<<Friday Rewind<<The Chemical Brothers<<
<วันนี้มาพบเร้วหนึ่งวันช่วงนี้ภาระกิจการงานค่อนข้างยุ่งเลยหายไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ไม่รู้ว่าลืมกันไปหรือยัง วันนี้ขอนำเสนอ <
มิวสิควีดีโอ Leave Home



มิวสิควีดีโอ Life Is Sweet



เพลง Song to the Siren



เพลง Chemical Beats และเพลงนี้ยังนำไปใช้ใน ซาวนด์แทร็ค เกมส์ Wipe out ของ เพลย์เสตชั่น 1 อีกด้วย กราฟฟิคในเกมส์ออกแบบโดยกลุ่มคนทำกราฟฟิคฝีมือดีอย่าง TDR



เพลง One Too Many Mornings



สำหรับอัลบั้มนี้หลายเพลงเป็นซิงเกิ้ลที่พวกเขาทำไว้ในสมัยใช้ชื่อ The Dust Brothers ซึ่งชุดนี้ผมจัดในขึ้นหิ้งอัลบั้มเพลงอีเลคโทรนิคในดวงใจผมเลย มันพลิกโฉมบีทและซาวนด์แบบเดิมๆของเพลงเต้นรำเลยครับ อัลบั้มนี้ของพวกเขาสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มภาคภูมิและยังมีหลายๆเพลงที่ถูกนำไปรีมิกซ์ โดยดีเจเชื่อดังๆด้วย และผลงานชุดนี้ยังส่งผลให้วงเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นและมีการแสดงสดตามเทศกาลดนตรีต่างๆตามมา

หลังจากอัลบั้มแรกสองปีพวกเขาปล่อยอัลบั้มที่สองมาย้ำความสำเร็จของพวกเขากับอัลบั้มที่ชื่อ Dig Your Own Hole ในชุดนี่มี Noel Gallagher จากโอเอซิสมาช่วยร้องและเขียนเนื้อเพลงด้วยในเพลง Setting Sun

มิวสิคเพลง Setting Sun เพลงนี้ผมบอกได้เลยว่ามันเพลงเทพจริงๆ ดนตรีมันทั้งหลอนแต่เท่ห์มันเป้นทั้งร็อกและแดนซ์ในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ผมก็ว่ามันยังเทพอยู่



มิวสิคเพลง Block Rockin' Beats เสียงกีตาร์แบบไซเคิลเดริคกับบีทลูปซ้ำๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ให้แรงบันดาลใจผมให้ทำงานเพลงอีเลคโทรนิคจากโปรแกม Music ในเครื่องเพลย์สเตชั่น1 อีกด้วยไว้วันหลังจะเอามาให้ลองฟังกันครับขอไปค้นจาก my space ก่อนครับ



มิวสิคเพลง Don't Stop the Rock



มิวสิคเพลง It Doesn't Matter เพลงนี้ค่อนข้างต่างจากเพลงอื่นในชุดนี้เพราะจะเน้นไปทางอีเลคโทรนิคอย่างชัดเจนซึ่งในชุดหลังๆงานเพลงพวกเขาจะมุ่งเน้นไปแนวนี้ครับ



มิวสิคเพลง Where Do I Begin อีกเพลงชั้นเยี่ยมระดับห้าดาวซึ่งได้ Beth Orton มาร้องซึ่งบรรยากาศในเพลงนี้แตกต่างจากทุกเพลงและยังจัดได้ว่าเป็นเพลงชิลเอาท์ยุคแรกที่ชัดเจนในความเป็นอีเลคโทรนิคที่มีท่วงทำนองผ่อนคลาย ล่องลอยและแนวการร้องแบบนี้ทำให้เกิดสไตล์การร้องที่เป็นแนวเฉพาะของเพลงชิลล์ด้วย



อัลบั้มต่อมาในปี 1999 ก่อนเข้าสู่ยุค 2000 พวกเขาได้ส่งผลงานชุดที่สามออกมาซึ่งช่วงนี้เพลงอัลเทอร์เนทีฟกำลังอยู่ในช่วงพีคสุดๆ แนวดนตรีทดลองต่างเป็นที่โหยหาของคนฟังเพลงที่ต้องการความสดใหม่ Surrender คืออัลบั้มที่พวกเขาส่งมาเพื่อตอบสนองคนที่ต้องการสิ่งนี้

