สิงหาคม 2560

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ลังกาวี มีอะไร ไปทำไม1











ห่างหายไปนานมาก ๆ กับการเขียนบล็อค ชีวิตมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ๆ 
จนฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย

ที่จะมารีวิวการท่องเที่ยวนี่ก็คือผ่านมาเดือนกว่าได้ อะไรที่ไม่เป๊ะไม่ชัวก็จะบอกคร่าว ๆ นะคะ
เช่นพวกราคา รายละเอียดต่าง ๆ 

เตือนก่อนว่ารูปเยอะมาก และรูปไม่เท่ากันนะจ้ะ รำคาญได้ เค้าขอโทษ

มาเริ่มกันเล้ย!!!
SmileySmileySmiley

ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 3 คน หญิงล้วน และไปแบบประหยัด ๆ 
plan is no plan
โดยเราบินหางแดง กรุงเทพ-หาดใหญ่  หาดใหญ่-กรุงเทพ
ทั้งหมดทริปนี้ 5 วัน 4 คืน
คืนแรกไปนอนที่ยะลา บ้านน้องที่ไปด้วยกัน
คืนสอง-สามนอนที่ลังกาวี
และคืนสุดท้ายนอนที่หาดใหญ่จ้า คุ้มเว่อ ๆ
Smiley

ขอข้ามไปชอตที่ไปลังกาวีเลยละกันเนาะ  เราต้องขึ้นรถตู้จากยะลาไปหาดใหญ่ 
แล้วต่อรถตู้จากหาดใหญ่ไปท่าเรือตำมะลังที่จะข้ามไปลังกาวีอีกที
ซึ่งเราเดินทางวันที่ 1 กรกฏา และจะกลับมาฝั่งไทยวันที่ 3
Smiley

จำราคารถตู้ไม่ได้ จำได้แต่ค่าเรือ แหะๆ ก่อนไปอ่านกี่กระทู้ ๆ ก็บอกว่าขาละ 300บาท
แต่!! ตอนที่ไปคนละ 350 บาท/เที่ยวแล้วนาจา


หน้าตาตั๋วเรือเฟอรี่เป็นจังซี่

และ!! บอกเลยว่าเที่ยวบริการของเรือเฟอรี่ เหลือแค่ 2 รอบ/วัน
เพราะอ่านกี่กระทู้ๆ บอกว่ามี 3 รอบจ้า
คือ เก้าโมง บ่ายโมงและสี่โมงเย็น
พวกเราก็เลยโอเครอบบ่ายโมงละกันกำลังดี
ปรากฏไปถึง ไม่มีแล้วจ้า รอเรือชิลไปจ้า ไปถึงตั้งแต่เที่ยงครึ่งได้ไปรอบสี่โมงนะจ้ะ
ระหว่างรอเราก็จะถ่ายรูปเล่นให้เย็นใจ

อ้อ!ลืมบอก เราแลกเงินไปทั้งหมด 3.000 บาทจ้า กี่ริงกิตจำไม่ได้ แต่ค่าเงินนางตกอยู่


นี่คือปูชูก้าม สัญลักษณ์ของท่าเรือตำมะลังค่ะ
ท้องฟ้าสีม่วงเพราะแต่งผ่านแอฟจ้า

คนก็เยอะพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเล และชาวต่างชาติ
เรือมาแล้วจ้า ใหญ่มาก ๆ เลย



การนั่งเรือจะนั่งเรียงตามเลขที่บนตั๋วนะคะ  นั่งอย่างเดียวไม่มีการยืน
ส่วนกระเป๋าก็วางหน้าที่นั่ง แต่เห็นส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะเอากระเป๋าไปไว้ท้ายเรือ
สภาพเรือก็ค่อนข้างเก่า แต่ก็นั่งสบายอยู่ แอร์ไม่ค่อยเย็น
เราก็หลับสิคะ คร่อกกกก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
และเนื่องจากมาเลเซียเวลาเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง เราจึงไปถึงประมาณทุ่มนึงเวลาท้องถิ่น

