[ How-To ] : ขายของผ่านเน็ต "ออกง่าย - ปลอดภัย - รับทรัพย์ เต็มๆ"
ผมคิดว่าหลายคนคงประสบปัญหาในการขายมือถือ (หรืออื่นๆ) ต่อเพื่อหมุนเงินเอามาซื้อของชิ้นใหม่ต่อ เพราะจะขายพ่อค้าก็โดนกดราคาติดดิน หรือถ้าจะขายผ่านเว็บบอร์ด ก็ไม่มีประสบการณ์อีก กลัวโดนเชิดของ โดนหลอก ฯลฯ ในฐานะที่ผมปล่อยของผ่านเว็บบอร์ดดังๆ หลายแห่ง (เป็นประจำ) ก็เลยมีวิธีมาแนะนำกันครับ เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขายมากๆ รับรองว่าสินค้าคุณจะปล่อยได้ง่ายขึ้น หากทำตามวิธีการดังต่อไปนี้ !!
1. เลือกสถานที่ขาย
โดยทั่วไปการขายของผ่านตามเว็บบอร์ดทั้งหลาย เฉพาะมือถือ/แท็ปเล็ต จะมีอยู่หลายที่เหมือนกันที่มี Zone ให้ค้าขายได้ โดยตัวอย่างเว็บที่มีผู้ใช้มากหน่อยมีดังนี้
- PDAMobiz (มือถือ/แท็ปเล็ตทุกประเภท) - Overclockzone (มือถือ/แท็ปเล็ตทุกประเภท) - Droidsans (เหมาะกับปล่อยของแอนดรอยด์) - Nokiagang, LGMobilelover (ปล่อย Nokia, LG) - GetApple (ขายของศาสดา) - ฯลฯ
ส่วนตัวผมจะเลือกปล่อยในตัวเลือก 1-2 มากกว่า เพราะปล่อยง่าย มีลูกค้าเยอะ (ฮา) ทั้งนี้ก็แล้วแต่จะเลือกครับ แต่ควรจะเลือกเว็บที่มีหมวดหมู่แบ่งชัดเจน หรือถ้าอยู่ จว. ใหญ่ๆ เห็นมีบอร์ดจังหวัดเหมือนกันเช่น เชียงใหม่, โคราช, ขอนแก่น เป็นต้น
2. กฎ-กติกา
เช่นเดียวกับสังคมจริงครับ ในสังคมออนไลน์ก็ต้องมีกฎระเบียบ เพื่อความสงบเรียบร้อยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณจะเข้าไปขายของในบอร์ดนั้นๆ ก็ต้องปฏิบัติแบบ "เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม" จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นในภายหลังนั่นเอง โดยสิ่งที่ควร (หรือต้อง) ทำในบอร์ดซื้อขายเบื้องต้น มีอยู่ 3 อย่างหลักๆ คือ
- ระบุรายละเอียดสินค้าชัดเจน พร้อมช่องทางติดต่อผู้ขาย - ภาพสินค้าตัวจริง - ภาพผู้ขาย (ใน Avatar รูปเล็กๆ)
หากคุณไม่ทำ บางเว็บอาจถึงขั้นลบกระทู้ทิ้ง หรือตักเตือนเบื้องต้น ทั้งนี้การใส่ข้อมูลให้ครบๆ ก็เพื่อความสะดวกในการติดต่อซื้อขาย จริงใจ แน่นอนว่าประโยชน์ตกอยู่ที่ผู้ขายเองครับ
3. รูปภาพสินค้า
รูปภาพสินค้าจริง เป็นหนึ่งใน 2 จุด ที่คุณควรจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผู้ซื้อ ย่อมมองหาสินค้าที่ดีที่สุด สภาพดีที่สุด ดังนั้นหากเป็นไปได้ ควรปฏิบัติตาม 5 ข้อด้านล่าง ..
- อย่าใช้กล้องมือถือถ่ายถ้าไม่จำเป็น (ยกเว้นมือถือกล้องเทพเช่น iPhone 4, Nokia N8, Galaxy S ฯลฯ) ใช้กล้องคอมแพค/DSLR ดีกว่า - ไม่ควรถ่ายในที่แสงน้อย หลีกเลี่ยงการใช้แฟลช - จัดมุมถ่ายให้ดูงาม มีฉากหลังได้ยิ่งดี ไม่ควรให้หน้าจอสะท้อนแสงไฟ - เลือกถ่ายในมุมมองที่คิดว่าดีที่สุด ถ่ายหลายๆ มุม ทั้ง Overall, Close-up เฉพาะส่วน - ลดขนาดให้เหมาะสม (640x480 กำลังดี)
รูปอาจจะไม่ต้องสวยแบบที่ทำรีวิวลงเว็บ ลงหนังสือก็ได้ ขอแค่ชัดเจน เน้นหลากมุมสวยๆ ก็น่าจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ไม่ยากแล้วล่ะ
4. รายละเอียดสินค้า
จุดที่สองที่ควรเน้นให้มาก ก็คือรายละเอียดของสินค้าที่คุณต้องการขาย เหมือนบรรยายสรรพคุณว่าเป็นอะไรยังไงล่ะครับ ยิ่งระบุมาก+ละเอียดเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้นเท่านั้น เผลอๆ หากของดีจริง เค้าอาจจะโทรมาจองซื้อแบบไม่ถามอะไรเพิ่มเติมเลยก็ได้ !! โดยข้อมูลที่ควรใส่นั้นมีราวๆ นี้ครับ
- ชื่อสินค้า/รุ่น** - อายุสินค้า - ระยะเวลาประกันที่เหลืออยู่ - สภาพสินค้า (ตำหนิ/รอยต่างๆ) - อุปกรณ์ที่มีให้ (หรือถ้าเดิมๆ หมดก็คือ ยกกล่อง)** - เหตุผลที่ขาย - ราคา** - สถานที่สะดวกนัดเจอ / EMS** - เบอร์ติดต่อ** - อื่นๆ แล้วแต่จะอยากใส่
**ควร/ต้องระบุ
เมื่อมีรายละเอียดสินค้าครบถ้วน ก็จะส่งผลให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในสินค้าตัวนั้นๆ และถ้ามีรูปภาพประกอบดีแล้ว รับประกันว่าขายออกได้ไม่ยากแน่นอน :)
5. การนัดเจอรับ/ส่งของ ในเมื่อมีการซื้อขาย ก็ต้องมีการนัดเจอ จ่ายเงิน รับของเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน กรณีที่ผู้ซื้อ-ผู้ขายสามารถนัดเจอกันได้ (เช่น ในกรุงเทพ ฯ หรือในจังหวัด อำเภอเดียวกัน) ควรมีหลักการเลือกสถานที่นัดพบกันดังต่อไปนี้ ..
