สวัสดีครับทุกคน
วันนี้กลับมาเรื่อง Skin Care กันบ้าง โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งครับ
เห็นชื่อ Blackmores ( แบลคมอร์ส ) แบบนี้หลาย ๆ คิดว่าคนต้องคุ้นเคยกันอยู่แล้วล่ะ
แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่างเช่นพวกวิตามินต่าง ๆ มากกว่า
ตอนนี้แบรนด์เขาออกผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวออกมาแล้วครับ
เห็นแล้วก็น่าสนใจมากเลย เดี๋ยวมาดูกันดีกว่าว่าเขามีอะไรบ้าง
ที่มีวันนี้คือ Blackmores Natural Vitamin E Cream
( แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี )
ครีมครีมบำรุงผิวหน้า ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี
วิตามินอีเนี่ย สกินแคร์หลาย ๆ ตัวจะมีใส่เอาไว้ เพราะว่าเขาเป็นตัวช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์
ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น แล้วก็บรรเทาอาการไหม้ของผิวที่เกิดจากแดดด้วย
มีทั้งหมด 4 ตัว
Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Barrier
Blackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Bright
Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Barrier
แพ็กเกจพกพาง่าย กดเนื้อครีมออกมาง่าย
เนื้อครีม สีครีมนวล ๆ เข้มข้น
การเกลี่ย เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวได้เร็วระดับนึง
กลิ่น จะเป็นกลิ่นสะอาด ๆ แบบครีมบำรุงผิวที่ไม่ใส่พวกน้ำหอม
วิธีการใช้
ล้างหน้า ล้างมือให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง
กดครีมออกมาแล้วแต้มที่หน้า 5 จุด
แล้วค่อย ๆ ทาเบา ๆ ให้ทั่วหน้า โดยที่ทาครีมแนวต้านแรงโน้มถ่วง ( ตามลูกศรในรูป )
Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
มาว่ากันถึง Lanolin ก่อนเลย
ตัวนี้คือ ไขมันธรรมชาติที่มีอยู่ในขนของแกะ
คุณสมบัติที่เด่นมากคือช่วยเรื่องความชุ่มชื่นบนผิว
แพ็กเกจพกพาง่าย กดเนื้อครีมออกมาง่าย
เนื้อครีม สีขาว เข้มข้น
การเกลี่ย เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวได้เร็วระดับนึง
กลิ่น จะเป็นกลิ่นสะอาด ๆ แบบครีมบำรุงผิวที่ไม่ใส่พวกน้ำหอม ( เหมือนสูตรด้านบน )
วิธีการใช้
ใช้เหมือนกันกับด้านบนเลยครับ
สำคัญที่ตอนทาต้องค่อย ๆ เบา ๆ จะได้ไม่ทำให้หน้ามีริ้วรอยเพิ่มขึ้น
หลังจากที่ใช้มา 1 สัปดาห์
เทียบกันระหว่างก่อน กับ หลังใช้ จะเห็นเลยว่า พวกรอยแดงบนจมูกหายไป
ผิวดูชุ่มชื่น แล้วก็เรียบเนียนขึ้น ไม่ดูกร้านแบบตอนแรกแล้ว
นอกจากจะทาที่หน้าแล้ว ยังใช้กับผิวบริเวณที่แห้ง หรือ อยากจะบำรุงได้ด้วย
โดยเฉพาะที่ข้อศอก กับเข่า ที่แห้งอยู่บ่อย ๆ
สำหรับผู้ชาย หลังทาครีมบำรุงแล้ว คิดว่าส่วนมากคงจะออกจากบ้านเลย
ไม่ได้ทาแป้งกลบความมันของครีมที่ทาลงไปกันใช่ไหมครับ
ก็เลยเทียบกันระหว่าง
Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin กับ Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Barrier
ตัว Skin Barrier จะให้ความชุ่มชื่นกว่า แต่อาจจะเหนียวกว่าหน่อย คิดว่าเหมาะกับทาตอนกลางคืนมากกว่า
ตัว Lanolin อันนี้ ถ้าทาที่ผิวหน้าโอเครับ ไม่ได้เหนียว หรือ มันจนรู้สึกไม่สบายผิว
ถ้าเน้นทาที่แขน คอ ระหว่างวันคิดว่าชอบ Lanolin มากกว่า
ส่วนสาว ๆ ที่ทาครีมแล้วแต่งหน้าต่อ จะเลือกใช้ตัวไหนก็ได้ หรือ ทั้ง 2 เลยก็ได้
หลังจากที่ใช้มาระยะนึง คิดว่าชอบ Blackmores Natural Vitamin E Cream ตรงที่ใช้ง่าย
ตัวแพ็กเกจคือพกใส่กระเป๋า ใส่เป้ติดตัวไปได้เลย มีฝาปิดไม่ทำให้เลอะเทอะ
ตอนที่ใช้งานนิ้วก็ไม่สัมผัสกับครีมโดยตรง เพราะว่าต้องบีบหรือกด เนื้อครีมออกมา
ลดรอยแดงบนผิวได้ หน้ากร้าน ๆ แบบผู้ชายก็ยังช่วยให้ดูชุ่มชื่น เรียบเนียนขึ้นได้
เพื่อน ๆ ที่สนใจ ตอนนี้เขามีจำหน่ายที่ ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป แล้วครับ
รายละเอียด โปรโมชั่นเพิ่มเติม
สำหรับคนที่ผิวแห้ง ต้องการบำรุงผิว Blackmores Natural Vitamin E Cream ก็เป็นอีกไอเท็มที่น่าสนใจนะครับ
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าครับ
---------------------------------------------------------------------------------------
Realview Social 
Twitter : RealviewTH
IG : Realviewth
Contact Work : realviewth@gmail.com
---------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [