|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
แนน-อมิตา: ต้องลองรักสักกี่ครั้ง
ไม่แน่ใจมากๆเลยว่าสมควรนำเรื่องนี้มาลงที่นี่หรือเปล่า คือ ไม่มั่นใจในเรื่องลิขสิทธิ์ (เพราะหนังสือกำลังวางแผงอยู่) และความเหมาะสมของผู้อ่าน (โปรดใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์เรื่องนะคะ)
อย่างไรก็ตาม เจ้าของ Blog ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีกับผู้เขียนนะคะ คือ อ่านแล้วค่อนข้างกระทบกับความรู้สึกมากๆๆ ว่าทำไม และ อะไร จึงทำให้ผู้เขียนใช้ชีวิตโดยการไล่ล่าความฝันเช่นนั้น..... (อ่านไปก็วิเคราะไปน่ะคะ) ดังกล่าว จึงขอนำเรื่องนี้มา Share ที่นี่นะคะ
* หากพบว่าไม่เหมาะสมหรือไม่อย่างไร ก็แจ้งมาให้ทราบด้วยละกัน....
ต้องลองรักสักกี่ครั้ง แนน อมิตา ชินสำเร็จ
กระเทาะหัวใจ แนน
บทนำ ก่อนอื่นแนนอยากจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ของแนนไม่ได้มีเจตนาที่จะแฉใครต่อใครให้อายนะคะ หากอ่านกันดีๆจะพบว่าแนนไม่ได้บรรยสยถึงบทรักอะไรเลย นอกจากบอกใบ้ตัวบุคคลแค่เพียงนิดๆหน่อยๆแต่ไม่ได้ระบุแบบชัดเจน ทั้งนี้ก็เพราะว่าจุดประสงค์หลักๆก็คือ แนนอยากจะบอกว่า การที่ใครสักคนหนึ่งจะพบเจอรักแท้นั้นเราไม่ควรเอาร่างกายของเราเข้าไปทดสอบกับใครต่อใคร เพราะความรักมันไม่ใช่เสื่อผ้าที่จะถอดแล้วใส่ ถอดแล้วลองไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น ความรักจะต้องใช้หัวใจเท่านั้น แนนอยากจะขอบคุณและขอโทษทุกๆคนที่กล่าวอ้างถึงในหนังสือเล่มนี้ ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์แห่งชีวิตของแนน มาช่วยสอนให้แนนได้เรียนรู้อะไรมากมายบนโลกใบนี้ ในหนังสือเล่มนี้ยังคงมีอะไรๆที่เป็นความลับของเราสองคน แนนบอกเล่าแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ขอบคุณทุกๆคนด้วยใจจริง
แนน อมิตตา สารบัญ
- ก้าวที่พลาด - จุดเริ่มต้น (อยากมีแฟนเป็นดารา) - แฟนคนแรก..นักร้องหน้าตี๋ - นักร้องอินดี้หัวสีทอง - พระเอก 5 ดาว - SEX ในลิฟท์กับนักร้องมาร์ดเซอร์ - ดีเจ...เสียงใสๆ - รสรัก...พระเอกไม่มีดั้ง - มือกีต้าร์ขาร็อค! - ฉันรักผัวเขา !! - รักชั่วคราวจากตัวประกอบ - เรื่องคาวๆกับพระเอกหนัง - แฟนตัวจริง - แอบกินนักร้องหน้าละอ่อน - หนุ่มแรพ-เขย่ารัก - ผู้ชายคนสุดท้ายกับหัวใจที่เป็นจุดจบ! - บทส่งท้าย ก้าวที่พลาด
แนนทำไมช่วงนี้อ้วนจัง ไปทำอะไรมาเนี่ยแนน ดูอ้วนขึ้นนะ แนนท้องหรือเปล่าเนี่ย แนนดูเหมือนคนท้องเลยนะเนี่ย
