<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ตุลาคม 2550
 

คีบประสบการณ์ที่เขาตะเกียบ ตอน 1

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในเมืองหลวง เร็งรีบทุกเวลา แข่งขันทุกนาที เกือบทุกวินาทีต้องสัมผัสกับกลิ่นอันโหดร้ายในการใช้ชีวิต ส่งผลให้ทุกอณูของร่างกายเต็มไปด้วยงาน ความรับผิดชอบ ความอดทน ในสภาวะกดดัน หยัดยืนในมลภาวะที่พบเจอ


เฮ้อ....แล้วเรามาพร่ำเพ้อให้ผู้อ่านอ่านทำไมกันเนี่ย????

เรื่องของเรื่อง มันมีอยู่ว่าเช้าตรู่วันหนึ่ง อันเนื่องมาจากเหตุผลนานับประการดังคำพรรณนาด้านบน ส่งผลให้ปฏิกิริยาในตัวเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ความหวาดกลัว ทันทีที่สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบมองบางสิ่งบางอย่างที่รบกวนจิตใจมาตลอดกำลังบอกว่า “สายแล้ว ตื่นได้แล้ว อยากโดนหักเงินหรือไงเนี่ย”

อืมๆ.......ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว จิตใต้สำนึกบอกตอบกลับเบาๆอย่างรำคาญใจ พร้อมบิดขี้เกียจหนึ่งยกใหญ่ ก่อนเหยียดกายลุกขึ้นจากเตียงมานั่งทำใจได้สักพัก พอสติเริ่มมาทักทายพร้อมกลิ่นหอมบางอย่างมาสัมผัสจมูกอย่างไม่รู้ตัว ทำให้พอทำเนาได้ว่ากลิ่นที่โชยมาพร้อมสายลมนั้น ทำให้นึกถึงน้ำเต้าหู้ร้อนๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ไม่ทันพิสูจน์กลิ่นแต่อย่างใด ประตูบานเก่าสีฟ้าครามแสดงได้ถึงอายุการใช้งานอันยาวนาน ผ่านลม ตากฝนมาพอสมควร ค่อยๆแง้มออกมาทักทายพร้อมรอยยิ้มของเพื่อนๆ...........

เพื่อนเหรอ?????

ในตอนนั้นเอง จิตสำนึกเริ่มมาแทนที่อารมณ์ไร้สำนึก เตือนสติให้รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหน

คิดแล้วก็ขำตัวเอง ความเคยชินกับบางสิ่งบางอย่างทุกวัน จนกลายเป็นอัมพาตทางความคิด พิการทางความรู้สึก กับจิตสำนึกตายด้าน ที่คอยแต่สั่งการให้ทำงานตลอดเวลา จนลืมไปว่าคำว่า “พักผ่อน” เป็นอย่างไร แล้วมันสะกดแบบไหน



(ภาพจาก////www.skyd.org/html/sekhi/64/032-dawn.html)



.......ต้องยอมรับว่าน้ำเต้าหู้ร้อนๆในถ้วยหูหิ้วแสนธรรมดาแก้วนี้รู้สึกอร่อยอย่างบอกไม่ถูก เลยพาลให้ใช้เวลาทำความรู้จักนานสักหน่อย(ประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ กับน้ำเต้าหู้แก้วเดียว) แต่ก็คุ้มเมื่อแลกกับเวลา ที่หลายคนคิดว่าไม่มีคุณ หากเพียงแค่เรานั่งมองทะเลเฉยๆเพื่อฆ่าเวลา มากกว่า โหมทำงานเพื่อฆ่าตัวเอง

ความหวานแรกลิ้มรสน้ำเต้าหู้พร้อมความเค็มที่ลอยมากับฟองคลื่นยามกระทบฝั่งมันช่างเข้ากันอย่างน่าประหลาด ก่อนปาท่องโก๋จะแวะเข้าไปทักทายสหายเก่าในท้องอย่างช้าๆ เสมือนต้องการดึงเวลาให้อยู่ตรงนี้ให้นานๆ

