^O^ ただいま..กลับมาแล้วค่ะ*^^*
กลับมาแล้วนะคะ..มาถึงเมื่อวานตอนประมาณสองทุ่มกว่าๆ ...ปรับตัวกับอากาศแทบไม่ทันเลยทีเดียว ที่อะคิตะอากาศเย็นค่ะ เฉลี่ยตอนกลางวันประมาณ ๑๕-๒๐ องศา ตอนกลางคืน ๑๐-๑๘ องศา ไม่ชอบอากาศเย็นแบบเราหนาวไปเลย ขอบคุณทุกคนนะคะที่ช่วยเป็นหูเป็นตา..ช่วยเฝ้าบ้านให้ด้วย.. ไม่ลืมสัญญาค่ะ นำภาพส่วนหนึ่งมาฝาก ..เพราะภาพเยอะมาก...แบบว่าบ้าถ่ายรูปน่ะค่ะ ไปดูภาพดีกว่านะเนอะ เริ่มตั้งแต่ออกจากบ้านนั่งรถไฟไปสถานีโอมิยะเพื่อนั่งชินคังเซนไปอะคิตะ ซื้อของฝากแม่กับยาย...เป็นขนมที่แม่ชอบ จากนั้นก็ซื้อข้าวกล่อง...เอาไว้กินบนรถไฟ ขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปยังชานชาลาของชินคังเซน เป็นธรมเนียมต้องถ่ายรูปคู่รถไฟ..แชะ..แชะ พอรถไฟขบวนที่จะไปอะคิตะมาถึง..ก็รีบเข้าไปในรถทันที พอได้ที่นั่งและเก็บกระเป๋าเข้าที่เข้าทางแล้ว...ได้เวลากิน..หิว..หิว รถไฟเคลื่อนขบวน..เราก็ได้เวลากินเหมือนกัน..คัมไป สองข้างทางสวยมาก...ธรรมชาติสุดๆ ผ่านภูเขาน้อยใหญ่..ต้นไม้สูงชัน ได้เวลาต้องไปปลดปล่อย..ห้องน้ำสะอาดมาก ข้างนอกก็มีอ่างล้างมือให้อีกที่..กระจกบานใหญ่..แต่ไม่ว่าง เพราะมีน้องผู้หญิงจับจอง..หนีบผม..เสริมสวยอยู่ โทรศัพท์ก็มีเพื่ออำนวยความสะดวกด้วย ...ถึงอะคิตะตามเวลาที่กำหนดไว้... ถ่ายภาพที่สถานีเอาไว้ก่อนตามธรรมเนียม สัญลักษณ์ของเมือง...หน้ากาก..และโคมไฟ รถไฟจำลองก็มี..น่ารัก แม่รออยู่ที่รถแล้ว...ทักทายกันตามธรรมเนียม ...ขับรถไม่ไกลจากสถานีก็ถึงบ้าน...
พอถึงบ้านแม่ก็รีบเปิดประตูแล้วเชิญเข้าบ้าน...อบอุ่นมาก ยินดีต้อนรับสู้ครอบครัว..น้ำตาปริ่มๆ.. แม่น่ารักมากค่ะ..เป็นกันเองมาก ก่อนอื่นต้องไหว้บรรพบุรุษก่อนค่ะ..คุณย่า..คุณตา..พ่อ จุดธูป..จากนั้นก็เคาะถ้วยทองเหลือง..เหมือนในหนังนั่นแหละค่ะ เราก็พูดแนะนำกับทุกคนตามธรรมเนียม แล้วก็มานั่งกับแม่..แม่คุยเก่ง..ชวนคุยหลายเรื่องเยอะแยะเลย ... จากนั้นให้เจ้าของทุนแนะนำห้องต่างๆ ที่บ้าน..พาทัวร์บ้านว่างั้นเถอะ แนะนำว่าห้องใครเป็นห้องใคร..ห้องน้ำอยู่ตรงไหน..ห้องอุฟุโระที่ไหน..บลาๆๆๆ ...พอได้เวลาอาหารเย็นแม่ก็ทำอาหาร... เป็นหม้อไฟไก่..ใส่ข้าวย่าง..เป็นอาหารประจำท้องถิ่น..อร่อย สีม่วงๆคือดอกไม้ดอง..สีเหลืองคือฟักทองดอง
นั่งกินไปคุยกันไป...แต่แม่ไม่กินด้วยเพราะไม่กินข้าวเย็น กินหมดหม้อเลย...ฮ่าฮ่าฮ่า ภาพนี้เป็นอาหารเช้าวันแรกที่บ้านอะคิตะ มิโซะซุปใส่ฟักกับเต้าหู้อร่อยมากๆ..ห้อมหอม นัทโตะ..ของโปรด เอกลักษณ์ของที่นี่คือถั่วไม่เป็นเม็ด..ไม่เค็มมาก บ๊วยเค็ม..อุเมะโบชิ..ของโปรดอีกแล้ว ..แถมด้วยไข่ดาว ไส้กรอก.. จากนั้นก็ไปเยี่ยมคุณยายกัน..อยู่ห่างกันประมาณ ๘๐ กิโลเมตรได้... สองข้างทางสวยอีกแล้วธรรมชาติ ตลอดเส้นทางมีอุโมงค์หลายที่มาก คุณยายไม่สบายต้องไปอยู่โรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ.. เป็นสถานที่ดูแลคนป่วยแบบบริการดีมาก หมอ พยาบาลพร้อม
จากนั้นก็ไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาประจำจังหวัด chokaisan เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเมืองนี้...ยอดเขามีหิมะให้เห็นอยู่ไกลๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่..มีเห็ดขึ้นประปราย..ก็จัดการเก็บเพื่อเอามาปรุงอาหาร ถ่ายภาพและเก็บเห็ดจนเป็นที่พอใจแล้ว..แม่ก็พาไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ที่คนนิยมมาเที่ยวกันก็คือร้านอาหารที่สามารถมองเห็นภูเขาได้อย่างชัดเจน ..ร้านอาหารจะแบ่งเป็นสองส่วน..