ที่เก็บรูปของคนบ้าเที่ยว ...
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
15 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
~~ 10 - 13 กพ. 49 อช.ตะรุเตา คนเดียว แต่เพื่อนเยอะ ~~

ทริปนี้ ผมไปเที่ยวแบบกึ่งคนเดียว เพราะว่า ไปคนเดียว แต่ไปแจมกับเขาไปเรื่อย ทั้งกลุ่มที่รู้จักกันนานแล้ว กลุ่มที่เพิ่งรู้จักในเน็ทก่อนไป และกลุ่มที่ไปรู้จักที่นั่น


เริ่มเดินทางด้วยรถทัวร์ บ.ทรัพย์ไพศาล ชั้นครึ่ง 48 ที่นั่ง สภาพไม่ค่อยดี ดูเก่าหน่อย แถมด้วยกลิ่นจากของที่วางอยู่ใต้รถก็ลอยขึ้นมาด้วย(ประเภทของตากแห้งทั้งหลายนั่นแหละ ทำเอาเซ็งเลย) แต่ราคากลับสูงกว่าที่เคยถามไว้ คือ 691 บาท (ก่อนหน้านี้เพิ่ง 639 เอง)

เดินทางออกจากสายใต้ใหม่เวลา 6 โมง ครึ่งกว่าๆ (เวลา 6 โมง 20 ของคนไทยนั่นแหละ หุหุ) แล้วก็ไปถึง อ.ละงู ประมาณ 8 โมงเช้า ลงที่หน้าวัดอะไรสักอย่าง ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดซื้อตั๋วรถขากลับของทรัพย์ไพศาลนั่นแหละ แวะซื้อตั๋วขากลับก่อนเลยก็ดีนะ
ที่นี่เองผมก็ได้เจอกลุ่ม 12 คน ซึ่งพอกลับจากทริปแล้วแปลกใจที่ กลุ่มนี้ เจอกันตั้งแต่บนรถ ยันกลับกทม. ไปก็ที่เดียวกันหมด แต่ไม่ทำความรู้จักกันเลย ได้คุยกันไม่กี่คำเองด้วย มีแต่ยิ้มให้แล้วก็ทักว่า "อ้าวเจอกันอีกแล้ว" เหอๆ ทำไมหว่า

จากนั้น ผมก็เดินแบกสัมภาระหนักอึ้ง ไปที่วินรถสองแถว บริเวณหน้าตลาด ซึ่งเป็นร้านโรตีอยู่ (ที่จริงก็มีรถสองแถวกระบะสีส้ม ที่ด้านข้างเขียนว่าไปปากบารา ขึ้นไปก็จะมาพักที่วินรถสองแถวนี้ก่อนแหละ
แต่ผมไม่รู้ ก็เลยเดินเอาจนถึงวิน ราวๆ 500 ม. -_- เหนื่อยวุ้ย ) ก็พักทานโรตีกับโอวันติน กาแฟ เป็นอาหารเช้ากันก่อน หรือใครจะเดินเล่นในนั้นหาอะไรทานก็ได้นะ(ไม่ต้องรีบไปหรอกครับ เพราะ เรือออกรอบเร็วสุดก็สิบโมงครึ่ง)

ร้านโรตีจากบนรถสองแถว



หลังจากที่คิดว่า ถึงเวลาอันสมควร (หรือเดินจนเบื่อแล้ว) ก็ขึ้นรถสองแถวนั้นไปที่ท่าเรือปากบารา ค่ารถก็ 15 บาท เท่านั้น กับระยะทางเกือบ 20 กิโล (แต่จริงๆแล้ว ผมมาถึงกินแล้วก็ไปท่าเรือเลย ถึงท่าเรือตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง รอไปสิ เรือเร็วออก 11 โมงครึ่ง เหอๆ)

ออกรถแล้ว ผู้โดยสารแค่ 2 คนเอง


เมื่อถึงท่าเรือแล้ว จะเห็นว่ามีที่ขายตั๋วหลายที่เหลือเกิน แต่ยังไงๆ ที่แนะนำก็คือเรือเร็ว เท่านั้น เพราะราคา 1000 บาท แพงกว่าเรือช้าแค่ 100 เดียว แต่ไวกว่าเยอะ (ออกช้ากว่า 1 ชม. แต่ไปถึงก่อน ครึ่ง ชม.) ซึ่งก็มีอยู่เจ้าเดียว คือของ บริษัท ตะรุเตา สปีดโบ้ท เฟอร์รี่ทีม ดูรายละเอียดได้ที่ //www.tarutaospeedboat.com/ (แต่เวลาออกไม่ตรงนะ) จะโทรไปลงชื่อจองก่อนแบบผม หรือว่าไปถึงแล้วซื้อเลยก็ได้ ที่ขายก็อยู่ตรงหน้าทางขึ้นเรือเลย เห็นได้ง่าย

ตั๋วจะแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ปากบารา - ตะรุเตา , ตะรุเตา - หลีเป๊ะ , หลีเป๊ะ - ตะรุเตา , ตะรุเตา - ปากบารา ไปแค่ไหนเขาก็จะฉีกไปแค่นั้น

เวลาเยอะครับ ถ่ายไปเรื่อย นกนางแอ่น


นกที่เขาเลี้ยงไว้ เอามุมมองแบบดูต้องการอิสระซะหน่อย กะว่าจะให้สะท้อนใจอ่ะ รู้สึกกันไหมเนี่ย หืมมมมม


พอถึงเวลาใกล้ๆ 11:30 น. ผมก็หาอะไรกินเป็นมื้อเที่ยงซะก่อนเลย ที่ท่าเรือตรงที่นั่งรอนั่นแหละ มีอาหารตามสั่งราคาจานละ 30 ก๋วยเตี๋ยวชามละ 25 ร้านนี้ลุงเจ้าของร้านแกคุยเป็นกันเองดี กินอิ่มแล้วก็ซื้อน้ำขวดถุงละ 6 ขวด 20 บาท จากร้านตรงนั้น จะได้เอาไว้กินบนเกาะ จะได้ไม่ต้องซื้อน้ำแพงๆ บนเกาะ (กระป๋องละ 20 น้ำเปล่า 1.5 ลิตร 20 บาท) แล้วก็ขนของขึ้นเรือ

สำหรับเรือเร็วนี้จะมีอยู่ 2 ลำ คือ สตูล1 และ Tiger1 แต่เลือกลำไม่ได้นะ

ถ้าได้ สตูล1 ก็ถือว่าดีมา เพราะเร็วกว่า Tiger1 พอสมควร

แต่ถ้าได้ Tiger1 นอกจากจะช้ากว่า สตูล1 แล้ว แถมถ้าวิ่งย้อนลม คนที่อยู่บนดาดฟ้าก็ต้องระวังหน่อย เพราะอาจจะได้อาบน้ำโดยไม่เต็มใจได้ เนื่องจากละอองน้ำเยอะมากๆ (ผมโดนตอนขากลับ ต้องรีบไปมุดใต้ครีบด้านหน้า นั่งกอดเข่ายังกะขอทานหลบฝนใต้สะพานลอยแน่ะ -_- ... แต่อย่าหวังว่าจะหลบพ้นนะ เพราะน้ำมันจะไหลมาตามครีบแล้วลงพื้นกระเด็นขึ้นมาโดนอยู่ดี เวรกรรม... )

สตูล1 เอาถังมายืนยัน


เด็กฝรั่ง น่ารักดี ผมรักเด็กนะครับ เหอๆ


เรือจะใช้เวลาวิ่งประมาณ ครึ่ง ชม. ก็จะมาถึงเกาะตะรุเตา แล้วจะมีเรือหางยาวออกมาถ่ายคน ขี้น - ลง เรือ ซึ่งคนที่จะลงตะรุเตา ก็ต้องเสียเงินให้เรือหางยาวนี้อีก เที่ยวละ 20 บาท ต่อคน

เมื่อถ่ายคนเรียบร้อย เรือก็จะเดินทางต่อไปหลีเป๊ะ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชม. โดยจะผ่านเกาะกลางแบบลิบๆ แล้วเรือก็จะไปจอดบริเวณหน้าหาดพัทยา แล้วก็จะมีเรือหางยาวมารับเช่นกัน ลงลำไหนก็ได้ แล้วบอกให้ไปส่งที่ๆ เราต้องการ ค่าบริการก็ 40 บาทตลอดสาย (ตอนผมลง เสียเวลาตรงนี้มาก อย่างเซ็งเลย เพราะแวะไปส่งฝรั่งบนเกาะหลีเป๊ะ 5 - 6 จุดก่อน กว่าจะได้ไปอาดัง แถมบางจุด มันก็หาดเดียวกันแหละ แต่กลัวฝรั่งไปไม่ถูก เรือก็เลยต้องแล่นออกมาน้ำลึก แล้วก็อ้อมฝ่ากองปะการัง เข้าไปใหม่เมื่อมาถึงจุดส่ง หาดเดียวกันนั่นแหละ -_-
ดังนั้นแนะว่าหาลงเรือลำเดียวกับพวกกลุ่มใหญ่ๆ จะได้ไปส่งน้อยจุด จะได้ไม่ต้องมาน่งบ่นแบบผม )