ถ้าเปรียบกับมนุษย์ หาดตะเกียบคงเสมือนปุถุชนสามัญ ชอบความเงียบสงบตามชาญเมืองหลวง ไม่เร่งรีบ ไม่ไขว่คว้าหาแสงสี ไม่สรรหามาซึ่งความลุ่มหลง ดูไม่มีอะไรดึงดูดใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับต้องมนต์ขลังเข้าอย่างจัง ด้วยความเรียบง่าย สงบ สวยงามในความนิ่งและเจียมตัวอย่างสุขุม เพราะเหตุนี้กระมังทำให้ ชายหาดเขาตะเกียบ*ไม่พยายามทำตัวให้เป็นที่รู้จักเหมือนกับมิตรสหายข้างกายอย่างหัวหิน ทั้งที่ห่างกันแค่เอื้อม กลับสัมผัสความแตกต่างอย่างชัดเจน ฉันและมิตรสหายจึงเลือกมา "ชายหาดเขาตะเกียบ" ชายหาดเสมือนเป็นเงาอันเงียบสงบที่ขอหลบอาศัยอยู่ด้านหลังเพื่อรอดูความเจริญของหัวหินเพียงเท่านั้น....

32 ชั่วโมงที่แล้ว..........



กริ๊ง......................................................

ฮัลโหล เออพูดอยู่ใครพูด แอร์เหรอ เออ....อืม...รู้แล้ว ตื่นแล้ว เออ เจอกัน กี่โมงน่ะ เช้าไปป่าว ได้...เตรียมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เจอที่หัวลำโพงเลยแล้วกัน รู้แล้วน่า รีบอยู่ที่ไง

เกี๊ยกๆๆ ตื่นได้แล้ว เพื่อนพี่ตื่นหมดแล้ว จะไปป่าวเนี่ย รีบอาบน้ำเร็วดิ

เหตุการณ์วุ่นวายต้อนเช้าก่อนออกเดินทางไปเที่ยวแบบนี้ เจอแทบทุกครั้งที่นัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัด เพราะเคยมีปรากฏการลืมเพื่อนไว้บ้าน เพราะเจ้านั่นดันลืมว่านัดกันไปเที่ยว

ส่วนน้องชายเรา พ่อมักไว้ใจ ฝากไปให้คุ้มครองเราด้วยเสมอ แต่ผิดคาดเพราะส่วนใหญ่กลายเป็นเราต้องไปคุ้มครองเจ้าตัวแสบมากกว่า คราวนี้ก็เช่นกัน




9.20 น.ตัวเลขอันสวยงามปรากฏกายบนหน้าปัดนาฬิกา เพื่อเตือนให้รู้ว่าใกล้ถึงเวลาเดินทางแล้ว ก่อนใครจะพูดอะไร ก็เหลือเพียงล่องลอยความว่างเปล่าตามเสาที่พวกเราใช้หลับนอนชั่วคราว ในช่วงรอเวลาขึ้นรถไฟหัวลำโพง สถานีรถไฟที่คลาสสิคที่สุดในบ้านเรา

หลังจากวิ่งกระหื่นกระหอบอย่างกับวิ่งแข่ง** กันได้สักพัก การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เราและผองเพื่อนต้องมานั่งเหงื่อตกด้วยความเหนื่อยหอบบนรถไฟขบวน 261 กรุงเทพ-หัวหิน เสียงหัวเราะพยายามตะกายรอดฟันพวกเราออกมาตลอดเวลา เดาได้เลยว่าในใจแต่ละคนคิดอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก การกระทำอนาจารเมื่อตะกี้นี้ทำไปได้ไงว่ะ



การเดินทางด้วยขบวนรถไฟจากกรุงเทพไปเขาตะเกียบคงไม่ถึง(เพราะไม่มีสถานีแล้วจะถึงได้อย่างไร) ทำให้ต้องตีตั๋วไปลงสถานีหัวหินแทน เพื่อต่อรถไปเขาตะเกียบอีกทีหนึ่ง

สิ่งสำคัญสุดสำหรับการเดินทางในทริ๊ปสุดแสนประหยัดในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นการจองตั๋วรถไฟแบบธรรมดา ที่มีแค๊ทตาล็อกมาให้เลือกชมถึง 3 ชั้นด้วยกัน เพื่อความสะดวกสบายจำเป็นต้องเลือกชั้นที่ดีที่สุด เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย สะดวกสบายตลอดการเดินทาง

