|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาที่ล้าหลัง, เพ้อฝัน และปราศจากจุดหมายปลายทาง
ตามที่ผมเคยกล่าวถึงในบทความครั้งก่อน วันนี้ผมขอเพิ่มเติมข้อสังเกตุของผมเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เหล่านักวิชาการช่วยกันร่างเพื่อให้เป็นแม่บทสำหรับนักการเมืองลอกมาอ่านในวาระเปิดสภากัน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ต่อไปขอเรียกย่อๆว่า แผนพัฒนาฯล่ะกันครับ) ฉบับล่าสุดที่คุณนายกอภิสิทธิ์อุตส่าห์อัดคำว่า รัฐสวัสดิการ ลงไปเพื่อให้โก้เก๋ เป็นแผนพัฒนาฯฉบับที่ 11 ที่ครอบคลุมระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ.2555-2559 อ่านซ้ำกันอีกทีนะครับ 2555-2559, 5 ปีเท่านั้น คำถามที่ตามมาของผมคือ แล้วหลังจากปี พ.ศ. 2559 เราจะไปทางไหนต่อ..นี่ประเทศเรากลายเป็นคนวิสัยทัศน์สั้น เดินกันทีละ 5 ปีแค่นั้นเองเหรอ เมื่อดูจากภาพใหญ่แล้วจึงไม่แปลกใจเลยที่ประเทศเราไม่มีการพัฒนาแบบจริงๆ เพราะเรามีแผนงานสั้นๆที่เอาไว้หลอกคนไทยกันเองว่าประเทศเรามีแผนงาน ผมจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือหลายเล่มที่พูดถึงแผนการส่งยานอวกาศขึ้นสู่พระจันทร์ของอเมริกาว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี เป็นการวางกรอบของเป้าหมายที่จะไปให้ถึงพร้อมทั้งจัดสรรแผนงานในรายละเอียด สรรพยากรที่เหมาะสมเพื่อให้แผนบรรลุถึงเป้าหมาย เพราะมีเป้าหมายในการเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีเพื่อแข่งขันกับสหภาพโซเวียตในขณะนั้น..หรืออย่างที่ ลีกวนยู อดีตนายกฯของสิงค์โปร์เคยประกาศเป็นนโยบายของประเทศ ที่ต้องการให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการเมื่อปี พ.ศ. 2537 (ผมจำได้ดีเพราะบังเอิญเดินทางไปติดต่องานที่นั่นพอดี) ตอนนั้นประชาชนของเขาก็ต่อต้านอย่างรุนแรง เนื่องจากว่าประชาชนของสิงค์โปร์มีหลายเชื้อชาติ และหลากภาษา..ลีกวนยูในขณะนั้นตอบคำถามต่อสื่อมวลชนประมาณนี้ว่า อย่ากังวลเรื่องของวันนี้ พวกคุณยังไม่แน่ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง แต่เด็กรุ่นหลังจากคุณและผมจะต้องเป็นผู้ใช้..ที่เรากำลังพูดอยู่คือเรื่องของอนาคต ไม่ใช่ปัจจุบันที่กำลังจะล้าหลังไปตามกาลเวลา ผมฟังแล้วนับถือวิสัยทัศน์ของผู้เฒ่าแห่งแดนสิงค์โปร์จริงๆ เพราะทุกวันนี้ เมื่อผมต้องเดินทางไปที่สิงค์โปร์อีก ภาษาอังกฤษของผมก็ยังไม่ต่างจากเดิมมากนัก ใช้ได้พอแก่เหตุ แต่ภาษาอังกฤษที่คนสิงค์โปร์ใช้ (ใช้อ่านและเขียนนะ ไม่ใช่ใช้พูด เพราะสำเนียงมันสิงค์ลิช ) อยู่ในขั้นดีมากทีเดียว นี่ซิครับ ถึงจะเรียกว่าวิสัยทัศน์และแผนพัฒนาประเทศ
ผมยังคงวนกลับมาถามคำเดิม..ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2560 ควรมีหน้าตาเป็นเช่นไร ? เราจะอยู่ในฐานะผู้นำหรือผู้ตามของภูมิภาคอาเซี่ยน หรือจะวางตัวพันธมิตรที่ดีต่อเพื่อนบ้านทั้งหมดเพื่อที่จะได้เป็นจุดเชื่อมโยงของภูมิภาค ? เราจะมีจุดอ่อน จุดแข็งของประเทศไทยในด้านใดบ้าน อุตสาหกรรม, เกษตรกรรม,การท่องเที่ยว, สถาบันการเงิน, สถานรักษาพยาบาล หรือ อื่นๆ ? เรื่องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของไทยล่ะ ควรมีสภาพเช่นไร ?
ก่อนจะเขียนบทความชิ้นนี้ ผมก็ต้องอ่านแผนพัฒนาฯฉบับที่ 10 ทั้งฉบับ เพื่อจะพบว่าแผนทั้งฉบับมันมีแต่เนื้อหาหลวมๆกว้างๆที่จับต้องเป็นรูปธรรมไม่ได้ ไม่มีตัวชี้วัดผล ที่สำคัญระยะเวลาที่สั้นของแผน (พ.ศ. 2550-2554) ทำให้พอร่างเสร็จเอามาใช้งานไม่เท่าไหร่แผนก็หมดวาระไปซะแล้ว แล้วก็หยิบแผนพัฒนาฯฉบับใหม่ขึ้นมาว่ากันต่อ ??? ปัจจุบันฉบับที่ 11 กำลังร่างอยู่ นี่อีก 2 ปีจะถึงแล้ว ยังร่างไม่เสร็จเลย ตอนนี้มีแต่กรอบหลวมๆ แล้วจะเอากรอบอะไรไปทำแผนปฏิบัติงานล่ะนี่..เดินไปเดินมาอีกประเดี๋ยว ก็ใกล้ 5 ปี สนง.คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ได้เวลาร่างแผน 12 ต่อไป..
ใครสนใจร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 เชิญดาวน์โหลดได้ตามนี้เลยนะครับ //www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=395
ไม่แปลกใจเลยที่ประเทศไทยเราวนอยู่กับอ่างเล็กๆ เรากำลังล้าหลังเพื่อนบ้านไปอย่างช้าๆ ได้เวลาหรือยังที่เราจะต้องหันมาผลักดันประเทศให้เคลื่อนไหวไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ที่เกินกว่ากะลาที่ครอบเราอยู่..
Create Date : 21 กันยายน 2553 |
Last Update : 21 กันยายน 2553 20:41:55 น. |
|
2 comments
|
Counter : 738 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ดกเกด IP: 124.157.230.30 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:59:31 น. |
|
โดย: ดกเกด IP: 124.157.230.30 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:00:53 น. |
|
| |
|
กาแฟยามบ่าย |
|
|
|
|