หาดหลีเป๊ะ เห็นแค่นี้จะนึกไรออกไหมนี่ หุหุ


หลังจากเรือมาส่งถึงเกาะอาดังแล้ว ผมก็เข้า Check in ที่ประชาสัมพันธ์ โดยเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 20 บาท แล้วก็สามารถลงชื่อจองโปรแกรมเหมาเรือออกดำน้ำได้เลย จุดนี้ก็มาเจอกลุ่ม 12 คนอีกแล้ว เขามาเรือช้า แต่ดันมาถึงก่อน (ก็เพราะไม่ต้องแวะส่งคนเยอะแบบผมไง)
โปรแกรมดำน้ำก็จะมีอยู่ 4 โปรแกรมคือ

1. 1000 บาท ไปไม่กี่จุด จำไม่ได้
2. 1800 บาท ไปราวๆ 7 จุด รอบๆ เกาะอาดัง - ราวี
3. 2000 บาท ไปแค่ 3-4 จุด แต่ไปถึงเกาะกลาง เกาะไข่ (วันไหนลมแรงก็ไปไม่ได้นะ)
4. Package 2 วัน 2500 บาท ไปรอบๆ เกาะครบทุกจุด แต่ไม่ได้ไปเกาะกลางและเกาะไข่

เรือรับได้ 8 คน ก็หารกันเอาเองว่าคนละเท่าไหร่ ไม่เต็มก็ดูคนที่มาลงชื่อได้ อาจจะจัดลงเรือลำเดียวกันได้
ผมก็ลงชื่อว่าจะแจมกับเขาแหละ (แต่เอาจริงๆ ก็หนีไปแจมขึ้นเรือใหญ่ ที่เพื่อนอีกกลุ่มในเวป Ontotour เขาไปกัน หุหุ)

ลงชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปหาทางกางเต๊นท์ ที่เกาะอาดังนี้ กางได้ตลอดแนวหาดเลย ไม่ได้แบ่งเขตอะไร ผมก็เลือกไปกางแถวๆ ในป่าสนทางทิศตะวันออก เพราะเห็นว่าลมแรงดี

แต่พอกางเสร็จ ไปเดินเล่นเดี๋ยวเดียว กลับมาก็พบว่าเต๊นท์หกคะเมนไปซะแล้ว จากแรงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่ทั้งถ่วงน้ำหนักและปักสมอไว้อย่างดี ก็เลยต้องย้ายเข้ามาในป่าสน ลมเบาลงหน่อย แต่ก็ยังแรงพอที่จะพัดให้เย็นสบายในเวลากลางคืนได้ (เพื่อนที่พักบ้านพักทางหาดตะวันตกบ่นร้อนกันอุบเลย หุหุ)


กางเต๊นท์แบบนี้แหละ อยู่ได้ไม่นานก็คว่ำ ต้องหนีไปอยู่ในป่านู่นแน่ะ


หน้าหาดทางตะวันออกของอาดัง


พอเวลาเย็นๆ ใกล้เวลากินข้าวผมก็ไปสั่งอาหารไว้ก่อน ถึงเวลาจะกินจะได้ไม่ต้องรอนาน อาหารที่นี่ราคาก็แพงไม่มาก อาหารจานเดียวตามสั่งเมนูสิ้นคิดก็จะอยู่ที่ 45 บาท (ผมกินแบบนี้ทุกมื้อแหละ ประหยัดสุด เหอๆ)
แต่ถ้าเป็นเซ็ท มื้อเช้าก็ 50 บาท มื้อเที่ยงกับเย็นจำไม่ได้ น่าจะราวๆ 100 บาท แต่ต้อง 4 คนขึ้นไปด้วย พวกนี้ก็จะมีพวกปลาทอดเป็นตัวๆ ให้ด้วย
หลังสั่งอาหารแล้ว ใครจะฆ่าเวลาโดยเดินขึ้นผาชะโดไปดูอาทิตย์ตกวิวมุมสูงก็ดี(แต่ไม่รับประกันว่าเห็นนะ เพราะผมขึ้นตอนเช้าน่ะ แต่คิดว่าตอนเย็นก็อาจจะเห็น) ใช้เวลา ขึ้น - ลง และชมวิว ประมาณ ชม.กว่าๆ ถึงชม.ครึ่ง ยังไงก็เตรียมไฟฉายไปด้วยก็ดี เพราะอาทิตย์ตกแล้วลงมาก็คงมืด


น้ำทะเลใสเชียว แต่หาดไม่ขาวเท่าไหร่ หยาบอีกต่างหาก


วันรุ่งขึ้น ผมก็ไปดำน้ำกับเรือใหญ่ เรื่องอาหารกลางวัน มีสองทางคือ สั่งหิ้วไปตั้งแต่บนฝั่ง หรือไปสั่งกินบนเกาะราวี ถ้าคนเยอะ แนะนำว่าหิ้วไปเองดีกว่า (แต่ผมกินฟรีบนเรือใหญ่ที่เพื่อนเหมาไปนั่นแหละ หุหุ)

