Photobucket
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
[Honeymoon Trip] Day@Solstice +++Santorini -Mikonos-Istanbul-Kusadasi-Athens- Naples/Capri-Rome++

จากตอนเดิมที่เรารีวิวให้ชมห้องต่างๆบนเรือไป ยังไม่หมดนะเนี่ยะ บางห้องก็ไม่ได้ถ่ายไว้อ่ะค่ะ ทุกๆวันเราสองคนก็จะมาทานอาหารเช้า เริ่มต้นวันกันที่ห้องอาหาร Blu ที่นี่จะมีโต๊ะประจำบุ๊คเอาไว้ของแต่ละคน ทานอาหารเช้าอร่อยๆกับวิวสวยๆจากโต๊ะอาหาร เตรียมพร้อมออกเดินทางกันค่ะ



อาหารเช้ามีเมนูให้เลือก เราชอบพาเฟ่ห์สตอเบอรี่ เป็นโยเกิต มีมูสเล่ย์แล้วก็พวกผลไม้สดต่างๆด้านล่าง เลือกทานเกือบทุกวันเลยค่ะ แล้วก็มีพวกน้ำผลไม้สดๆ ปั่นอ่ะคะ



ส่วนพ่อหมีก็สั่ง French Toast กับแพนเค้กทานราด Maple Syrup ท่วมท้นทุกวันเลยค่ะ






อาหารมีให้เลือกเยอะค่ะ เราสั่งลองทีละเมนูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พวกไข่ก็มีทุกอย่างจะเลือกให้เค้าทำแบบไหนก็บอกไป ได้เลยค่ะ

จริงๆวันแรก @Sea เรานั่งๆนอนๆ อาบแดด ทำกิจกรรมที่ในเรือทั้งวันเลยขอข้ามไปวันที่สองเลย วันนี้เรามาถึงที่ Santorini กันตอนสายๆ ที่นี่ท่าเรือน้ำไม่ลึกมาก เราต้องนังเรือเล็กเข้าไปในฝั่งค่ะ เค้าจะให้เราไปรับบัตรคิวลงเรือ แล้วพอได้เวลาก็มารอเรียกค่ะ



เรือเข้าฝั่งใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีค่ะ



เห็นเกาะแล้วค่ะ ที่เห็นขาวๆด้านล่างเป็นแค่ตรงท่าเรือค่ะ ส่วนเมืองจริงๆอยู่ด้านบนต้องขึ้นไปสูงมาก





วิธีการขึ้นไปก็มีสามวิธี 1 คือขึ้นกระเช้า 2 คือขี่ลา 3 คือเดินค่ะ

วิธีที่1 ขึ้นกระเช้าจะถูกกว่าขี่ลานิดนึง(ขึ้นลา5ยูโร ขึ้นกระเช้า4ยูโรค่ะ) แต่คนค่อนข้างเยอะ รอนานมาก แถมมาที่ซานโตรีนีทั้งที ไม่ขี่ลาไม่ได้แล้วอ่ะคะ เค้ามีคำโฆษณาโปสเตอร์ติดไว้ว่า ลาเป็นสัตว์ที่แข็งแรง อึด อดทนมาก เป็นพาหนะของคนที่นี่อยู่แล้ว ใช้บรรทุกของได้หนักมากๆ เราก็สองจิตสองใจตอนแรก แอบสงสารน้องลา



แต่ฝรั่งคนที่เดินลงมาเค้าก็บอกว่า you should try... Trust me it's fun... แถมพ่อหมีก็พูดไว้อีกว่า ที่ร้ากกก....อย่าเดินเลย เค้ากลัวเดินไปได้ครึ่งทางแล้วที่รักเดินไม่ไหวอ่ะ (ประมาณว่าเดี๋ยวงานจะเข้าพ่อหมี โดนขี่คอให้เดินแทนลา)อืม ก็ได้อ่ะ ลองดู พอถึงใกล้ๆคิวเห็นน้องลาชุดนึงจอดเข้าคิวพักอยู่ ถึงกับอึ้ง ลาที่นี่ตัวใหญ่ แบบนี้ที่บ้านช้านนเรียกว่าม้าแล้ววว(คิดในใจ)



