|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปล่อยปลา (ตอนแทรก 1)
โดยปกติตอนเป็นโยม ถ้ามีโอกาสไปทำบุญช่วงหลังๆ จะปล่อยปลาพ่วงด้วยเสมอ ปลาที่ปล่อยถ้าเลือกได้จะพยายามเลือกปลาที่ไม่ได้ถูกจับมาเพื่อปล่อย แต่จะเลือกปลาที่กำลังจะขึ้นเขียงถูกเชือดซะมากกว่า ส่วนชนิดของปลาก็มักจะเป็นปลาที่ทนๆ ถึกๆ คิดว่าปล่อยไปแล้วรอดแน่ๆ อย่างเช่น ปลาดุกหรือปลาช่อนและพยายามไปปล่อยในแหล่งน้ำที่คิดว่าน่าจะรอดแน่ๆ หรือไม่มีการตกปลา (ถ้าเลือกได้นะครับ...บางจังหวะมันสุดวิสัยก็คิดว่า อย่างน้อยวันนี้ก็ช่วยท่านพ้นจากเขียงแล้วที่เหลือท่านโปรดดูแลตัวท่านเองนะครับ...เหอะๆๆๆ)
มีพระท่านหนึ่งสอนว่า ตอนปล่อยปลาให้ระลึกในใจว่า วันนี้เราได้มอบชีวิตให้แก่ท่านขอท่านจงรักษาชีวิตของท่านเอง และช่วยนำสิ่งไม่ดีหรืออกุศลต่างๆ ของข้าพเจ้าไปทิ้งในลำธารด้วยเถิด
งงมั๊ยครับ... ทำไมอยู่ดีๆ เล่าเรื่องปล่อยปลาทั้งๆ ที่อยู่ในวัด อีกทั้งบ่อส่วนใหญ่ของวัดก็มีป้ายติดว่าห้ามนำสัตว์น้ำมาปล่อย (เพราะน้ำในบ่อใช้ในการอุปโภคของทางวัด) เคยได้ยิน (ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน) ว่า...มีคนเอาปลามาปล่อยในบ่อที่มีป้ายห้ามปล่อย ท่านอาจารย์ใหญ่สั่งสูบน้ำออกทั้งหมดเพื่อเอาปลาตัวนั้นออก ...เหอะๆๆๆ อีกเรื่องคือ
เคยได้ยิน (ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหนเช่นเคย) ว่ามีพระเอาปลาจากแหล่งอื่นมาปล่อยในบ่อที่มีป้าย จึงถูกทำโทษให้ไปอยู่วัดสาขา 2 เดือน ...เอือก ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดกล้าจะเอาอะไรไปปล่อยในบ่อเหล่านี้ งง...กว่าเดิมมั๊ยครับว่าแล้วอยู่วัดจะเอาปลามาจากไหน...แล้วจะเอาไปปล่อยที่ไหนได้ ตัวผมอยู่วัดก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน จนกระทั่ง...หลังกฐิน ช่วงที่สึกวันแรกน้ำที่เคยเป็นลำธารช่วงหน้าฝนแห้งเกือบทั้งหมด เหลือเป็นแค่แอ่งๆ บนเลน เห็นครูบาบางท่านลงไปจับปลา ทุก 1 สวิงตักหรือ 1 ขันตัก แทบจะเป็นปลาเป็นกุ้งล้วนๆ (คาดว่าน่าจะมาจากแหล่งน้ำอื่นในช่วงหน้าฝน ตัวผมเองก็มีหน้าที่ขนกุ้ง หอย ปู ปลาเหล่านั้นไปปล่อย ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะมีบ่อบ่อหนึ่งที่เขียนไว้ว่าห้ามจับสัตว์น้ำเป็นบ่อที่อยู่ไกลสุด (ค่อนไปทางเจดีย์) ซึ่งได้ยินว่าท่านอาจารย์ใหญ่อนุโลมให้เอาปลาที่อยู่ในสภาพเหล่านี้ไปปล่อยได้
วันแรกที่ไปช่วยจับเป็นแอ่งที่อยู่ใต้สะพานแถวกุฎิ ครูบาท่านลงไปลุยในโคลนแล้วจับขึ้นมา คิดว่าน่าจะได้หลายร้อย หลังจากเคลียร์บ่อนี้ได้ วันถัดมา ผมก็ถามท่านว่า บ่อไหนที่ยังมีปลาค้างอยู่ (พระส่วนใหญ่จะไปช่วยกฐินที่วัดอื่น ถ้าจะลุยคงเหลือไม่กี่คน) ท่านว่ามี แล้วก็ระบุพิกัดมาให้ แต่ผมไปดูยังไงก็หาไม่เจอ จนต้องให้ท่านมาชี้ให้ดู...เหอะๆๆ มองทะลุดงไม้เข้าไปเห็นแสงสะท้อนขึ้นมาจากน้ำ แต่ที่บอกว่ามองเข้าไปน่ะ...อืม...มันผ่านดงหนามเข้าไปเลยนี่นา...ระลึกขึ้นมาได้ว่า ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่า ใจของพระโพธิสัตว์จะห้าวหาญ กล้าแม้กระทั่งฝ่าไฟนรกไปช่วยสรรพสัตว์
เหอะๆๆๆ แต่ผมไม่ใช่ ตัวผมเองไม่ห้าวหาญพอจะฝ่าไปช่วยใคร เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็ยังเอาตัวไม่รอด
มองบ่อนั้นอยู่พักหนึ่งแล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้าอ้อมไปข้างหลัง(แม้จะรกกว่าแต่...) มันน่าจะง่ายกว่า แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ลองเหยียบเลนลงไปดู ขาจมลงไปถึงเข่า+ถ้าฝ่าเข้าไปคงต้องหามีดพร้าเข้าไปถางด้วย ดังนั้นจึง...ถอยดีกว่า ไปตามพี่คนงานที่สร้างกุฎิมาช่วยได้มา 1 ท่าน ท่านลุยเข้าไปดูชำนาญมาก
ผมคิดว่าถ้าให้ผมทำเองคงใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันเต็มๆ กว่าจะเสร็จ แต่พี่ท่านมาช่วยใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็ช่วยชีวิตปลาได้นับพัน อนุโมทนากับพี่คนนั้นจริงๆ กุศลที่ได้ทำ คงทำให้พี่มีอายุยืนยาวอีกทั้งไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน
เขียนมาให้อนุโมทนาครับ (อนุโมทนาคงมีส่วนร่วมในการปล่อยอย่างน้อยก็ร้อยกว่าตัว...อิอิอิ)
Create Date : 26 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 26 ธันวาคม 2553 22:16:10 น. |
|
2 comments
|
Counter : 680 Pageviews. |
|
|
|
โดย: crossbite IP: 115.67.94.37 วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:22:35:01 น. |
|
|
|
โดย: Milky IP: 61.7.184.102 วันที่: 28 ธันวาคม 2553 เวลา:19:50:59 น. |
|
|
|
|
|
|
อย่างงี้น่าจะถือว่ามีส่วนร่วมในการปล่อยเป็นพันเหมือนกัน .....ถือว่าเป็นผู้บงการในการปล่อย....^^
อนุโมทนานะจ๊ะ (คิดแบบนี้ จะได้ๆบุญกันเยอะๆ....อิอิ)
ของเราผ่านมา 1 ปีกับการปล่อยปลาที่โรงพยาบาล...รวดเร็วจริงๆ
ไม่เคยนับว่ากี่ตัว แต่น่าจะเป็นพันชีวิตเหมือนกันม้างงง..........
รู้สึกดีจัง.........^^