Bloggang.com : weblog for you and your gang
บล็อกนิยายหวานสดใสของพิมพ์นรายินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ^^
----- รักสุดๆ สะดุดเธอ (be...you) บทที่ 1-----
*********** นิยายวัยรุ่นค่ะ เด็กๆ เขียนไว้นานแล้ว แต่ไม่จบสักที เพราะพอถึงไคลแม็กซ์แล้วคิดไม่ออก เลยไม่ได้เขียนต่อ เอามาลงให้อ่านเล่นค่ะ เผื่ออารมณ์ใครอยากอ่านนิยายเด็กๆ ที่มาของเรื่องนี้ อยู่ในบทแรกค่ะ เห้นการ์ตูน หรือนิยาย ชอบมีจูบกันหน้ารูปปั้น แล้วนางเอกที่เฉิ่มเบอะชอบโดดเข้ามาทับริมฝีปากกับพระเอกขี้เก็กนิสัยร้ายกกาจเอาแต่ใจ เลยเอามาเขียนบ้าง แต่จะให้บังเอิญๆกระแทกริมฝีปากตรงกันพอดี คงไม่มีในนิยายของพิมพ์นราค่ะ อิๆ เพราะนึกภาพไม่ออกจริงๆอ่ะค่ะ เลยกลายจเป้นอย่างที่เอามาลงนี่แทน ><
เรื่องนี้เขียนเอามันค่ะ สนองอารมณ์คนเขียนล้วนๆ เว่อร์เหมือนการ์ตูน แต่พยายามไม่ให้เวอร์มากนะคะ เดี๋ยวจะหลุดโลกไปก่อน อิๆ
ขอบคุณทุกท่านค่า
พิมพ์นราค่ะ^^
-----------------------------------------------------------------
รักสุดๆ สะดุด (ที่) เธอ (Be You)
บทนำ
ย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว กลีบดอกคูณสีเหลืองสดเริ่มมีประปรายออกมาให้เห็น ตามกิ่งก้านสาขาของต้นคูณสูงประมาณตึกสองชั้น รอบๆโรงเรียน หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอฤดูที่ดอกไม้บานมาเยือนอย่างใจจดจ่อ เพราะเพียงไม่กี่วันหลังจากนี้ ก็จะถึงฤดูกาลสอบไล่ และปิดภาคเรียนแล้ว
ร่างบางที่วิ่งฝ่าลมหนาวของเดือนมกราคมมาจนถึงริมรั้วกำแพงโรงเรียนนั้น ก็คือหนึ่งในอีกหลายคนที่ใฝ่ฝันชีวิตปิดเทอมอันแสนปกติสุขนั้นเช่นเดียวกัน
หากเมื่อเจ้าตัวเทคตัวกระโดดข้ามกำแพงโรงเรียนเข้าไปพร้อมกับเสียงกริ่งเป็นสัญญาณเข้าเรียนดังขึ้นมานั้น ชีวิตแสนสุขของสิมิลันก็ผันเปลี่ยนไป
เด็กสาวอาศัยวิชายิมนาสติกเกรดสี่เกือบติดทีมชาติที่เคยร่ำเรียนมากระโดดพลิ้วตัวผ่านกำแพงโรงเรียนสูงหนาไปได้อย่างสวยงาม แต่ดัน ติดปัญหาที่ก่อนจะลงสู่พื้นดินนั่นต่างหาก
พลั่ก!!
ว๊าย!!!
สิมิลันกรีดร้องอย่างตกใจกับใครบางคนที่ดันเข้ามารองรับอยู่ใต้ร่างเธอพอดิบพอดีอย่างกับนัดกันไว้ แต่เธอหลบไม่ทันเสียแล้ว!!
ร่างเล็กแต่หนักหน่วงหล่นไปทับแผ่นหลังของฝ่ายนั้นเข้าเต็มๆเด็กหนุ่มหน้าคว่ำลงไปจูบพื้นดิน และน็อคอยู่อย่างนั้นเป้นชั่วอึดใจทีเดียว
สิมิลันรีบชักเท้าออกเมื่อลงมาถึงพื้นดินแต่ทว่า
เด็กสาวกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ กับสภาพซี้แหงแก๋ของผู้ชายที่เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เห็นหน้า
แต่จากเครื่องแบบเท่าที่เห็น ยังไงก็คงเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอชัวร์อยู่แล้ว
ไม่ได้การล่ะ คงต้อง ชะแวบ หลบก่อน เกิดหมอนี่เอาเรื่องขึ้นมาก็ซวยน่ะสิ เธอยิ่งเป็นสาวน้อยบอบบางอ่อนแอ อ่อนต่อโลก หวานใสไร้เดียงสาอยู่ด้วย จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปต่อกรกับผู้ชายตัวโตอย่างกะตึกนั่นได้เล่า?
คนเรารู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ถึงเธอจะไม่ฉลาดขนาดไอคิวหนึ่งร้อยแปดสิบ แต่เธอก็รู้ล่ะ ว่าสถานการณ์เช่นนี้สมควรหนีไปตั้งหลักก่อนเป็นแจ๋วสุด!!
