารสชาติดีเชียวคู๊นนนนน ถือว่าโอเคให้ผ่าน
แล้ววิวก็สวยมากๆๆๆ

จากนั้นก็ไปต่อกันที่ ต้นจามจุรียักษ์จ้า ซึ่งคนข้างๆก็บอกว่า
มันไม่มีอะไร ก็มีต้นจามจุรีแค่นั้น
เอ้า! ก็ไม่ได้คิดว่ามันต้องมีอะไรมั้ยอ่ะ ก็อยากดูต้นจามจุรีอ่ะ เอ้อ!

พอไปถึงก็มีแต่ต้นจามจุรีจริงๆ ต้นใหญ่มาก สวยมาก ชอบมาก 
สามารถยืนมองได้ทั้งวัน  ค่อนข้างเงียบ น่าจะเพราะเป็นวันธรรมดา



หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่อีต่องจ้า ตามกูเกิ้ลแมพไปเรื่อยๆ
แล้วทางผ่านมี อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ซึ่งเราชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ก็เลยขอแวะเข้าไปดูซะหน่อย

จุดนี้จะมีค่าเข้านะคะ คนละ 20 บาท รถยนต์ 50 บาท  


คล้ายๆที่ศรีสัชนาลัยเลย สวยอยู่นะยังสมบูรณ์อยู่
ร้อนมากๆๆๆๆ  ก็คืออยู่ในยุคพระเจ้าสุริยวรมันที่ 7 ที่สร้างนครวัดนครธม มั้ยนะ?
ไม่ค่อยแม่นทามไลน์อ่ะ แฮ่ะๆ










แล้วก็จะมีเป็นโซนจัดแสดงวัตถุต่างๆ ถ้ามีเวลาก็น่าแวะเข้ามาชมนะคะ






จากนั้นก็ยิงยาวเลย ซึ่งทางนั้น ค่อนข้างโหดสำหรับคนเมารถอย่างเก๊าT^T
มัน339โค้งไม่พอ มันมีหลุมด้วย เยอะแยะมากมายซะเหลือเกิน


จุดชมวิวระหว่างทางจ้า  น้องรุ้งก็มาาา

สดใส สดชื่นมากๆเยยยยยยยย

ใช้เวลานานมากเนื่องจากขับเร็วไม่ได้  ควรมาก่อนมืดเพราะทางแคบและเป็นเหวลึก

เราไปถึงประมาณ 5 โมงเย็น หมอกลงเต็มแบบกรี๊ดกร๊าดมากกกกก
รถนักท่องเที่ยวก็เยอะมาก เต็มลานจอดเลยจ้า
คืนนี้เราพักกันที่ "อาร์มโฮมสเตย์" 800 บาทรวมอาหารเช้า 2 คน



อ่ะมุมนี้ให้เห็นห้องน้ำค่ะ อยู่ด้านซ้ายของเตียง

ห้องก็ถือว่าโอเคนะคะ สะอาดใช้ได้ เรานอนห้องข้างล่างชื่อห้องวุลแฟรม
เพราะห้องข้างบนดูจากรูปแล้วค่อนข้างแคบ ห้องน้ำเล็กมาก








นี่คือระเบียงห้อง  ดีมากกกก ชอบมากกกก

แล้วเราก็ออกมาเดินด็อกแด๊กชมเมือง เมืองเล็กมากค่ะ 10นาทีทั่วแล้ว
เพราะก็เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เค้าอยู่กินกันอ่ะ เนื้ออกป้ะคะ เป็นเหมืองเก่า
แต่บรรยากาศน่ารักมาก ชอบมาก