หลายคำถามที่แนนได้ยินจากคนใกล้ตัวในระยะนี้ทำให้แนนต้องกลับมาย้อนถามตัวเองว่าเป็นเพราะว่าอะไรนะ..... ในตอนแรกที่โดนทักว่าอ้วน ยังพอจะตอบตัวเองได้ว่า สงสัยเราจะกินเยอะ นอนมาก ออกกำลังกายน้อยแน่ๆ หุ่นถึงได้ฉุขึ้นๆอย่างปิดใครไม่มิด
แต่พอคำว่า ท้อง มาสะกิดใจ...สมองก็ทำงานมากขึ้น เหตุผลต่างๆถูกรวบรวมมากลั่นกรอง จนได้ข้อสงสัยเพิ่มขึ้น ประจำเดือนที่หายหน้าไปเกือบสองเดือน, อาการอยากกินอาหารมากผิดปกติ, รูปร่างที่ฉุขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินปกติ แถมด้วยอาการหน้ามืดบ่อยๆ อาเจียนอีกเรื่อยๆ และเมื่อแนนเริ่มเอะใจว่าตัวเองจะท้อง แนนก็ไม่รอช้า รีบไปซื้อเครื่องมือตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองมาพิสูจน์ให้เห็นกันจะจะทันที
เย็นวันนั้นแนนไม่รอช้าที่จะทำการตรวจปัสสาวะตามวิธีการที่แนะนำในกล่อง และผลองมันก็ออกมาว่า แนนตั้งครรภ์ แต่แนนไม่เชื่อหรอก เพราะเครื่องมือที่ผลิตออกมาไม่รู้กี่พันกี่แสนโหลมันก็มีสิทธิ์มั่วได้ไม่ยาก แถมวิธีแนะนำการใช้ยังระบุอีกว่า การตรวจปัสสาวะ โดยการใช้ปัสสาวะ โดยการใช้ปัสสาวะในช่วงเช้าจะได้ผลที่ดีที่สุด และถูกต้องที่สุด
คืนนั้นแนนนอนแทบไม่หลับ แอบลุ้นในใจว่าผลที่ได้มันจะออกมาไม่เหมือนอย่างการตรวจครั้งแรก แนนนอนคิดไปคิดมาหลายตลบจนไม่รู้ว่าตัวเองผลอยหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกทีก็เช้าตรู่ แน่นอนว่าแนนไม่รอช้า ตื่นปุ๊บรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ เพื่อเช็คปัสสาวะตัวเองทันที
และผลออกมาก็ไม่น่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะคำตอบที่ได้มันไม่ต่างจากเมื่อคืนเลยแม้ว่าจะใจเสียไปไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ถึงกับหมดใจ แนนพยายามคิดว่าผลปัสสาวะอาจจะผิดเพื้ยนไปได้ เพราะความเครียดที่เกิดขึ้น และที่สำคัญแนนซื้อที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองมาถึงสามชุด เนื่องจากกลัวว่าผลที่ได้จะไม่ชัวร์ แนนเลยต้องการเช็คชัวร์ซึ่งเครื่องมือตรวจการตั้งครรภ์ทั้งสามชุดแสดงผลไม่ต่างกัน ทำให้แนนมั่นใจว่าตัวเองท้องชัวร์ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาฟันธง
วินาทีแรกที่รู้ว่าตัวเองท้อง ยอมรับว่าสับสนมากๆ สับสนจนน้ำตาไหล เราจะทำยังไงกับชีวิต นี่คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นในใจ ไหนจะงานที่รับเอาไว้มากมาย ไหนจะด้วยความเป็นลูกผู้หญิง ท้องตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงาน แม่จะเสียใจแค่ไหน คนที่เป็นแฟนเรา เป็นพ่อของลูกในท้อง ถ้าเขารู้ตัวว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน เขาจะรู้สึกยังไง หลากหลายความคิดตีกันอยู่ในสมอง
สุดท้ายแนนตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาพ่อของลูกในท้อง เขาเป็นผู้ชายที่แนนรักมาก และแนนก็เชื่อมั่นว่าเขาเองก็รักแนนไม่น้อยเหมือนกัน แม้ว่าเขาอาจจะรักแนนไม่มากเท่าที่แนนรักเขา แต่แนนก็แอบคิดว่าอย่างไรเสีย เขาคงจะรู้สึกดีใจบ้างไม่มากก็น้อย ที่เขาจะได้มีลูกกับแนนอย่างที่เราสองคนเคยวาดฝันเอาไว้ด้วยกัน
ฮัลโหลพี่ แนนมรเรื่องสำคัญจะบอกพี่ มีเรื่องอะไรเหรอแนน พี่...แนนท้อง
น้ำเสียงของแนนตอนนั้น ถ้าอัดเทปไว้ฟังก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าตัวเองอยู่ในอารมณ์ไหน ท้อง?!? ท้องกี่เดือนแล้ว น้ำเสียงเขาดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อย และเขาก็ปรับเสียงเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้อย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น่าจะเกือบสองเดือนแล้วพี่ แนนตอบไปพร้อมๆกับพยายามหยั่งความรู้สึกของคนทางปลายสาย ว่าเขารู้สึกอย่างไร เดี๋ยวอีกแป๊บเดียวพี่โทรกลับนะแนน พี่ทำงานอยู่ ได้ค่ะ แนนจะรอ
และหลังจากวันนั้นจวบจนวันนี้ แนนก็ยังคงรอ...รอ และรอ ตามคำที่เขาบอก ซึ่งเขาไม่เคยโทรมาหาแนนอีกเลย เรื่องลูกไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดจะนำพามาคุยกับแนน แนนเข้าใจผิด แนนคิดผิด แนนคิดว่าเขากำลังยุ่งกับเรื่องตรงหน้าอยู่จริง ถ้าเขาว่างเขาคงโทรมาหาแนนเองตามคำที่เขาบอก แต่เปล่าเลย เขาไม่คิดจะโทรมา เขาไม่คิดแม้จะเหลียวแลใส่ใจ ผู้หญิงอย่างแนนหรือแม้กระทั่งลูกในไส้ของขา ซึ่งตอนนี้อาศัยอยู่ในท้องของแนน!!!
วันนี้แนนไม่เสียใจสักนิดที่กำลังจะมีลูก และจะได้เป็นแม่คน แต่วันนี้แนนเสียใจที่สุดที่แนนไม่มีเขาคนที่แนนรักยืนอยู่เคียงข้าง
แต่แนนเข้าใจว่าเพราะอะไร เขาถึงได้จากแนนไป เขาไม่ได้ผิด เป็นเพราะตัวแนนเอง ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ดี แต่แนนก็ทำ แนนใช้ความเป็นเด็กบ้าดาราสร้างประสบการณ์ต่างๆในชีวิตมากมาย และประสบการณ์เหล่านั้นแหละที่ทำให้แนนเป็นผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่ออย่างทุกวันนี้
ส่วนใครที่อยากจะรู้ว่าพ่อเด็กคนนี้คือใคร...ปริศนาที่นักข่าวพยายามติดตามแต่ไม่ได้คำตอบ...ลองอ่านดูไปเรื่อยๆก็แล้วกันค่ะ......