จึงตกลงเลือก.......?????
ไม่บอกอ่านย่อหน้าต่อไปดูแล้วกัน




5 ชั่วโมงอันยาวนานแลกมาด้วยค่าเดินทางสุดแสนประหยัดแค่ 44 บาท จะหาราคาถูกแบบนี้ได้ที่ไหนนอกจาก รถไฟธรรมดาชั้น 3 เท่านั้น พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก(สุดแสนจะบรรยาย) รับร้องว่าคุณผู้อ่านต้องลืมไม่ลง และบางคนอาจสัมผัสกับความมหัศจรรย์เหล่านี้มาแล้ว หลังจากนั่งเหม่อ ฟังเพลง MP3*** กิน เดิน วิ่ง หัวเราะ กันไปตามยถากรรมจนกระทั้งกิจกรรมเริ่มค่อยๆมลายหายไป พวกเราจึงค้นพบวิธีดีที่สุดในการฆ่าเวลาคงหนีไม่พ้นการนอน....หลับทับสิทธิ์ ล้อเล่นน่า (เราเดาว่าผู้อ่านคงคิดเช่นเดียวกัน)



ด้วยระยะทางกว่า 300 กม.**** เรามีคำแนะนำสำหรับผู้อ่านบางคนที่เริ่มคิดจะดำเนินรอยตาม การนั่งขบวนรถไฟอันแสนวิเศษ พร้อมของแถมที่ผู้อ่านต้องลืมไม่ลง ทำให้ต้องรวบยอดขอบคุณกันในคราวเดียว

1. ขอขอบคุณใน “ความอนุเคราะห์” ของการท่ารถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้มอบพัดลมให้ระหว่างเดินทาง ถึงแม้ว่าพัดลมบางตัวไม่รู้โกรธอะไรจึงพาลไม่พัดตลอดเส้นทาง ทำให้สัมผัสกับสายลมของธรรมชาติตลอดการเดินทางอย่างเต็มอิ่มตามความต้องการเลยทีเดียว

2. ขอขอบคุณสำหรับ “อาหารดิลิเวอรี่” ที่มีมาอย่างไม่ขาดสาย ต่อให้คุณไม่กิน พ่อค้าแม่ขายก็พล่ามจนเกิดความรำคาญทางอารมณ์ ต้องซื้อเพื่อตัดปัญหากันไปเอง และถ้าคุณอยากกิน KFC ก็มีไก่ส่งให้ถึงที่นั่ง แม้จะไม่ทอด ก็อร่อยได้เหมือนกันยามหิวน่ะ กินไก่แล้วหิวน้ำใช่ไหม ทางการรถไฟมีจัดบริการน้ำให้เลือกสรรหลากหลายรสชาติยิ่งกว่าการบินไทยเสียอีก อาหารเที่ยงเหรอ?? ไม่ต้องห่วงมีจัดให้เช่นกัน แถมห่อละ 5 บาทด้วยซ้ำ อิ่มหนำสำราญกันตลอดทาง ส่วนที่ทิ้งขยะบนรถไฟนั่นแหละ สุดยอดถังขยะแล้ว(ถ้าหากว่ากันจริงๆ ปล่อยให้มาขายอาหารถึงที่ ก็น่ามีถังขยะเคลื่อนที่มาบริการด้วย ใครเห็นด้วยกับผู้เขียนยกมือขึ้น)

3. ขอขอบคุณทุก “เสียงเพลง” ที่กล่อมบรรเลงตลอดทาง แม้ผู้ฟังจะไม่ได้ขอ แต่เจ้าตัวก็เล่นให้ด้วยความเต็มใจ อันเนื่องมาจากน้ำเมาในกระเพาะนั่นแหละ เล่นตั้งวงขวางคลองจนใครต่อใครไม่กล้าเดินไปเข้าห้องน้ำ แถมเกลากีต้าร์คลอกลิ่นเหล้าฟุ้งไปจนถึงปลายทางกันเลยทีเดียว เลย ส่งผลให้ผู้โดยสารแต่ละคนไม่กล้าแม้กระทั้งกระพริบตา เหตุเพราะช่วงวินาทีนั้นอาจมีขวดเหล้าลอยมาพร้อมเสียงเพลงก็เป็นได้

4. ขอขอบคุณ “รุ่นพี่ร่วมสถาบัน” (ของเพื่อน) ที่บังเอิญได้พบกันแม้ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่สำหรับไมตรีที่หยิบยื่นให้ พร้อมคำแนะนำดีๆ ทุกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เสียงเพลงขับกล่อมพร้อมความสุข(จริงๆ) ขอบคุณมาก


ขอบคุณจากใจจริงกันพอหอมปากหอมคอ เสียงนกหวีดขัดจังหวะบอกสัญญาณให้เตรียมตัวเก็บสำภาระ ลงเป้าหมายในอีกไม่กี่อึดใจ...........