คือ ขอโทษนะ เรา เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อย่าจองเวรกันเลย รักษาตัวดีๆนะ ไปล่ะ
ว่าแล้วก็เผ่นแผล็วรีบวิ่งขึ้นไปยังตึกอาคารเรียนที่อยู่ไม่ไกลกันนัก รู้สึกผิดเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้ ก็คนเค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆนี่นา
พระท่านบอกไว้ ว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ฉะนั้น
บ้ายบาย ลาก่อนนะเจ้าทุกข์!!
1.
สิมิลันหวังว่าเรื่องมันจะจบแค่นี้ หากเมื่อเธอวิ่งหนีหายวับไปอย่างรวดเร็วแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจากพื้นดินด้วยใบหน้าถมึงทึงโกรธจัด ดวงตาดำใหญ่คมกริบเหลือกโพลงเกรี้ยวกราด เช่นเดียวกับริมฝีปากบางสีสดที่แสยะแยกเขี้ยวเห็นฟันขาววาววะวับ
ยัยบ้านั่นเป็นใครกัน บังอาจกล้า เหยียบ กันหน้าด้านๆ มันน่า
อูย ปวดหลัง
อ้าว ไอ้วา ลงไปนอนทำอะไรกับพื้นดินสกปรกอย่างนั้นวะ?
เสียงของเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามาทันเห็นสภาพน่าทุเรศของวายุเข้าพอดีเอ่ยทักถามอย่างฉงนจัด หากอีกฝ่ายหันมาแยกเขี้ยวใส่คนถามอย่างฉุนเฉียว
ข้าพอใจจะนอน มีอะไรไหม? เด็กหนุ่มขึงตาคมกริบจ้องจะหาเรื่องเข้าใส่ ฝ่ายนั้นก็เลยต้องรีบส่ายหน้าเดียะ ไม่อยากตอแยด้วย
เจ้าวายุเพื่อนของเขามันเป็นนักมวยของโรงเรียน ได้แชมป์มาแล้วหลายสมัย ทั้งโรงเรียนนี้และระแวกใกล้เคียงไม่มีใครกล้าหาญมาต่อกร แม้แต่ครูอาจารย์ฝ่ายปกครองก็ยังต้องยอมอ่อนข้อให้กับมัน เพราะมันติดทีมชาติแล้ว และกำลังจะได้ไปแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ปลายปีนี้ด้วย
แต่เจ้าเพื่อนของเขาคนนี้มันก็ขึ้นชื่อเรื่องเกเรเป็นอันดับหนึ่งเหมือนกัน เพราะอย่างนี้ไง หน้าหล่อๆใสกิ๊งอย่างนี้ ถึงไม่มีสาวคนไหนกล้าเข้าใกล้เท่าไหร่นัก
ว่าแต่ แกมีอมยิ้มไหม กำลังเปรี้ยวปากอยู่พอดีเลย วายุหรี่ตาจ้องหน้าเพื่อน หลังจากที่ปัดฝุ่นที่ติดตามใบหน้าและเนื้อตัวของเขาหมดแล้ว นิ้วมือเรียวยาวได้รูปยืนไปกระดิกต่อหน้าเพื่อน เพื่อหวังให้อีกฝ่ายมอบของที่ต้องการมาให้
ทำอย่างกะเจ้าพ่อมาเฟียกำลังรีดไถ่ค่าคุ้มครองเลยเชียวนะ!!
ไม่รู้จักซื้อเองมั่งเลยวุ้ย จะขี้เหนียวไปถึงไหนวะ? ฟ้าครามบ่นอย่างไม่พอใจนัก แต่ก็ควักกระเป๋ากางเกง หยิบอมยิ้มสีส้ม ของโปรดที่เพื่อนต้องการยื่นให้แต่โดยดี
ขอบใจ พ่อนักมวยใหญ่ยิ้มแต้ พอได้ของปุ๊บก็เอาเข้าปากอมแก้มตุ๊ยตุ่ยทีเดียว
นี่ถ้าใครมาเห็นเข้า มันจะทำหน้ายังไงกันนะ ตัวโตอย่างกะรถถัง ดั้นชอบกินอมยิ้ม
ฟ้าครามจ้องมองเพื่อนอย่างไม่สบายใจนัก แต่รู้ดี ขืนพูดมากไป อาจจะโดนเจ้าวายุมันเขกกะโหลก หมอนี่ยิ่งดิบเถื่อนไม่เข้ากับหน้าอยู่ด้วย
เออ ไอ้คราม เมื่อกี้เอ็งเดินมาเห็นเด็กผู้หญิงวิ่งสวนไปมั่งเปล่าวะ? วายุเอ่ยเสียงอู้อี้ เพราะอมยิ้มรสส้มอันใหญ่ยังคาอยู่ในปากจนแก้มป่อง
ผู้หญิงไหน ไม่เห็นมีเลยนี่ ทำไม เอ๊ะ นี่อย่าบอกนะ ว่าเอ็งพาหญิงมามั่วสุมด้วย เดี๋ยวนี้เอ็งริอ่านคบหญิงด้วยเหรอ? ฟ้าครามโวยวายเป็นเรื่องใหญ่โต
คนเป็น ขาใหญ่ ก็เลยยกเท้าถีบเข้าให้เบาๆ เอาแค่เบาะๆ ให้มันพอรู้สึกตัวไม่กรี๊ดกร๊าดอาละวาดจนเกินงามนัก
คบที่ไหนกัน ข้าจะฆ่ายัยนั่นต่างหาก เสียงห้าวเหี้ยมแสดงความโหดของวายุ ทำให้ฟ้าครามชะงักค้าง กะพริบตาปริบๆ
นี่นอกจากเอ็งจะชอบความรุนแรงจนต้องมาต่อยมวยแล้ว เอ็งยังชอบรังแกผู้หญิง ตบจูบๆ แบบในละครหลังข่าวด้วยเหรอ?
