Pookun Kamened Raider Teem../data/p/pookun-kamenriderteem/picture/1249183704.jpg
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2563
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ตุลาคม 2563
 
All Blogs
 
ทานตะวันของแวนกิ๊กก๊อก 1 อัปสร

ตอนที่ 1 อัปสร
 
ศรกำลังนั่งรอรถไฟเพื่อเดินทางกลับอุบล เขาฆ่าเวลาด้วยการจิบกาแฟในขณะมืออีกข้าง
ยกหนังสือเล่มใหม่ที่เป็นผลงานการประพันธ์ของเขาเอง อ่านด้วยความภาคภูมิใจ
"เออนี่เธอ! ฉันว่ากลอนท้ายเล่ม แม่งโคตรเชยเลยวะ"
"อื้อ..."
"สัมผัส ก็งั้นๆ ความหมายนี่ไม่ต้องพูดถึง นิยายรักอะไรว่ะ เน้นฮา"
"อื้อ..."
"สงสัยจะเป็นกลอนเปล่าว่ะ  เปล่าแบบเปล่าประโยชน์น่ะแก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ"
"อื้อ..."


รถไฟกำลังเคลื่อนช้าๆออกจากสถานีหัวลำโพง จะว่าไปนี้มันก็นานมากแล้วที่ศรไม่ได้เข้า
มากรุงเทพฯเลย เขาจะมาก็ต่อเมื่อได้รับเชิญจากสำนักพิมพ์ในงานเปิดตัวหนังสือใหม่ หรือมารับรางวัลต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เขามักจะปฏิเสธ
 หลังจากจัดแจงวางย่ามคู่กายและกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ศรก็ได้ยินเสียงดังมาจาก
ด้านหลัง
"ขอโทษ นะคะ คือ...ที่นอนของหนูอยู่ข้างบนคุณลุงค่ะ คุณลุงสะดวกมั๊ยค่ะ"
ศรหันหลังกลับไปที่ต้นเสียง พร้อมตะโกนลั่นในใจดังๆว่า "ลุงเลยเหรอว่ะ พี่พึ่งจบ ป.ตรี
มายังไม่ถึง 5 ปีเลยนะเว้ย"
"คือ..เพื่อนของหนูยายเก๋นี่ซิคะ จองตั๋วยังไง ได้ที่นั่งแยกกัน" เสียงใสๆอธิบายต่อ
"เฮ้ยใครจะไปรู้ว่ะ ก็เห็นเลขมันติดกันนี่หว่า ก็คิดว่าที่นั่งคงติดกัน คนขายก็ไม่บอก"
"อ้อ ไม่เป็นไรครับผมเปลี่ยนที่ให้ก็ได้ ถ้าอีกที่เค้าไม่มีปัญหา"
"คงไม่ได้หรอกค่ะคุณลุง เพราะที่นั่งคู่กับเก๋ เค้าเป็น...."


ศรมองข้ามไหล่ของหญิงสาวพบหญิงวัยกลางคนนุ่งขาวทั้งตัว หัวถูกโกนจนไม่เหลือผม
สักเส้น กำลังจัดแจงเก็นข้าวของต่างๆสำหรับการออกแสวงบุญ และสาวน้อยวัย 18 หรือไม่ก็ 19 แต่เธอตัวสูงมาก สูงราวกับเสาโทรศัพท์ มือเท้าเอว หันมองผู้ที่กำลังพูด ด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ
แล้วดวงตาของศรปรับโฟกัสอีกครั้ง มาเป็นระยะชัดตื้น ภาพที่ปรากฎเป็นหญิงสาววัย
เดียวกันกับเสาโทรศัพท์ข้างหลังเธอ ผมยาวสลวย ใบหน้าเรียวเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย แก้วป่องน่าหยิก แถมแอบมีลักยิ้มนิดหน่อย สรุปรวมๆพูดได้ว่าน่ารักก็แล้วกัน (คนเขียนบรรยายไม่ถูก)
"อ้อ! แม่ชี งั้นเราก็คงต้อนนอนด้วยกันแล้วละ"
"อะไรน่ะลุง" 
"อุ้ย! ไม่ใช่ ผมหมายถึง ผมขึ้นข้างบน เฮ้ย! ไม่ใช่ เดี๋ยวผมนอนเตียงบนก็ได้ ส่วนเธอก็
นอนเตียงด้านล่างแล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะ" เสียงขอบคุณกับสีหน้าเหวอๆของคู่สนทนา


หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย ศรก็นั่งบนเบาะที่มันควรจะให้ความรู้สึกนุ่มนวน
และมีเสียงแอร์ที่กำลังทำงาน อากาศมันก็ควรจะเย็น แต่ศรกลับรู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่เป็นดังที่ควรเป็น เขามีอาการเหงือซึมราวนั่งอยู่กลางแดดยามเที่ยงวัน
จากการได้พูดคุยตามมารยาทก็ทำให้ศรรู้ว่า เก๋และสรเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยม
เอ็นท์ติดมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ตอนนี้กำลังเดินทางไปดูสถานที่เรียนก่อนมาเรียนจริง 
"แต่มันก็แปลกดีนะเว้ย! สร ที่ชื่อแกกับตาลุงนี้ ดันเหมือ...น กันอีก ยังกะในหนังเลยว่ะ"
"ไม่เหมือน คุณลุงน่ะเขาชื่อ ศร แปลว่า ธนู ส่วนฉันน่ะ อัปสร แปลว่า นางฟ้า"
"นางฟ้าเชียวเหรอว่ะ สงสัยจะจริง" ศรคิด
"น้องครับชื่อมันจะยังไงก็ช่างเถอะ แต่เราอายุต่างกันแค่ 6 7 ปี เอง เรียกพี่ก็ได้มั้ง ไม่ต้อง
ถึงลุงหรอก"
"อ้าว! คนเค้าให้เกียรติ ยังจะพูดมากอีกตาลุงนี้"
"โถ้! แก ขอโทษนะค่ะพี่ศร เก๋ก็เป็นคนแบบนี้ละค่ะ ชอบตลก"
"ตลกบ้าอะไร กูนี่พึงเบญจเพศมามาดๆเองน่ะเว้ย อิเสาโทรศัพท์เอ้..ย" เป็นเสียงที่ศร
ไม่ได้เอ่ยออกมา
"ว่าแต่ลุง เฮ้ย!ไม่ใช่ พี่ศร พี่เป็นนักเขียนไม่ใช่เหรอ พอจะรู้จักคนเขียนนิยายเรื่อง
เรื่องอะไรนะแก?" เสาโทรศัพท์เริ่มบทสนทนาอีกครั้ง
"พระจันทร์กับทานตะวัน" เสียงตอบเรียบๆของสร ขณะยังคงก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่
เช่นเดิม