จุดแรกของการดำน้ำที่อยากให้ไปก่อนคือ ร่องน้ำจาบัง ไปเพื่อดูว่าน้ำแรงไหม ถ้าแรงก็ค่อยกลับมาเป็นจุดสุดท้ายอีกรอบ ซึ่งยังไงก่อนออกดำน้ำ ลองถาม จนท. ดูว่าจะมีเชือกให้เกาะไหม (ผมไปกับเรือใหญ่ของเพื่อน ก็เลยมีเชือกให้เกาะ ไม่งั้นโดนพัดปลิวแน่ เพราะน้ำแรงมากๆ)

เรือลำนี้แหละ ที่ผมเกาะไปดำน้ำด้วย


เก็บวิวริมทางไปเรื่อย


หาดทรายขาว เกาะราวี


ถ่ายไปสิขอนไม้เนี่ย ถ่ายจนตอมันอยากจะวิ่งหนีกล้องแล้ว


น้ำใสจนเห็นก้อนปะการังชัดเชียว


เจอไม้เป็นไม่ได้ ก็งี้แหละคนโสดครับ ไม่มีนางแบบ หาอะไรอยู่ที่หาดก็ถ่ายไว้ก่อน


เห็นไหม กับหมาก็ยังไม่เว้น


มันนอนอยู่ก็ยังจะไปถ่าย


มาถึงเกาะหินงาม


ต้องขอบคุณ Filter ND ครึ่งซีก ที่ช่วยทำให้ฟ้าไม่ขาว อิอิ ของเล่นใหม่ครับ ฝีมือไม่มีก็เอาอาวุธเข้าช่วย


เงาผู้สูงอายุจากเวป Ontotour


วันต่อมา ผมจะไปต่อที่ตะรุเตา ช่วงเช้าหลังกินมื้อเช้า ผมก็ขึ้นผาชะโด แล้วก็กลับลงมาเก็บข้าวของแล้วไป Check Out จ่ายค่ากางเต๊นท์คืนละ 30 บาท แล้วไปเดินเล่นรอเวลาขึ้นเรือหางยาวตอน 9 โมงครึ่ง (เสียอีก 40 บาท) เพื่อจะขึ้นเรือใหญ่ให้ทันออกตอน 10 โมงเช้า
นั่งกลับไปตะรุเตา 1 ชม. แล้วก็ต่อเรือหางยาวไปลงที่ท่าเรือเกาะตะรุเตา (เสียอีก 20 บาท) แล้วก็ไป Check in ที่ท่าเรือ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 20 บาท เพราะเราเสียไปที่อาดังแล้ว
พร้อมกันนั้นก็ถามทาง จนท.เลยว่า มีใครเหมารถไปอ่าวตะโล๊ะวาวกับอ่าวสนหรือเหมาเรือไปถ้ำจรเข้ไหม (ตอนผมไปเจออีกกลุ่มกำลังหาคนแชร์เหมารถรอบเที่ยงครึ่งพอดี เลยได้แจมแบบต้องรีบไปกางเต๊นท์) จากนั้นก็ไปหาที่กางเต๊นท์ ตามแนวหน้าชายหาด (ชอบที่กางเต๊นท์ที่นี่มาก เพราะทำเลดีมาก มีโต๊ะให้ด้วย)

ผาชะโด2 จุดสูงสุด แต่ไม่สวยสุด


ผาชะโดข้างล่างลงมาหน่อย สวยกว่าเพราะเห็นหาด



กลับมาที่หน้าหาดด้านล่างระหว่างรอขึ้นเรือ


เกาะหลีเป๊ะ โดยมีเกาะอาดังเป็นฉากหลัง ดูสิ ตอนจะกลับ ฟ้าใสเชียว


พอผมกางเต๊นท์เสร็จก็รีบไปรอขึ้นรถที่นัดไปด้วยกันตอนเที่ยงครึ่ง แล้วรถก็มาตอนบ่าย (อ่าว ก็เที่ยงครึ่งของคนไทยนี่ หุหุ) แล้วก็ไปอ่าวตะโล๊ะวาวกัน แล้วก็เดินเส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์คุกตะรุเตาโดยมีไกด์ช่วยบรรยายให้อย่าดีด้วย(อย่าถามชื่อผมนะ เพราะไม่เคยจำได้เลย เหอๆ) แล้วก็ไปอ่าวสน แล้วก็แวะอ่าวเมาะแล๊ะ ที่มีบ้านพักสวยๆ แต่โทรมๆ ก่อนจะกลับมาถึงที่ทำการตอน 5 โมงกว่าๆ