ตบจูบบ้านเอ็งน่ะสิ วายุถีบเพื่อนเข้าไปอีกปึ้ก โทษฐานพูดไม่เข้าหู ดูหมิ่นเหยียดหยาม ข้าแค่ต้องการจะสั่งสอนแม่นั่นที่บังอาจ ถ้อยคำต่อมาของเด็กหนุ่มวายุ ถูกเจ้าตัวกลืนหายเข้าไปในลำคออย่างรวดเร็ว ดวงตาคมกริบเป็นประกายเจิดจ้า อย่างที่ฟ้าครามนึกแปลกใจ อยากรู้อยากเห็น
ใครนะ ทำให้เจ้าเพื่อนอารมณ์ร้อนของเขาโกรธได้ถึงขนาดนี้ แถมยังเป็นผู้หญิงเสียด้วย?
ทำไมวะ ไอ้วา เด็กผู้หญิงคนนั้นทำอะไรเอ็งเหรอ?
วายุกลืนน้ำลายลงคอ รอยฝ่าเท้าที่ยัยบ้านั่นประทับทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ยังเจ็บหนึบๆอยู่กลางแผ่นหลัง เล่นกระโดดทับเข้ามาทั้งตัว ทำเอาเขายังมึนๆอยู่เลย
ยัยตัวแสบ อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร พ่อจะแก้แค้นคืนให้สาสมทีเดียว เหยียบกันเข้ามาได้ เนื้อตัวข้าใครอย่าแตะเว๊ย !!!
ว่าไงวะไอ้วา เด็กคนนั้นทำอะไรเอ็งเหรอ ทำไมต้องอยากเจอเขาขนาดนี้ด้วย?
ฟ้าครามถามย้ำ จ้องหน้ากระเหี้ยนกระหือรือของเพื่อนด้วยความประหลาดใจอย่างสุดแสน
ไม่เคยเห็นวายุเรียกหาอยากพบเด็กผู้หญิงคนไหนมากอย่างนี้มาก่อนเลย ท่าว่าจะสำคัญมาก
ยัยนั่นจูบข้าน่ะสิ วายุแก้ตัวไปส่งเดช หากอีกฝ่ายกลับอ้าปากค้าง ตาเหลือกแทบถลน
เอ็งว่าไงนะไอ้วา เด็กผู้หญิงคนนั้น จะ จูบเอ็งงั้นเหรอ? ฟ้าครามยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง นึกเขินแทนเพื่อน
ไอ้วายุ มันช่างโชคดีอะไรอย่างนั้นเนี่ย?
ก็เออสิวะ วายุขึ้นเสียงดังเข้าใส่เพื่อนอย่างลืมตัว และเมื่อรู้สึกก็รีบเบือนหน้าหนีซ่อนอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันของตัวเอง
เขาจำเป็นต้องตอแหลเพื่อนเพราะไม่อยากเสียฟอร์ม ใครจะกล้าบอก ว่าถูกเหยียบหลังเดาะต่อหน้ารูปปั้นกามเทพแผลงศร สถานที่ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันมานมนาน ว่าหนุ่มสาวคู่ไหนได้มาจุมพิตกันต่อหน้ารูปปั้นกามเทพองค์นี้จะสมปรารถนาในความรักชั่วนิรันดร
เป็นตำนานสตึๆที่คนอย่างวายุไม่เคยสนใจจะเชื่อ พวกครูอาจารย์เองก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้นักเรียนทำตามตำนานที่ว่านั่น ดังนั้น บริเวณนี้จึงนับเป็นหลังโรงเรียนที่พอจะปลอดภัยเหมาะสมในการโดดเรียนมานั่งเล่นกินอมยิ้มได้อย่างสบายใจของวายุกับฟ้าคราม
แต่เพราะยัยบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ดันโดดถีบเขาจนหน้าจิ้มพื้น เสียท่าหน้าแหกไปหลายน็อตอย่างนั้นใครจะทานทนได้ รู้ไปถึงไหนก็มีแต่จะอายไปถึงนั่น วายุไม่โง่ขนาดจะประจานตัวเองหรอก!!
เขาจะตามหายัยเบ๊อะนั่นด้วยวิธีของเขาเอง อยากรู้นัก ว่าเจ้าของฝ่าเท้าเล็กๆที่ประทับแน่นอยู่ในความทรงจำของเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าน่ารักจะจับมาบีบคอ บังคับให้ทำงานชดใช้ แต่ถ้าหน้าตาน่าเกลียดเป็นนางยักษ์ขะมูขีพ่อจะจับหมกข้างตึกแถวนี้ให้รู้แล้วรู้แร่ดไปเลย!!
แล้ว น้องคนนั้นสวยไหมวะไอ้วา? ฟ้าครามถามต่อหลังจากที่ระงับอาการอิจฉาตาร้อน อยากโชคดีอย่างเพื่อนบ้างไว้ได้แล้ว โดยไม่รู้เลยว่า ทั้งหมดนั่น วายุสตรอเบอรี่ขึ้นมาทั้งนั้น
อยากโง่เชื่อเอง มันช่วยไม่ได้!
ข้าเห็นหน้าเขาไม่ถนัดว่ะ จำได้แต่เสียง เสียงใสๆนะ แล้วก็ เด็กหนุ่มนักมวยดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคตเกาศีรษะแกรกๆทำหน้าครุ่นคิดหนัก
เรื่องหน้าตาไม่ต้องพูดถึงหรอก เพราะเขาไม่มีทางเห็นเจ้าหล่อนแน่ๆแต่ถ้าน้ำหนักกะขนาดเท้าที่เหยียบลงมานี่พอจะจำได้เลาๆ
รู้สึกจะเท้าเล็กๆแต่ถีบหนักกว่าขนาดเท้าหลายเท่าตัวทีเดียว
แล้วก็อะไรไอ้วา ? ฟ้าครามจ้องเพื่อนตาโต จินตนาการเด็กสาวที่ได้จู่จู๊บกับเพื่อนของเขาออกมาวิริศมาหราขนาดหยาดฟ้ามาดิน
เท้า..เท้าเขาจะเล็กๆเรียวๆ ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก รู้แต่ว่า เอ็งต้องช่วยข้าตามหายัยนั่น วายุเลิกอธิบาย เพราะข้อมูลที่เขาสามารถบอกได้โดยไม่ผ่านการเซ็นเซอร์มันติ๊ดเดียวเท่านี้เองนี่นา
ฟ้าครามหน้าเหลอ จ้องเพื่อนตาค้างก่อนจะย้อนถามเสียงสูงอย่างตกใจ
อะไรวะ เอ็งจะตามหาเนื้อคู่ในตำนานของเอ็งด้วยข้อมูลแค่นี้เองเนี่ยนะ เสียง กับเท้าเรียวเล็ก อย่างกะเจ้าชายตามมาซินเดอเรลล่าเลยนะนั่น?
เออ ทำไม ยังไม่พออีกหรือไง? วายุย้อนถามกลับไปเหมือนเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยเต็มประดา ในขณะที่อีกฝ่ายเกาศีรษะแกรกๆประหนึ่งติดเหามาจากนักเรียนหญิงในห้องมาทั้งฝูง
หาทั้งโรงเรียนก็ยังไม่รู้เลยไอ้วา ว่าคนไหนกันที่เป็นเนื้อคู่ของเอ็ง ฟ้าครามบ่นพึม จังหวะนั้นเองที่ออดดังเป็นสัณญาณว่าเริ่มเรียนคาบแรกของวันนี้ดังขึ้นสะท้อนก้องไปทั่ว
เริ่มคาบแรกแล้ว ไม่เข้าเหรอไอ้วา ใกล้สอบแล้วนะ ฟ้าครามชวนเพื่อน หากฝ่ายนั้นส่ายหน้าปฏิเสธ กลับโหนตัวปีนขึ้นไปบนต้นก้ามปูต้นใหญ่ กิ่งก้านใบหนาอย่างว่องไว
ไว้เอ็งช่วยซีร็อกซ์มาให้ข้าที่บ้านก็แล้วกัน ข้าจะไปซ้อมมวยที่ค่ายพี่สิงห์ล่ะ
เฮ้ย ข้าไปด้วยสิ ฟ้าครามร้องแรกแหกกระเชอ แต่เพราะเป็นโรคกลัวความสูง เลยไม่กล้าปีนต้นไม้อย่างเพื่อน ได้แต่มองอีกฝ่ายกระโดดผ่านกำแพงออกไปนอกโรงเรียนตาละห้อยละโหย
เอาเถอะ ในเมื่อเขาเป็นผู้ช่วยพระเอกฝ่ายบุ๋นนี่นะ ยังไงก็คงต้องกลับไปเรียนเพื่อจะได้ซีร็อกซ์ไปให้มันเก็บไว้อ่าน
เจ้าวายุมันหัวไวเข้าใจอะไรง่าย เรียนเก่งอยู่แล้วถึงไม่ตั้งใจเรียนมันก็ยังเรียนดีกว่าใครๆ อีกตั้งหลายคน นับว่าเป็นความสามารถส่วนบุคคลที่น่าทึ่ง (น้องๆ ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง) จริงๆ
เด็กหนุ่มเก็บอมยิ้มสีส้ม อีกอันหนึ่งของตัวเองเข้ากระเป๋ากางเกง หันหลังเดินกึ่งวิ่งกลับเข้าไปขึ้นอาคารเรียนซึ่งอยู่ด้านหน้าโดยไม่รู้เลยว่า มีสายตาตี่ๆ วาววะวับคู่หนึ่ง แอบจับจ้องมองคนทั้งคู่อยู่ด้านหลังพุ่มไม้ ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะหึๆเหมือนคนโรคจิตออกมาดังๆเพราะดีอกดีใจจนแทบสติแตก
สิมิลันสะดุ้งโหยงหูตาตื่นทุกทีเมื่อมีใครเอามือมาแตะบ่าหรือเรียกชื่อเธอ เด็กสาวเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เช้า และกระทั่งจนหมดคาบเรียนช่วงเช้า ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน ก็ยังไม่วายสะดุ้งเมื่อเพื่อนสนิทอย่างวีราวางมือแปะลงมาบนไหล่บางของเธอ
