รองเท้าเปิดหัว VS ขาตั้งมอไซค์ ในวันหวยออก ((ทำใจก่อนดู))
คำเตือน : โปรดทำใจ 1. ภาพประกอบบางภาพอาจโหดไปนิด 2. ใครเน็ตช้าต้องใจเย็น เปิดทิ้งไว้แล้วไปสั่งข้าวกินก่อนกับมาดู
เมื่อเช้าวันที่ 16 กรกฎาคม วันหวยออกที่ผ่านมา ที่เชียงใหม่ตอนเช้ามีฝนตกหน่อยๆ เลยทำให้เราไม่อยากใส่รองเท้าแบบคัชชูอย่างทุกที แต่ก็นะ ไปทำงานจะให้ลากรองเท้าแตะได้ยังไง ก็ใส่รองเท้าแบบเปิดหัวซะ พอมาถึงที่ทำงาน ก็ตามเคย มอไซค์จอดไม่เป็นระเบียบ บร๊ะเจ้าจะจอดเกะกะจนคนอื่นมาจอดต่อไปไม่ได้ ก็ม่ายสนจาย เรื่องของเมิง (เฮ้อ..หมีเซ็ง) เลยต้องไปขยับๆ หาที่จอดรถ แต่ด้วยความขี้เกียจไง ไม่เอาขาตั้งรถขึ้น (จุดเริ่มต้นความหายนะ)
เพราะคิดว่าขยับนิดเดียวเอง ตาก็มัวแต่มองข้างหลังว่าจะถอยไปตรงไหนดี แต่ไม่มองตีนตัวเอง ขาตั้งก็โดนที่เล็บตัวแม่ติงอย่างจัง โช๊ะ!!! แอร๊ยยยยยยยยยย!! ก้มดู นึกว่าแค่โดนกระแทกเล็บเยิน ที่ไหนได้ เลือดสดๆข้นๆ มันไหลออกมารอบขอบเล็บเลย ((อ๊ากกกกกกกก เล็บกรู)) อืม..ทีเนี้ยล่ะแม่มเอ๊ย ปวดโค-ตะ-ระอภิมหาบิดามารดาปวด เล็บมันอ้าพะงาบๆ แบบเปิดฝาปลากระป๋อง อารมณ์นั้นเลย ((ต๊ายซอสมะเขือเทศทะลักทะลาย)) ตรงกลางเล็บมันก็จะกลวงๆ จนมองเห็นฟองอากาศข้างในแล้ว ทำไงดีวะ ทำไงดี นึกได้ว่ามีพลาสเตอร์อยู่ในกระเป๋าตังส์
ก็ควานหาใหญ่เลย กระป๋ง กระเป๋า เปื้อนเลือดหมด เจ้าตั๋งก็มาดูแล้วบอกว่าไปถอดเล็บที่โรงพยาบาลเหอะ ไม่งั้นจะหายช้า ((กรี๊ดด กลัวโรงพบาบาล)) ยัง ยังไม่ยอมไป เดินหิ้วรองเท้าเข้าออฟฟิศ กะดึ๊บๆ เลือดไหลอ่า เลือดไหล พี่ตั้มก็เลยบอกให้พี่อ้อยเค้าไปเป็นเพื่อนไปโรงบาล เผื่อได้เดินยื่นเอกสารไรกัน เอาไงดีฟระ ตีนเริ่มปวดตุบๆ หนักกว่าเดิม เสือกเอาเทนโซพลาสไปติดอีก แล้วตอนดึงออกยังไงเล็บก็ต้องหลุด ต้องไปโรงพยาบาลอยู่ดี ((พี่อ้อยที่ไปเป็นเพื่อนตัวเล็กกว่า นั่งซ้อนท้าย อีหมีเป็นขี่มอไซค์ so sad โฮก)) พอไปถึงโรงพบาบาล ก็ยื่นบัตรประกันสังคัง เอ๊ยสังคม ทำประวัติอะไรเสร็จ ก็ขึ้นสิฟท์ไปรอที่ชั้น 5 คนเยอะอิ๊บอ๋าย ผ้าปิดจมูกกันทั้งนั้น นั่งรอฟังเค้าเรียกชื่อแล้วให้คุณหมอดูสภาพ ((ระหว่างนั้นก็ยกติงมาชูสองนิ้วถ่ายรูปแอ๊บแบ๊วไปพลางๆ ลั๊ลลา))