ปรากฏว่าเราก็ได้ขี่เจ้าลาขึ้นไปคนละตัวกับพ่อหมีค่ะ ตัดสินใจถูกมากที่ไม่เดิน สูงมากๆ แล้วก็ทางเดินก็แคบๆคดไปคดมา เต็มไปด้วยกองถ่ายของลาตลอดทาง กลิ่นนี่อย่าให้เซดดค่ะ อิอิ นึกแล้วขำ ในภาพที่เห็นสีเหลืองๆที่พื้นก็ท้างน้านล่ะค่ะ



ทางขึ้นมันก็ชันแบบนี้อ่ะคะ เวลาคนเดินจะลำบากนิดนึงเพราะน้องลาจะเดินเปะปะเต็มถนนเลยอ่ะคะ



แถมเจ้าลาก็ดั๊นนนชอบไปยืนติดชิดขอบซะเรานั่งอยู่สูงเจี๋ยวววมั่กมากกคร่าา



แล้วก็ปีนมาถึงข้างบนได้ซะที เมืองที่มานี่เรียกว่าเมือง FIra ค่ะเป็นเมืองหลวง บรรยากาศก็จะคึกคัก คนเดินเยอะบ้านช่องที่นี่ก็ทาสีฟ้าขาวกันหมด ถ่ายไปทางไหนก็ขาวฟ้า ดูน่ารักดีค่ะ




เราเดินๆ กันสักพักนึง อากาศร้อนมากๆ ก็หม่ำไอติมไปโคนนึง ขอบอกว่าไอติมที่นี่รสชอคโกแลตอร่อยมากๆค่ะ เหนียวหนึบหนับรสชาติเลิศถูกใจมั่กค่ะ



แล้วก็เดินไปที่สถานีรถบัส นั่งรถบัสประมาณ ครึ่งชั่วโมงไปที่ Santorini เมืองเอียร์ค่ะ เค้าว่ากันว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่พระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในโลก

ระหว่างทางไปก็จะเป็นทางลดเลี้ยวบนเขา แบบว่าถ้าขับตกลงไปนี่ ไม่มีคำว่ารอดค่ะ



แล้วก็มาถึงเมืองในฝันอีกเมืองนึงของเรา อยากมาที่นี่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ดูกระทู้ของเพื่อนคนนึงในพันทิพ รีวิวเห็นแล้วก็รู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปเหยียบให้ได้ อิอิ วันนี้ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ เมืองน่ารักมาก ถ่ายรูปตรงไหนก็ดูสวยไปหมด เสียดายเรือไม่ได้ค้างคืน วันนี้เรือออกตอนสี่ทุ่มค่ะ เราได้ดูพระอาทิตย์ตกกันจากบนเรือเพราะช่วงนี้เป็นหน้าร้อน ที่นี่พระอาทิตย์ตกตอนสามทุ่มกว่าพอดีค่ะ








รูปคู่ซะหน่อย ไม่รู้มีใครสังเกตบ้างรึเปล่าว่ารูปที่ถ่ายนี้เป็น Background ที่ Santorini เหมือนกันบนหัวบ้านของเจ้าของบล๊อคเลยค่ะ ก็บอกแล้วว่าเป็นที่ในฝันที่อยากมาที่นึงอ่ะคะ



ร้านอาหารที่นี่วิวสวยเกือบทุกร้านค่ะ อาหารกรีก พวกของทะเล ปลาหมึก สลัดกรีก แล้วก็เคบับเค้ามีชื่อค่ะ อร่อยทุกร้าน ส่วนของดังก็เป็นพวกผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะกอกทั้งหลาย ฟองน้ำ

ที่สำคัญไวน์ค่ะ ไวน์ของSantorini เค้ามีชื่อในเรื่องของรสชาติที่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะดินของที่นี่เป็นดินภูเขาไฟที่เคยระเบิดค่ะ เค้าว่ากันว่ามีเอกลักษณ์และรสชาติที่เฉพาะตัวมากๆ



ขาลงไม่ไหวแล้วอ่ะคะ ใช้บริการกระเช้าดีกว่า ถ้าใช้คุณลาขาลงคงเสียวไส้กันแย่เลย



แล้วก็รอเรือเล็กกลับเข้าฝั่ง ที่ชอบมากในบริการอีกอย่างก็คือเค้ายกบูตมาตั้งเดินแจกผ้าเย็นให้ลูกค้าเรือ เฉพาะเรือเรานะคะ อากาศร้อนๆมา เหมือนขึ้นสวรรค์ ได้น้ำเย็นๆ กับผ้าเย็นๆ มันก็ดีแบบนี้เองอ่ะคะ



แล้วก็นั่งเรือกลับมาขึ้นเรือใหญ่ พนักงานก็จะบอกก่อนเข้าว่า Welcome home! อืม ก็ตอนนี้เราใช้เรือนี่เป็นบ้านของเราในอีก 10 วันข้างหน้านี่อ่ะคะ



เวลาขึ้น-ลงเรือก็ต้องพกบัตรที่เรียกว่า Sea Pass Card ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้รูดทุกอย่างจนวันกลับอ่ะคะเหมือนเป็ฯ ID ของเราเลย เพราะเค้าเก็บพาสปอร์ตของเราไปแล้น



กลับมาถึงพ่อหมีก็ให้ดิ่งไปลงน้ำสระเลยเพราะตัวเหนียว และร้อนกันมาก พักสักพัก ก็ลงมาทานอาหารกัน วันนี้เราเลือกห้องอาหาร Specialties ชื่อ Murano เป็นห้องอาหารพิเศษที่ต้องจอง อาหารเป็นอาหารฝรั่งเศส ต้องเพิ่มเงินอีกคนละ 50 ดอลล่าห์ ไม่รวมเครื่องดื่มต่อคนค่ะ ทานกันเป็นคอร์ส ไว้เดี๋ยวจะรีวิวในหัวข้อเกี่ยวกับห้องอาหารดีกว่าเพราะมันเยอะมากคะ ให้ตัวอย่างดูนิดหน่อยพอก่อนเนอะ

Diver Scallop Welington ราดด้วยซอสทรัฟเฟิ้ลหอมๆ





ฟรัวกราส์ชิ้นนี้รสชาติดี เป็นแบบอย่างดีเลยหล่ะคะ นุ่มละลายในปาก ไม่เหมือนที่เคยทานร้านดังๆในไทยเลยอ่ะคะ ซอสเค้าเป็น Ginger sauce รสชาตินุ่มๆไม่เผ็ดขิงนะคะ ออกแบบหวานเข้ากับฟรัวกราส์ได้ดีเชียวค่ะ




ฟิเลมิยอง ชิ้นใหญ่มากๆ แถมเนื้อก็นุ่มเชียวค่ะ



ปลาชิ้นนี้พนักงงานเค้าบอกว่าสดไม่สดดูสิค่ะ ยังมีแหติดอยู่ในจานเลยเห็นป่ะ





Lamb rack ด้านนอกเป็นขนมปังป่นเอาไปหมักเครื่องเทศ แล้วก็อบ



แหะแหะ มีน่าทานกว่านี้อีกเพียบค่ะ เดี๋ยวไว้ค่อยลงเนอะ

พอทานอาหารเสร็จ ออกมาเดินเล่นรอบๆเรือ ชมบรรยากาศ ร่ำลาSantorini ตอนกลางคืนสุดท้าย



บรรยากาศจากห้องนอน



พ่อหมีซื้อตุ๊กตาตัวนี้มาให้จากด้านล่างบอกว่า หน้าตามันน่ารัก ไม่ค่อยเห็นนกฮูกเป็นตุ๊กตาน่ารักๆแบบนี้ Hedwig version คิ๊กคุ แล้วขอให้เรานอนหลับฝันดีตอนกลางคืน อิอิ น่ารักเนอะ



เช้าวันต่อมาเรือก็มาถึง Mikonos เมืองนี้จะว่าไปคล้ายๆที่ Fira แต่ไม่ได้อยู่บนที่สูง เรากับพ่อหมีชอบ Santorini มากกว่า วิวจากที่สูงสวยกว่าอ่ะคะ ที่นี่จากท่าเรือต้องนั่ง Shuttle BUs ที่เรือจัดไว้ให้เข้าไประยะทางถ้าเดินก็เหนื่อยมากค่ะ หมดแรงเปล่าๆ