เป็นอะไรลัน เห็นสะดุ้งเฮือกๆมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ ไม่สบายหรือเปล่า? เพื่อนสาวหน้าใสส่งเสียงถามอย่างประหลาดใจ หากอีกฝ่ายรีบส่ายหน้าเดียะ
ไม่เป็นไรหรอกวี เรารีบไปโรงอาหารกันเถอะ หิวแล้ว
เด็กสาวฉุดแขนเพื่อนให้ออกเดินไปด้วยกันอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะออกจากห้องไปนั้น เสียงหนึ่งซึ่งพวกเธอคุ้นเคยดีก็ดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของห้อง
เธอนี่เสียงใสใช้ได้เลยนะมิ้นต์ ฟ้าครามพ่อหนุ่มหัวหน้าห้องนั่นเอง เขากำลังกอดอก ยกมือข้างหนึ่งคลึงคางของตัวเอง จับจ้องมองมินตราหรือมิ้นต์ สาวสวยประจำห้องชั้น ม.หกทับหนึ่งคุยด้วยสีหน้าท่าทางครุ่นคิดหนัก
เด็กสาวที่ชื่อมินตรายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถึงจะถูกชมแค่เสียงแต่ก็รู้สึกดีล่ะ กระทั่ง
ขอดูเท้าหน่อยได้ไหม?
ทำไมต้องดูเท้าด้วยล่ะ? มินตราชักสีหน้า เริ่มเอ๊ะใจ ไอ้เจ้าหัวหน้าห้องคนนี้ชักจิตๆ(โรคจิต) ยังไงๆแล้วสิ?
ก็ อยากดูไง ว่าเท้าเธอจะสวยไหม น่า ขอดูนิดเดียวเองนะ ว่าแล้วเจ้าตัวก็ก้มหน้าลงไปพินิจพิจารณาเท้าของเด็กสาวซึงนั่งอยู่หลังโต๊ะเรียนตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง จนเพื่อนของมินตราชักไม่พอใจ
ดูเท้ามินต์ทำไม นายนี่มันโรคจิตนี่หว่า เธอว่าแล้วก็ฟาดหนังสือป้าบเข้าใส่ฟ้าครามจนร่างสูงนั้นต้องเงยหน้าขึ้น จ้องฝ่ายที่ทำร้ายเขาโกรธๆ
ทำไมต้องตีด้วยก็แค่ขอดูเท้าหน่อยเดียวเอง ไม่ได้ขอให้ถอดเสื้อซักหน่อย เขาบ่นปากเบี้ยวปากบูด
แน่ล่ะ ถ้าขออย่างนั้นนายเละแน่ เกตุวดีชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างเคืองสุดๆก่อนจะหันไปคว้าแขนมินตรา ไปกันเถอะมิ้นต์ ไอ้พวกโรคจิต อย่าไปยุ่งกับมันเลย
แล้วสองสาวก็เดินสะบัดก้นจากไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งให้หนึ่งหนุ่มผู้กำลังทำหน้าที่ตามหานางในฝัน(ร้าย)ของเพื่อนถึงกับเอ๋อ เซ่อ ยืนบื้ออยู่ตรงนั้นนั่นเอง
นายครามนี่มันท่าจะเพี้ยนเนอะลัน วีราหันมาพึมพำกับสิมิลันขำๆหากคนฟังรู้สึกขำไม่ค่อยออก
เธอรู้สึกว่าวันนี้ฟ้าครามแปลกๆไปอย่างไรชอบกล
เดี๋ยว กินข้าวแล้ว เราไปหลังโรงเรียนกันหน่อยนะวี เราอยากไปดูอะไรหน่อยน่ะ เด็กสาวบอกกับเพื่อนเมื่อเดินตามกันเข้าไปในโรงอาหาร ความรู้สึกผิดยังเกาะกินอยู่ในใจ จนอยากไปดูให้รู้แน่ว่านายคนนั้นเป็นยังไงบ้าง
ไม่รู้ว่ากลายเป็นศพขึ้นอืดไปแล้วหรือยัง จริงๆแล้วเขาก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก แต่เธออยากไปดูเพื่อความสบายใจเสียหน่อยเท่านั้น
หลังโรงเรียน หมายถึงตรงที่มีรูปปั้นกามเทพในตำนานหรือเปล่า? วีราถามเพื่อนตาโต ก่อนจะหัวเราะคิก เมื่อฝ่ายนั้นพยักหน้าหงึกๆ ต๊าย หรือว่าลันจะไปยืนคอยเนื้อคู่ในตำนานจ๊ะ หน้าตาไม่ให้เลยนะว่าจะเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย?
ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกวี เราแค่จะไปดูอะไรหน่อย นิดเดียวเท่านั้น สิมิลันแก้ตัวเสียงอ่อย ไม่กล้าบอกเพื่อนเหมือนกัน ว่าตัวเองไปกระโดดใครก็ไม่รู้เอาไว้เมื่อเช้านี้
เรื่องนี้เธอต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับสุดยอด บอกใครไม่ได้!!