หมอก ฮืออออ หมอกกกกก





บ่อน้ำนี่มีปลาคาร์ฟและปลาอื่นๆด้วยนะคะ ซึ่งเราสามารถซื้ออาหารมาให้น้องได้ด้วย





แดกม้ะจ้ะ แดกก็แดกไม่แดกก็ไม่ต้องแดกกกก





ชอบชื่อโฮมสเตย์นี้มาก  แล้วก็สมชื่อมากๆ   Smiley


ป้ายทางเข้าหมู่บ้านจ้า





บรรยากาศดีมากกกก เหมือนตากผ้าจะไม่มีวันแห้งเลย ฮืออออออ



ชอบมากเลยหมอกๆ มอสๆ  SmileySmiley

มื้อเย็นเราฝากท้องที่ครัวเจ๊ณี อ่านรีวิวก่อนมาบอกว่าต้องมากินที่นี่นะ



แควนบอกว่า มันก็ต้องกินแหละ มันมีร้านอื่นที่ไหน ปั้ดโธ่!
แต่จริงๆมีหลายร้านนะคะ แต่ไหนๆก็อ่านรีวิวมาแล้ว จัดเจ๊ณีแหละ
เราสั่ง ปูแดงแผลงฤทธิ์(ชื่อนี้มั้ยไม่แน่ใจ) ซึ่งเป็นปูพม่านึ่งพร้อมน้ำจิ้มสุดแซ่บ
ผัดถั่วหวาน ซึ่งก็คือ ถั่วลันเตาผัดน้ำมันหอย  และต้มยำกุ้งมาซดร้อนๆ







บอกเลยว่า รักกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!
ดีงามทุกอย่างมากเว่อ หมดไป 700 นิดๆ ถูกมากๆๆ กอไก่ล้านตัว 
คืนนี้ฟินและดีมากเว่อออ  กินเบียร์เย็นๆ นั่งดูหมอกลอยหน้าห้อง



ที่นี่เงียบมาก อาจเพราะยังไม่ high season ไม่งั้นน่าจะเสียงดัง
เช้ามากะจะไปใส่บาตรเต็มที่ ปรากฏว่าไม่มีตุ๊เจ้าเลยจ้า แป่วววว


บรรยากาศยามเช้าที่ไม่มีน้องหมอก  สวยไปอีกแบบ

ก็เลยเดินเล่นแทน  เดินขึ้นไปดูที่วัดปิล็อก เงียบๆสงบดี 



หมาที่นี่เชื่องและใจดี






ชอบนางอัปสรา (รึปล่าวนะ) ของวัดนี้มาก มีความอวบ แก้มยุ้ย และจิกตา ไม่เหมือนวัดอื่นที่แบบ
ต้องผอม เอวเอส  หน้าวี อันนี้น่ารักกกกกกกก










นี่ลูกอะไรก็ไม่รู้อ่ะ





แมวเยอะมาก  จับภาพมาได้แค่นี้  น้องน้องงงงงงงงง

ก่อนจะกลับมากินข้าวต้มที่ที่พัก (อร่อยมากจ้า)







บ๊ายบายปิล็อค  ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

เช็คเอ้าเสร็จเราก็ขึ้นไปที่ช่องมิตรภาพจุดผ่านชายแดน ไทย พม่า

ก็จะเห็นวิวของพม่าที่มีแต่ภูเขาสลับซับซ้อน
จ๋วยมากกกกก ชอบมากกกกกกก





ตรงที่มีเสาธงไทย พม่านี่คือเนินเสาธงจ้า  ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆกัน วิวเดียวกัน

จากนั้นเราก็ไปที่เนินช้างศึก  แต่พอดีว่ามีหมอกลอยเต็มไปหมด
ถ้าฟ้าโปร่งก็น่าจะเห็นวิวแบบ อลังการมาก  แค่นี้ยังสวยมาก และร้อนโคตร


จากนั้นเราก็ไปดับร้อนกันที่ น้ำตกจ็อกกระดิ่น ซึ่งเสียค่าเข้า (อีกแล้ว)
น่าจะเป็นน้ำตกแรกในชีวิตที่เสียค่าเข้า จำได้ว่า 110 แต่จำแยกไม่ได้
ว่าคนกับรถยนต์คิดยังไง แต่คิดว่าแพงอ่ะ ทำไมแพงอ่ะ

ในรูปมันดูน้ำน้อยอ่ะ เป็นน้ำตกที่ไหลลงรู  แต่ช่วงที่เรามาคือฝนตกหนัก พายุเข้า
น้ำเลยเยอะมาก และไหลเย็นมาก
คำเคลมที่ป้ายข้างหน้าคือ  คนที่ได้มาเล่นน้ำตกจ็อกกระดิ่นก็ได้แช่น้ำแร่ไปด้วย
เพราะเป็นน้ำที่มีแร่ แต่จำไม่ได้แล้วว่าแร่อะไร เหมือนจะไทเทเนี่ยม