บ้านเมืองก็ฟ้าๆขาวๆเหมือนกันค่ะ





ที่นี่จะมีนกพิลิแกนอยู่ตัวนึงเป็นสัญลักษณ์ของคนที่นี่เลย เค้าไม่กลัวคนเลยค่ะ เดินเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆก็ได้เลย แถมบางทีก็แอ๊คท่ายืนกางปีกโชว์ให้ถ่ายเลยค่ะ เจ้าตัวนี้เป็นขวัญใจของที่นี่



เดินมาทางหาดมีหาดกว้างอยู่บริเวณนี้ที่เดียวเป็นเวิ้งเล็กๆ คนเดินผ่านไป-มา 55 ที่ไหนก็อาบแดดกันได้น้อ...ฝรั่งนี่



เรามาถึงตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แต่กว่าเราจะทานอาหารเช้าเสร็จลงจากเรือก็เกือบสิบโมงแล้ว วันนี้เรืออกกสี่โมงเย็น ที่เมืองนี่ไม่มีอะไรมากใช้เวลาเดินเล่นชั่วโมงนึงก็ทั่วแล้ว เห็นเค้าบอกว่าที่นี่ถ้าเป็น Night Life จะมีอะไรเยอะกว่าอารมณ์ประมาณพัทยาอ่ะคะ

วันต่อมาไปอิสตันบูลกัน ที่นี่สวยดีค่ะมีคนชมเยอะ แต่โดยส่วนตัวเราไม่ได้ปลื้มมากมายค่ะ

ที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็เป็นพวก Mosque ซะมาก ที่ตุรกีเมื่อก่อนหน้านี้เคยเป็นของโรมันแต่พออณาจักรล่มสลายมีกลุ่ม Ottoman เข้ามาพวกโบสถ์เลยถูกเปลี่ยนเป็น Mosque อ่ะคะ โดยด้านในพวกโบสถ์ที่เข้าไปจะเป็นกึ่งๆมีเรื่องราวทั้งพระเยซูและศาสนาอิสลามอยู่ด้วยกัน





ที่นี่มีตลาดใหญ่อยู่เรียกว่า Grand Barzar ที่นี่เป็นแหล่งขายของที่ใหญ่มากๆ อยู่ Indoor อารมณ์สวนจตุจักร แต่มีร้านอยู่ตั้งสี่พันกว่าร้าน ส่วนใหญ่ของที่น่าซื้อก็จะเป็นพวกเครื่องถ้วยชามลงวาดลาย Handmade สีสดใสที่เค้าทำเองที่นี่ แล้วก็พวกเครื่องเทศต่างๆ บ้านเรามีหมดแล้วหล่ะ ไม่ต้องมาซื้อไกลขนาดนี้ก็ได้ แต่เครื่องเทศที่น่าซื้อกลับไปแล้วเราก็ซื้อกลับมาก็คือ Saffron ทีนี่ของตุรกีไม่ได้ดังหรอกค่ะ ของที่ดังและมีชื่อเสียงเรียกว่า No1 in the world คือ Saffron ของอิหร่านค่ะ ทั้งสีกลิ่น รสสัมผัสเทพมากๆค่ะ แต่ราก็แพงมากๆเช่นกัน แค่กระปุกเล็กๆ ประมาณนิ้วก้อยก็ประมาณ เกือบ 100 ยูโรนะคะ เราซื้อ Saffron มาว่าจะทำ Paella ให้พ่อหมีทานเพราะพ่อหมีแอบติดใจที่เสปนมากๆ

อีกอย่างที่ดังของตลาดนี้คือ พวกของปลอมค่ะทุกประเภท ทุกชนิด เสื้อผ้ารองเท้า กระเป๋าแบรนด์ เค้าเรียกว่า Genuine fake ที่นี่เป็นอันดับ 1 ของยุโรปเลยค่ะ (แต่สงสัยจะแพ้จีน อิอิ) ไม่สนับสนุนนะคะ ไม่ใช้เลยดีกว่าคะหรือถ้าจะซื้อก็ซื้อของแบรนด์ไปเถอะค่ะ (มันไม่เหมือนกันจริงๆนะ) คนผลิตเค้าคงแย่เนอะ เหมือนเทปผีซีดีเถื่อนไรเงี๊ยะ