พอเข้าห้องตรวจคุณหมอเห็นว่าเราเอาเทนโซพลาส ติดมาเท่านั้นล่ะ เค้าทำหน้าใจหายใจคว่ำพร้อมบอกว่า ทีหลังอย่าติดแบบนี้มานะคะ หมอกลัวค่ะ มันเอาออกยากมาก ยังจะมีคราวหน้าอีกเหรอเนี้ย ณ ตอนนั้นอีหมีบอกหมออย่างเดียวเลยว่า ขอยาชานะค๊า อย่าได้ดึงสดๆ เลย หมีขอออออออ คุณหมอเลยจัดให้ คุณพยาบาลเตรียมยาชาด้วยค่ะ เดี๋ยวจะล้างแผลให้คนไข้ อุปกรณ์พร้อม ยาชาสองเข็มพร้อม แต่คนไข้ไม่พร้อม ขอยาสลบด่วน
ตอนฉีดยาชานะ โอยยยยยย (ทำเสียงต่ำๆแบบโมโนโทน) มันจื๊ดด ตุบๆๆ จื๊ดดด 1 เข็มผ่านไป มาสู่เข็มที่ 2 โอยยยยยย (เสียงต่ำกว่าเดิม)
จากนั้นก็รอ รอ ให้มันชา คุณหมอก็เอาปากคีบจิ้มทดสอบเป็นระยะๆ ชารึยัง... ชารึยัง.. ยังค่ามันจังจี๊ดๆ อยู่ ((คุณหมอค่อยๆ ดึงเทนโซพลาสออก มือเบามาก)) แล้วต่อมา คุณหมอเอาปากคีบดึงเล็บเราขึ้นลงๆ เหมือนงัดฝาปลากระป๋อง ((งาบๆๆ))
แล้วก็ดึงปึ๊ด (โดยมีพยาบาลล๊อคขาไว้1 คน) แอร๊ยยย !! เออ ไม่เจ็บนี่หว่า แต่พอเห็นตีนตัวเอง แล้ว เฮะ!! หน้าซีด ปากสั่น มือสั่น แต่ถือกล้องถ่ายต่อไป 5 5
จากนั้นคุณพยาบาลก็มาล้างแผล ทำแผลให้
ถ่ายเป็นคลิปไว้อีกต่างหาก
คุณหมอถามว่า จะเอากลับไปเป็นที่ระลึกมั๊ยคะ เอาค่ะ ก็เลยใส่ถุง แถมน้ำจิ้มมาให้ด้วย ^^ เว๊ย ไม่ช่าย
นั่งรอรับยา และใบนัด เพราะต้องมาล้างแผลทุกวัน แล้วต้องเอาเจ้าผ้าก๊อตสีเหลืองมาด้วย(เค้าว่าเป็นผ้าก๊อตชุบวาสวีน) ซึ่งเราเป็นคนเก็บรักษาเอง ล้างแผลเสร็จจะได้เอาเจ้านี่ติดกันผ้าก๊อตติดแผล แต่ที่ไหนได้ ไอ้ตัวเนี้ย มันติดแผลโคตรๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
พออีกวันมาล้างแผล ให้แม่มาส่ง มันปวดตุบๆ อยู่ เข้าห้องล้างแผล ต้องเอาผ้าก๊อตออกก่อน อุแม่เจ้า~มันติดแผล ต้องเอาน้ำเกลือราดให้ชุ่มแล้วค่อยๆ ดึง พยาบาลถามจะดึงทีละนิด หรือว่าดึงรวดเดียวดี จะได้เจ็บทีเดียว ใช่ มันเจ็บทีเดียวก็จริงแต่มันเจ็บมาก เวลาใส่ยาก็หู๊ย!! เบตาดีน ไม่แสบแผล(โครต) อีตอนขามานะ เดินลากขาน้อยๆ แต่พองาม อีตอนขากลับนี่สิ ไม่อยากยกขาเดินเลย มันตึงเหมือนโดนกระชากหนังหัวมาหมาดๆ ลากเท้าครืด ครืด เป็นหมีป๊อกครืดไปเลย เวงกำ (ผีป๊อกครืด คืออะไร ไปถามเด็ก ม.ช รู้ทุกคน)