ดูอะไร บอกกันหน่อยได้ไหม เอ๊ะ หรือว่าเมื่อเช้าที่เธอมาสาย ก็เข้ามาทางนั้นเหมือนเดิมใช่ไหมลัน? วีราจับผิดเพื่อน แล้วก็ได้เห็นเจ้าของใบหน้าอ่อนใสหันซ้ายหันขวาหน้าตาตื่นอย่างกับกลัวเจ้าหนี้ตามมาถูกอย่างนั้นล่ะ
ห้ามบอกใครเด็ดขาดเลยนะวี ว่าเมื่อเช้าเราเข้าโรงเรียนตรงหน้ารูปปั้นกามเทพนั่นน่ะ สีหน้าปริวิตก เหมือนไม่ได้เข้าห้องน้ำตอนเช้าของเพื่อนทำเอาสาวน้อยวีราหน้าเหลอ งงๆ
ทำไมล่ะ จริงๆแล้วเพื่อนๆคนอื่นๆก็รู้ทั้งนั้นล่ะ ว่าเธอเข้าโรงเรียนทางนั้นประจำ มันมีอะไรเหรอลัน?
สิมิลันยิ้มเจื่อนจัด เพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าเรื่องที่เธอชอบกระโดดข้ามกำแพงเข้าโรงเรียนทางนั้น มันไม่ใช่ความลับอะไรซักหน่อย เพราะเธอทำเป็นประจำทุกครั้งเวลาที่มาสายอยู่แล้ว
ความผิดพลาดทั้งหมด มันน่าจะอยู่ที่นายคนนั้นล่ะ ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ ดันไปทำบ้าอะไรอยู่ตรงนั้นก็ไม่รู้ต่างหาก
เด็กสาวถอนหายใจเฮือกอย่างหนักอกหนักใจ แต่ไม่วายหันมากำชับเพื่อนเสียงเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง
ยังไงก็แล้วแต่ เหยียบเรื่องที่เช้านี้เราเข้าโรงเรียนทางนั้นไว้ให้มิดเลยนะวี ถือว่าเราขอร้องก็ได้ ตกลงนะ?
อืม วีราพยักหน้ารับคำอย่างไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก แต่เธอก็ไม่คิดจะพูดถึงอยู่แล้ว ในเมื่อถ้าพูดไปแล้วเกิดอาจารย์มาได้ยินเข้า เพื่อนเธอก็ซวยเท่านั้นน่ะสิ
เธอไม่มีทางให้ร้ายเพื่อนรักอย่างสิมิลันอยู่แล้ว
เมื่อไปถึงหลังโรงเรียน บริเวณที่เป็นหน้ารูปปั้นของกามเทพในตำนานแล้วนั้น สองสาวก็ต้องหลบวูบเข้าไปซ่อนตัวหลังพุ่มไม้แทบไม่ทันกับภาพที่เห็นอยู่ต่อหน้า
อุว้าว มีหนุ่มสาวใจกล้า ไม่กลัวอาจารย์มาจูบกันต่อหน้ารูปปั้นกามเทพด้วย!!!
ว้าว เพิ่งเคยเห็นคนจูบกันจริงๆเนอะลัน โรแมนติกชะมัด.. วีราทำตาเคลิ้มฝัน ในขณะที่สิมิลันเบ้ปาก ไม่ได้รู้สึกอย่างเพื่อนเลย
ถ้าคู่ไหนจูบกันแล้วได้เป็นเนื้อคู่กัน เธอกับอีตาคนนั้น(คนที่ถูกเธอเหยียบนั่น) มิต้องเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไปทั้งชาติเลยหรอกหรือ?
ไม่ดีหรอกวี พวกเรายังเด็ก ยังไม่ควรมีความรัก เรายังไม่รู้หรอกนะ ว่าคนที่อยู่ต่อหน้าเราตอนนี้ จะเป็นรักนิรันดรของเราหรือเปล่า หนทางของเรายังอีกยาวไกล ไม่เห็นจะต้องมาเปลืองตัวเลย แล้วอีกอย่าง ถ้ารักกันจริง ไม่จำเป็นต้องจูบก็ได้นี่
วีรามองเพื่อนตาขวาง
บ่นเป็นแม่แก่เชียว อยากรู้จัง จะมีคนคิดอย่างเธอกันซักกี่คนนะ? วีราค่อนเข้าให้ หากสิมิลันไม่สนใจ เด็กสาวโผล่ออกจากพุ่มไม้เมื่อรู้สึกว่าเธอไม่จำเป็นจะต้องซ่อนตัวหลบเด็กทั้งคู่เสียหน่อย
ทำเรื่องไม่ดี พวกนั้นต่างหากที่ต้องอายไม่ใช่เธอ
หากยังไม่ทันได้เดินกี่ก้าว ร่างสูงของฟ้าครามก็เดินมาอีกทางหนึ่ง
อะไรไม่รู้ที่ทำให้สิมิลันหลบแวบเข้าหลังพุ่มไม้ตามเดินโดยไม่ตั้งใจ หากนั่นเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของเธอ เพราะอึดใจต่อมา ร่างอวบอ้วนจ้ำม่ำของสาวน้อย (แต่ร่างใหญ่มาก) นักเรียนชั้นม.ปลายคนหนึ่งก็เดินอุ้ยอ้ายเข้าไปหาฟ้าคราม
เหมือนว่าสองคนนั้นจะนัดพบกันที่นี่ แม่เจ้า อย่าบอกนะว่านายฟ้าครามปิ๊งสาวสไตล์นี้!!!