กลับมาทานอาหารเย็นเสร็จ ที่นี่จะมีร้านอาหาร บาร์ ต่างๆให้นั่งเล่นเยอะมากๆ นี่เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ บรรยากาศตอนกลางคืนตรงเคาร์เตอร์ที่เห็นจะเป็นน้ำแข็ง เย็นจะมีน้ำแข็งเกาะ แล้วเราก็จะมานั่งดื่มวอดก้า คอกเทลต่างๆกันตรงนี้ค่ะ บาร์เทนเดอร์จะคอยผสมให้



เราสองคนไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตกลางคืนบนเรือเท่าไหร่หรอกค่ะ พอเที่ยงคืนตีหนึ่งก็เข้าห้องหลับคร่อกกันเพราะตอนกลางวันเราลุยเล่นโน่นนี่ ตื่นแต่เช้า..พ่อหมีก็ลากออกไปเล่นฟิตเนสบ้าง ว่ายน้ำบ้าง นอนอาบแดดชมวิวทะเลบ้าง ตกดึกดื่มไวน์วันละขวดทุกวัน ดูโชวร์ เดินเล่นริมกาบเรือตอนกลางคืน ดื่มชาคาโมมาย แล้วก็เข้านอน เป็นกิจวัตรเลยอ่ะคะ อิอิ

ที่ Kusadasi เป็นเหมือนเมืองตากอากาศของคนตุรกีค่ะ เมืองนี้เราชอบมากกว่าที่อิสตันบูลอีกค่ะ เป็นเมืองตากอากาศ ดูสบายๆดี



ที่เห็นด้านหลังนั่นอ่ะคะเรือ Solstice





แถวๆท่าเรือก็มีพวกร้านขายของคล้ายๆ Grand Barzar เยอะมากๆ แต่จุดหมายของเราวันนี้ไม่ใช่พวกนี้ค่ะ เป็น Ephesus เมืองเก่าที่เมื่อก่อนยุคโรมันเคยรุ่งเรืองมากๆค่ะ ต้องนั่งรถออกไปจากท่าเรือประมาณ 30 นาที เราเดินกันไกลมากๆค่ะ วันนี้ เข้ามาด้านในโหทึ่งค่ะ ภาพที่เห็นเป็นโรงละคร สมัยก่อน ถ้าอยู่ด้านล่างตรงกลางตะโกนขึ้นมาจะได้ยินเสียงดังทั่วเหมือนออกไมค์เลยล่ะคะ ทึ่งมั๊ยละคะว่าคนโบราณเค้าคิดได้ไง เก่งนะคะเดี๋ยวนี้มีไฟฟ้า มีไมค์ แต่คนโบราณคิดให้ไม่ต้องใช้ไมค์แต่เวลาร้องเพลงได้ยินไปทั่วได้





กลับมาถึงเรือก็เดินเล่นแถวๆนั้นก่อนกลับ ถ่ายรูปเรือมา ที่นี่เค้าบอกว่าอยู่ตรงไหนของเมืองก็เห็นเรือค่ะ ไม่มีหลง ก็ดูสิค่ะ ขนาดของเรือเทียบกับภาพบ้านเรือนเค้าข้างหลังมันใหญ่จริงจังมากเลยอ่ะคะ



ซูมเข้าไปเทียบให้ดูชัดๆ เค้าสร้างยังไงเนี่ยะ



ส่วนที่เอเธนส์เรานั่งรถไฟจากท่าเรือไปถึง Acopolis ประมาณเกือบครึ่งชม เดินขึ้นเขาไปที่Parthenon วันนี้ก็เป็นวันที่เดินเยอะมากๆค่ะ แต่ก็คุ้มค่า



สวยมากกก





มีอันนี้ค่ะที่ยังใช้จัดงานอยู่จริง



แล้วก็ที่ Naples เมืองนี้เป็นเมืองต้นกำเนิดพิซซ่าค่ะ แน่นอนว่าเราต้องลองพิซซ่ากันค่ะ ขอบอกว่าอร่อยมากกก ลืมไม่ลงเลยอ่ะคะ อยากทานอีกกจัง
อยากจะบอกว่าสิ่งที่ทำให้รสชาติต่างกันกับเวลาทานพิซซ่าร้านอิตาเลี่ยนในเมืองไทยคือแป้งอ่ะคะ แป้งเค้ารสชาติดีมากๆ อบมาได้พอดี แถมด้วยชีสมอสซาเรล่าสดที่ถมมาไมอั้น