Create Date : 19 พฤษภาคม 2550 |
|
19 comments |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2550 16:01:04 น. |
Counter : 2357 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เสียงซึง 19 พฤษภาคม 2550 20:20:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: นีซ IP: 58.10.102.155 19 พฤษภาคม 2550 20:40:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 19 พฤษภาคม 2550 23:52:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 19 พฤษภาคม 2550 23:53:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: onno IP: 124.120.170.252 7 มิถุนายน 2550 16:40:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: jaa IP: 203.153.176.139 8 มิถุนายน 2550 12:57:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: aom IP: 203.113.70.11 9 มิถุนายน 2550 17:46:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: I am IP: 202.91.19.204 30 มกราคม 2551 1:52:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: meen IP: 118.174.216.70 3 มีนาคม 2551 20:43:43 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เราเชื่ออยู่ 5 ข้อ:
1. คนเรา...ทำงานไม่เกินอายุ 60 ปี (จงทำทุกอย่างที่อยากทำ) 2. คนเรา...ไม่ได้มีชีวิตอยู่เกิน 100 ปี (จงอย่ายึดติด ปล่อยวางบ้างก็ได้) 3. คนเรา...ฟ้าลิขิตมาแล้วจะให้เป็นอะไร จึงดลใจให้เรากำหนดตัวเองอย่างนั้น (อย่าดิ้นรนเกินตัว) 4. อะไร...ที่เป็นของของเรา ยังไงมันก็เป็นของเราอยู่วันยังคำ (อย่าทรมานตัวเองเพราะคำว่า "ไม่มี ไม่ได้") 5. ชีวิตยังมีอีกหลายด้าน (มามัวจมกับด้านเดียวซำๆทำไม)
|
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตของแนนก่อนจะเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง แนนก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นนักเรียนมัธยมต้น ซึ่งมีโอกาสเข้าสู่วงการบันเทิง โดยการนำพาของโมเดลลิ่ง ซึ่งวิถีชีวิตก็คงไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่นหลายๆคนในวันนี้
คนอ่านหลายคนอาจจะนึกภาพแนนในวัย 14 ปีที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการไม่ออก ขอบอกว่าวันนั้นกับวันนี้ต่างกันมากมายนะคะ แนนในวันนั้นเป็นเด็กใสๆดูเหมือนไม่รู้ประสีประสาอะไรกับใครเขา ความแรดที่มีอยู่ในตัวก็ถูกซ่อนเอาไว้ลึกๆ เหมือนที่บางคนอาจจะเรียกกันว่า แรดเงียบ
และด้วยความที่แนนมาจากโรงเรียนหญิงล้วน เวลาที่มาทำงานในวงการบันเทิง ต้องไปออกงาน ไปประกวดตามเวทีต่างๆต้องเจอเพื่อนๆมากหน้าหลายตาทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย บอกตามตรงว่าเวลาเจอผู้ชายทีไร แนนก็จะรู้สึกวางตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทความรู้จักยังไง จะเรียกว่าตื่นต้นก็ไมผิดนะคะ
ความตื่นเต้นที่ได้มีเพื่อนผู้ชาย บวกกับความชื่นชมดาราเป็นพิเศษ หรือจะเรียกแบบชาวบ้านๆก็คือแนนเป็นเด็กบ้าดารา ทำให้เวลาแนนเจอดาราดังๆหรือคนมีชื่อเสียง แนนอดจะขอเช็คเรทติ้งความสวยไม่ได้เสียทุกที บางคนอาจจะเกิดความคิดว่าแนนเนี่ยสวย มีความสวยอะไรให้เช็ค ขอบอกว่าอย่าเพิ่งรีบตัดสินกันนะคะ เพราะถ้าได้ฟังเรื่องที่แนนจะเล่าต่อไปนี้ แล้วคุณอาจจะต้องหยุดคิดใหม่อีกหน แม้แนนจะไม่ได้สวยหยาดเยิ้ม แต่เชื่อสิว่าแนนคงมีดีอะไรบ้างล่ะน่า ถึงทำให้มีแรงดึงดูดเพศตรงข้ามได้แบบไม่ธรรมดา
และด้วยความเป็นเด็กบ้าดารา แน่นอนว่าแนนก็มีความใฝ่ฝันสูงสุด คือหวังว่าจะหาแฟนเป็นดาราให้ได้สักคน อย่าเพิ่งตัดสินว่าแนนเป็นคนมีความคิดปบบคนไร้สมองเลยนะคะ ก็เด็กบ้าดาราคนหนึ่ง จะฝันอะไรมากไปกว่าการได้ดาราที่ชื่นชอบมาเป็นแฟนล่ะคะ ลองดูสิแฟนคลับที่วิ่งตามดารากันให้เหนื่อยอยู่ทุกวันนี้ ลองไปถามดูได้ ถ้าเขาไม่โกหก ถ้าเขากล้าเปิดเผยความจริงในใจ แนนว่าทุกคนแหละนะคะ อยากได้เป็นแฟนดาราที่ตัวเองชื่นชอบทั้งนั้น หรืออย่างน้อยๆก็ขอให้ได้นอนกับดาราสักครั้งในชีวิต!!