- ห้างสรรพสินค้า หรือที่ๆ คนพลุกพล่าน - เดินทางสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย เช่น BTS, MRT หรือตามจุดเชื่อมต่อจนส่งมวลชนใหญ่ๆ เช่น เดอะมอลล์, หน้าราม เป็นต้น - มีที่นั่งลองสินค้า (ก็ควรจะเป็นร้านอาหาร/ร้านกาแฟ)
ส่วนตัวผู้ขายเอง ถ้าคิดว่ายังไม่ปึ้กเท่าไหร่ ก็อาจพาคนรู้จักไปนั่งชิลล์ด้วยก็ได้เหมือนกัน เพื่อความสบายใจครับ กรณี EMS เมื่อมีการโอนเงินมาแล้ว (อันนี้ไปตกลงกันเองว่าโอนกี่เปอร์เซ็นต์ยังไง) ก็ควรแพคของส่งในวันรุ่งขึ้นทันที หรือถ้าติดธุระขัดข้องยังไง ควรโทรแจ้งผู้ซื้อโดยเร็ว เพื่อความสบายใจครับ และเมื่อหลังส่ง EMS เรียบร้อย ทางที่ดีควรแจ้งรหัส Tracking (EH + เลขหลายหลัก) กับผู้ซื้อด้วย
6. เงินๆ ทองๆ
เรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใครครับ ต้องระวังข้อนี้เป็นพิเศษ สำหรับการนัดเจอกันอาจไม่มีปัญหา เพราะลองของเสร็จก็รับเงินจบข่าว แต่เคส EMS เนื่ย มีปัญหามานักต่อนักแล้ว เพราะมันมีมิจฉาชีพแฝงอยู่ด้วย ดังนั้น หากคุณต้องซื้อขายกับ user แปลกหน้า ก็ต้องตกลงกันความเหมาะสม ทางที่ดีควรแลกเปลี่ยนสำเนาบัตรประชาชนกันครับ แล้วเรื่องโอนค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำยังไงกันต่อ
อย่างไรก็ดี การนัดซื้อขายแบบไม่เจอหน้ากันก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย แต่ในหลายๆ บอร์ดก็จะมี Black List ผู้ขายที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงไว้ ถ้าว่างๆ ก็ลองไปหาดูก่อนได้เนอะ :)
7. ปิดกระทู้
เมื่อทำการซื้อขายเสร็จสิ้น หรือตกลงขายเป็นที่เรียบร้อย 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว สิ่งที่ควรทำต่อไปคือ "ปิดกระทู้" เป็นการประกาศว่า สินค้าที่ทำการโพสต์ขายนั้น ได้ถูกขายไปเรียบร้อย จะได้ไม่มีคนอื่นๆ โทรมาสอบถามอีก วิธีปิดกระทู้ส่วนใหญ่ แค่เพียงคุณโพสต่อท้ายว่าขายออกแล้ว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ในบางบอร์ดควรทำดังนี้ครับ
- โพสปิดท้ายกระทู้ประมาณว่า "สินค้าถูกขายไปแล้ว ปิดกระทู้ได้เลย" - แจ้งทาง Mod บอร์ด (บางบอร์ดมีกระทู้แจ้งปิด แล้วทางบอร์ดจะดำเนินการให้เอง) - Edit กระทู้เอาเบอร์ติดต่อออกไป (ควรทำถ้าทำได้)
หากคุณดำเนินมาถึงขั้นนี้ได้ ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยที่ของขายออก ได้เงินมาใช้สอยตามสะดวกเรียบร้อยครับ ทั้งนี้วิธีการทั้งหมด สามารถประยุกต์ใช้กับสินค้าอื่นๆ ได้นะ ไม่จำเป็นต้องเฉพาะอุปกรณ์สื่อสารเสมอไป เอาล่ะ ผมก็ต้องขอจบ Seller Guide ไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ :)
Create Date : 03 มกราคม 2554 |
Last Update : 3 มกราคม 2554 2:08:16 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1232 Pageviews. |
|
|