ศิลปะตะวันตกโฟวิสซึ่ม,เอ็กซเพรสชั่นนิสซึ่ม
ลัทธิโฟวิสซึ่ม (Faurism) คำว่า โฟวิสท์ มีความหมายถึง สัตว์ป่าอันหมายถึง ผลงานของศิลปินกลุ่มนี้ ซึ่งมีลักษณะการใช้สีสันสดใสตัดกันอย่างรุนแรงลัทธินี้เกิดขึ้นและหมดความนิยมลงในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ผลงานคล้ายกับคตินิยมของศิลปะแลลเอ๊กซเพรสชั่นนีสซึ่มในประเทศเยอรมันนี และศิลปินทั้งสองลัทธินี้ก็แตกแยกกลายเป็นผู้สร้างงานศิลปะนามธรรม (Adstract Art) ขึ้นในเวลาต่อมา แนวทางการสร้างผลงาน 1.ผลงานมีรูปทรงอิสระสร้างขึ้นตามสัญชาตญาณแห่งการแสดงออกอย่างเต็มที่ งานจะปรากฎความสนุกสนานในลีลาของรอยฝีแปรงและจังหวะของสีต่างๆ 2.มีการตัดเส้นรอบนอกของสิ่งต่างๆ เพื่อเน้นห้เด่นชัดมีรูปแบบง่ายๆ เรียบๆ ต้องการแสดงทั้งรูปทรงและแสงไปพร้อมกัน 3.นิยมใช้สีตัดกันรุนแรง แต่มีความประสานสัมพันธ์ โดยส่วนรวม เช่น ใช้สีเขียว สีส้ม สีน้ำเงิน สีแดง และสีม่วง เป็นต้น 4.สีมีความสำคัญกว่าเรื่องของหลักการทัศนียภายและรูปทรง5.ผลงานมีลักษณะเป็นแบบสัญลักษณ์ มีความเกี่ยวพันกับเรื่องศีลธรรม จรรยา ปรัชญา หรือเงื่อนไขความคิดทางการเมืองและทางสังคมน้อยมาก มีลักษณะเหมาะสมในการใช้ตกแต่งอาคารสถานที่มากกว่า กลุ่มศิลปะ Fauvism นี้มี Henri Matisse เป็นผู้นำกลุ่มคนสำคัญ ศิลปินโฟวิสนั้นเป็นผู้นำ แนวคิดแนวใหม่ มาสู่วงการศิลปะในศตวรรษที่ 20 ซึ่งในตอนต้นศตวรรษที่ 20 นี้ โลกศิลปะถูก ครอบงำด้วยหลักการ การค้นคว้าในเรื่องลี้ลับ ทางจิตวิทยาของพวกSymbolist, หลักการของพวก นาบีส์ (Nabis) ที่ล้วนเอาทฤษฎีต่างๆของ โกแกง เซซาน มาดัดแปลง แต่ศิลปินโฟฟ มุ่งหมายที่ จะหลุดพ้นจากวงจร ความคิดเหล่านี้ ด้วยการที่ หวนกับไปหาหลักการใช้สีที่ Gauguin, Seurat, Van Gogh เคยใช้ นั้นคือ การใช้สีที่จงใจไม่ให้บรรยายลักษณะใดๆ ในธรรมชาติเลย ในการใช้สีของพวกโฟวิสนี้ บางครั้งพวกเขาอาจแต้มสีลงไปเป็น บริเวณเล็กๆ หรือเป็นแค่จุดๆ ที่คล้ายศิลปิน Neo-Impressionism แต่สีเหล่านี้ จะเป็นสีที่จัดและรุนแรงกว่า โดยไม่คำนึงถึง ทฤษฎีสี แต่องค์ประกอบศิลป์ในงานแบบโฟวิส อาจจัดได้ด้วยลำพังแค่สีล้วนๆ ซึ่งดูแล้วอาจเป็น สัญลักษณ์มากกว่า เหมือนจริง ถึงแม้ศิลปินโฟวิสจะเขียนภาพที่เป็น Objective World เช่น ภาพวิว ภาพคน ภาพหุ่นนิ่ง แต่พวกโฟวิส ก็ทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็น Abstract ด้วยการลงสี ที่ไม่เหมือนกับ ธรรมชาติ การใส่สีจัด และสีสดๆลงไปเลย ซึ่งก็จะทำให้สีนั้นหมดหน้าที่ ที่จะบอกว่า สีนี้ สีนั้น คืออะไร ณ.เวลานี้สีจะสื่ออะไรมากกว่าความเป็นสี ศิลปินโฟวิสจะใช้สีสดล้วนๆในการแสดงระนาบ และแสดงวัตถุ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล แม้แต่การ ให้แสงและเงา ก็เป็นบริเวณของสีสดๆทั้งสิ้น ซึ่งก็อาจเล่นสีร้อน สีเย็นได้ สีที่กลุ่มจิตรกรโฟวิสใช้นี้ มิใช่ ใช้ตามที่ตาสัมผัสเห็น แต่จะใช้ไปตามอารมณ์ และความพอใจของศิลปินเอง สีจัดๆ ที่สดใสสีหนึ่ง จะอยู่เคียงกับอีกสีหนึ่ง เป็นฝีแปรงหลวมๆ ที่แต้มต่อตัดกันไปให้เกิดพื้นผิวภาพที่มีสี เพื่อแสดงอารมณ์ ของสีในตัวของมันเองอย่างอิสระ มิใช่แสดงให้เห็นว่า คือของสิ่งใด เป็นการแสดงความพอใจ ในการ เล่นสี ของจิตรกรเอง การสร้างภาพให้แบน และให้ระนาบคุมเคลือนี้ เป็นการหักเหออกจากหลักการ เรื่อง Perspective ในแบบสมัยเก่าๆ กลุ่มศิลปิน Fauvism นี้ได้นำหลักการของจิตรกรในอดีต ดังที่กล่าวมาแล้ว แต่นำหลักการ เหล่านั้นมาใช้อย่างรุนแรง เด็ดขาด จนผ่านเลยผู้บุกเบิกแนวคิดนี้ไปไกล ทำให้สีมีบทบาท 2 อย่าง ควบกันไปคือ สีประสานกัน สร้างเค้าโครงของภาพขึ้นมา นพร้อมกับอีกหน้าที่หนึ่งคือ สีจะแสดงความ รู้สึกของสีออกมา แต่ถ้าเราจะมองกลุ่มศิลปินโฟวิส ในแง่การแสดงความรู้สึกออกมาแรงๆนั้น เราอาจ เรียกศิลปินกลุ่มนี้ว่าเป็น Expressionism ในอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าอิทธิพล ของโฟวิสนี้ ไปปรากฎในภาพเขียนสมัยใหม่ ของพวก Expressionism ในประเทศเยอรมัน ที่อิ่ม ตัวเต็มที่ในช่วง แรกๆของศตวรรษที่ 20 นั่นเอง
Free TextEditor
เอกสารอ้างอิง ศิลปสากล หัวข้อศิลปะลัทธิโฟวิส ภาพวาดของเฮนรี่มาติส ชื่อภาพ Portrait of Madame
ภาพวาดของเฮนรี่ มาตีส ชื่อภาพ"Decorative Figure on an Ornamental Background" ภาพวาดของ เฮนรี่มาติส ชื่อภาพ "The Dance"
Create Date : 13 กันยายน 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 7 ตุลาคม 2551 1:34:17 น. |
Counter : 38141 Pageviews. |
|
|
|