พอมาถึงปุ๊บเราก็หาร้านเช่ารถเลย โดยมีชายหนุ่มเข้ามาชาตอย่างไว ไม่ต้องเดินหา55555

เราได้รถมิตซูบิชิ มิราจมา สีแดงแรงฤทธิ์ โอเคคันเล็กคล่องตัว
สนนราคาอยู่ที่ วันละ 90 ริงกิต เสียค่ามัดจำ 50 ริงกิต ถือว่าโอเค
เพราะรถใหม่อยู่ และเกียร์ออโต้จ้า



น้ำมันยังพอมีอยู่ เปลี่ยนซิมเป็นซิมมาเล แล้วก็เปิดจีพีเอส หาพิกัดที่พักกันเล้ยยย

ซึ่งที่พักของเราชื่อ หมู่บ้านของแอนี่ "Annies village motel"
จะอยู่แถวๆ Senang beach ราคาสำหรับ 3 คนอยู่ที่คืนละประมาณ 1,000 บาทไทย
จองล่วงหน้าผ่าน Booking.com มา 




ก็ถือว่าโอเคในราคานี้ ไม่มีอาหารเช้านะคะ แต่มีน้ำร้อนน้ำเย็นให้อยู่ตู้ข้างนอก
แล้วก็น้ำฟรี 2 ขวดในตู้เย็น  ห้องน้ำเป็นน้ำอุ่นกับชักโครกค่ะ ระบบน้ำแรงใช้ได้เลย

เราออกไปหาไรกินกันแถว Senang Beach แล้วก็เดินเล่นนิดหน่อย ของฝากส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ ที่ไทย น่าจะนำเข้าแล้วเปลี่ยนป้ายให้เป็นลังกาวี ไม่เจอคนไทยเลย
แล้วก็แวะเซเว่นกับร้านสะดวกซื้อ ซื้อพวกขนมปัง มาม่าสำหรับมื้อเช้า เพราะขี้เกียจหากินตอนเช้า

เช้าวันที 2 โปรแกรมเที่ยวคืออยากไปไหนก็ไป 5555 
ที่แรกเลยคือขึ้น Skycab ที่โด่งดัง เนื่องจากฝนทำท่าจะตก เลยรีบไปที่นี่ก่อน
ซึ่งระหว่างทางจะต้องผ่าน Petonas Quay ซึ่งน่าจะเป็นท่าเรือขนสินค้า และที่เทียบท่าเรือส่วนตัว 
เลยแวะเชคอินที่นี่ซะหน่อย อิอิ 


สวยเนอะ เหมือนแถบยุโรปไรงี้เลย น่าจะยังเช้าเลยไม่มีใครเลย

แวะถ่ายรูปและเติมน้ำมันแล้วก็พร้อมเดินทางต่อ  เราเติมกันไปประมาณ 20-30 ริงกิต
น้ำมันที่นี่ถูกมาก และจะเป็นแบบบริการตัวเอง 

ต่อไปมุ่งหน้าสู่การขึ้น Skycab เย่ ๆๆ ตื่นเต้นจุง จะเล่ายาว ๆ เลยละกันนะจ้ะ
อีเครื่องเล่นเนี่ยจะอยู่ใน Oriental Village ซึ่งเป็นอารมณ์เหมือนเขาใหญ่บ้านเรา หัวหินบางจุด
ที่ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีเครื่องเล่น ชอปปิ้ง ร้านอาหาร สำหรับครอบครัวในวันหยุด


มาแล้วก็ต้องถ่ายกับป้ายนะจ้ะ!

เราจะต้องเดินทะลุผ่านร้านรวงต่าง ๆ ซึ่งก็ไม่ยาก เพราะมีป้ายบอกทางชัดเจน


คนยังไม่ค่อยเยอะ ขาลงนี่คือยืนกันเต็มลานตรงนี้เลย แนะนำให้มาตอนเช้า



นี่ก็คือราคา ซึ่งบอกเลยว่าเงิบมาก!
เมื่อก่อนมันสามารถซื้อแต่ skycab ได้เท่าที่ดูจากรีวิวมา

แต่!!!! ตอนนี้ไม่ได้แล้วจ้า ต้องซื้อเป็นแพคเกจ ต้องเล่นอย่างอื่นด้วย
ทำให้ราคาแพงกว่าที่อ่านมามาก ๆ คาดว่าเมื่อก่อนคนส่วนใหญ่ก็คงนั่ง skycab อย่างเดียว
แน่นอนว่าเราก็เลือกกันที่มันถูกสุด!! Basic package จ้า
ชาวต่างชาติ 55 ริงกิต แพงมาก เพราะที่อ่านมาคือ 30 ริงกิต แทบหนึ่งเท่าตัว!