ถนนระหว่างไปอ่าวตะโล๊ะวาว


อ่าวตะโล๊ะวาว


อ่าวตะโล๊ะวาว มุมใกล้หน่อย


ข้างกลังก็ยังจะไปถ่ายมันอีก


ใต้ท่าเรือ ดูแล้วขนลุกวุ้ย เพรียงเกาะหนาตึ๊บ


ได้เวลาเข้าคุกซะแล้ว ดูแผนที่กันก่อน


ท่าเรือ เขาว่าเมื่อก่อนมันยาวกว่านี้ แต่พังไปแล้วทำใหม่แค่นี้พอ


ตึกแดง เขาก็ว่าสร้างผิดแบบ อยากรู้ หาเอาเอง


โฟกัสพลาดอ่ะ จะให้ดูว่าอิฐมาจาก บบท. แปลว่า บางบัวทองเลยนะเนี่ย จริงๆ อันนี้ซีเรียส ไม่ได้มุกนะเอ้อ


กลับมาที่อ่าวตะโล๊ะวาวอีกรอบก่อนจาก


เจ้านี่ชื่อปีโป้ ไม่สู้กล้องเลย จะถ่ายเป็นเดินหนี


มาถึงอ่าวสน


ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่


เจองูด้วย ในที่สุด เจ้าตัวที่อยู่บนหัวผมก็มีเพื่อน เอิ๊กๆ


อ่าวเมาะและ


หาดหน้าอ่าวเมาะและ เงียบ สงบดีจริงๆ


บ้านพักดูหรูดีไหมครับ


มุมบนเหล่าเต๊ง สวยไหม (แต่ตอนขึ้นลงดูบันไดดีๆ นะครับ มันผุแล้ว)


เล่นมั่ว WB ซะหน่อย ไม่มีอะไรเล่น เพราะตอไม้ก็ไม่มี 555+


กลับมาแล้วก็ไปอาบน้ำซะหน่อย แล้วก็เดินริมหาดกะว่าหาวิวถ่ายประภาคารสวยๆ มองไปเรื่อยๆว่าจะไปจุดไหนดี ก็ไปสังเกตุเห็นขาตั้งกล้องมากมาย กองอยู่กระจุกเดียวกัน
ที่แท้ก็เพื่อนๆ จากเวป pai-pa.com ที่ผมทำความรู้จักไว้ในเวปก่อนมานั่นเอง (จริงๆ เจอกันก่อนหน้านี้แล้ว แต่ขี้เกียจเล่าวุ้ย ตู๊ว่าเพิ่งเจอแล้วกันนะ หุหุ) ก็เลยเข้าไปแจมถ่ายกับเขาด้วยเลย

ชุดนี้เป็นประภาคารทั้งน๊านน ดูไปเรื่อยๆ นะ








หาแบบนี้ตั้งนานไม่เจอ มาเจอเอาตอนขากับ ตั้งขาตั้งแทบไม่ทัน เห็นแล้วอิจฉาวุ้ย





หลังจากถ่ายจนพอใจแล้ว(จริงๆ ยังไม่พอใจหรอก แต่แสงมันหมดแล้วอ่ะ) ก็ไปเตรียมกินข้าว

ที่ร้านอาหารที่นี่ราคาก็ไม่หนีจากอาดังมากนัก ส่วนใหญ่จะพอๆ กัน (ผมกินแต่อาหารสิ้นคิดอ่ะ ราคาเท่ากัน เลยไม่ได้สังเกตุอย่างอื่น แหะๆ แต่เขาว่าแพงกว่าอาดังนิดหน่อย แต่เมนูสิ้นคิดก็มีข้าวผัดอเมริกันเพิ่มขึ้นมานะ ที่อาดังไม่มี แถมแค่ 50 บาทเองด้วย )

สรุปง่ายๆ กิจกรรมบนเกาะตะรุเตาก็จะมี
- เหมารถ ราคา 600 บาท ไปอ่าวตะโล๊ะวาว เพื่อชมวิวท่าเรือสวยๆ แล้วเดินเส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์คุกตะรุเตา และไปอ่าวสน และอาจจะแวะอ่าวเมาะและ (เหมารถนี้ ถ้าช่วงอากาศปลอดโปร่งไม่มีมรสุม แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้ามืด เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่าวตะโล๊ะวาว ซึ่งเขาว่าสวยมากๆ แต่ผมไม่ได้ไปเพราะช่วงมรสุมเข้าพอดี เมฆเลยเยอะ) ใช้เวลาประมาณ 5 ชม.
- เหมาเรือ ราคา 800 บาท(มั้ง เพราะไม่ได้ไปอีกแล้ว) เพื่อไปถ้ำจรเข้ อันนี้ถามคนที่ไปมา ต่างก็บอกว่า..... ไม่มีอะไรเลย -_- แต่ถ้าเวลาเหลือและคนแชร์เยอะก็น่าไปดูซะหน่อย ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. มีเหมาเรือไปที่อื่นด้วยนะ ราคาก็แตกต่างกันไป ต้องถามจนท. ดูเองนะ
- เดินขึ้นจุดชมวิวผาโต๊ะบู ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. แบบชิวๆ แนะนำให้ขึ้นตอนอาทิตย์ตกดินก็คงสวยใช้ได้ (แต่ผมก็ขึ้นตอนเช้า แหะๆ)
- ชมการบรรยาย ตอน 2 ทุ่มครึ่ง ไม่รู้ว่ามีวันไหนบ้าง สอบถามจนท. ดูเอง รู้แต่ผมไม่ได้ดูอีกแล้ว มุดเต๊นท์ตั้งแต่ 2 ทุ่ม อิอิ