บอกเลยว่าควรเล่นน้ำที่นี่!!!! น้ำเย็นชื่นใจมาก   มากกกกกกกกกกกก  





อยากเอาหัวจุ่มลงไปทั้งตัว แต่คือต้องไปที่อื่นต่อ  
คือแค่ละอองฝอยที่น้ำตกมันมาโดนหน้า มันก็โคตรสดชื่นเลยอ่ะ ไอลัฟอิท







จากนั้นเราก็ออกเดินทางไปที่สังขละบุรีกันต่อ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึง  

คืนนี้เราพักกันที่ P Guest House สนนราคา 950 บาท แบบไม่มีอาหารเช้า
ตอนโทรจองก็คือจองล่วงหน้า 2 เดือนได้ ขอห้องวิวดีดีนะคะ
ก็ได้วิวดีสมใจ อิอิ  ห้อง A7 ในตำนานจ้า
ห้องหลักร้อย วิวหลักล้านที่แท้ทรู ก็คือ วิวแม่น้ำและสะพานมอญอยู่ที่ปลายเตียงเลยจ้าาาา
ดีงามไปอีกกกก ห้องกว้างมาก ห้องน้ำกว้างมากเว่อๆๆๆๆๆๆๆ



ห้องพักเราต้องเดินลงมานะคะ เพราะอยู่ติดแม่น้ำอ่ะ




ห้องนี้จ้า ห้องของเราาาาาา โลเคชั่นดีมากๆ




มีที่นั่งอยู่หน้าห้องสำหรับนั่งชิวค่ะ







นี่วิวหน้าต่างข้างเตียงจ้า



นี่ปลายเตียงจ้า กรี๊ดดดดด



อันนี้วิวปลายเตียง เวอร์ชั่นยื่นหน้าออกมาถ่ายค่ะ หวีดมากกกกกกกก
แต่ทีนี่จะบอกว่า ห้องค่อนข้างมีกลิ่นอับนะคะ  และผ้าห่มมีกลิ่น กลิ่นเดียวกับห้องอ่ะ
และก็มีขี้จิ้งจกเยอะ ขี้กันทั้งคืน แต่ราคานี้ก็โอเคค่ะ ยอมได้

หลังจากเก็บของเสร็จเราก็ไปไหว้พระกันดีกว่า ที่วัดวิวังค์เวการามใหม่ และเจดีย์พุทธคยา
ทั้งสองที่นี่จะอยู่ฝั่งมอญต้องข้ามสะพานไป อยู่ใกล้ๆกันจ้ะ




ไหว้หลวงพ่ออุตตะมะ ได้สร้อยประคำมา เรียบร้อย ก็ไปต่อกันที่เจดีย์พุทธคยาค่ะ





ก็ไปแวะเดินสะพาญมอญซะหน่อย

ค่อนข้างเงียบ แต่เราชอบมาก มาก มาก มาก 
ไม่เหมือนที่คนถ่ายรูปกันมา ที่แบบหัวคนดำๆเต็มไปหมด
เราก็ดีลกับคุณนพ ซึ่งจัดการเรื่องใส่บาตรตอนเช้า
คนละ 99 พร้อมชุดมอญ และเอาเรือไปรับถึงที่พัก
โอ้โห ชอบเลยค่ะ ความว่าแข็งขันกันนี้ของธุรกิจ
ก็เลยตกลงว่าให้ไปรับที่ที่พักตอน 6.30


นั่นที่พักเราทางขวามือ ตำแหน่งข้างบนเรือจ้า

 เราก็หิวกันแล้ว
เลยไปแวะตลาดนัด ซึ่งน่าจะเป็นถนนคนเดีนของทีนี่อ่ะ
แต่! ลืมถ่ายรูปมาจ้า เสียดายเว่อ เพราะได้กินหมูจุ่มพม่า ไม้ละสองบาท
อร่อยอ่ะ  เหมือนขาหมูในข้าวขาหมูเลย  จิ้มกับน้ำจิ้มคล้ายๆซีฟู๊ด กินกันไป 6 - 7 ไม้เพลินๆ