มิวสิคเพลง Out of Control ซิงเกิ้ลแรกที่ส่งออกมากับมิวสิค วีดีโอที่เนื้อหาฉีกแนวด้านตัวเพลงนับว่าทำออกมาได้เยี่ยมสุดๆ จนหาผลงานชิ้นอื่นๆมาเทียบชั้นได้ยากยิ่ง



มิวสิคเพลง Hey Boy Hey Girl อีกเพลงที่ดังเปรี้ยงป้าง!!ผับบาร์ร้านเหล้าเปิดกันสนั่น เป็นเพลงเต้นรำที่ไม่ผูกมัดเฉพาะกลุ่มแต่จังหวะที่เร่าร้อนทำให้เพลงนี้แทรกตัวไปทุกฟลอร์เต้นรำ



มิวสิคเพลง Let Forever Be featuring Noel Gallagher อีกเพลงที่อยากตะโกนดังๆว่าแหล่มจริงเพลงนี้ ตั้งแต่แนวดนตรีซาวนด์มันใหม่จริง แถมได้เสียงร้องที่ยียวนของ โนล แห่ง โอเอซิส ผมจัดว่ามันเหมือนเพลง The Beatles ในภาคอีเลคโทรนิค



เพลง Dream On featuring Jonathan Donahue นับเป็นธรรมเนียมหนึ่งจากชุดที่แล้วของพวกเขาในเพลงสุดท้ายปิดอัลบั้มจะเป็นเพลงช้า เพลงนี้จัดได้ว่าเป็นเพลงชิลเอาท์ชั้นดีอีกเพลงผมว่ามันล้างหูและผ่อนคลายได้ดีจากการที่เราสนุกกับเพลงต่างๆมาหลายเพลง



มิวสิคเพลง Come With Us เพลงนี้เป็นอีเลคโทรแบบเต็มตัวกับบีทแบบเบรคบีทซึ่งในช่วงนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในวงการเพลงอีเลคโทรนิค และเพลงนี้ยังมีอีกเวอร์ชั่นที่รีมิกซ์ โดย Fat Boy Slim ซึ่งนิยมเปิดมากตามฟลอร์



Come With Us (Fatboy Slim Remix)



มิวสิคเพลง The Test ที่เต็มไปด้วยสำเนียงสวดแบบแอฟริกัน และขับร้องโดย Richard Ashcroft เพลงนี้มีมิวสิคที่สวยงาม และเสียงสังเคราะห์ต่างๆฟุ้งในบรรยากาศของเพลงอีกด้วยและเป็นเพลงปิดท้ายอัลบั้มที่ไม่ได้เป็นเพลงช้าด้วย



มิวสิคเพลง Star Guitar อีกเพลงที่ไม่ควรพลาดทั้งด้านดนตรีและการนำเสนอด้วยบีทและเสียงสังเคราะห์ที่ไม่รกหู



วันนี้ผมค่อนข้างร่ายยาวเพราะเพลงของ The Chemical Brothers แต่ละชุดมีความน่าสนใจทั้งในเรื่องซาวนด์เนื้อหาแนวเพลงในแต่ละอัลบั้มค่อนข้างมีความเฉพาะตัวไม่เหมือนแต่ละชุดจะเป็นภาคต่อๆกันแต่มันออกมาแบบแต่ละชุดจะมีความเด่นในตัวของมันเอง โยไม่พึ่งพาความสำเร็จจากอัลบั้มก่อนๆ หลังที่นั้นอีกสามปีพวกเขาก็ปล่อยอัลบั้มที่ชื่อ Push the Button ในปี 2005 ผมจัดให้เป็นอัลบั้มทดลองแนวเพลงใหม่ๆของพวกเขาเพราะดนตรีชุดนี้ค่อนข้างจะต่างไปจากชุดอื่นๆพอสมควร ทำให้เเฟนเพลงที่ชอบเพลงแบบฟังง่ายๆถอนตัวกันไปเยอะครับ

มิวสิคเพลง Belive เพลงนี้เพลงดังที่สุดของอัลบั้มนี้ก็ว่าได้ ภาคดนตรีค่อนข้างจะเหมาะกับการแสดงสดและเปิดผ่านเครื่องเสียงมากกว่า เพราะดีเทลมันค่อนข้างเยอะถ้าฟังผ่านหูฟังเวียนหัวเอาง่ายๆ มิวสิคสนุกดีนึกว่าดู Transformer เลย



