>>รีวิวสองอัลบั้มที่แตกต่างกับสองแนวเพลง MOBY & The Beastie Boys>>

>>รีวิวสองอัลบั้มที่แตกต่างกับสองแนวเพลง MOBY & The Beastie Boys>>

วันนี้มาแนะนำกันถึงสองอัลบั้มเพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาไม่ได้รีวิิวครับวันนี้เลยจัดเต็มเลย 2 วงซึ่งแนวดนตรีต่างกันสุดขั้วระหว่างอีเลคโทรนิคและฮิปฮอป

มาเริ่มที่อัลบั้มแรกเลยครับ MOBY : Destroyed (2011)




สำหรับ MOBY คงไม่ต้องเกริ่นอะไรกันยืดยาวนะครับเพราะหลายๆคนที่เป็นนักฟังเพลงแนวๆคงรู้จักกันดีสำหรับน้องใหม่อยากมีแนวติดตามวันศุกร์นะครับจะมีนำเสนอเรื่องราวประวัติผลงานต่างๆ ของศิลปินเหล่านี้แต่จะศุกร์ไหนไม่บอกอยากให้ติดตามกันครับ ในปีนี้ MOBY ได้้ออกอัลบั้มใหม่หลังจากที่เขาห่างหายไปถึง 2 ปี ซึ่งการกลับมากับผลงานในอัลบั้มนี้รับรองได้ว่าไม่มีผิดหวังหรือทำเงินหล่นเมื่อฟังจบอัลบั้มแน่นอน ด้วยบทเพลงต่างๆที่มีความลงตัวและสะท้อนถึงประสบการณ์นับสิบปีที่เขาอยู่ในวงการ เจดี เอ๊ย!ไม่ใช่ดีเจ และเป็นศิลปินเพลงแนวอีเลคโทร ที่มีแนวคิดล้ำๆไม่ย่ำเท้ากับที่ ผลงานชุดนี้คือคำตอบว่าทำไมเขาถึงมีที่ว่างให้ยืนในแถวหน้าของวงการโดยยากที่จะหาใครมาเขี่ยให้เขาหล่นจากตำแหน่งนี้ เพลงที่แรกที่ถูกตัดมาโปรโมทและทำเป็น MV. คือเพลงที่ชื่อ The Day

The Day โดยมี Heather Graham มาเป็น featuring ร่วมร้องกับเขาเพลงนี้ด้านดนตรีเป็ค่อนข้างอลังการมีบรรยากาศของเครื่องสายมาแกนหลักของดนตรีผสานเสียงซินธ์ที่ล่องลอยทำให้เราหลุดไปกับเพลงได้ง่ายๆ



The Broken Places เพลงแรกของอัลบั้มนี้ มีในจังหวะชิลเอาท์กับความเบาล่ิงลอยให้จินตนาการนำพาเราไป



Be The One เพลงนี้เริ่มจากจังหวะที่ช้าๆ งดงามก่อนนำพาเราไปสู่จังหวะที่เร้าร้อนแบบเพลงร็อกทำให้ผมอึ้งทึ่งไปเหมืิอนกันกับเพลงนี้เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนนั่งรถไฟเหาะ



Victoria Lucas เพลงที่มากับจังหวะทริปฮอป กับความยาวถึง 6 นาทีภาคดนตรีรายละเอียดพริ้งพราวน่าดู อยากรู้ว่ามันพราวยังไงลองฟังดูครับ



Sevastopol เพลงจังหวะคึกคักแต่เรื่องความซับซ้อนของภาคดนตรีไม่น้อยกว่าเพลงอื่นๆเลย ผมจัดให้เป็นเพลงเท่ห์ที่เหมาะกับเปิดทั้งบนฟลอร์และตามงานแฟชั่นเลยถ้านำไปต่อยอดรีมิกซ์เนี่ยมีหลายท่อนที่น่าสนใจน่าตัดไปเล่น