ก็ไปหาอะไรหนักท้องกินกันดีกว่า  ตัดสินใจว่าเชื่อวงในละกัน
มาจบที่ร้าน แพมิตรสัมพันธ์ ซึ่งเปิดบริการมากว่า 20 ปี และทุกคนชม ชมจริง ชมชิบหาย
ก็เลย เอาวะ  ไม่มีใครด่าซักคนเดียวเลยโว้ย กินก็ได้



ที่มิตรสัมพันธ์จะอยู่บนแพ  และวิวอลังการเว่อๆ ของสะพานมอญ 
แต่เนื่องจากเราไปตอนมืดแล้ว แถมฝนกำลังจะตก จึงไม่เห็นวิวใดใด



แถมเรายังเป็นโต๊ะเดียวในร้าน เอ็กซ์คลูซีฟไปอีกกกกกกกกกกกกก

เมนูที่สั่งได้แก่ ยำสาวมอญ  ฉู่ฉี่ปลาคัง และ ไข่เจียวทรงเครื่อง
ซึ่งทุกอย่าง ได้รับการการันตีจากนักชิมชาวเน็ต ว่าอร่อย อร่อย อร่อย

เค

พอมาเสิร์ฟเท่านั้นแหละ ลู่เลื่องงงง  ผ่านอย่างเดียวคือปลา 
ซึ่งก็ไม่ได้ผ่านแบบอร่อยโว้ยด้วยนะ ผ่านแบบพอกินได้อยู่อย่างเดียว
ไข่เจียวคือพังมาก พักก่อน เป็นไข่เจียวมันมาก มันแบบเอาน้ำมันทั้งสังขละมาทอด
เครื่องคือพริกพม่า ไส้กรอก และรองไข่ด้วยกะหล่ำปลีอีกที


คือเอาจริงมันกินได้เว้ย มันก็รสชาติไข่เขียว แต่! 100 กว่าบาท มันไม่ถูกต้อง
อยากคะให้

ส่วนยำสาวมอญนั้น เอิ่ม  สาวมอญต้องพักก่อนเช่นกัน
เป็นยำที่โฮะมาทั้งกุ้งและอกไก่ต้ม แต่ยมมากทั้งคู่ แข็งมาก
เราจะหั่นกุ้งคือช้อนงออ่ะ 55555 ิอีเวน
ไก่แข็งมาก น้ำยำเหมือน ยำตลาดนัดที่แบบไม่เข้ากันอ่ะ จานนี้พังสุด จากใจ......



ซ้ายฉู่ฉี่ปลาคัง ขวายำแจ้ยยยยย
กินไปมองหน้ากันไป แง้ หมดไป 400 กว่าบาท ค่อนข้างช้ำใจ

แล้วก็กลับห้องมานั่งกินเบียร์กันต่อ ก็คือจะใส่เบียร์กันทุกคืน ประมาณนั้น 

เช้าปุ๊บ คุณนพก็โทรปลุก เราก็ล้างหน้าแปรงฟัน นั่งรอที่ท่าเรือ


อากาศดีมาก คนน้อยกว่าที่คิดมาก  
ก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดอะไรอ่ะ ชุดไทใหญ่?? ไม่แน่ใจอ่ะ แล้วก็ใส่บาตรกัน



แล้วก็เดินเล่นกัน ถ่ายรูปบนสะพาน
มีคุณพี่เอาไหกระทะหม้อเทินหัว คูลมาก 



แล้วก็ไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน  เรากินโจ๊ก และก็ซื้อหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง อร่อยดี





มีคนรอกินหมูปิ้งจ้า



จากนั้นก็เดินข้ามสะพานเพื่อกลับโรงแรม

จบแล้วทริปสังขละ  ก็เป็นเมืองน่ารักที่น่าประทับใจ ชอบที่สุดคือหมูจุ่มพม่า  ดาเบสมากๆ


