Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
8 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

พรหมกลั่น สวรรค์แกล้ง บทที่ 1



“ลัดดาอยากไปเจอเจ้าของฟาร์ม” ซุ้มลัดดาพูดเสียงฉุน “อย่าห้ามความตั้งใจของลัดดาเลยค่ะ พี่บุญก็รู้ว่ายังไงก็ไม่สำเร็จ”

“มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะตอบรับหรือปฏิเสธไม่ใช่หรือลัดดา” ญาติผู้พี่ นามชมบุญเตือนสติ “ทำไมเราไม่ติดต่อฟาร์มของคุณศรชัยล่ะ รายนั้นออกจะยินดีเพียงแค่เอ่ยปากขี้คร้านจะรีบตอบรับ”

ซุ้มลัดดามองหน้าลูกพี่ลูกน้อง ทำเสียงฮึดฮัดแสดงความไม่สบอารมณ์ออกมา “พี่บุญไม่เข้าใจ ฟาร์มของคุณศรชัยมันเล็กกว่าฟาร์มรักไท เดินดูไม่ถึงสิบนาทีก็เบื่อแล้ว” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วสูงคล้ายสงสัยจึงพูดต่อ “ไม่ต้องทำหน้างงหรอกพี่บุญ ลัดดาเคยแอบเข้าไปที่ฟาร์มรักไทที่เจ้าของหวงนักหนามาแล้ว ที่นั่นมีอะไรให้ดูเยอะแยะ”
ชมบุญยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าญาติสาวจะกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ ถึงว่ามาขอร้องให้เธอเข้าไปเจรจา

“ทำไมทำแบบนั้นลัดดา รู้ไหมว่าถ้าคุณไทเขารู้จะไม่พอใจเรามากกว่าเดิม คราวนี้จะเอาหน้าที่ไหนไปมองเขา” ชมบุญเอ็ด มองอีกฝ่ายทำหน้าเบ้ ยักไหล่ “ความจริงยอดแขกที่มาพักในรีสอร์ทขอเรามีมากตามปกติ พี่ไม่เห็นมีลูกค้าคนไหนจะเรียกร้องให้เราพาไปดูฟาร์มมุกสักคน”

ซุ้มลัดดาเคืองใจพาลโกรธไปถึงเจ้าของฟาร์มที่กล้าปฏิเสธ เธอไม่แคร์และไม่สนด้วยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรกับรีสอร์ทซุ้มลัดดา หญิงสาวรู้เพียงอย่างเดียวว่าตั้งแต่เกิดมามีเขาคนเดียวที่กล้าปฏิเสธ

“ตอนพี่บุญกลับมาเขายังอยู่ที่ฟาร์มไหมคะ” ซุ้มลัดดาเอ่ยถาม จ้องมองหญิงตรงหน้าคาดคั้นให้ตอบคำถาม

คนถูกถามถึงกับถอนหายใจในความดื้อดึง สมแล้วที่เป็นลูกสาวคนเล็กและคนเดียวของบ้านดุรงกร ไม่มีอะไรที่อยากได้แล้วจะไม่ได้ ยกเว้นดาวกับเดือน

“พี่ว่าลัดดาคิดโปรเจคใหม่ดีกว่า ทำไมเราไม่ติดต่อชาวบ้านในละแวกนี้มาทำการแสดงรอบกองไฟในคืนสิ้นเดือนให้แขกที่มาพักได้ดูเล่า พี่ว่าน่าสนใจกว่าการชมฟาร์มมุกเป็นไหนๆ”

“พี่บุญบอกมาดีกว่าว่าเขาอยู่ที่ฟาร์มไหม” ซุ้มลัดดาคาดคั้น ไม่สนใจข้อเสนอของญาติสาว “อย่ามาล้มเลิกความตั้งใจของลัดดาเลย ยังไงก็ไม่สำเร็จหรอก”

ชมบุญนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่อยู่ไม่ห่าง พ่นลมหายใจแรงๆ ระบายความรู้สึกอึดอัดออกมา หากเป็นน้องสาวเธอจริงๆ บอกได้คำเดียวว่าจะหาดสักป้าบ แต่นี้เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องทำได้แค่เพียงมองกับถอนหายใจ

