|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน และใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ ???
ผมเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นจากข้อสงสัยขณะที่กำลังอ่านเรื่อง "คู่มือวิเคราะห์ SWOT อย่างมืออาชีพ" และเกิดความสงสัยขึ้นมา เป็นความสงสัยในเรื่องของทิศทางของประเทศไทย..ขณะที่ผม ในฐานะเจ้าของและผู้บริหารกิจการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ผมต้องทำประจำปีคือ ศึกษาถึงจุดอ่อน จุดแข็ง ขององค์กรตนเองเพื่อรับมือต่อสถานการณ์ที่คาดการณ์ว่าจะมาถึง รวมถึงสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆที่อาจมาถึง หรือเป็นไปได้ ผมจำเป็นต้อง คาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆโดยข้อมูลที่มีอยู่ในมือ, แผนงานสำหรับการรับมือ รวมถึงการวางตัวบุคคลต่างๆ โดยทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องอยู่ในแนวทางของแผนธุรกิจของบริษัทฯด้วย..
ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึง "แผนธุรกิจ (Business Plan)" ซึ่งเป็นเสมือนแผนแม่บทของการทำธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการทั่วๆไป แผนธุรกิจอาจเป็นอะไรที่ไม่เคยคิดถึง ไม่เคยรู้จัก แต่จากการศึกษาและดำเนินงานมาเป็นเวลาหลายนับ 20 ปี ผมพบว่าแผนธุรกิจเป็นเสมือน "แผนที่" ที่ทำให้เรามีทิศทางที่แน่ชัดสำหรับการดำเนินธุรกิจ เพียงแต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ซึ่งน่าจะใกล้เคียง 95% ไม่มีการเขียนแผนธุรกิจเอาไว้ ปล่อยให้เป็นเรื่องของสัญชาติญาณและประสบการณ์ บวกกับการคาดเดาของเจ้าของธุรกิจ ส่วนอีก 5% ที่เหลือต่างเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งผ่านประสบการณ์มากมายและมีบุคลากรที่มีความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นคือสาเหตุที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
แต่เมื่อผมมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทยที่ผมเกิดและอาศัยอยู่ ผมกลับพบว่าประเทศของเราไม่มี "แผนธุรกิจ" หรือแผนงานชัดเจนถึงบ่งชี้ถึงว่าเรากำลังมุ่งไปในทิศทางใดในสังคมประชาคมโลก ?..ในยุคปัจจุบันเรามีนายกฯ ที่มีนามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีชาติตระกูลดี เรียนจบปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ แต่ทำไมกลับไม่มีผลงานอันใดให้เห็นเป็นรูปธรรม ? ทำไมนายกท่านนี้ถึงได้เอาแต่พูดและพูด โดยที่ไม่ได้สร้างผลงานทางการบริหารให้เห็นเป็นรูปธรรมอะไรเลย เมื่อมองย้อนไปประวัติการทำงานก็มีเพียงอาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกนั้นล้วนเป็นงานทางด้านเมืองที่ยังไม่เคยแม้แต่จะเป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดมากก่อน..นี่ประเทศไทยและคนไทยเผลอเรอขนาดเอาคนไม่มีประสบการณ์อะไรมานั่งในตำแหน่งบริหารประเทศ ที่สามารถชี้ทิศทางของประเทศชาติได้อย่างนั้นหรือ
ยิ่งเมื่อมองย้อนหลังไปยังสภาพการเมืองของประเทศไทย นอกจากอดีตนายก พลเอก ชาติชาติ ชุณหวัณ ผู้มีสโลแกน "เปลี่ยนสนามรบ ให้เป็นสนามการค้า" และอดีตนายก พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นเจ้าของระบอบทักษิณ แล้ว ผมไม่เคยเห็นนายกฯคนใดมีวิสัยทัศน์ในการบ่งชี้ทิศทางของประเทศโดยชัดเจนอีกเลย
แล้วนายกฯเหล่านั้นเขาเอาอะไรมาอาสาในการบริหารประเทศไทย ? ผมได้มีโอกาศพูดคุยกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เขาบอกกับผมว่า "ใครว่านายกฯไทย ไม่มีแผน ไม่มีวิสัยทัศน์ นายกฯคนปัจจุบันรวมถึงอีกหลายๆคนในอดีต ล้วนต่างแสดงวิสัยทัศน์ในการแถลงเปิดสภาผู้แทนฯสมัยเมื่อเข้ารับตำแหน่งทั้งนั้น แต่แผนที่เอามาพูดนั้น มันเป็นแผนลอยๆ ที่ปราศจากหลักเกณฑ์ ปราศจากเป้าหมาย และปราศจากกรอบเวลาในการดำเนินการ เป็นเพียงแค่การพูดเพื่อให้ครบหน้าที่เท่านั้น แล้วแผนที่เอามาพูด ก็ล้วนแต่คัดลอกมาจาก "แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" ทั้งนั้น"
นี่มันอะไรกัน ? นายกฯ เอา "แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เป็นแม่บทของการบริหารประเทศงั้นหรือ ? แล้วแบบนี้จะมีประโยชน์อะไรที่ต้องเลือกนายกฯ ขึ้นมา ในเมื่อไม่ว่าจะเลือกใคร ทุกคนต่างก็จ้องจะเอา "แผนพัฒนาฯ" ซึ่งเขียนโดยข้าราชการและนักวิชาการมาเป็นแผนแม่บท ผมไม่เถียงว่าคนเหล่านี้ หลายคนมีความรู้ความสามารถ แต่แผนที่คนเหล่านี้ร่างขึ้นมาได้ถูกทบทวนและวิจารณ์โดยใครหรือคณะใด ให้รอบคอบครบถ้วนหรือยัง คนเหล่านี้ได้รับอำนาจจากใครถึงสามารถชี้นำคนทั้งประเทศด้วยความคิดของกลุ่มตัวเองได้ ขณะที่นายกฯเอง แต่ละคนล้วนเป็นนักการเมืองที่อาสาตัวเองขึ้นมาบริหารประเทศ เหตุใดจึงไม่เตรียมการบ้านมาให้ดีว่าตนเองต้องการบริหารประเทศไปในแนวทางไหน ? เมื่อเทียบกลับมาที่บริษัทฯ เสมือนกับว่าผมกำลังโยนงานไปให้พนักงานระดับปฏิบัติการคิดและกำหนดทิศทางของบริษัทฯเอง แล้วอย่างนี้จะจ้างผมมาบริหารบริษัทฯทำไม ผมสู้ลดตัวเองไปเป็นพนักงานฝ่ายปฏิบัติการไม่ดีกว่าเหรอ ? ประเทศของเรากำลังอยู่ในเขาวงกตแห่งการบริหารที่หา "ผู้นำ" ไม่เจอ ???