เพลง After เพลงที่ผมชอบอีกเพลงมันอลังการแบบที่ไม่สามารถอธิบายได้



เพลง Blue Moon อีกเพลงที่มันทำให้ผมนึกถึงหนังอย่าง ทรอน เพราะเสียงซินธ์และภาคดนตรีมันพาไป



ในอัลบั้มขอเสนอเฉพาะเพลงที่ส่วนตัวผมคิดว่ามันระดับสุดยอดของอัลบั้มนี้แล้วส่วนเพลงอื่นต้องลองฟังครับที่เยี่ยมไม่แพ้กับเพลงที่มาแนะนำแน่แนอน ความรู้สึกของการได้ฟังเพลงในอัลบั้มนี้มันเหนือความคาดหมายหลายเพลงจนเกินที่จะคาดเดาได้ว่าแต่ละเพลงจะเป็นอย่างไร ความลงตัวนั้นสูงในแต่ละเพลงไม่มีกั๊ก ความละเมียดของดนตรียอมรับว่าพี่ท่านเนี๊ยบจริงๆ แม้อัลบั้มนี้ของเขาจะไม่ติดหูง่ายเหมือนชุดก่อนๆ แต่ผมว่ามันคือแนวทางใหม่ของดนตรีอีเลคโทรนิคในอนาคตซึ่งไม่จำเป้นว่าจะจังหวะต้องเร่าร้อน เสีงสังเคาระห์ฉูดฉาดเท่านั้นแต่มันขึ้นกับความหลากหลายทางดนตรีมากกว่า



รายชื่อเพลงในอัลบั้มนี้ครับ

The Broken Places
Be The One
Sevastopol
The Low Hum
Rockets
The Day
Lie Down in Darkness
Victoria Lucas
After
Blue Moon
The Right Thing
Stella Maris
The Violent Bear It Away
Lacrimae
When You Are Old

The Beastie Boys >> Hot Sauce Committee Part Two



มาต่อกันกับอีกอัลบั้มเป็นอัลบั้มใหม่เหมือนกันกับแนวฮิปฮอป The Beastie Boys ซึงพวกเขาไม่ใช่เด็กหน้าใม่ของวงการแต่เป็นรุ่นเก๋ากึ๊กที่อยู่มานานกว่า20ปีและแหกแหวกแนวกว่าฮิปฮอปทั่วไปที่พร่ำบ่นๆวกวนไปมากับดนตรีที่ลูปซ้ำๆ ที่น่าเบื่อหน่าย แต่ The Beastie Boys เพลงของเขาไม่มีแบบนั้นแน่นอน สำหรับแฟนๆ The Beastie Boys คงรู้ดีว่าแต่ละชุดของพวกเขาสร้างความตะลึงขนาดไหน บางอัลบั้มเล่นแบบแจ๊ส บางอัลบั้มเป็นร็อก และมีบางเพลงที่เป้นแนวพั๊งค์ซึ่งเป็นแนวดั้งเดิมของพวกเขามาก่อนผสมอยู่ด้วย The Beastie Boys มีสามชิกร่มหัวจมท้ายกัน 3 ชีวิต ในบัดนี้พวกเขาได้เข็นอัลบั้มใหม่ที่ชื่อ Hot Sauce Committee Part Two : ซึ่งจริงแล้วภาคแรกไม่ได้ออกจำหน่ายทั้งที่ปกอัลบั้มและเพลงก็ได้บันทึกเสียงเสร็จแล้วเนื่องจาก Adam "MCA" Yauch มือเบสของวงป่วยเป็นมะเร็งเลยไม่สามารถทำกิจกกรมต่างๆรวมทั้งออกทัวร์ได้เลยมีอันต้องหยุดพักการออกอัลบั้มนั้นไว้ชั่วคราว