“เคยเจอคุณไทเจ้าของฟาร์มตัวเป็นๆ ไหม หรือได้ยินแต่ชื่อเสียง” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนพิงฝาผนัง ส่ายหน้าจึงว่า “ในเมื่อไม่รู้จักเขาทำไมต้องนำความเดือดเนื้อร้อนใจไปให้ ในเมื่อเขาไม่ยินยอมก็ล้มเลิกความตั้งใจเราก็หมดเรื่อง”

ซุ้มลัดดาทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดติติงจากหญิงสาวตรงหน้า ตอนนี้บอกตัวเองคำเดียวว่ายังไงเธอก็ต้องพาแขกของรีสอร์ทไปเที่ยวชมฟาร์มเลี้ยงหอยมุกให้ได้ “พี่บุญอาจพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง เราเอาเงินไปให้เขานะคะไม่ได้เที่ยวดูฟรีๆ”

ชมบุญถอนหายใจ นึกถึงคำพูดของรักไทที่ปฏิเสธแบบสุภาพเมื่อยื่นขอเสนอตามที่ซุ้มลัดดาได้บอกเล่าก่อนเธอจะเดินทางไปหาเขา

“คุณไทบอกว่าเขาไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน แต่ถ้าลัดดาจะลองดูก็ได้เผื่อเขาจะทนความทู้ซีของเราไม่ไหวตกปากรับคำก็ถือว่าฟลุ๊ค”

ซุ้มลัดดามองญาติสาวที่ส่งไปเจรจาสะบัดก้นเดินลงบันไดบ้านพัก อยากกรีดร้องกับคำประชดที่เจ้าหล่อนทิ้งท้าย เธอไม่เคยเห็นนายรักไทตัวเป็นๆ เพราะเคยเห็นจากภาพถ่ายและข้อมูลที่พอจะสืบหามาได้โดยบาลีคนงานในรีสอร์ทที่สามีทำงานอยู่ที่ฟาร์มนั้น
.............................................................................................

หญิงสาวขับรถเข้าไปตามถนนซึ่งมีขนาดเพียงสี่เมตร ด้วยความร้อนใจเธอใช้เวลาในการเดินทางมาที่นี่ไม่ถึงยี่สิบนาที แต่กว่าจะเข้ามาได้เล่นเอาเหนื่อยใจเพราะต้องใจเล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อคนงานที่เฝ้าหน้าประตูว่าวันนี้คุณไทนัดให้มารับสินค้าจึงยอมให้เข้ามา ซุ้มลัดดาลงจากรถเดินตรงไปหาชายสูงวัยที่ใส่เสื้อแขนยาวสีดำและสวมกางเกงวอร์ม หมวกไม้ไผ่สานสีส้มอยู่บนศีรษะซึ่งมีผมสีดอกเลา กำลังเก็บกวาดใบไม้อยู่ข้างทาง

“ลุงจ๊ะ ฉันมาหาคุณไทไม่ทราบว่าจะพบได้ที่ไหน”

“เพิ่งจะเดินผ่านไปเมื่อตะกี้นี้เอง” ชายสูงวัยบอก ชี้มือไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มเดินหายไป “ว่าแต่หนูมีธุระอะไรกับนายหรือเปล่า”

ซุ้มลัดดามองตามทิศทางที่ชายสูงวัยบอก “หนูมีธุระสำคัญค่ะ ว่าแต่จอดรถไว้ตรงนี้ได้ไหมคะ” เมื่อชายสูงวัยบอกว่าจอดได้เขาจะดูแลรถให้ หญิงสาวเอ่ยขอบคุณรีบวิ่งไปตามทางที่เขาชี้ พื้นที่ลดหลั่นสูงต่ำทำให้จังหวะในการวิ่งลำบาก ซุ้มลัดดาตะโกนเรียกเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างที่อยู่ไกล หากเสียงที่แผดออกไปกลับโดนเสียงคลื่นจากทะเลกลบ

หญิงสาวหยุดหอบหายใจเมื่อวิ่งมาหยุดอยู่ใกล้ชายหนุ่มที่สูงราวหกฟุต เขาสวมกางเกงขาสามส่วนซึ่งทำจากผ้าฝ้ายสีกรมท่าตัดกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวสะอาด ดวงตาถูกปิดไว้ด้วยแว่นตากันแดดสีดำ

