(^/\^) "ทรงพระเจริญ" (^/\^) ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ขอร่วมถวายพระพร "ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ" ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
VIDEO
ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู่ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง หมายผดุงยุติธรรม์อันสดใส ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใด ยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่ เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย
เครดิตบทเพลงจากยูทูป
ภาพบรรยากาศของปีที่แล้ว จุดเทียนชัยถวายพระพร ปี ๒๕๕๔ ปีที่แล้วน้ำท่วม แต่เราไม่หวั่นไหว
มุมที่ถ่ายจากในบ้าน สังเกตไม่มีใครอยู่เลย เพราะเราอยู่เฝ้าซอยและเป็นยามไปในตัว
เดินลุยน้ำออกมาถ่ายหน้าบ้าน เป็นความทรงจำที่ดีมาก...น้ำท่วมก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
บรรยากาศเล็กๆ ของการดำรงชีวิตอยู่กับน้ำท่วม ระยะเวลาก็ไม่นาน ประมาณเดือนครึ่งเอง
น้ำเข้าวันแรก วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ น้ำแห้งสนิท วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๔
คิดว่าจะอยู่โยง..แต่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าน้ำจะมาเพิ่มหรือเปล่า ต้องถอยไปตั้งหลักก่อน...รอดูสถานการณ์...เพื่อความปลอดภัย
จากนั้น วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ กลับมาเพื่อดูสถานการณ์ ไม่ต้องพูดถึงเลย...มันแย่มากๆ อาทิตย์กว่าแล้ว น้ำก็ยังไม่ลดเลย
กว่าจะเข้าบ้านได้ใช้เวลาประมาณ ๓ ชั่วโมง
น้ำไม่เยอะเลย แค่ท่วมคอ..ระดับน้ำที่บ้านก็แค่ปิ่มประตูรั้วแค่นั้นเอง
ต้องถอยทัพ..เพราะน้ำท่วมหม้อไฟ..เรากลัวบางบ้านไม่ตัดไฟ..เดี๋ยวช็อต ...เพราะก่อนมาเราเช็คข่าวว่ามีคนถูกไฟช็อตตาย..
มาถึงบ้านแล้ว เข้าบ้านไม่ได้ เฮ้อ ถอยตั้งหลักอีกรอบ
หลังจากนั้น วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ กลับมาอีกครั้ง คราวนี้เตรียมพร้อมทุกอย่าง
พอเรือรับจ้างมาส่งเราที่บ้านเสร็จ เราก็จะเปิดประตูเข้าบ้าน แต่ประตูมันฝืดมาก เปิดไม่ออก ทำงัยดีเรา...ทุบกระจกหนึ่งบาน
ก็ยังเปิดบ้านไม่ได้อีก..ต้องออกแรงแบบไม่เคยมาก่อนในชีวิต ต้องเข้าบ้านให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้น ต้องเดินลอยคอออกไป
พยายามอยู่นาน ในที่สุดก็สำเร็จ ได้เข้าบ้าน จุดแรกก็เปิดสวิตช์ไฟใหญ่..เฉพาะชั้นบนเท่านั้นที่สามารถมีกระแสไฟฟ้า
นอนพักผ่อนเอาแรง...พอตื่นเช้ามาก็รีบหาทางหนีทีไล่ ถอดเหล็กดัดออก..จัดการตัดหลังคา เพื่อทำทางลง
เอาบันไดมาต่อ..ตัดเชือกผูกให้แน่น..ทำเป็นทางลง
ทุลักทุเลพอสมควร ไม่เคยคิดว่าจะต้องปีนบ้านตัวเอง แถมต้องเหยียบหลังคาเพื่อนบ้านอีก..ขอโทษเด้อ
ได้บันไดสมใจแล้ว..มีความสุขจริง นี่ขนาดน้ำท่วมบ้านนะ ช่างไม่ทุกข์ร้อนเลย ก็จะให้ทำยังงัยล่ะ..เศร้าไปก็เท่านั้น ก็จะได้รู้กันไปว่าอยู่ได้หรือเปล่า
ยังไม่มีใครเข้ามาอยู่ เพราะทุกคนต่างต้องทำงาน อพยพไปบ้านญาติ เช่าห้องอยู่..สภาพเหมือนบ้านแตกสาแหรกขาด
มีรถมอเตอร์ไซด์เป็นสมบัติกับเขาสักคัน ก็ไม่วายเดือดร้อนไปด้วย ฝากเพื่อนข้างบ้าน เพราะเขาทำพื้นสูงมาก คิดว่าจะรอด ที่ไหนได้...ท่วมหมู่เลยค่ะ...โดนขังลืมเลย
เวลาต้องการจะไปซื้อของก็จะมีเรือรับจ้างไว้คอยบริการ แต่เราก็มีเรือส่วนตัว เวลาจะไประยะทางใกล้ๆ
เวลาจะแวะไปทักทายเพื่อนบ้าน บางหลังที่อยู่ไม่ไกล แต่ต้องพายเรือไปหากัน..จะได้ไม่เหงาและเครียด
โชคดีที่มีไฟฟ้าใช้ น้ำไม่ตัด...แต่ไหลอ่อนและบางวันไม่ไหล เราเอาถังรองแล้วหิ้วขึ้นไปชั้น ๒ ออกกำลังกายดีจัง
เรื่องขยะที่น่าสงสารที่สุด ต้องเก็บสะสมกันเลยทีเดียว ทุกวันเราก็จะทำความดีด้วยกันเก็บขยะที่ลอยมากับน้ำ..ใส่ถุงเอาไว้ เวลาเรือแล่นผ่านจะได้ไม่ติดใบพัด..ถือว่าทำความดีถวายในหลวง
ขัดกำแพงบ้าน ทั้งข้างนอกและข้างในทุกวัน พอน้ำลด งานเราก็ไม่มีให้ทำแล้ว..จะได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนได้
ตอนน้ำท่วมเราเป็นยามเฝ้าบ้าน...พอน้ำลดเราก็ ลัลลา ลัลลา
...สะอาดเรียบร้อย... เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองแบบเงียบๆ คนเดียว
ได้ใคร่ครวญ ครุ่นคิด และเข้าใจชีวิตมากขึ้น คนเราชีวิตก็มีอยู่เท่านี้เอง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้ แล้วพบกันใหม่ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 04 ธันวาคม 2555
5 comments
Last Update : 4 ธันวาคม 2555 20:58:03 น.
Counter : 1109 Pageviews.
ยกข้าว Doraemon มาฝาก
ทานให้อร่อยนะคะ
คืนนี้หลับฝันดีค่ะ