แถมภาพสาวมอญ คุณแม่ลูกสองมากๆ 5555555555555

เราเข้าไปที่ด่านเจดีย์สามองค์จ่ะ  ซึ่งคุณแฟนได้ไพ่ขอบทองมาสำรับนึง
เบียร์เหล้าราคาน่ากลัวมากๆเลยไม่ได้ซื้อมา  

กินไอติมให้ชื่นจายยย กับถั่วทอดและซาโมซ่าจ้า








จากนั้นก็ไปต่อกันที่ตัวเมืองกาญจนบุรีจ้า
ขากลับออกมาฝนตกน่ากลัวมาก มีไม้ล้มตลอดทาง 
แวะน้ำตกไทรโยคน้อยด้วย  น้ำเยอะมาก น้ำใสมาก และคนมาเล่นน้ำกันเยอะมากๆ




นี่คือชั่นล่างๆนะคะ  ชั้นบนไม่ได้ไปคนเล่นน้ำกันเยอะมากๆๆๆๆ
เราแค่เดินเอาเท้าแช่น้ำให้ชื่นใจก็พอละค่ะ  อากาศค่อนข้างเย็นเพราะฝนเพิ่งหยุดตก


เราแวะกันที่  The Village Farm To Cafe' เพราะอ่านรีวิวมา
ต้องไปกินขนมปังเต่าเมลอนจ้าาาา

ร้านนี้ใหญ่มาก อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับคีรีมันตรา  
เราสั่งขนมปังน้องเต่ากับ เมล่อนปั่น ซึ่งคิดไว้อยู่แล้วว่าไม่อร่อยแน่ๆ โดนด่าเยอะในรีวิว
แต่พอมาเสิร์ฟ เอ้า! อร่อยอ่ะ อร่อยแบบ มันๆ ไม่หวานเกิน หอมเมล่อนมาก 
ขนมปังก็อบมากำลังดีไม่แข็งเกิน

เป็นเมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง จริงๆ  ก็เป็นไปได้ว่าร้านอาจพัฒนาแล้ว
หรือเราโชคดีที่ได้เต่าดีก็เป็นได้





จากนั้นก็ยิงยาวไปเชคอินที่ รร. ฮะ คืนนี้เรานอนกันที่ ฮอปอิน กาญจนบุรี
ก็ดีงามตามมาตรฐานของฮอป แต่แอร์แอบเย็นช้านะ  

จากนั้นก็ไปหาข้าวเย็นกินกัน ซึ่งคิดไว้ว่าอยากกินร้านริมน้ำ ที่เป็นแพห้อยขา
แต่ก็มาจบที่ คีรีธารา ซึ่งได้คะแนนค่อนข้างเยอะ และรีวิวดี
เดี๋ยวนี้คือรีวิวนี่สำคัญกับการตัดสินใจมากจริงๆอ่ะ ดูรีวิวก่อนทุกสิ่ง

เราสั่งมาก็อร่อยทุกอย่างเลยนะ หมดไป 800 กว่าบาท ถือว่าโอเคมาก
ถ้าจะนั่งตรงแพ ต้องโทรจองล่วงหน้า แต่นั่งด้านบนก็โอเคอ่ะ







ผ่านจ้า ถ้ามีโอกาสมากาญก็น่าจะได้แวะมากินที่นี่อีก

จากนั้นก็ไปเดินถนนคนเดินกัน ซึ่งเหมือนเพิ่งเปิดใหม่ 

ของขายก็เหมือนถนนคนเดินอื่นๆ คล้ายๆตลาดนัดมากกว่า
เราแวะนวด ซึ่งเค้าทำกัวซาให้ด้วย  กลับมาห้องแดงเป็นหมูแดงเลยจ้า



แล้วก็กลับเข้าที่พัก วันสุดท้ายของเราาาา
เป้าหมายอยู่ที่  ซาฟารีปาร์ค  จะไปให้อาหารยีราฟและเพื่อนๆจ้าาาาา

ทางเข้างงมาก เหมือนเข้าได้หลายทาง  คนก็ค่อนข้างเยอะ
ค่าเข้าคนละ 200 และอาหารน้อง 100 บาท
จากนั้นก็นั่งรถบัสเข้าไป  จะเอารถเข้าไปเองก็ได้นะ