“คุณเป็นใคร” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงขรึม

ซุ้มลัดดาสูดลมหายใจเข้าปอด ยืดตัวตรงมองตอบเขาทั้งที่ยังเหนื่อยหอบไม่หาย

“ฉันเป็นเจ้าของรีสอร์ทซุ้มลัดดา” หญิงสาวรีบชี้แจง เมื่อเห็นชายหนุ่มหันไปวางตะกร้าไม้ไผ่สานไว้บนเรือไม่สนใจใคร่รู้ต่อ “ฉันอยากคุยกับคุณ ขอเวลาสักห้านาทีได้ไหม”

รักไทยืดตัวตรงยกมือสองข้างเท้าเอว ขาของเขาแช่น้ำอยู่เกือบครึ่งน่อง มองหญิงสาวที่ผมกระเซิงเพราะแรงลมทะเล ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มที่ถูกฉาบไว้ด้วยลิปสติกสีชมพูระเรื่อ เจ้าหล่อนสวมกางเกงยีนสีซีดรับกับเสื้อเชิ้ตพันแขนลายสก็อตสีเทา

“ถ้าจะมาเรื่องเดียวกับคุณชมบุญล่ะก็ ผมยืนยันคำตอบเดิม”

ซุ้มลัดดาสกัดอารมณ์กรุ่นโกรธ เรียกสติที่เหลือเพียงนิดให้กลับมา บอกตัวเองว่าอย่าวู้วามเดี๋ยวจะเสียการ เพราะยอดนักท่องเที่ยวที่มาพักไม่สูงเหมือนเกาะใกล้เคียงทำให้หญิงสาวผุดโปรเจคนี้ขึ้นมาตามคำเสนอแนะของพุดพิชชาซึ่งมีลูกค้ามาพักและใช้บริการสปาเล่าให้ฟัง หญิงสาวจึงได้สืบเสาะและพบว่าบนเกาะเล็ก ๆ ที่มีเนื้อที่เพียงไม่กี่ตารางกิโลเมตรมีฟาร์มเลี้ยงหอยมุกอยู่สองฟาร์มคือฟาร์มศรชัย และฟาร์มรักไท

“พี่บุญอาจอธิบายให้คุณฟังไม่ละเอียด ฉันขอเวลาสักห้านาทีได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนหวาน ส่งสายตาเว้าวอน “แค่เพียงห้านาที มันคงไม่ทำให้คุณเสียเวลาและอีกอย่างคุณจะได้ตัดสินใจอีกครั้ง”

“ขอโทษเถอะคุณผู้หญิง ผมไม่มีเวลาที่จะคุยเรื่องไร้สาระ” รักไทบอกแล้วหันหลังก้าวขึ้นเรือ ไม่สนใจหญิงสาวคู่สนทนาว่าจะมีท่าทีอย่างไร หากเขาต้องเหลียวกลับไปมองเมื่อเจ้าหล่อนกระโดดขึ้นมาบนเรือด้วย
“ฉันจะตามคุณไปทุกที่ จนกว่าคุณจะยอมฟังฉันอธิบาย” หญิงสาวเชิดหน้า มองทิวทัศน์รอบตัว แสร้งบ่นเสียงดัง “ดูสิรองเท้าฉันเปียกหมดเลย ถ้าคุณจะยอมฟังสักนิดรองเท้าฉันคงไม่เปียก”

ชายหนุ่มขับเรือออกจากฝั่งด้วยความรวดเร็ว ไม่ได้ใส่หญิงสาวที่ประกาศก้องว่ามีเขาที่ไหนมีหล่อนที่นั้น วันนี้เขาตั้งใจแล้วว่าจะออกไปว่ายน้ำและปิกนิกเพียงลำพังที่เกาะเล็กๆซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเขาออกไปราวยี่สิบกิโลเมตร ซึ่งเขาค้นพบมันโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน

“คุณจะพาฉันไปไหน” ซุ้มลัดดาถามเสียงหลง แข่งเสียงเรือของเขา ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายเขาทำราวกับว่ามาคนเดียว เธอเป็นเพียงลมฟ้าอากาศเท่านั้น หญิงสาวจึงถือโอกาสสำรวจเขาจากทางด้านหลังอย่างละเอียดอีกครั้ง เขาสูงประมาณหกฟุต สูงกว่าพี่ชายสามคนของเธอ ชายหนุ่มมีผิวสีน้ำตาล แต่ไม่ถึงกับน้ำตาลไหม้ ผมของเขาหยักศกหากถูกตัดเป็นระเบียบ ไม่คิดฝันว่าเรื่องบาลีเล่าให้ฟังจะเกิดขึ้นกับเขา แต่ดูเอาเถิดขนาดพบกันครั้งแรกตั้งแต่เธอมาอยู่ที่เกาะนี้ได้เกือบปีแล้ว เขายังไม่ใส่ใจหรือสนใจจะร่วมธุรกิจด้วยสักนิด

ซุ้มลัดดานั่งนิ่งเพียงไม่นานก็เห็นเกาะเล็กๆ ปรากฏตรงหน้า มันเป็นเกาะที่ดูเล็กมาก ลักษณะของมันคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีหาดทรายสีขาวซ่อนอยู่เพราะอีกด้านมันเป็นผาหินสูงที่มีต้นไม้ขึ้นหนาตาและมองมาจากฝั่งที่รีสอร์ทของเธอตั้งอยู่ไม่เห็นเพราะมันอยู่ด้านฟาร์มเลี้ยงหอยมุกของเขา ถ้าไม่ได้ยินเสียงของเขาร้องเรียกแกมประชดเธอคงมองสำรวจรอบเกาะอยู่อีกเป็นนานสองนาน

“จะนั่งตากแดดเป็นปลาเค็มแดดเดียวหรือ” รักไทร้องถาม เมื่อหญิงสาวที่นั่งมาด้วยเอาแต่มองสำรวจรอบๆ บริเวณ ไม่ใส่ใจว่าเขาจะกระโดดลงเรือหลังจากพามันมายังจุดหมาย “อีกสักพักแดดจะแรง ถ้าอยากเป็นปลาเค็มก็เชิญตามสบาย”

ซุ้มลัดดาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกตามหลังชายหนุ่มซึ่งพูดจาคล้ายมีน้ำใจแต่กลับประชด ใครกันอยากเป็นปลาเค็มแดดเดียว นี่ถ้าไม่ได้ครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสียูวีสูง ๆ เธอก็ไม่กล้าจะออกไปไหนมาไหนนานเหมือนกัน ขนาดมาอยู่ไม่ถึงปีจากผิวขาวเนียนกลับกลายเป็นสีแทน ซึ่งมันกำลังจะแทนขาวก็คือดำเสียมากกว่า

…………………………………………………………………………………
“ฉันไม่คิดว่าการมานอนอาบแดดกินลมชมวิวของคุณจะเป็นเรื่องสลักสำคัญ” ซุ้มลัดดาต่อว่า เมื่อชายหนุ่มจัดการปูเสื่อและวางตะกร้าใส่อาหารไว้ตรงกลางคล้ายแบ่งพื้นที่ว่าเขาอยู่ฝั่งโน้นและเธอได้รับสิทธิ์ให้อยู่อีกฝั่ง “ถ้าเพียงรับฟังขอเสนอและคำอธิบายสักห้านาที ฉันคงไม่มาติดแหงกอยู่นี่ เสียเวลาทำมาหากินกันพอดี”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายนอนเอกเขนกไม่ตอบโต หญิงสาวทำเสียงฮึดฮัดแสดงความไม่สบอารมณ์เหลียวซ้ายแลขวาก็มีแต่ผืนทราย คิดอยากกำทรายที่อยู่นอกผืนเสื่อขว้างใส่เขาแต่มันเป็นเรื่องโง่เขลาเสียจนเธอต้องย่นจมูกใส่ชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่อีกด้าน อยากบีบจมูกโด่งจนเป็นสันให้หลุดติดมือเพราะหมั่นไส้

“ผมมาพักผ่อน ต้องการความสงบ” เขาพูดหน้าตาย “ที่สำคัญผมไม่ได้ขอร้องให้คุณมาด้วยเสียหน่อย”