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็ตื่นตั้งแต่ 6 โมง แล้วก็ขึ้นไปที่ผาโต๊ะบู .... ไม่เห็นอาทิตย์ขึ้นหรอก แต่ก็อากาศดีใช้ได้ แล้วก็ลงมาเก็บของไป Check out ที่ท่าเรือ ราวๆ 10 โมงครึ่ง เพื่อเตรียมขึ้นเรือตอน 11 โมง (เวลาคนไทย ตอนผมมาจริง เที่ยง เหอๆ) จ่ายค่าที่พัก ก็คืนละ 30 บาทเช่นกัน


ผาโต๊ะบู






ในเต๊นท์ ดูแล้วหดหู่วุ้ย


ออกมาข้างนอกก็เหงาๆ


ปากอ่าวพันเตมาละกา (โอ้ เพิ่งนึกชื่ออกตอนจะจบนะเนี่ย -_-)


พระบรมรูป ร.5


เก็บนกนางแอ่น รอเวลาขึ้นเรือ


ไม่วายเก็บประภาคารอีก


เก็บไปเรื่อย ว่างจัด


เจอขอนไม้อีกแล้ว ตั้งชื่อมันซะเลย "ขอนไม้ที่ว่างเปล่า" อิอิ


เมื่อถึงเวลาก็ขึ้นเรือหางยาวไปขึ้นเรือใหญ่(จ่ายอีก 20 บาท) แล้วก็กลับถึงฝั่ง กินมื้อเที่ยงที่ร้านลุงตรงท่าเรือ แล้วเดินไปขึ้นรถสองแถวกลับไปในเมือง ลงที่หน้าที่ซื้อตั๋วขากลับ เวลาเหลือเยอะ ก็เลยไปเดินตลาดในเมืองเล่นก่อน (ไม่รู้เค้ารับฝากของหรือเปล่านะ ถ้าไม่มีก็อาจต้องแบกไปด้วย แต่ผมแจมอยู่กับกลุ่ม pai-pa เลยมีคนเฝ้าให้ หุหุ ) พอถึงเวลาขึ้นรถ ( 3 โมง 45 ) ก็ขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ ถึงก็ราวๆ ตี 5 กลับบ้านอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวทำงานต่อพอดี ( โอ้...ชีวิต หุหุ )


อะไรมันจะดึงดูดปานนั้น ไอ้ประภาคารเนี่ย


คนขับเรือกำลังรอเรือใหญ่


เบ็ดเสร็จ สำหรับผม ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ราวๆ 37xx บาท แพงกว่าที่คาดไว้ที่ 3300 บาท ก็เพราะ ของฝาก ของที่ระลึก และน้ำกระป๋อง ที่เหนื่อยก็เป็นดื่ม (ป๋องละ 20 บาท)
เป็น


ค่ารถทัวร์ ขาไป 691
ค่ารถทัวร์ ขากลับ 639 (เพราะของคนอื่นซื้อไว้ก่อนผม)
ค่าเรือ 1000
ค่ารถสองแถว 15 x 2 = 30
ค่าเรือหางยาว ( 40 x 2 ) + ( 20 x 2 ) = 120
ค่าอาหาร 11 มื้อ ( 20 + 30 + 45 ) + ( 45 + 45 + 45 ) + ( 45 + 45 + 45 ) + ( 45 + 30 ) = 440
ค่าดำน้ำ โปรแกรม 2 1800 บาท หาร 8 คน = 225
ค่าเหมารถบนเกาะตะรุเตา 600 บาท 10 คน = 60 บาท
ค่าเหมาเรือไปถ้ำจรเข้ .... ไม่ได้ไปอ่ะ
ค่าของที่ระลึก ... แล้วแต่ จำไม่ได้
ค่าน้ำ + ขนม ... แล้วแต่ จำไม่ได้


จบแล้ว


ปล. ใครจะไปหลีเป๊ะ ไปหาอ่านของคนอื่น ทริปนี้ ไปแค่นี้ ก็รู้แค่นี้แหละ เหอๆ แต่ก็น่าไปนะ หาดสวย อาหารน่าอร่อย แต่งบสูงเท่านั้นเอง







Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:33:33 น. 26 comments
Counter : 2614 Pageviews.

 
ดูเหงาๆ เน๊อะ.......


โดย: Power puff girl (PPG-Power puff girl ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:37:46 น.  