เราไม่นึกเลยนะลัน ว่าอีตานั่นจะชอบยัยนั่น วีราจีบปากจีบคอพึมพำเสียงเบา จับจ้องมองการเผชิญหน้าของผู้ชายตัวผอมกับผู้หญิงตัวอ้วนเหมือนนางผีเสื้อสมุทรอย่างสนใจใครรู้ พร้อมทั้งยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเตรียมปิด หากคนต่างไซด์ทั้งคู่คิดจะกุ๊กกิ๊กกันให้เธอเห็น
ยัยนั่นรู้สึกจะชื่อลูกกุ้งนะ อยู่ห้องสี่ สิมิลันเอ่ยเสียงแผ่ว พอจะจำฝ่ายนั้นได้ เพราะคุณเธอเป็นนักเรียนที่ตัวใหญ่โตมโหระทึกที่สุดของชั้น ม.หก ปีนี้ทีเดียว
แต่ไม่นึกเลย ว่าลูกกุ้งหรือหนูกัลยา จะชอบหน้าจืดๆอย่างนายฟ้าครามได้ ช่างเป็นความรักต่างไซด์ อย่างที่ไม่น่าดูให้อุจาดลูกตาเลยซักนิด
เราว่า ไปกันเถอะนะวี อย่าดูเลย สิมิลันชวนเพื่อนชิ่งหนีอย่างที่ใจคิด หากอีกฝ่ายส่ายหน้าแก้มแดงก่ำ ตาเยิ้มแบบหื่นๆ
อะไร ดูหน่อยก็ได้นี่ เราอยากเห็นของแปลกนะลัน
สิมิลันยิ้มแหย ไม่รู้จะ ลาก เพื่อนไปได้อย่างไร จึงจำต้องนั่งทำตัวเหมือนโรคจิตแอบดูคู่รักต่างขั้วทั้งสองคนเบื้องหน้าอย่างจำใจจำทน
ขืนออกไปทะเล่อทะล่าตอนนี้แล้วสองคนนั่นเห็นเข้าก็อาจจะเป็นเรื่องได้เหมือนกัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือต้องทนแอบมองไปก่อน จนกว่าทั้งคู่จะไปเสียที
นายฟ้าครามจ้องหน้ากลมแป้นแล้นสมบูรณ์ไปด้วยเลือดฝาดและไขมันของเด็กสาวตรงหน้านิ่งนาน ก่อนจะเอ่ยปากถามออกมาพอได้ยิน
เธอใช่ไหมที่นัดเราออกมาเจอ?
ใช่ สาวน้อยร่างอวบจนเกินงามพยักหน้ารับ พร้อมรอยยิ้มแสยะเห็นเขี้ยวขาววาววะวับ ชวนขนหัวลุกอย่างไรชอบกล
ฟ้าครามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไหนๆก็มาเจอแม่คุณแล้ว เขาหวังอย่างเดียวเท่านั้น ว่าคุณเธอจะไม่จับเขาเข้าไปข่มขืนริมฝีปากต่อหน้ารูปปั้นกามเทพในตำนานหรอกนะ ไม่ได้หรอก เห็นเขาผอมๆอย่างนี้แต่ก็ยังเสน่ห์แรงขนาดที่กัลยาต้องนัดมาเจอ แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่นิยมจะมีคู่แท้นิรันดรเป็นนางผีเสื้อสมุทรหรอกนะ
มีเรื่องอะไร ทำไมถึงนัดเราออกมาล่ะ? เขาถามเข้าเรื่อง และฝ่ายที่นัดเขาออกมาก็หัวเราะหึๆในลำคอ อย่างขบขันเหมือนคนโรคจิต
เรารู้มาว่า นายกำลังตามหาคู่แท้ในตำนานของคุณวายุอยู่ใช่ไหม? แทนคำตอบกัลยาก็ถามกลับไปราวกับมีตาทิพย์ล่วงรู้ได้ทุกอย่าง เล่นเอาฟ้าครามอ้าปากค้างตาเหลือกโพลงเท่าไข่นกกระทาทีเดียว
เธอ รู้ได้ยังไงกัน?
เรารู้ทุกอย่างนั่นล่ะ เด็กสาวหัวเราะเสียงแหลมในลำคอเหมือนนางแม่มด ก่อนจะเอ่ยต่อเสียงดังฟังชัด ชนิดที่ฟ้าครามแทบลืมหายใจ ก็เราเองล่ะ ที่เป็นคู่แท้ในตำนานที่คุณวายุกำลังตามหา!!