หน้าปก Hot Sauce Committee Part 1 ซึ่งไม่ได้วางจำหน่ายแต่มาออกเป็น พารท์2 แทน



ซึงแฟนเพลงพอข่าวทราบต่างพากันให้กำลังใจจนบัดนี้ร่างกายเขาสมบูรณ์พร้อมที่จะมาเย้วๆ กับแฟนเพลงแล้วพวกเขาเลยปล่อย Hot Sauce Committee Part Two ออกมาพร้อมกับเพลงใหม่อีก 2 เพลง Pop Your Balloon,B-Boys in the Cut และอีก 1 แทร็ครีมิกซ์ Make Some Noise(Passion Pit Remix) ซึ่งผลงานวงเขาคนที่ชอบฟัง แร็ป ฮิอปฮอป ตลาดคงยากที่จะรับไหวเพราะมันฟังดูดิบกา้วร้าวไมีมีท่อนฮุกติดหูหรือเสียงร้องหวานจ๋อยอะไรทำนองนั้น แต่ถ้าต้องการความสนุกไม่ซ้ำซากงานเพลงพวกเขาเป็นตัวเลือกที่ดีเชียวครับ



เพลง Make Some Noise มาดูมาดแร็ปเปอร์วัย 40 กว่าๆกันพุงพลุ้ยๆ แต่แนวยังแรงเหมือนเดิม



เพลงเด่นอีกเพลงในอัลบั้มนี้ Lee Majors Come Again ดนตรีพั๊งค์แต่ร้องแร็ปกันดิบสะใจจริง



เพลง Too Many Rappers นับเป็นเพลงที่สนุกอีกเพลงในชุดนี้ครับ กับซาวนด์ที่เป็นแบบฉบับของพวกเขาครับ เพลงนี้เขาบ่นกับดาวแร็ปชื่อดัง NAS



เพลง B-Boys in the Cut กับจังหวะเดินเบสฟั๊งค์กี้มันส์ๆ



เพลง Pop Your Balloon เพลงที่มากับกลิ่นอายมหาภารตะฟังแล้วแทบลุกขึ้นมาเบรคแด๊นซ์เลยกระชากใจจริงๆ



ส่วนเพลงที่เหลือลองไปหาฟังมากันดูนะครับในอัลบั้มมีเพลงเยี่ยมอีกเยอะครับ ผมชอบวงนี้ตรงที่แนวเพลงเขาโดดเด่นมาก พวกกีตาร์ เบส กลอง คีย์บอรด์ พี่แกเล่นกันสดๆ ไม่ค่อยพึ่งลูปเหมือนทั่วๆไป สำเนียงเพลงเลยออกมาดิบๆ สดๆ เวลาออกทัวพวกเขาจะมี ดีเจมาเล่นแซมปริ้งและสแครชแผ่น และมีมือคีย์บอรด์เพิ่มมาในส่วนเสียงซินธ์ต่างๆ เป็นวงที่เหนียวแน่นและมีแฟนเพลงที่เหนียวแน่นคอยติดตามผมเองก็ตามมาทุกชุด แม้พวกเขาจะวัยสี่สิบกว่าๆกันแล้วแต่เรี่ยวแรงการทำดนตรีนี่ไม่แก่ตามอายุเลย ขอฝากไว้อีกอัลบั้มในสัปดาห์นี้ครับ

รายชื่อเพลงในชุดนี้

Make Some Noise
Nonstop Disco Powerpack
OK
Too Many Rappers featuring Nas
Say It
The Bill Harper Collection"
Don't Play No Game That I Can't Win featuring Santigold
Long Burn the Fire
Funky Donkey
The Larry Routine
Tadlock's Glasses
Lee Majors Come Again
Multilateral Nuclear Disarmament
Here's a Little Something for Ya
Crazy Ass Shit
The Lisa Lisa/Full Force Routine
** bonus tracks **
Pop Your Balloon
B-Boys in the Cut
Make Some Noise Passion Pit Remix

Create Date : 26 พฤษภาคม 2554 Last Update : 26 พฤษภาคม 2554 13:56:46 น. Counter : 1673 Pageviews.		2 comments
Share Tweet