 
เฮ้อ ก้อน้องเค้าไม่ยอมหาแฟน แล้วพาแฟนไปนิ เลยดูเหงาๆ


โดย: dr_beem IP: 203.113.16.250 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:22:11 น.  

 
แซวเพลินจนลืมบอกว่า ถ่ายได้สวยมาก มืออาชีพจริงๆเล้ยยย


โดย: dr_beem IP: 203.113.16.250 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:32:56 น.  

 
อาชีพอะไร.... ผมว่ากรรมกรนะ เหอๆ

ถ้ามีแฟนแล้วพาแฟนไป ก็ไม่ต้องหวังว่าจะได้ดูวิวหรอกครับ จะถ่ายแต่แฟนอ่ะ เอิ๊กๆ

เหงาอาราย เจ๊เหมียวคิดไปเอง
ใช่ว่าไปกัน เป็นสิบแล้วจะไม่เหงา


มีเพื่อนเป็นร้อย ก็เหงาได้ ถ้าไม่มีคนรู้ใจ
บางทีแบบนั้น อยู่คนเดียวก็ดีกว่า

จริงป่ะ


โดย: Redrum(ขี้เกียจโลจิ้น) IP: 203.113.37.8 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:16:12 น.  

 
Wow!!! that's a great place to visit, also your photos is very very beautiful ......


โดย: Numphung IP: 58.9.30.93 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:21:58 น.  

 
ได้รับรูปแล้ว ขอบใจมั่กๆๆ แวะมาดู ถ่ายรูปสวยนิ เสียดายจัง รูปที่ถ่ายประภาคาร ขาดหน้าพี่อ่ะ อิอิ


โดย: พี่หน่อย IP: 203.155.153.110 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:7:48:53 น.  

 
โอว!!! โพสได้สมบูรณ์มากคับ คุณ Redrum รูปสวยๆเยอะดี เจ๋ง ๆ ๆ ชื่นชม ๆ ๆ

เหมือนผมหล่ะคับ บางทีชอบเที่ยวคนเดียว มันอิสระมาก ถึงจะเหงา ก็มีความเหงาเป็นเพื่อนที่ไม่เคยหลอกเราเลยซักครั้ง เพราะไอ้ความเหงามันเป็นความจริงที่เจอกันอยู่ประจำหล่ะคับ หึ หึ หึ หึ หึ


โดย: Ozzy IP: 202.12.118.36 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:54:10 น.  

 
ไม่ชวนน้อง P ไปด้วยล่ะ !!


โดย: สวยสะพรึง IP: 58.136.98.249 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:30:07 น.  

 
ถ่ายรูปสวยดีค่ะ เห็นแล้วอยากไปบ้างค่ะ


โดย: Digimon IP: 202.32.8.241 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:34:36 น.  

 
ง่า เม้น 8 นี่ใครหว่า ขุดอดีตขึ้นมาแซวเชียว -_-


โดย: Redrum(ไม่ log) IP: 203.153.160.35 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:8:54:07 น.  

 
สวยมากๆอยากไปจัง


โดย: nat IP: 58.10.195.185 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:59:52 น.  

 
แวะมาชมค่า
เพราะเป็นที่ที่อยากไปมั่กๆ
แต่ยังหาคนไปด้วยไม่ได้
(เค้าติดงานกันหมด มีเราว่างอยู่คนเดียว)

จะไปคนเดียวก็ไม่กล้า เลยต้องมาแอบดูคนอื่นไปพลางๆ


โดย: ๑๙ กุมภาฯ IP: 61.91.116.13 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:00:22 น.  

 
แวะมาเก็บข้อมูลน่ะจ้า...คาดว่าจะไปเหมือนกัน...


โดย: กิ๊วก๊าวเกิร์ล IP: 61.91.112.248 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:45:43 น.  

 
แวะมาชมภาพทะเลอันดามันค่ะ อยากไปเกาะตะรุเตา แต่ไปไม่เคยถึงซะที ถ่ายรูปสวยจังเลยนะคะ นับถือ นับถือ อยากถ่ายได้สวยแบบนี้บ้างจัง กำลังฝึกปรือฝีมืออยู่ค่ะ แต่ยังห่างไกลคุณ Redrum อีกหลายขุม


โดย: เพื่อนร่วมทาง IP: 58.11.96.246 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:10:58:18 น.  

 
นานๆไปเที่ยวคนเดียวดีออก
ได้มีเวลาคิด คิด คิด แต่อย่าคิดมากเกินไปละกัน

ถ่ายรูปสวยดีจัง
แต่เราว่าคุณถ่ายรูปสาวๆสวยกว่านี้เยอะมาก
จริงๆนะ ไม่ได้โม้

คอเลคชั่นนี้ ซ่อนอารมณ์เหงาไว้ไม่อยู่จริงๆ
คราวหน้าคราวหลังก็ชวนสาวๆไปด้วยสิจ๊ะ
เราจะได้ดูรูปสาวๆอินบิกินี่ให้เป็นบุญตาด้วยอ่ะ


โดย: tabibito no ki IP: 61.91.204.28 วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:19:06:49 น.  