คำพูดของชายหนุ่มเล่นเอาคนถูกตำหนิตรงๆ หน้าเจื่อน แต่เรื่องอะไรจะมายกให้เป็นความผิดของเธอฝ่ายเดียวเล่าในเมื่อเขาก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกันเพราะถ้าเขายอมรับขอเสนอเรื่องให้คณะนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของรีสอร์ทเข้าเยี่ยมชมการเลี้ยงหอยมุกในฟาร์มเธอก็จะไม่บ้าบิ่นขนาดกระโดดขึ้นเรือตามเขามาหรอก

“ลัดดาต้องขอโทษจริงๆ นะคะถ้าสิ่งที่ลัดดาทำสร้างความไม่พอใจให้คุณ” ซุ้มลัดดาแสร้งพูดเสียงหวานรับผิด ผู้ชายร้อยทั้งร้อยเจอมารยาหญิงหมื่นเล่มเกวียนของเธอไปเสร็จทุกรายดูอย่างพี่ชายสามคนของเธอไม่มีใครคัดค้านความคิดทำรีสอร์ทได้สำเร็จ “ถ้าคุณเอ่อ...คุณไทจะให้โอกาสลัดดาได้เสนอแนะถึงเหตุและผลในการที่ลัดดาขออนุญาตพานักท่องเที่ยวเข้าชมฟาร์มของคุณสักนิด ลัดดาเชื่อว่าคุณต้องเห็นดีเห็นงามไปกับความคิดของลัดดาอย่างแน่นอนค่ะ”

รักไทหัวเราะหึๆ กับคำพูดปั้นแต่งแสร้งหวานของเจ้าหล่อน ถ้าไม่ได้ยินสรรพคุณความดื้อดึงและเอาแต่ใจของเจ้าหล่อนมาก่อนเขาอาจหลงเชื่อเจ้าหล่อน คำก็ลัดดาอย่างโน้นสองคำก็ลัดดาอย่างนี้ผู้หญิงพออยากได้อะไรก็เหมือนกันหมด

“ผมอยากประกอบสัมมาอาชีพอย่างสันโดษ ไม่อยากให้ผู้คนเข้าออกพลุกพล่าน” รักไทชี้แจงปรายตามองผ่านแว่นกันแดดสีดำ เขาเห็นใบหน้าเจ้าหล่อนเริ่มบูดเบี้ยว “เพียงแค่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการคุณลงทุกทำถึงขนาดนี้เลยหรือ ผมชักสงสัยแล้วสิว่าคุณทำอย่างนี้กับผู้ชายทุกคนที่ขัดใจคุณไหม”

“ทำอะไร คุณพูดให้สวยนะ” ซุ้มลัดดาพูดเสียงแหลม ไม่อยากแปลเองทั้งหมด

รักไทลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิหันหน้าไปทางหญิงสาว แรงลมทะเลทำให้ผมด้านข้างของเขาติดศีรษะ ชายหนุ่มขยิ่มยิ้มย้องเมื่อนึกอยากแกล้งหญิงสาวตรงหน้าให้หัวเสีย โชคดีที่ยังมีเจ้าแว่นกันแดดสีดำที่ช่วยอำพรางดวงตาของเขาไม่ให้เจ้าหล่อนเห็นว่ามันไหวระริกเมื่อคิดเรื่องนี้ได้

“คุณคงเสนอตัวให้กับผู้ชายทุกคนถ้าคุณอยากได้ของหรืออยากให้เขาทำอะไรให้”

ซุ้มลัดดารู้สึกชาที่ฝ่ามือข้างขวาหลังจากใช้มันเต็มแรงเกิด เพียงเพราะคำพูดหยามหมิ่นของชายตรงหน้า เธอเริ่มตระหนกเมื่อเห็นเขาผลุงตัวลุกขึ้น ใบหน้าสวยเริ่มซีดปากอิ่มสั่นระริกอยากเอ่ยคำขอโทษแต่เหมือนมีก้อนเนื้อมาติดอยู่ตรงคอ





 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555
0 comments
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2555 17:14:20 น.
Counter : 754 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ริปอง
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ผู้หมั่นเสมอย่อมสำเร็จ

งานเขียนทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีขึ้นในเวบนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของริปองแต่เพียงผู้เดียว ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

Friends' blogs
[Add ริปอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.