ที่นี่เรามาเดินดูเมือง ชมพิพิธภัณฑ์ เป็นพวกรูปปั้น แล้วก็เดิน Shopping นิดหน่อย หลังๆเราสองคนเป็นโรคติดเรือค่ะ ไม่อยากจะลงจากเรือ แหะแหะ เพราะอากาศมันร้อนเอามากๆเลยอ่ะคะ ลงไปเที่ยวโน่นนี่นิดหน่อยก็อยากกลับขึ้นมาแช่น้ำนอนเล่นบนเรือแล้ว



วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวไว้จะมารีวิวต่อ ตอนหน้าจะพานั่งรถไฟไปเวนิสกันค่ะ เมืองที่เค้าบอกว่าโรแมนติคที่สุดในโลก เพื่อนๆว่าจะจริงมั๊ยอ่ะคะ




Create Date : 15 สิงหาคม 2552
Last Update : 19 เมษายน 2554 11:44:16 น. 11 comments
Counter : 2517 Pageviews.

 
Very beautiful pics ka ..


โดย: Nui London(Slough) IP: 86.178.146.221 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:17:15:50 น.  

 
ตามมาดู เห็นแล้วอยากไปจังเลย


โดย: พี่หน่อย IP: 58.8.7.211 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:18:20:03 น.  

 
โอ้ยยยย!!!!!!!! เห็นภาพแล้วอยากจะบ้าตาย อยากปายยยยยยยย.................

ท้องฟ้าก็สวย ทะเลก็สวย ดูแล้วได้ยินเสียงทะเล ได้กลิ่นทะเล ลมพัดโชยๆ ยิ่งเห็นวิหารที่เอเธนส์ โอ้วววว........นุ่นมากระตุ้นต่อมเที่ยวผมนะเนี่ย อยากไป อยากไป อยากไป..................

รูปสวยมากจ๊ะ แต่ตัวเองเอาเลนส์ไปหลายตัวปะ เราเห็นฝุ่่นเม็ดโต อยู่กลางภาพน้าาาา (มันติดอยู่ใน CCD) แต่ใช้ Photoshop ทีเดียวก็หายละ อิอิ


โดย: punndaddy วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:10:56:04 น.  

 
สีสันแสบตามากครับ สมเป็นเมืองท่าตากอากาศลำดับต้นๆของโลกเลย


โดย: หมีหุหุ วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:16:58:09 น.  

 
สวัสดีจ้า...คุณนุ่น

กลับมาจากทริปหัวหินแร้วค่า....

ภาพสวย เต็มอิ่มเหมือนเดิม


โดย: ลูกกีวี่ วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:10:27:08 น.  

 
ยิ่งดู ก็ยิ่งอยากไป แต่เหมาะแก่การไปเป็นคู่เนอะคะ

ขอเก็บตังค์ + หาเนื้อคู่ก่อนดีกว่า ^^


โดย: cocosweet IP: 161.200.255.162 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:13:39:57 น.  

 


โดย: 360D Gallery วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:11:31:22 น.  

 
กรี๊ดดด santorini ... กรี๊ดสลบ !!!


สวยมากๆๆๆๆ ฝันๆตื่นๆมาครึ่งชีวิต ยังไปได้ไม่เฉียดเลยอ่ะนุ่น อิอิ

นางแบบน่ารักจัง


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:12:02:43 น.  

 
สวยมากค่ะ ดูน่าเที่ยวจัง มีความสุขแทนนะค๊ะ อิอิ


โดย: ศริน IP: 124.121.232.78 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:13:22:02 น.  

 
โอ้ ฉันรักที่นี่จัง

อยากไปกับที่รัก

คงโรแมนติกมาก

(อิจฉาจัง)

เมืองในฝัน

เก็บเงินด่วน


โดย: Santorini ที่รัก IP: 202.44.135.243 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:20:39:37 น.  

 
สวยมาก ครับน่าอิจฉาจัง


โดย: LoveOnly วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:42:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

noonagist
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




: Users Online
เชคข้อความหลังไมค์
Friends' blogs
[Add noonagist's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.