เด็กสาวประกาศตัวเปรี้ยงออกมาอย่างนั้น ท่ามกลางอาการนิ่งขึงตะลึงลานเบิกตาโพลงด้วยความตระหนกเสียขวัญของเด็กหนุ่มต่อหน้า
ฟ้าครามตะลึงมองเด็กสาวต่อหน้า คนที่กล้าหาญชาญชัยขนาดประกาศตัวตนของตัวเองออกมาโต้งๆว่าเธอคือคู่แท้ในตำนานของวายุอย่างไม่สะทกสะท้านแล้วเจ็บหน้าอก อดไม่ได้จะนึกถึงเสียงแหลมๆของเจ้าหล่อน
ฟังยังไงก็ไม่ใช่เสียงหวานไพเราะอย่างที่เจ้าวายุมันบอกเขาเลย แล้วอีกอย่าง
ดวงตายาวเรียวทอดตกลงมองเท้าที่ซ่อนอยู่ในรองเท้านักเรียนสีดำเป็นมันปลาบคู่นั้น
นี่ก็บอกได้คำเดียวว่าน้องๆเท้าช้าง!!!
เพื่อนเขาชอบสไตล์นี่เหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย
เอ่อ เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เราว่า เธออาจจะเข้าใจผิดไปก็ได้นะกัลยา เด็กหนุ่มพยายามบอกปัด ไม่อยากจะเชื่อ ว่าอย่างเจ้าวายุจะถูกเทสต์กับสาวมหึมาอภิมหาอลังการงานสร้างปานฉะนี้
ไม่ผิดหรอก เรานี่แหละ คู่แท้ในตำนานที่คุณวายุเขาต้องการตามหา คิดดูสิ ถ้าเราไม่ใช่คู่แท้ของเขา แล้วจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ ว่าเขากำลังตามหาเราอยู่ เด็กสาวเอ่ยเสียงปลาบปลื้ม นัยน์ตายิบหยีแทบจมหายเข้าไปในเบ้าตาอวบยุ้ยไปด้วยไขมันเป็นประกายเพ้อฝัน
ก็วายุหนุ่มหล่อดิบเถื่อนคนนั้นเป็นหวานใจของเธอมานานแล้วนี่!!
กัลยาชอบแอบตามคอยมองเขาอยู่ห่างๆเธอรู้ตัวว่าตัวเองไม่สวย ไม่เด่น แถมยังอ้วนตุ๊ต๊ะ อย่างวายุคงไม่สนใจเธอแน่ๆใครจะรู้ว่าวันนี้โอกาสที่เธอรอคอยมาตั้งแต่ ม.ต้นจะเปิดออกแล้ว เพียงแค่เธอสวมรอยเป็นเด็กสาวคนนั้น เธอก็จะได้เข้าใกล้ชิดเขา และถ้าวายุเห็นความงามเหนือความงามที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ บางที เขาอาจจะนึกชอบของแปลกขึ้นมาก็ได้ ใครจะไปรู้
โชคดีจริงจริ๊ง ที่เธอผ่านไปทันได้ล่วงรู้ความลับที่เขาคุยกับฟ้าครามเข้าพอดิบพอดี อย่างนี้ไม่เรียกว่าบุพเพอาละวาดแล้วจะให้เรียกอะไรได้?
ฟ้าครามจ้องหน้ากลมแป้นของคนตรงหน้า รู้สึกละล้าละลังไม่แน่ใจ แต่เมื่อเจ้าหล่อนรู้เรื่องทุกอย่างดี และรับสมอ้างเสียแล้วอย่างนี้เขาก็คงพูดอะไรมากไม่ได้ คงต้องปล่อยให้วายุจัดการของมันเอาเองเสียแล้ว
งั้น รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวเราจะเรียกไอ้วามาคุยกับเธอเองแล้วกัน เด็กหนุ่มบอกฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเรียกเบอร์ของเพื่อนรักลงไปด้วยสีหน้าหนักใจเหมือนยกเขาพระสุเมรุมาไว้ในอก
กลัวแต่เจ้าวายุจะช็อคยิ่งกว่าเขาน่ะสิ ถ้าได้พบตัวจริงของเนื้อคู่ในตำนานเข้า
-----------------------------------------------------------------------------
Create Date : 04 ตุลาคม 2552
Last Update : 4 ตุลาคม 2552 9:59:55 น.
Counter : 515 Pageviews.
2 comments
Share
Tweet
เปลี่ยนใจทันนะกัลยา
โดย:
mimny
วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:1:36:44 น.
555น่ารักดีค่ะ คุณพิมพ์
โดย:
แสนดีคนในพื้นที่
วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:8:12:34 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
พิมพ์นรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [
?
]
Group Blog
ตุลาคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
4 ตุลาคม 2552
----- รักสุดๆ สะดุดเธอ (be...you) บทที่ 1-----
All Blog
----- รักสุดๆ สะดุดเธอ (be...you) บทที่4 -----
----- รักสุดๆ สะดุดเธอ (be...you) บทที่ 2-3-----
----- รักสุดๆ สะดุดเธอ (be...you) บทที่ 1-----
Friends Blog
Doungtawan
ป้ามด
fluffyboy101
N_BEE810
เนยสีฟ้า
ammataya
wilmington
ธรารินทร์
เม-ดา
คีตภา
wayo
ลันเตา...
หมาดำล่องหน
หินสีม่วง
Webmaster - BlogGang
[Add พิมพ์นรา's blog to your weblog]
Link
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.