สิ่งที่ผมอยากจะพูดในวันนี้คือ เราต้องการ "ผู้นำ"..ผู้นำที่กำหนดทิศทางของประเทศให้ไปสู่เส้นทางเดียวกับประชาคมโลก ผมอยากเห็นหัวหน้าพรรคการเมืองแต่ละพรรคทำการบ้านของตัวเองก่อนมาอาสามาทำงานทางการเมือง ด้วยการกำหนดกรอบและทิศทางที่พรรคตนเองต้องการจะทำให้กับจังหวัด และประเทศก่อน เมื่อขึ้นมามีโอกาสบริหารประเทศ จะได้หยิบแผนงานนั้นๆมาเป็นแนวทางการบริหารจัดการ ดีกว่ามาแก้ตัวอ้างเหตุผลมากมายเพียงเพื่อจะบอกว่าทำไม่ได้..ผมอยากเห็น "แผนแม่บท" ที่ร่างโดยกลุ่มเทคโนแครต (นักวิชาการในสายวิชาการต่างๆ) ของพรรคการเมืองนั้นๆ โดยแผนแบบบทนั้นจะเป็นเสมือนสัญญาประชาคมที่พรรคการเมืองมีให้ต่อประชาชน และเมื่อพรรคการเมืองนั้นๆได้มีโอกาสบริหารประเทศ จะได้แผนแม่บทดังกล่าว มาขัดเกลาและกลั่นกรองเพื่อนำไปดำเนินการอีกครั้ง หรือจะส่งให้สภาพัฒน์ ไปเพื่อเป็นกรอบแผนปฏิบัติการสำหรับประเทศระหว่างช่วงที่ตนเองบริหารประเทศก็ได้
นักการเมืองทั้งหลายครับ..ก่อนจะมาอ้างฉันทามติของประชาชน ก่อนจะมาอ้างว่าจะมาเป็นตัวแทนเสียงของประชาชน..กรุณาทำการบ้านมาส่งประชาชนก่อนได้มั๊ยครับ ร่างแผนแม่บทของคุณขึ้นมาให้เราได้ชมหน่อย เราจะดูเองว่าสิ่งที่คุณพยายามบอกเรา มันเป็นเช่นไร..หากคุณคิดวาดแผนงานซะใหญ่โต เพ้อฝัน (เหมือนสมัยหนึ่งที่ ดร.โจ เคยวาดโครงการรถรางเลียบคลอง หลอกคนกรุงเทพฯให้เลือกมาเป็นผู้ว่า กทม. ซึ่งในสมัยเดียวกันนั้น คุณวรัญชัย โชคชนะ เสนอแผนงานรถรางมุดคลอง ออกมาประชดในระหว่างหาเสียงด้วย) จนทำไม่ได้ หรือขัดแย้งกับแนวทางของพรรคการเมืองที่คุณสังกัด เราจะได้รู้ว่าคุณปลิ้นปล้อนยังไง เราจะได้รู้ว่าคุณกำลังหลอกลวงเราอยู่..แล้วเราจะได้ไม่เลือกคุณ
ท้ายสุดนี้ ขอเชิญเพื่อนๆร่วมกันเข้ามาถกและวิจารณ์ถึงมุมมองของทิศทางของประเทศไทยว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบครับ ????
เขียนเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Create Date : 19 กันยายน 2553 |
Last Update : 21 กันยายน 2553 20:50:04 น. |
|
2 comments
|
Counter : 520 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: กาแฟยามบ่าย IP: 118.172.189.78 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:10:20:02 น. |
|
โดย: coco IP: 58.10.235.7 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:21:51:02 น. |
|
| |
|
กาแฟยามบ่าย |
|
|
|
|
หากมีข้อคิดเห็นใด ช่วยเสริมให้ผมด้วย เผื่อว่าจะได้มีมุมมองที่แตกต่างและเสริมความสมบูรณ์ของบทความ