หน้าของศรแปลเปลี่ยนเล็กน้อย แต่คณะสนทนาไม่สามารถสังเกตเห็นได้ เพราะเขาก้ม
หน้าหลบอยู่หลังหนังสือที่กำลังอ่าน อ่านวนอยู่บรรทัดเดียวมาสามรอบแล้วยังไม่รู้เลยว่าอ่านอะไร
"ทำไมเหรอ" ศรถามเอื่อยๆ
"หนูก็แค่อยากรู้จักคนเขียน หนูเห็นเพื่อนหนูมันติดนิยายเรื่องนี้มาก ไม่รู้สนุกตรง
ไหน เห็นมันอ่านมาตั้งแต่มัธยมแล้ว เผื่อพี่รู้จักจะได้ขอลายเซ็นต์ฝากเพื่อหนูหน่อยเท่านั้นแหล่ะ"
"พี่รู้จักนะคนเขียนเรื่องนี้"
"จริงเหรอค่ะ" เสียงสดใสดังมาจากสาวแก้มป่อง ชะโงกหน้าออกจากหนังสืน เข้ามาใกล้
หน้าชายหนุ่มจนรู้สึกถึงไอร้อนของลมหายใจได้
"ใช่ พี่เคยคุยกับเขาเหมือนกัน ถ้าอยากได้ลายเซ็นต์พี่ขอให้ได้น่ะ" ศรพูดยิ้มๆ
"ลายเซ็นต์ก็อยากได้ค่ะ แต่อยากรู้ตอนจบของเรื่องมากกว่า" 
"ตอนจบของเรื่อง" ศรพูดทวนด้วยความเผลอตัว
"ใช่ค่ะ สรุปแวนกับฟ้า เป็นยังไง"
"แวนกับฟ้า" ศรนึกย้อยกลับไปถึงเนื้อหานิยายฉากสุดท้ายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"มันก็จบแล้วนิ"
"ไม่ค่ะ หนูคิดว่าฉากจบที่พระเอกแต่งกลอนกับเพื่อน มันไม่น่าจะจบแบบนั้น หนูอยากรู้ว่า
แวนเขาจะสามารถทำตามความฝัน และดีพอที่จะขอฟ้าแต่งงานได้ไหม หรือไม่ฟ้าก็บอกให้แวนตัดใจเลิกลากันด้วยดี หรืออะไรก็ได้ที่มันสรุปหรือมีจุดจบ ไม่ใช่ให้คนอ่านไปจินตนาการเอาเอง"


ศรนิ่งเงีบยอีกครั้ง นิยายเรื่องนี้เขาจำได้ว่าเป็นนิยายที่ออกมาตอนที่เขากำลังจะจบปี 4
และกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางนักเขียนหน้าใหม่ จะว่าใหม่แกะกล่องก็คงไม่ได้ เพราะเขาเคยเขียนบทกลอน บทความ หรือเรื่องสั้นส่งสำนักพิมพ์แลกตังค์กินขนมมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว แต่อาจพูดได้ว่าเป็นนักเขียนอาชีพหน้าใหม่กระมั้ง
"ไอ้บทกลอน น่าสะอิดสะเอียน หลังปกนี่อะน่ะ มันซึ้งตรงไหนว่ะ" เสียงแทรกจาก
เสาโทรศัพท์
"แต่หนูรู้สึกนะค่ะว่า แวนเขาแต่งกลอนบทนี้ด้วยหัวใจ"
"แต่งด้วยหัวใจ แหวะ!" ไม่เพียงแค่คำพูดแม้แต่ลีลาท่าทางของยายเสาโทรศัพท์ก็แสดง
ได้คู่ควรรางวัลออสก้าจริงๆ


ศรนิ่งไปนาน....ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"พี่ว่า คนเราจะเข้าใจถ้อยคำของใครสักคนให้ลึกซึ้ง เราก็อาจจำเป็นต้องทำความรู้จัก
ตัวตนของเขาด้วยว่ามั๊ย?"
"อันที่จริงแล้ว พี่เคยคุยกับคนเขียนเรื่องนี้ ประเด็นก็คล้ายๆกับสรถามนี่แหล่ะ" ศรกล่าวต่อ
"แล้วคนแต่งเขาตอบพี่ว่ายังไงค่ะ"
"เขาไม่ตอบ แต่เขาเล่าเรื่องนึ่งให้พี่ฟัง เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจริง"
...............................................



Create Date : 02 ตุลาคม 2563
Last Update : 2 ตุลาคม 2563 15:07:21 น. 1 comments
Counter : 992 Pageviews.

 
ตามมาอ่านจากกระทู้นะคะ (ขออนุญาต​ถ้าแรงขอโทษด้วยค่ะ🙏)​
เนื้อเรืองไม่นาติดตามเลยค่ะ แค่ะอ่านได้ไม่กี่บรรทัด​ก็เบื่อ ไม่มีความดึงดูดเลยค่ะ


โดย: นิรนาม IP: 171.100.77.235 วันที่: 23 มกราคม 2564 เวลา:20:57:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kamenrider pookun
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากเป็นคนดี..อยากขึ้นสวรรค์..
Friends' blogs
[Add kamenrider pookun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.