1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
1 ปีผ่านไปกับการใช้ชีวิตในเนเธอร์แลนด์ - เรื่องของจักรยานและทางเดิน
31 ธันวาคม 53 เป็นวันที่เราเดินทางมาถึงเนเธอร์แลนด์ เพื่อมาใช้ชีวิตกับสามี ณ วันนี้ก็ครบรอบ 1 ปีพอดิบพอดี เฮ้อ ! เร็วจริง ๆ เลยเวลา จากการที่ได้มาอยู่ที่นี่ ก็ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเนเธอร์แลนด์ ได้เห็นความแตกต่างในเรื่องต่าง ๆ ทั้งทางด้านชีวิต สังคม ความเป็นอยู่ แน่นอนหล่ะว่าไม่เหมือนบ้านเราเลย คนที่นี่นิยมปั่นจักรยาน ในขณะที่คนไทยนิยมรถมอเตอร์ไซต์ รถส่วนตัวหรือรถเมล์ เด็ก ๆ ที่นี่ (ยกตัวอย่างแถวบ้านเราแล้วกัน เพราะเห็นเกือบทุกวัน) เช้ามาก็ปั่นจักรยานไปรร.กันเป็นแถวเลย จากหมู่บ้านเราไปรร.ก็น่าจะเกิน 4 กม.ได้ แต่ถ้าเป็นเด็กไทยที่อยู่ต่างจังหวัดก็อาศัยมอเตอร์ไซต์ สมัยเราเรียนมัธยม เพื่อนบางคนปั่นจักรยานมารร. แต่น้อยมาก คนที่ปั่นจักรยานจะเป็นคนที่บ้านอยู่ใกล้ ๆ ซะมากกว่า ไม่เพียงแต่เด็กเท่านั้นที่นิยมปั่นจักรยาน ผู้ใหญ่เองก็อาศัยจักรยานในการเดินทางไปโน่นมานี่เช่นกัน ขนาดเจ้านายที่เราทำงานด้วยเมื่อซัมเมอร์ บ้านแกอยู่ห่างจากหมู่บ้านที่เราอยู่น่าจะประมาณสัก 2 กม.ได้ เราก็เคยเห็นแกปั่นจักรยานมา แทนที่จะขับรถมา แล้วเราเองก็เพิ่งจะมาสังเกตเห็นเมื่อตอนที่ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วว่า ชาวเนเธอร์แลนด์นั้น เวลาปั่นจักรยานกัน ขามักจะหยั่งไม่ถึงพื้น เราเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เวลาจะลงจากรถเพื่อหยุดรอสัญญาณไฟหรืออะไรก็ตามแต่ ส่วนใหญ่ก็จะลงจากจักรยาน หรือไม่ บางคนก็เอามือจับไว้กับเสาสัญญาณไฟหรือเสาที่อยู่ตรงทางแยก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงจากจักรยาน ไอ้เราเองก็ไม่ชินกับการที่จะต้องลงจากจักรยาน แรก ๆ ที่เอาจักรยานออกไปปั่นก็ลืมตัว คอยจะเอาขาหยั่งพื้นอยู่เรื่อย ทั้ง ๆ ที่ขาเราหยั่งไม่ถึงพื้นอยู่แล้ว เพราะตัวเราเตี้ย และถึงแม้สามีจะปรับอานจักรยานให้ต่ำสุดแล้วก็ตาม ขาเราก็หยั่งไม่ถึงพื้นอยู่ดี แล้วจักรยานที่นี่นั้น บางรุ่นไม่มีเบรก ต้องอาศัยการปั่นถอยหลังเอา (เรียกไม่ถูกอ่ะ) แทนการเบรก แรก ๆ ที่รู้ว่าไม่มีเบรกนั้น เราก็งงเลย นึกว่าล้อเล่น แต่มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ คือไม่มีเบรก เราก็เลยนึกในใจว่า แม่เจ้า จักรยานเมืองไทยคันนึงถูกกว่าที่นี่อีก ยังมีเบรกเลย แล้วทำไมจักรยานที่นี่ แพงก็แพง ยังไม่มีเบรกอีกฟะ พูดถึงเรื่องจักรยาน จักรยานมือ 1 ที่นี่ราคาก็ใช่ถูก (ถ้าเทียบกับบ้านเรา) เราเคยเดินผ่านร้านขายจักรยาน โอ้โห แพงสาด ๆ ครับพี่น้อง เล่นเอาเรางี้รับราคาไม่ได้กันเลยทีเดียว ราคาต่ำสุดที่จำได้ก็น่าจะเกิน 200 ยูโรนะ แถมราคานี้ไม่มีเบรกด้วยนะ บางคัน บางรุ่น ราคาปาไปเกิน 300 ยูโรอีกแน่ะ อิฉันเห็นราคาแล้วรับไม่ได้ค่ะ ส่วนจักรยานเรานั้น สามีหาซื้อมือ 2 ให้ค่ะ หาซื้อเอาในเว็บ marktplaats ค่ะ เว็บนี้จะขายของมือสองทุกอย่างเลย และแล้วสามีก็หาจักรยานได้มา 1 คัน ซึ่งดูแล้วสภาพยังดี ราคาพอรับได้ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก ก็เลยโทรคุยเพื่อที่จะไปดูสภาพรถและพร้อมซื้อในทันที เพราะไม่งั้นจะโดนคนอื่นตัดหน้าไปได้ สามีว่างั้น แล้วก็ได้มาค่ะ จักรยาน 1 คัน ที่มีเบรก มีเกียร์ แต่กี่เกียร์ไม่รู้เพราะไม่เคยดู รู้แต่ว่าเกิน 4 เกียร์อ่ะ ในราคาร้อยกว่า ๆ สามีบอกว่า คนที่เขาขาย เขาเพิ่งเปลี่ยนยาง เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ราคาก็เลยประมาณนี้แหล่ะ สำหรับเรา ๆ ก็ว่ามันแพงนะสำหรับจักรยาน 1 คัน เพราะเราว่าเมืองไทยถูกกว่านี้อ่ะ สามีเราชอบมากเรื่องจักรยาน ฉะนั้นเขาก็จะรู้โน่นนี่นั่น เพราะตัวเขาเองก็มีจักรยานไว้ในครอบครองอยู่ 3-4 คัน แต่เป็นจักรยานแบบนอนปั่นซะ 2-3 คัน แล้วก็เสื้อหมอบอีก 1 คัน พอได้มา พ่อสามีก็ถามว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญ เราเลยบอกว่าอยากได้ตระกร้าหน้ารถค่ะ เพราะจักรยานเราไม่มีตระกร้า เราอยากได้เผื่อเอาไว้ใส่ของโน่นนี่ พ่อสามีก็ให้มาเลย ตระกร้า 1 อันสำหรับใส่จักรยาน แบบมีหูหิ้วได้ด้วย เวลาปั่นไปซุปเปอร์ฯ ก็ถอดออกไปด้วย แล้วก็เอาไปหิ้วของแทนถุง 1 ปีผ่านไป จักรยานอิฉันก็ยังจอดอยู่ในห้องเก็บของหน้าบ้าน ถ้ามันมีปากพูดได้ มันคงพูดแล้วแหล่ะว่า "ช่วยเอาฉันออกไปปั่นหน่อยได้ไหม ฉันอยากออกไปเห็นโลกภายนอกบ้าง" เพราะตลอด 1 ปีที่ผ่านมา อิฉันพามันไปปั่น 6 ครั้งถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ สามีเองก็ยังเคยพูดว่า จะเอาไปขายดีไหม ถ้าเธอยังไม่เอามันออกไปปั่นบ้าง ก็แหม ไม่รู้จะปั่นไปไหนนี่หว่า ถ้าไปซุปเปอร์ฯ ส่วนใหญ่ก็ไปกับสามี บางทีก็เดินไปบ้าง แต่แค่ครั้งเดียวมั้ง เคยปั่นจักรยานไปแค่ 2-3 ครั้งน่าจะได้ ถ้าจะให้ปั่นไปโรงเรียนนี่เลิกพูดค่ะ อิฉันไม่ปั่นเด็ดขาด เพราะว่าบ้านห่างจากรร.ประมาณ 7-8 กม. ขอบอกเลยค่ะว่าอิฉันไม่สามารถค่ะ เคยปั่นไปไกลที่สุดก็น่าจะราว ๆ 6 กม. ระยะแค่นี้อิฉันล่อไปครึ่งชม.น่าจะได้ หรือไม่ก็เกินนั้น แถมปั่นไปน้ำตาก็ไหลไป เพราะลม ปั่นไปเช็ดน้ำตาไป ไม่ไหวค่ะ อีกอย่างที่ไม่อยากปั่นจักรยานก็คือ กลัวว่าจะปั่นผิดทางค่ะ หลาย ๆ ที่ในเนเธอร์แลนด์ เขาจะมีช่องสำหรับจักรยานอย่างชัดเจนค่ะ แต่บางแห่งอาจไม่มีค่ะ นี่เลยทำให้เราลังเล ไม่กล้าปั่น กลัวโดนเขาด่าเอา แต่แถวหมู่บ้านเราก็มีช่องทางสำหรับจักรยานบอกอย่างชัดเจนนะคะ แล้วเราก็ถามสามีเพื่อความชัวร์อีกรอบว่า ตรงนี้ ๆ ปั่นได้ไหม น้องที่รู้จักกันเคยเล่าให้ฟังว่า เคยออกไปปั่นจักรยาน แล้วดันไปปั่นในที่ที่ไม่ใช่สำหรับทางจักรยาน แล้วก็มีผู้ชายคนนึงเขาบอกว่า ตรงนี้ไม่ใช่ที่สำหรับปั่นจักรยานนะ แล้วน้องเขาก็เลยไม่ขี่จักรยานอีกเลยตรงนั้น เลยพาจักรยานจูงเอาแทนค่ะ เพราะกลัวปั่นผิดที่ นี่แหล่ะที่ทำให้เรากลัว ๆ ก็เลยไม่ค่อยอยากปั่นไปไหนที่เราไม่คุ้น อย่าว่าแต่จักรยานเลยค่ะ แม้แต่การเดินเองก็ตาม อิฉันเคยโดนเขาว่ามาแล้วค่ะ นึกแล้วก็ยังเสียเซลฟ์ไม่หาย เรื่องของเรื่องก็คือว่า สามีไปรับกลับจากที่ทำงานไม่ได้ เพราะติดธุระ เขาเลยส่งข้อความมาบอก แต่เรามาเห็นเอาเมื่อออกมาจากที่ทำงานแล้ว ก็รอที่ข้างหน้า รอเขามารับ สามีพี่แอร์ยังแซวเลยว่า สามีไม่มารับ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้อ่านข้อความ สรุปก็ต้องได้เดินกลับบ้านค่ะ เพราะเขามารับไม่ทัน เราก็เดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงถนนใหญ่ ก็ข้ามถนนไปเดินในช่องทางจักรยาน ซึ่งเป็นช่องทางสวนกัน แล้วก็มีพื้นหญ้าอยู่ระหว่างช่องรถวิ่งและช่องสำหรับจักรยาน เราก็เดินชิดขวามือเรา ก็พยายามเดินตัวลีบ ๆ ชิดพุ่มไม้ไว้ จะได้ไม่ขวาทางเขาเผื่อจักรยานขี่มา เดินไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงกริ่งดัง กริ้ง ๆ เราก็นึกว่าเด็กที่ทำงานด้วยกันคงกดกริ่งรถจักรยานแซว ก็เลยไม่ได้หันไปมอง แต่จริง ๆ แล้ว เป็นผู้ชายคนนึงที่เขาขี่จักรยานมาทางข้างหลังเรา พอเขาขี่มาใกล้ ๆ เรา เราก็ได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่าง พอเขาเริ่มขี่ผ่านเราไป เราก็เห็นเขาชี้มือไปทางข้างซ้าย เราฟังไม่รู้เรื่องหรอกว่าเขาพูดว่าอะไร แต่เดาได้จากการที่เขาชี้มือและคำพูดบางคำที่เราได้ยิน เขาบอกเราว่า เราต้องไปเดินชิดด้านขวามือเรา อย่ามาเดินทางซ้ายมือ ตายห่า เอาล่ะสิ โดนด่าแล้วไหมหล่ะตรู ในใจก็คิดไปว่า แล้วถ้าฉันเดินชิดตรงข้างทางขวามือ แล้วเกิดเดินเหยียบขี้หมาไปทำไงฟะ ใครรับผิดชอบ หมายถึงว่าหากเดินแล้วหญ้ามันบดบังกองขี้หมา แล้วเราเกิดไม่เห็นกองขี้หมาขึ้นมาอ่ะนะ ตอนนั้นก็เสียเซลฟ์แล้วอย่างแรง ไม่อยากเดินอีกต่อไป แต่ก็ต้องทนเดินต่อไป เดิน ๆ ก็น่าจะราว ๆ 20 - 30 นาทีน่าจะได้กว่าจะถึงบ้าน ก็เลยโทรเล่าให้น้องคนที่เราเล่าไปข้างต้นฟัง บอกว่าเราโดนเขาบอกมาแบบนี้ ๆ แหล่ะ น้องบอกว่า อารมณ์เดียวกันเลยเจ้ เสียเซลฟ์อย่างแรง ก็แหม อยู่เมืองไทยเราเคยเดินแต่ตรงทางเดินเท้า ไม่เคยเดินตรงถนนแบบนี้นี่หว่า แล้วเราก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าที่ถูกต้อง เราควรเดินตรงฝั่งตรงข้ามกับรถ เพื่อที่เราจะได้เห็นรถที่สวนเรามาได้ อันนี้พี่ ๆ เขาบอกมาหลังเราเล่าให้เขาฟัง น่านไงหล่ะ ฉลาดขึ้นอีกเป็นกองเลยไหมหล่ะตรู แต่หลังจากวันนั้น ขอโทษเถอะครับ เราก็ยังเห็นมีคนบางคน ก็ยังเดิน วิ่ง ในฝั่งขวามือเหมือนเราก็มี เราเห็นประมาณ 2-3 ครั้งหลังจากวันนั้น เราเลยบ่นกับสามีว่า ไรวะ ทีตรูเดินฝั่งขวามือ ก็มีคนมาาบอกให้เดินทางซ้ายมือ ทีคนพวกนั้นเดิน วิ่งฝั่งขวามือ ไม่เห็นมีใครมาบอกให้เดิน ให้วิ่งทางซ้ายเหมือนฉันมั่งเลย เพิ่มเติมเรื่องการขี่จักรยานยามค่ำคืนค่ะ การขี่จักรยานตอนกลางคืน มืดที่นี่นั้นต้องมีไฟหน้ารถนะคะ ไม่งั้นถือว่าผิดกฎค่ะ อาจถูกปรับเอาได้ เราเองก็เพิ่งรู้มาเมื่อเดือน 2 เดือนก่อน พี่เล็กเล่าให้ฟังค่ะ เพราะแฟนแกเอาจักรยานไปใส่ไฟหน้ารถให้ แล้วแกมาบ่นให้ฟังว่าราคารับไม่ได้ แกเจอไป 50 ยูโร