และด้วยความรู้สึกของเด็กบ้าดาราอย่างแนน การที่ได้เป็นแฟนดารา การที่ได้มีคนดังเป็นแฟนมันทั้งโก้ ทั้งเก๋ เท่ห์ไม่หยอกเลยละคะ เดินไปไหนก็มีแต่คนมอง เพื่อนๆที่โรงเรียนก็พากันอิจฉา แนนกลายเป็นดาวของดรงเรียนได้ก็เพราะมีแฟนเป็นดารานี่แหละคะ
เพราะฉะนั้นผู้ชายเดินดินธรรมดาในเวลานั้นไม่ต้องมาเสียเวลาจีบแนนให้ยากเลยนะคะ เพราะแนนไม่มีเวลามาชายตามอง หรือเหลือบตาไปใส่ใจใยดีด้วยสักนิด เพราะเวลาทั้งหมดที่แนนมีให้กับความรัก แนนมุ่งมั่นตั้งใจไปเฉพาะคนที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ถ้าไท่ใช่ดารา ไม่ใช่คนดัง แนนเชิ่ดใส่สถานเดียว
แฟนคนแรก...นักร้องหน้าตี๋
แฟนคนแรกของแนนเป็นนักร้อง หน้าตาดี ที่กำลังออกเทปกับค่ายหนึ่งค่ะ เขาเป็ผู้ชายคนแรกที่แนนคบหาด้วยในวงการบันเทิง สมมติว่าเขาชื่อทีนะคะ ทีเป็นคนมีอนาคต ฐานะทางบ้านดี การศึกษาก็ดี เคยโด่งดังกับรักหวานๆทรมานหัวใจวัยรุ่น ปัจจุบันแม้ว่าทีจะไม่ได้ทำงานในวงการแล้วแต่ทีก็ยังส่งน้องชายสุดหล่อของเขามาเฉิดฉายอยู่ในจอทีวีมาร้องเพลงหวานๆให้แนนได้เห็นและหวนคิดถึงเขาอยู่บ่อยๆ
พูดถึงทีแล้ว แนนมีโอกาสเจอเขา เพราะว่าไปประกวดหนุ่มสาวหน้าใส ซึ่งแนนได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวดเวทีนี้ด้วยนะ แต่เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งคิดว่าผู้ชายคนที่แนนว่าเขาเป็นรางวัลที่ทางกรรมการแจกให้แนนนะคะ
เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ว่า ระหว่างการประกวดก็มีการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ประกวดทั้งหมด ซึ่งภายในงานก็ได้รับเกียรติจากศิลปินหน้าใหม่ที่เพิ่งจะออกเทป และเริ่มมีชื่อเสียงอย่างทีมาเป็นแขกรับเชิญ แรกเริ่มแนนก็ยังไม่ได้คิดอะไรหรอกนะคะ รู้แต่ว่าเขาเป็นศิลปิน เจอหน้าก็แค่ขอถ่ายรูปคู่ธรรมดาๆ เหมือนเด็กที่ชื่นชอบศิลปินคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ดังมาก แต่แนนก็ได้ยินประวัติมาว่าเขาเป็นคนเรียนเก่งมาก แล้วหน้าตาก็ดีพอสมควร แถมเขายังมาพูดคุยแบบใกล้ชิดกับแนนอีกด้วย ทำให้เกิดความปลื้มขึ้นในใจ
และที่ประทับใจไม่มีวันลืมเลยก็คือ ครั้งแรกที่สบตากัน แนนยังจำความรู้สึกวันนั้นได้ มันเหมือนว่าเราปิ๊งกัน คือเราหันไปทีไร เขาก็แอบมองอยู่ทุกที และพอตาประสานตาทีไร เขาก็จะออกอาการเขิน ซึ่งแนนเองก็เขินเหมือนกันนะคะ เพราะตอนนั้นแนนก็ยังเด็กๆอยู่ ไม่ค่อยกล้าเหมือนกัน แต่ในใจตอนนั้นก็คิดว่า ถ้าเราต่างเขินต่างนิ่งกันไป ไม่พยายามที่จะคุยกัน ก็คงต้องต่างคนต่างแยกย้ายกันไป โดยที่ไม่ได้รู้จักกันแน่ๆ แนนก็เลยพยายามหาเรื่องคุยกับเขาจนได้