 
มาดูรูปของ Redrum แล้ว มีหลายมุมเลยที่เหมือนๆ กัน อย่างที่คุณว่านั่นล่ะครับ


โดย: kaazanova วันที่: 7 มีนาคม 2549 เวลา:17:56:14 น.  

 
ขอบคุณมากๆ ที่ส่งรูปมาให้ รูปสวยๆ ทุกรูปเลย ฝีมือระดับpro แถมยังมีเกล็ดความรู้ที่น่าสนใจ หัวงว่าคงได้พบกันในtripหน้า


โดย: kran IP: 202.143.155.62 วันที่: 12 มีนาคม 2549 เวลา:16:20:19 น.  

 
ภาพสวยงามมากครับ ความทรงจำของผม เกี่ยวกับ ตะรุเตา นี่ คือ เหตุการณ์เมื่อปี ๒๕๓๒ นานแล้วครับ ที่เคยไป ... ท่านเจ้าของบล๊อก คงยังเด็กอยู่ .... แต่สภาพ ความงาม ยังไม่แตกต่างกันเลยครับ แสดงว่าเขารักษาสภาพแวดล้อมไว้อย่างดีครับ ... ขอบคุณ สำหรับการนำภาพงาม ๆ มาแสดงให้ดูครับ


โดย: POL_US วันที่: 14 มีนาคม 2549 เวลา:4:57:29 น.  

 
ตาแฉะๆๆๆๆๆๆสวยยยยยจังงง....


โดย: นู๋ผีสีขาว วันที่: 26 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:31:48 น.  

 
เราซื้อตั๋วเครื่องบินไปลงหาดใหญ่แล้ว ว่าจะไป อาดัง-ราวี เลยเข้ามาอ่านดู ขอบคุณนะคะสำหรับที่ให้ข้อมูลเอาไว้ เราไป 2 คนกับแฟนนะ คงไม่เหงาเหมือน คุณ Redrum ขอให้หายเหงา เร็ว ๆ นะ


โดย: Cherie IP: 125.24.237.38 วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:12:52:05 น.  

 
...เพิ่งไปเมื่อ เมย.49 อาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ ตะรุเตา...แค่แวะดู ไปดำน้ำทุกวันเหมือนกัน ตัวดำปิ๊ดปี๋เลยแหล่ะ แต่หนุกดี ชอบๆ...

...คิดถึงทะเลเหมือนกัน ว่าจะไปสิมิลันช่วงปีใหม่ แจมเขาไปเหมือนเคย ไม่รู้จะได้ไปหรือเปล่า ไม่ได้ตามข่าวนานเลย ก็ไปคนเดียวเหมือนเดิม ไม่มี ผบ. และไม่ได้เป็น ผบ. เหมือนเคย แต่คงไม่เหงา เพราะม่ายช่าย "คนขี้เหงา"...

....ส่วนหนุ่ม ต่อไปคงไม่เหงา เพราะมี ผบ. ไปคุมทริปแย๊ว...ฮา..............


โดย: พี่เอ๊ะเองแหล่ะ...อิอิอิ IP: 203.149.16.34 วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:17:34:48 น.  

 
อยากไปแต่ไปม่ายด้ายอ่ะ ^^' เสียดายจัง

ปล.
ถ้ามีแฟนไป จะถ่ายแต่แฟน

อ่านแล้วขำกลิ้งงงงงงง ....



โดย: ศิรินภา ทริปทุ่งดอกกระเจียว IP: 58.8.161.186 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:13:13 น.  

 
ขออนุญาตแอดบล็อคเด้อ
สนใจไป count down ที่ตะรุเตาอ่ะค่ะ



โดย: Ning_999 วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:17:19:05 น.  

 
เห็นสวยๆ อย่างนี้ อยากไปด้วยจังค่ะ ถ้าไปปีใหม่ม่ได้ เลื่อนไปสงกรานต์ปี 50 จะตามไปแจมด้วยนะคะ


โดย: P'Puu ^o* IP: 202.28.121.131 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:15:47:07 น.  

 
ลงชื่อด้วยคนครับ สวยจริงๆ ดูปีอีกที อ้าว ปีที่แล้วนี่


โดย: athlons IP: 203.144.210.219 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:40:02 น.  

 
จะไปประมาณกลางเดือนมีนาค่
ขอบคุณนะคะที่ให้ภาพสวยๆ ไว้ดูเล่นเพลินๆก่อน


โดย: แมงเม่า IP: 210.246.159.1 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:58:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Redrum
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สาวกแป้นแตก


Friends' blogs
[Add Redrum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.