มิวสิคเพลง Galvanize มาในแนวฮิปฮอป ที่ผสานสำเนียงอาหรับเข้ามาจากลูปที่ตัดมาใส่เป็นช่วงๆ บ่นโดย Q-Tip Rapper Producer HipHop Rap ชื่อดังชาวอเมริกัน เพลงนี้เปิดอัลบั้มและแปลกสุดในอัลบั้มนี้แล้ว



มิวสิคเพลง The Boxer



เพลง Come inside



มิวสิคเพลง Close You Eyes เพลงได้วง The Magic Numbers มาร่วมเล่นด้วยนับว่าเป็นเพลงร็อกเพลงเดียวในอัลบั้มนี้เลย เพราะมันแทบไม่เป็นอีเลคโทรเลยถ้าไม่มีเสียงซินธ์มาปนเสียงกลองที่แปลกและโดดเด่นมาก ผมชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้มนี้เลยและเพลงนี้ยาว 6 นาทีกว่าด้วยฟังเพลินดีแปลกใหม่ผมจัดเป็นเพลงที่เยี่ยมอีกเพลงตั้งแต่ฟังเพลงมา



มาสู่อัลบั้มที่ 6 ของวง We Are the Night ออกมาในปี 2007 หลังจากก่อนหน้า 2 ปี อัลบั้มนี้เพลงในชุดค่อนข้างจะมีซาวนด์ย้อยุยคไปสู่ยุคกำเนิคเพลง อีเลคโทรปอ็ปในช่วง 80'S มีเพลงน่ารักอย่างเพลง The Salmon Dance

มิวสิคเพลง The Salmon Dance



มิวสิคเพลง Do It Again มิวสิคเพลงนี้มาแปลกอีกแล้วเรื่องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง กับเด็กเลี้ยงแกะสองคนที่ชอบเต้นๆ ซึ่งซาวนด์ไม่ต้องบอกว่ามัน 80 จ๋าๆเลยซึ่งในช่วงนี้วงแนว อีเลคโทรปอ็ปเกิดขึ้นมากมายที่ใช่ซาวนด์แบบ 80 เช่น Mika



มิวสิคเพลง All Rights Reversed ดิสโก้แห่งยุค 2007 เพลงที่มีบีทแบบดิสโก้และท่อนประสานเป็นพื้นหลังของเพลงได้วงแนวคิดเดียวกันอย่าง Klaxons and Lightspeed Champion มาร่วมงานด้วยบอกได้ว่าเป้นเพลงที่ไม่ควรพลาดที่สุดในอัลบั้มนี้



มิวสิคเพลง Saturate อีกเพลงที่ผมชอบในอัลบั้มนี้ด้วยเสียงไตเติ้ลแทร็คที่ติดหูง่าย และจังหวะที่สนุกเหมือนกินข้าวโพดคั่ว



เพลง The pills won't help you now อีกหนึ่งบทเพลงที่ดีทีสุดในอัลบั้มนี้เลยร้องโดย Mildlake ซึ่งเป็นวงร็อกอเมริกันเเละพวกเขายังชอบนำเพลงนี้ไปร้องเวลาพวกเขาแสดงสดด้วย



และแล้วเราก็มาสู่อัลบั้มที่ 7 ของพวกเขานับว่าเป็นอัลบั้มล่าสุดของพวกเขาอัลบั้มนี้ออกเมือกลางปี 2010 ซึ่งผมนับว่ามันเป็น คอนเซ็ปต์อัลบั้มที่ทุกเพลงล้วนถ่ายทอกออกมาเป็นเรื่องราวทั้ง 8 เพลงในอัลบั้มด้วยซึ่งเขาร่วมางานภาพยนตร์กับ Adam Smith และ Marcus Lyal ซึ่งมีจำหน่ายพร้อมแผ่น ดีวีดี และยังเป้นผลงานที่ออกกับสังกัดใหม่ของพวกเขา Parlophone ด้วยซึ่งแต่เดิมพวกเขาสังกัดค่าย Virgin แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสังกัดทั้งสองก็อยู่ใต้สังกัดใหญ่อย่าง EMI UK. อยู่ดีจะย้ายทำไมงง ผลงานอัลบั้มยิ่งล้ำลึกและฟังยากเหมือนกับปกอัลบั้มที่ดำดิ่งลงไปในห้วงมหาสมุทร มันค่อนข้างจะอารต์สูงเลยทำให้แฟนเพลงหายไปเยอะพอควรกับอัลบั้มนี้ ถ้ามองในแง่ความเป็นปอ็ปมันอาจไม่ติดหูง่ายและไม่เต้นรำเสียเลยแต่ถ้ามองในความงดงามแน่นอนมันงดงามกว่างานทุกชิ้นที่ผ่านมา