แล้วก็ต้องเป็นแบบนี้ทุกวันๆ - เช้ามา ไปโรงพยาบาลล้างแผลก่อน - นั่งรอหมอ --> เข้าไปล้างแผล -> นะโมๆ ทำใจ - พยาบาลทำใจ เป็นสองเท่า --> ต้องล้างแผลอีนี่อีกแล้ว อร๊าย..แอร๊ย-->กรี๊ด--> ซี๊ด-->โอย-->ป๊อก ครืดด ป๊อก ครืดด -->กลับบ้าน - กรอกยาแก้ปวด 1 เม็ด ทุกๆ 2 ชั่วโมง - ยาแก้อักเสบด้วย 4 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอน (แต่แดรกข้าวไปแล้วเพิ่งนึกได้ ลืมกินยา) พอครบ 1 อาทิตย์ คุณหมดนัดมาดูแผลอีกที สภาพแผลสวยมากค่ะ แดงดีจังเลย (T-T) ก็เค้ามาล้างแผลทุกวันอ่า ทีนี้ก็ต้องล้างแผลเองแล้วนะคะ เดี๋ยวหมอจะสั่งจัดอุปกรณ์ทำแผลให้ไปทำเองที่บ้าน เย่ หมีจะได้จิ้มๆ แตะๆ เอง ไม่ต้องเจ็บมาก 5 5 **ขอแอบฟ้องนิดนึง มีพยาบาลคนนึง เห็นหน้าเรามาล้างแผลนะ เค้าก็พูดขึ้นมาเลยว่า คนเนี้ยเหรอ ที่ร้องประจำน่ะ ((เออ ก็เจ็บนี่หว่า ลองเปลี่ยนกันมั๊ย ชั้นจะได้เอาสำลีชุบน้ำเกลือ แล้วลากๆๆเช็ดแผลให้ แล้วจะโปะเบตาดีนให้ชุ่มๆเลย ชิส์)) รอรับยาทำแผลแล้ว ค้นๆ ดูแล้ว สำลีก้าน, ผ้าก๊อต, พลาสเตอร์ 1 ม้วน เบตาดีน 1 ขวด อ้าว? ไม่มีน้ำเกลือล้างแผล ไม่เป็นไร กะดึ๊บๆ ไปซื้อเองก็ได้ ที่ วัตสัต ขวดใหญ่ 59 บาทเอง ** น้ำเกลือใช้ล้างแผลดีกว่าแอลกอฮอล์นะ มันไม่แสบแผล แอลกอฮอล์ ไว้เช็ดรอบๆ แผลเพื่อฆ่าเชื้อเท่านั้น เพราะถ้าเช็ดแผล หรือราดแผลโดยตรง อาจทำให้เนื้อเยื่อบางส่วนตาย **
ช่วงนี้ต้องรักษาความสะอาด กันแผลติดเชื้อสุดฤทธิ์ งดของแสลงทุกอย่าง เนื้อ ไก่ น้ำพริก เครื่องแกง ของหมักดองทุกชนิด น้ำปลายังไม่กล้ากินเลย อารายๆ ก็ข้าวต้มหมู ข้าวสวยหมูปิ้ง แผลก็ดีขึ้นตามลำดับ พี่ตั้มบริจาคผ้าก๊อตแบบไม่ติดแผลให้ด้วย ธุจ้า
ตอนนี้ก็ระแวงสุดๆ กลัวไปเตะนั้น นู้น นี่ อีก แต่จะทำไงได้ คน(ไม่)สวย มักซุ่มซ่ามเสมอ เนี้ยรองเท้าที่ใส่
ตอนนี้ได้แต่รอ รอ รอ เล็บขึ้น แล้วจะไปลั๊ลลาหาซื้อรองเท้าใหม่
Create Date : 29 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 16:22:51 น. |
|
12 comments
|
Counter : 9857 Pageviews. |
|
|
น่ากลัวมากมาย
.
.
.
แต่ยังมีอารมณ์ถ่ายเนอะ
เห่อ ๆ