แต่เอาวะ ของมันต้องขึ้น จ่ายก็จ่าย  
ซึ่งแพคเกจของเราจะได้ 4 อย่างคือ Skycab, skydome, skytex และ 3D Art Museum

พร้อมแล้วก็ไปกันเล้ยยยยย


นี่คือทางเข้าซึ่ง ต้องให้เค้าสแกนบัตรเข้าชมที่จะเป็นกระดาษพันรอบข้อมือเรา
ไฮโซ! อ่านของชาวบ้านมาเป็นบัตรกระดาษง่อย ๆ จ้า
อีข้อมือนี้ต้องใช้สำหรับสแกนทุกจุดนะจ้ะ กันคนบินขึ้นไปชมวิวฟรี55555




ข้อห้ามต่าง ๆ นาจา ใครซื้อน้ำและอาหารเอาเข้าไม่ได้นาจา เพราะจะมีขายข้างบนซึ่งแพง!


พอเดินเข้ามา แถแด่มมมม ก็จะเจอกับบูทถ่ายรูป เพื่อจะเอามาปริ้นขายเรานี่เอง

และ! บอกเลยว่า จะเจออีกเยอะมาก เยอะมากจริง ๆ ถ่ายทุกจุด เมืงต้องซื้อตรูบ้างละวะซักรูป!


มีกล้องส่องทางไกลให้ยืมด้วยนะ อันเดียว 8ริงกิต สองอัน 10ริงกิตกันไปเลยจ้าาาาา


และนี่ก็คือสถานีขึ่นเครื่อง มันก็จะหมุนมาเรื่อย ๆ แล้วเราก็เข้าไปนั่ง 

โดยเราแชร์กับสองเจ๊ผู้หญิง น่าจะเป็นคนมาเล เจ๊เซลฟี่กันแบบไม่แคร์เวิล 
บังทั้งเราและบังทั้งวิว แถมตอนเครื่องมันกระตุก เจ๊กรี้็ดแบบสุดเสียง ปวดเฮดมาก
SmileySmiley
อันนี้คือเพื่อนเรานะ ไม่ได้ถ่ายเจ๊มา 55555555



อ่าวทางด้านขวาคือ Petonas Quay เด้อ


ดิ่งแบบเสียวเหมือนกันนะคะซิส ขาขึ้นไม่เท่าไหร่ ขาลงนี่คือ คิดละนะว่าชีวิตนี้คุ้มรึยัง
555555555555Smiley


นี่ก็คือจุดพักแรกซึ่ง จะลงหรือไม่ลงก็ได้ แต่เราต้องลงค่ะ! เอาให้คุ้ม
มันก็คือจุดชมวิวนั่นแหละแก
และแน่นอนว่า มีบูทถ่ายรูปจ้า
Smiley

บนนี้คือจุดชมวิว แบบ 360 องศา มุมอื่นก็จะเป็นทะเลกับเกาะ  สามารถมองไปไกลถึงไทยเลย 
แต่ไม่รู้ทิศ แห่ะๆ

ต่อมาเราก็นั่งคันใหม่เพื่อขึ้นไปจุดพักที่สอง โดยจุดพักที่สองนี้จะมี Sky Bridge ซึ่งเป็นสะพานใสที่เค้าบอกว่าสูงและเสียวติด 1 ใน 10 ของโลกจ้า
ตื่นเต้นเว่อ ต้องเดิน ต้องเสียว!
SmileySmiley

แต่! ที่อ่านรีวิวมานางฟรีจ้า อดีตก็คืออดีต
เพราะปัจจุบันนางไม่ฟรีอีกต่อไป! มุตาไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไปSmileySmiley
ใครจะไปเดินบนสะพานต้องเสียตังค์เพิ่มจ้า นี่ก็เลย บาย ไม่เดินก็ดะ!


ลงมาปุ๊บก็ต้องมาถ่ายรูปกันนะจ้ะพี่จ๋า


มี skymart และที่ขายบัตร skybridge ทุกอย่างต้องเป็นสกาย ห้ามหลุดตีม!