สำหรับปิ้งย่าง.. ด้านในเป็นที่ขายของที่ระลึกและเอาไว้รับรองทัวร์ที่มาเป็นคณะใหญ่ๆ ก็เลยถือโอกาสกินข้าวกลางวันกันที่นี่ซะเลย กินข้าวอิ่มแล้วก็เดินไปดูคอกสัตว์ ข้างในจะมีสุนัข..กระต่าย..แกะ..ให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสได้ จากนั้นแม่ก็พาไป Akita Tower สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ ความสูง ๙๓ เมตร เป็นท่าเรือสำคัญของเมืองนี้..ขึ้นไปชมวิวจากด้านบน ด้านหนึ่งเป็นภูเขา...อีกด้านเป็นทะเล....มองเห็นบ้านด้วยนะ จากนั้นแม่ก็ขอตัวไปซื้อของเพื่อเตรียมอาหารเย็น เจ้าของทุนก็พาเดินเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในตัวเมือง..พาไปดูโรงเรียน.. และก็ไม่ลืมไปไหว้หลุมศพของตระกูลด้วย พอกลับมาถึงบ้านแม่ก็เตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว... เมนูเห็ด..ที่เราเก็บมานั่นเอง..อร่อยมาก..ได้สูตรมาเรียบร้อย ซาชิมิปลาจากท้องทะเลอะคิตะ...สด และ อร่อยมาก สลัดมันฝรั่งที่แม่ทำสุดยอด..ปลาตัวเล็กทอด..กินร้อนๆ.อร่อยจริงๆ พอกินข้าวเย็นเสร็จ..ก็นั่งคุยกันต่อ..แม่ก็เอารูปต่างๆ มาให้ดู แล้วก็คุยกันไปจนได้เวลานอน คืนที่สองอากาศไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่..ค่อยยังชั่วหน่อย อาหารเช้าของอีกวันค่ะ..สังเกตว่าภาพจะไม่ค่อยชัด..เพราะไอของอาหาร มิโซะซุปที่ทำจากเห็ดที่เราเก็บมา..เห็ดกรอบอร่อยมากเลย นัทโตะของโปรด...บ๊วยเค็ม..ผักลวกที่ปลูกเอง... พอกินอาหารเช้าอิ่มเรียบร้อยแล้ว...ก็นั่งคุยกันต่อ...จากนั้นก็เก็บกระเป๋า เพราะจะไปชมเมืองและปราสาทโชกุนของเมืองนี้
แม่มีของฝากให้เยอะและเลย...เอามาไม่หมดต้องส่งไปรษณีย์บางส่วน จากนั้นแม่ก็มาส่งที่สถานีรถไฟ.. ฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีแล้วก็เดินเที่ยวกันต่อไปตัวจังหวัด ยังพอมีเวลาเหลือ..เดินเที่ยวรอบเมือง จากสถานีรถไฟ..เดินไปไม่ไกลเพื่อจะไปเที่ยวสวนสาธารณะประจำเมือง ไหว้พระ...ขอพร เดินต่อไปเพื่อจะไปชมพิพิธภัณฑ์ของซามูไร..ที่คอยคุ้มครองโชกุน ปราสาทของโชกุนแห่งนี้ได้สร้างขึ้นมาใหม่..ของเก่าถูกไฟไหม อนุสาวรีย์ของโชกุนที่ปกครองเมืองแห่งนี้ในอดีต ค่าเข้าชมคนละ ๑๐๐ เยน ค่ะ ภายในพิพิธภัณฑ์ ก็จะมีประวัติของโชกุน และซามูไรต่างๆ รูปจำลองของเมืองนี้เมื่อสมัยก่อน จากนั้นก็เดินเที่ยวต่อไปตัวเมือง..เดินไปเรื่อยๆ..ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย อาจจะเป็นเพราะอากาศดี..เมืองสวย แล้วก็ไปกินซูชิ..และเที่ยวตลาดที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน แยกเป็นโซนค่ะ..อาหารทะเล..ผักสด..ผลไม้... ....จากนั้นก็ได้เวลาต้องกลับไปสถานีเพราะใกล้เวลาต้องเดินทางแล้ว.... แวะซื้อของฝากที่อยู่ภายในสถานี..มีหลากหลายมาก..น่าซื้อทั้งนั้น.. จากนั้นก็ได้เวลารถออก...เดินทางกลับแล้ว ไปเที่ยวอะคิตะครั้งนี้...มีความสุข และประทับใจมาก... ครั้งต่อไปคิดว่าเมษาปีหน้า จะไปดูซากุระ..เรียนทำอาหารพื้นบ้านกับแม่... แต่จะไปคนเดียว..เจ้าของทุนไม่มีเวลา..นั่นไม่ใช่ปัญหา..ไปคนเดียวได้จ้า สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกคนทีเข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้ แล้วพบกันใหม่ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 18 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 18 ตุลาคม 2555 16:28:57 น. |
|
26 comments
|
Counter : 1621 Pageviews. |
|
|
ตัวเราเองยังไม่เคยนั่งเลยชินกังเซน ตั๋วแพงอ่ะ
กลับข้าวเยอาะจริงน่ากินด้วย แต่ตัวเราไม่กินไข่ดาวที่ไม่สุกอ่ะกินไม่ได้
ยิ่งไข่ดิบๆ นี่ไม่ต้องพูด ไม่ได้อย่างแรง นี่เน้นอาหารการกินตลอด ตลอด เลยนะค่ะ