หลังจากที่ได้นั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน โดยแนนก็เล่าให้เขาฟังถึงการเดินสายประกวดเวทีต่างๆ เขาก็เล่าประสบการณ์การเป็นนักร้องให้แนนฟัง สุดท้ายก่อนลาจากกันก็ทำการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน.....บอกตามตรงแบบไม่โหกเหมือนกัน พอแยกกันมาแล้ว แนนรู้สึกประทับใจเขามากกว่าเดิมเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาก็อยากจะโทรหาเขามาก แต่ก็ไม่โทรนะ คือเขาไม่โทรมา แนนก็ไม่โทรไปเหมือนกัน เราเป็นลูกผู้หญิงนี่คะ จะให้โทรไปตามจิกผู้ชายก่อนก็กระไนอยู่ ตอนนั้นยังเด็กๆอยู่ด้วย อายุยังไม่ถึง 15 เต็มที่เลย
และแล้วเวลาก็ผ่านมาได้เกือบเดือน แนนก็เจอกับทีอีกครั้งที่งานสังคมแห่งหนึ่ง พอเจอหน้ากันปุ๊บต่างคนก็ต่างจำกันได้ ทักทายกันด้วยความคิดถึงไปตามประสา แล้วพอเลิกงานเขาก็เริ่มโทรมาคุยด้วย ซึ่งลักษณะการโทรมาคุยของเขาตอนนั้น แนนก็รู้เลยนะคะว่าเขาต้องสนใจเราแน่ๆ ซึ่งเราเองก็สนใจเขาอยู่เหมือนกัน
แนนกับทีคุยโทรศัพท์กันอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน เขาก็ขอนัดออกมาเจอบ้างด้วยความคิดถึง ยังจำได้เลยค่ะ วันนั้นเขานัดแนนมาเดินเซ็นทรัล ลาดพร้าว พาแนนไปกินข้าว แล้วก็เดินดูของ ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็ยังไม่ดังมากนะคะ เทปก็เพิ่งจะวางได้ไม่นาน แต่เดินไปไหนมาไหนคนก็มองอยู่นะ แนนเองก็ปลื้มไม่น้อย มีแฟนเป็นนักร้อง แถมเป็นหนุ่มในสเปคอีกต่างหาก
คือ เขาเป็นคนหน้าตาดี สูง แล้วก็เรียนเก่งด้วย คือชีวิตเขาค่อนข้างจะเพอร์เฟคมาก ฐานะทางบ้านทุกอย่างดีหมดเลย ตอนแรกก็คิดว่าถ้าเป็นแฟนก็คงโก้ดีเนอะ และพอได้มาเป็นแฟนกันจริงๆ มันก็เหมือนฝันเป็นจริงนะคะ
วันที่เขานัดแนนออกมาเดท นี่แนนไม่คิดนานเลยนะคะ ด้วยความชอบเขาเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ยิ่งเขามาตามจีบเราอีกด้วย แนนก็ตกปากรับคำทันทีเลย และก็ภูมิใจมากเวลาเดินด้วยกัน ใครๆก็มองว่าเราเป็นแฟนเขาและช่วงยุคนั้นยังฮิตใช้เพจเจอร์กันอยู่ เขาเองก็เพจมาหาแนนบ่อยๆ
ทานข้าวหรือยังครับ
ทำอะไรอยู่ครับ
แนนก็ได้เอาข้อความเหล่านี้ไปอวดเพื่อน ว่านี่นักร้องคนนี้เพจมาหาฉันนะเธอ ไม่ธรรมดานะจ๊ะ ซึ่งเวลานั้นแนนภูมิใจมากๆตามประสาเด็กบ้าดาราคนหนึ่ง แต่เพื่อนเชื่อในสิ่งที่เราบอกหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แล้วก็มีถ่ายรูปคู่กันไว้รูปหนึ่งแนนจำได้ แนนก็เอารูปไปแปะที่โต๊ะเรียนเลย นั่งเรียนอยู่ก็เห็นเขาตลอด ประหนึ่งว่าเป็นแฟนที่สวีทกันมากๆ