กะอีแค่ใส่ไฟจักรยานกับดูรถให้อีกนิดหน่อย ประมาณนั้นนะคะ จำรายละเอียดไม่ได้เหมือนกัน ตอนแกเล่าให้ฟังนั่นแหล่ะ ถึงรู้ว่าถ้าปั่นยามค่ำคืนแล้วไม่มีไฟนี่ผิด บรรดาจักรยานที่จอดอยู่ในห้องเก็บของค่ะ เป็นของสามี 3 คันค่ะ จาก 4 คัน เพราะขายไปแล้ว 1 คันเมื่อปีก่อน จักรยานเราเองค่ะคันนี้ ถอดตระกร้าออกไว้ข้างหลัง ท้ายรถจักรยานส่วนใหญ่ที่เราเห็นจะเป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ ไม่มีเบาะนิ่ม ๆ เหมือนบ้านเรา นั่งทีเจ็บก้นชะมัด ที่ล็อคจักรยานค่ะ
Create Date : 03 มกราคม 2554
Last Update : 3 มกราคม 2554 18:33:48 น.
22 comments
Counter : 4913 Pageviews.
โดย: พี่นุช IP: 124.121.253.224 วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:11:02:13 น.
โดย: Tanja-nl วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:13:11:35 น.
โดย: Sao'Padlung วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:15:51:27 น.
โดย: อารีรัตน์ วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:18:37:16 น.
โดย: บอล IP: 81.100.212.192 วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:19:52:14 น.
โดย: จูน (หมีขาวน้อย ) วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:21:27:03 น.
โดย: มาม่าธัญญา IP: 94.212.237.68 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:1:08:54 น.
โดย: makampom-ta IP: 80.57.155.216 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:17:24:05 น.
โดย: น้องบึ๋ย วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:1:39:33 น.
โดย: Nokske วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:5:03:25 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:9:56:18 น.
โดย: Takky IP: 125.27.9.12 วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:12:30:04 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:9:26:12 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:13:49:32 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:10:49:52 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:14:15:29 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 14 มกราคม 2554 เวลา:13:45:09 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:13:29:48 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:11:00:05 น.
โดย: ภายใต้ วันที่: 24 มกราคม 2554 เวลา:14:30:56 น.
Location :
N/A Netherlands
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [? ]
เปิดอ่านได้ทุก Group Blog เลยนะคะ ไม่หวงค่ะ เพราะตั้งใจเขียน Blog มาเพื่อให้ทุกคนอ่าน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นบ้าง เลยอยากแบ่งปันเรื่องราวให้รับรู้กันค่ะ ภาพใด ๆ ในบล็อกนี้ หากต้องการนำไปใช้ กรุณาช่วยขออนุญาตเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