ลาก่อนสะพาน ว่าแต่มันใสยังไงหว่า

ห้ามให้อาหารลิงเด้อ แต่ไม่เห็นซักกะตัวSmileySmileySmiley


บนนี้จะมีร้านขายของที่ระทึก! และกิจกรรมคู่รักที่แพร่ระบาด ล็อคความรักของเราให้อยู่แบบนี้
นั่นก็คืออออออ!  ที่แขวนกุญแจคู่รักกกกกก
Smiley



แขวนกันทุกหย่อมหญ้า แขวนทุกที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ขาลงเสียวมาก มันชันมากและกระตุกเวลาออกตัวกับเข้าสถานี
พอลงมาปุ๊บก็มุ่งหน้าไป Skydome กันต่อเลยจ้า

***คำเตือนคือเด็กเล็กมาก ๆ คนท้องและคนที่มีอาการคลื่นไส้ได้ง่ายไม่ควรเข้าชม***
ข้างในมืดมาก แต่จะเล่าคร่าว ๆ คือ เป็นคล้าย ๆ ที่ฉายภาพเคลื่อนไหวที่เราต้องนั่งเอนพิงเบาะ
แล้วแหงนหน้าดูจอ โดยจอมันจะโค้งเหมือนโดมวงกลม แล้วก็จะฉายภาพต่าง ๆ
ประมาณ 10 นาที มึนหัวมาก งงนิดหน่อยกับกิจกรรมนี้
นี่คือหน้าตาทางเข้า


โชคดีของเราที่ลงจาก Skycab ก่อนเที่ยง เพราะอีโดมนี้พักเที่ยงจ้า

เสร็จอย่างรวดเร็วก็ไปต่อกันที่ Skyrex
อะไรก็ตามขอให้เข้าท่ากว่าโดมนะ55555 ระหว่างรอแถวได้ยินเสียงกรี้ดเป็นระยะ ๆ 
เป็นนิมิตหมายที่ดีว่ามันคงจะสนุก ถถถ


นี่คือทางเข้า มีคนรอพอสมควร  ขออภัยคุณพี่เสื้อแดงด้วยค่ะ


ต้องใส่แว่นสามมิติจ้า ซึ่งมันก็คือการนั่งอยู่บนรถราง แล้วขับเข้าไปในเมืองไดโนเสาร์
รถก็จะสั่น ไดโนเสาร์ก็จะพุ่งเข้าหาเรา
อันนี้สนุกแก สนุกที่สุดในบรรดา 4 อัน 55555555555 นั่งประมาณ 10 นาที

ออกมาอันสุดท้าย 3D Art Museum ซึ่งก็ทำได้ดี ฮิตใช้ได้คนเยอะอยู่
ที่ไทยก็มีเยอะนะ เหมาะกับคนชอบถ่ายรูป อ้ะให้หนึ่งรูป


เย้! หมดแล้ว อ่าวทำไมดีใจ55555555
เป็นเวลามื้อกลางวันพอดี เราเลยฝากท้องไว้ที่นี้แหละ
จะมีศูนย์อาหารอยู่  ราคารับได้ และรสชาติผ่าน ไปค่ะ!

เราสั่งข้าวผัดพัทยา ซึ่งก่อนมาอ่านรีวิวเจอละน่าสนใจดี
ราคาน่าจะ 6.5 ริงกิต จานใหญ่มาก
มันคือข้าวผัดแล้วก็ห่อด้วยไข่

Smiley

พออิ่มละก็เตรียมเที่ยวต่อจ้า
โดยเราต้องจ่ายค่าจอดรถก่อน ที่เครื่อง จากนั้นจะได้การ์ดหรือเหรียญไรซักอย่างมาหยอด
จำราคาไม่ได้แล้ว แต่ไม่แพงฮะ สมเหตุสมผลอยู่




เนื่องจากกลัวว่ามันจะยาวเกินไป ฉะนั้นขอแบ่งเป็นตอน ๆ ละกันเด้อ
คือต้องละเอียดเรื่อง skycab เนื่องจากเราหาอ่านในเนตไม่มีเลยว่าจะเจอกับอีหยังบ้าง
น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยเด้อค่า อิอิ

SmileySmileySmiley





Create Date : 14 สิงหาคม 2560
Last Update : 13 กันยายน 2560 9:33:12 น.
Counter : 1251 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แมวอ้วนลายปลาสลิด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]