*ชายหาดเขาตะเกียบ หาดตะเกียบ หรืออ่าวตะเกียบ ในความเป็นจริงแล้วคือชายหาดหัวหิน สามารถเดินเชื่อมต่อถึงกัน(ถ้ามีความพยายามมากพอ) เพราะอยู่ในตัวอำเภอหัวหินห่างกันประมาณ 7 ก.ม.
**วิ่งแข่งจริงๆ ด้วยความรักสนุกของกลุ่ม จึงเกิดอารมณ์คึกอยากจะวิ่งแข่งกันขึ้นมา ส่วนผลที่ตามมาคือ การแจ้งเกิดในสถานีรถไฟหัวลำโพงนั่นเอง
***MP3 เครื่องเล่นเพลงยอดฮิตสามารถสร้างกระแสนิยมให้เด็กเป็นโรคหูตึงกันมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจเกี่ยวกับแพทย์รักษาหูดีขึ้นในอีกไม่กี่ปี รวมถึงเครื่องมือช่วยเรื่องการได้ยินก็จะดีขึ้นเช่นกัน
****300 กม.คือการประมาณ แต่ระยะทางที่แท้จริงคือ 229 กม. ผู้เขียนต้องการให้ลงท้ายด้วยเลข “0” เนื่องจากสวยดี (ผู้เขียนชอบส่วนตัว)




ไว้ติดตามตอนต่อไปน่ะ
penguinbear




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2550
9 comments
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 14:16:51 น.
Counter : 1010 Pageviews.

 
 
 
 
สำนวนการเล่าเรื่องดีมาก

แต่คำผิดเยอะมากเช่นกัน

อ่านเพลิน ชวนให้นึกภาพได้

ให้คะแนน 7 เต็ม 10
อีก 3 คะแนน มาจากคำผิดที่ไม่น่าผิด
 
 

โดย: spiderjoyday IP: 61.90.159.71 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:16:33:31 น.  

 
 
 
สำนวนดีเชียวนะจ๊ะ สมแล้วกะที่อยู่ที่ubc ที่นี่เขาให้อะไรแกเยอะนะษา แกกล้าทิ้งเขาไปเหรอ
 
 

โดย: hawai IP: 202.142.193.15 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:14:43:42 น.  

 
 
 
เขียนเก่งจังแก ... อ่านแล้วสนุกดี รูปสวย ชอบๆ
 
 

โดย: Jakkajee' IP: 203.150.32.35 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:15:09:36 น.  

 
 
 
หุๆ สำนวนการเขียน เหมาะกะการไปเขียนคอลัมม์ทริปท่องเที่ยวลงหนังสือมั่ก ๆ เห็นภาพดี เอาตอนต่อมาลงไว ๆนะ รออ่านอยู่ ฮี่ ๆ ๆ
 
 

โดย: M@_MaE_Ya IP: 124.120.74.12 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:15:23:04 น.  

 
 
 
 
 

โดย: Darksingha วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:17:25:41 น.  

 
 
 
เป็นการเที่ยวที่...ดูมีทั้งอารมณ์ผจญภัย
และระวังภัยไปในตัว
 
 

โดย: กาแฟดำไม่เผ็ด วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:21:37:06 น.  

 
 
 

จะมาติดตามอ่านตอนต่อไปนะคะ การเดินทางโดยรถไฟ ไปกันหลาย ๆ คนสนุกดีค่ะ
 
 

โดย: แซนด์ซี วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:19:51:56 น.  

 
 
 
นั่งรถไฟได้บรรยากาศ แต่ก็ต้องทำใจกับบางเรื่องเหมือนกันค่ะ

แต่บางเส้นทาง เราก็ยังชอบที่จะนั่งรถไฟมากกว่านะคะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:12:49:18 น.  

 
 
 
ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำนะ
 
 

โดย: jay IP: 58.64.107.233 วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:19:40:46 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

penguin_bear
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ว่ากันตามความรู้สึก อารมณ์ ความคิด ล้วนๆอาจไร้ซึ่งเหตุผล แต่มันคือความเป็นจริง
[Add penguin_bear's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com