มิวสิคเพลง Escape Velocity



มิวสิคเพลง Wonders of the Deep



มิวสิคเพลง Another World เพลงนี้ฟังง่ายมีจังหวะไม่ต้องดำน้ำไปฟังครับเพลงนี้



มิวสิคเพลง Snow



มิวสิคเพลง Horse Power



มิสิคเพลง K+D+B



มิวสิคเพลง Dissolve



มิวสิคเพลง Swoon



ในอัลบั้มนี้ขอไม่แนะนำดีกว่าว่าเพลงไหนเป็นอย่างไรเพราะมันขึ้นอยู่กับคนฟังด้วยว่าชอบแบบนี้ไหมส่วนตัวผมชอบยิ่งมิวสิควีดีโอด้วยแล้วเยี่ยมมากจะหางานดีๆแบบนี้ยากในยุคนี้ เพราะด้วยความที่มันไม่ใช่งานตลาดแต่เป้นงานอีกมุมมองหนึ่งที่พวกเขาอยากทำการทดลองและถ่ายทอดมันออกมา งานแปลกใหม่ๆถ้าคนที่ไม่ชอบดนตรีที่ล้ำยุคหน่อยคงจะผ่านหูยาก ถ้าให้ผมฟังแบบไม่มีมิวสิคก็อยากนอนเหมือนกันงานมิวสิคดีเลยขอเสนอทั้งแปดเพลงเลย ถ้าเป็นเวอรชั้นที่ขายในญี่ปุ่นจะมีเพลง Don't Think และใน I-Tunes ในอเมริกาจะมีเพลง Pourquoi เพิ่มเข้ามาต่างจากที่ขายในอังกฤษ

และในปี 2011 พวกเขาก็มีโอากาศได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ทั้งในส่วนที่เป็นสกอร์และเพลงประกอบด้วยกับภาพยนตร์ที่ชื่อ HANNA

ธีมหลักของภาพยนตร์ HANNA



ตัวอย่างภาพยนตร์ HANNA นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจอีกเรื่อง



เป้นไงครับหวังว่าคงจุใจกันนะครับกับผลงานทั้งเจ็ดชุดของพวกเขาอันนี้ผมเขียนทุกชุดเพราะอย่างที่บอกไว้แต่ต้นว่าผลงานเขามีการพัฒนาและในแต่ละชุดการนำเสนองานมันก็ต่างกันถ้ามันเหมือนภาคต่อหรือน่าสนใจบางอัลบั้มผมจะไม่ร่ายยาวเช่นนี้ ไว้วันศุกร์หน้าจะเป็นวงอะไรติดตามกันครับสำหรับวันนี้สวัสดีครับ

**สำหรับคนที่อยากทดลองก่อนว่าแนวดนตรีพวกเขาเป็นอย่างไรหรือขี้เกียจฟังทุกชุดอยากจะฟังแต่เพลงสุดยอดแล้วแนะนำอัลบั้มรวมเพลงพวกเขาครับ Brotherhood มีเป็นซีดีคู่ครับ**



***หน้าปกอัลบั้มชุดต่างๆ***

Exit Planet Dust



Dig Your Own Hole



Surrender



Come with Us



Push the Button



We Are the Night



Further



Hanna




Create Date : 19 พฤษภาคม 2554
Last Update : 19 พฤษภาคม 2554 14:53:58 น.
Counter : 1120 Pageviews.

3 comments
  
ว้าว มีมาให้อ่าน+ฟังกันจุใจเลยทีเดียว
ผมเคยตามงานของพวกเขาอยู่สองสามชุดครับ ทำเพลงได้ฟังเพลินดีทีเดียว
ปล.ขอบคุณมากครับ
โดย: Nanatakara วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:06:33 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ
โดย: DJ.piggypop วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:16:27 น.
  
ได้เวลานอนแล้ว อย่าลืมนอนนะครับ ดูแลสุขภาพด้วย News
โดย: bbandp วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:18:48 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

DJ.piggypop
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พฤษภาคม 2554

1
2
3
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
19 พฤษภาคม 2554