หมีควายยยยยยยยยย









น้องๆน่ารักมากกกกกก กอไก่ล้านตัว  อยากกระโดดลงรถ
เสือและสิงโตดูอ้วนท้วนดี และดูผ่อนคลาย





น้องคนนี้พยายามจะออกมาข้างนอก  ท่าทางดื้อเอาเรื่อง



ยีราฟนิ่มมาก  ไม่เคยจับยีราฟมาก่อนเลยยยยย นิ่มมาก ชอบมาก






น้องเข้ามากันขนาดนี้เลย



แนะนำที่นี่มากๆ บริหารจัดการค่อนข้างดี  แล้วเค้าจะไปส่งเราตรงโซนแสดงช้างและจระเข้
ซึ่งตรงนี้จะมีสวนสัตว์ขนาดย่อมๆด้วย  แต่โชว์ช้างเป็นรอบๆ เราเลยไม่ได้ดู เพราะต้องไปต่อ





ออกจากที่นี่ เราก็เสิร์จเจอ ตลาดน้ำกองถ่ายภาพยนตร์สมเด็จพระนเรศวร ก็เลยแวะไปซะหน่อย
โอ้โห เงียบเว่อ เงียบมาก เงียบจริง  คนก็น้อยมากๆๆๆ อาจเพราะไม่ใช่หน้าท่องเที่ยว





แล้วก็เลยได้เข้าไปชมฉากถ่ายภาพยนตร์ด้วย ก็คือไม่เคยดูพระนเรศวรซักภาคเลยจ้า
และก็ไม่มาตอนที่เค้าบูมๆกัน  ใหม่ๆคงสวยมาก 











ตอนนี้คือเค้าปล่อยโทรมไปเรื่อยๆเลย  น่าเสียดาย  เป็นที่ถ่ายแม่การะเกดฉากบู๊ที่ตลาดด้วย

อากาศร้อนมาก ร้อนมากถึงมากที่สุด  ถ้าจะมาก็ใส่เสื้อผ้าสบายๆและมีน้ำดื่มมาด้วยนะ
เป็นลมได้เลย  ค่าเข้าคนละ 100 บาท








อันนี้คือนอนอยู่ในกองถ่าย


นี่ก็คือรถของพวกเรา

ตลาดน้ำที่ว่าความหมายคือ  มีบึงน้ำขนาดใหญ่มาก แต่ของที่ขาย ขายบนบกนะจ้ะ!!

จากนั้นเราก็ต้องตามรีวิวกันต่อ  ไปที่ร้าน Banana Farm ซึ่งรีวิวมาแรงมากเว่อ 

ร้านในดงกล้วย ร่องสวนที่มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะ สวยงาม

พอไปถึงก็คือ ร่องสวนคนเยอะมากกกก ร้อนมากกกกก 
เราเลยนั่งในร้านด้านหน้าแทน 
อาหารพอกินได้แต่ไม่ว้าว คนน่าจะมาตามรีวิวกันซะส่วนใหญ่
เราสั่งยำบานาน่ามา  อันนี้น่ากลัวสุด รสชาติแปลกมาก ต้องลองเอง



ยำบาน่าน่าฟาร์มจ้า  ใส่กล้วยดิบมา






คนเยอะจนบริการไม่ทั่วถึง  คือมันเยอะแบบบ้ามาก เครซี่

ก็คือไข่เจียวกับผัดคะน้าหมูกรอบพอกินได้  รสชาติค่อนข้างมาตรฐาน
เนื่องจากมันร้อนมาก จึงไม่ได้ถ่ายบรรยากาศร้านใดๆมาทั้งนั้น และคนเยอะเกินปายยย

จากนั้นก็ตีรถกลับกรุงเทพแล้วจ้าาาา บ๊ายบายกาญ  น่าจะได้มาอีก

จบแล้วจ้า ทริปนี้ รูปเยอะซะเหลือเกิน  ทับใจมาก และใช้เวลาเขียนบล็อคนานมากเว่อ

Smiley




Create Date : 02 ตุลาคม 2561
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2561 15:37:05 น.
Counter : 1469 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แมวอ้วนลายปลาสลิด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]