เพื่อนๆบางคนพอรู้ว่าแนนเป็นแฟนนักร้องก็เอาไปเม้าท์ต่อกันในโรงเรียนว่าคนนี้มีแฟนเป็นนักร้องชื่อนี้ๆนะ ซึ่งแนนก็ภูมิใจนะคะที่เขาเอาไปเม้าท์กัน เพราะเราก็อยากให้คนรู้อยู่แล้ว แต่เพื่อนบางคนก็จะอารมณ์แบบว่าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ คืออาจจะหมั่นไส้เล็กก็มี แต่แนนก็ไม่ซีเรียสนะ จะคิดยังไงก็ช่าง เรื่องจริงเป็นยังไงชั้นนี่แหละรู้ดี
วันแรกที่นัดเจอกัน พอเดินเที่ยวเสร็จเขาก็ชวนไปเที่ยวบ้านเขา ที่อยู่ตรงแถวเกษตร ซึ่งตอนนั้นแนนก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ รู้แต่ว่าบ้านเขามีฐานะ ครอบครัวเขาดูดี ก็อยากไปเที่ยวเขาอยู่แล้ว พอไปถึงก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งพ่อแม่เขาก็ต้อนรับเราดีนะคะ เหมือนเราเป็นเพื่อนลูกชายเขา
ตอนแรกพอไปถึงก็นั่งดูทีวีกันพร้อมหน้าพร้อมตาตรงห้องรับแขก แต่เหมือนพ่อแม่เขาจะเป็นใจนะคะ รู้ว่าลูกสาวพาเพื่อนสาวมาบ้านนี่คงไม่ธรรมดาหรอก มันจะพามานั่งดูทีวีแยๆเหรอ สักพักแม่ก็ลุกออกไปหาโน่นนี่ทำ พ่อก็ลุกไปที่อื่น เหมือนจะเปิดโอกาสให้เราสองคน สักพักเขาก็บอกว่า
แนนไปดูทีวีในห้องเราดีกว่า ครงนี้ไม่มีใครดูแล้ว ไปนั่งดูในห้องกันดีกว่า
แต่ปรากฎว่าพอเข้าไปถึงห้องเขาปุ๊บ ก็ไม่ได้ดูทีวีหรอกค่ะ ดูกันเองมากกว่า ดูกันไป ดูกันมาก็เรียบร้อยกันไปตามประสาหนุ่มสาวอยู่กันสองต่อสองในห้องหับมิดชิดซึ่งแนนก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนะคะ เพราะแนนเองก็ชอบเขาอยู่เหมือนกัน และรู้สึกภูมิใจจะตายมีแฟนเป็นนักร้องดัง
หลังจากวันนั้นมาเราก็มีคุยโทรศัพท์กันเหมือนเดิม แต่ว่าเจอกันน้อยลง เพราะเป็นช่วงที่เขาต้องโปรโมทเทปพอดี แล้วแนนเองก็มีงานเข้ามาค่อนข้างเยอะในเวลานั้น ก็เลยเหมือนว่างไม่ตรงกัน เขาว่าง แนนไม่ว่าง ก็เลยไม่ได้เจอกัน สุดท้ายก็เลยห่างๆกันไป
แนนไม่เสียใจมากมายนะคะที่พลาดหวังจากรักครั้งแรกไป แม้ว่าจะเป็นรักที่ไม่สมหวัง แต่ระหว่างที่เราสวืทหวานกันนั้น เขาก็ทำให้แนนมีความสุขไม่น้อย และอย่างน้อยๆจะว่าไปแล้วความรักครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ให้อะไรกับแนนเลยนะคะ เพราะอย่างน้อยๆก็สอนให้แนนรู้ว่าการมีแฟนเป็นคนดัง เขามักจะไม่มีเวลาให้กับเราเท่าไหร่ และการที่ต่างคนต่างไม่มีเวลาให้แก่กัน มันก็ทำให้ความรักที่มีอยู่จางหายไป
และแฟนนักร้องคนแรกของแนนก็จากไปด้วยประการฉะนี้