P a n g e a t a r o u n d
|
||||
ไปอยู่โฮมสเตย์ที่บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย อิ่มท้อง สนุกเยอะ สถานที่ท่องเที่ยว : บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย, สุโขทัย Thailand พิกัด GPS : 17° 37' 46.19"N 99° 53' 34.36"E วันนี้พาไปเที่ยวแบบโฮมสเตย์ กัน ที่บ้านเรามีโฮมสเตย์หลายที่เราเห็นรีวิว ที่นี่แล้วอยากไปมาก กกก ตรงตามคอนเซบที่อยากไปเลย บางที่อยากไปเที่ยวแบบโฮมเสตย์ ไม่ต้องมีที่เที่ยวมากมาย แบบนั่งๆ นอนๆ กินข้าว ขี่จักรยานเล่นอะไรแบบนี้เลยจัดการจองที่พัก ที่พักเราเขา FB ของทางบ้านนาเลย โทรไปติดต่อตามเบอร์ที่เขาให้ตามเวบได้เลย https://www.facebook.com/HomeStayBannaTonChan ที่ตั้ง : 111 หมู่ 5 ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย สุโขทัย 64130 พวกเราขับรถกันไปเอง ตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะกะจะขับไปแบบไม่รีบไม่ร้อนไปถึงบ้านนา ตอนบ่ายๆ หน่อย พวกเราไปถึงบ้านนาก็บ่ายแก่แล้วที่นี่เขาจะทำเป็นเหมือนศูนย์กลาง ใครโทรมาก็วนบ้านไป เราไม่รู้ว่า จะได้บ้านใคร เราได้ไปพัก กับป้าเหงี่ยมป้าเหงี่ยมเหมือนผู้นำชุมชนหญิงที่นั่นเลย หลังจากอยู่กับป้าเหงี่ยม 3 วัน 2 คืน ได้คุยได้รู้จัก พวกเราชอบป้าเหงี่ยมสุดๆชอบความคิด แกหัวก้าวหน้า ชุมชนนี้เข้มแข๊งได้แน่
โปรแกรมในแพคเกจ ก็มี ไปถึงวันแรกออกไปเก็บผักมาทำอาหาร ไปดูพระอาทิตย์ตก กินอาหารเย็นพอตอนเช้าถ้าเราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบน ห้วยต้นไฮ (อันนี้เสียเพิ่ม ) ตอนกลางวันก็อาจจะไปเดินเล่นในเมืองศรีสัชนาลัย ชมหมู่บ้าน ตอนเย็น หลังจากเข้าอำเภอศรีสัชนาลัย ก็ไม่ต้องกลัวหลง กับบ้านนาต้นจั่นมีป้ายบอกตลอดทาง แถมเข้าไดหลายทางจนงงไปหมด เพราะต่อมาตลอด 3 วันเราไม่เคยกับออกทางเดิมเลย แค่ทางเข้าพวกเราก็ตื่นเต้นกับทุ่งสีเหลืองตอนแรกไม่รู้ว่าดอกอะไร อยากถ่ายรูปแต่ก็กลัวว่าจะไปไม่ทันไปดูพระอาทิตย์ตกกลางทุ่งที่อยู่ในแพคเกจ บ้านป้าเหงี่ยมอยู่ตรงศูนย์กลางชุมชนเลย ถ้าเราเข้าไปในหมู่บ้านแล้วเห็น ตู้ไปรษณีย์เอียงๆ ก็ถึงบ้านนาต้นจั่นแล้วโทรถามทางไปมา อ้าวเราก็อยู่หน้าบ้านป้าตั้งนานแล้วนี่หว่า
ที่บ้านป้าเหงี่ยมเป็นบ้านไม้ ครึ่งชั้น เขามีห้องนอน ที่ให้เรานอนได้3 ห้อง พวกเราไปกัน 4 คนก็เอา 2 ห้องพอ ใน 1กลุ่มจะได้นอนกับ 1 ครอบครัวคะ ไม่ว่าเราจะไป กี่คนก็ตาม ป้าเหงี่ยมบอกให้เรา เก็บของแล้วเดี๋ยวเราไปเก็บผัก ที่สวนแกมาทำอาหารเย็นกัน ใต้เรือนมีจักรยานให้เลือกตาม ขนาด ช่วงขาของของเราช่วงขาเราแอบสั้นเลย เลยเลือกแบบขาหยั่งถึง พอพวกเราพร้อม ไกด์ชุมชน ก็มา ไกด์ก็เป็นเด็กๆ เล็กๆ ในหมู่บ้าน เราชอบแนวคิด เด็กนำพวกเราไปเป็นขบวน ขี่จักรยาน ทีไร ทำให้เราย้อนไปเป็นเด็กทุกทีสนุกๆ จริงๆ
หลังจากนั้นเราก็ขี่จักรไปดูพระอาทิตย์ตกที่ กลางทุ่งกันตอนไปหน้าแล้ง ก็เลย ไม่มีข้าวให้ดู ป้าบอกปีนี้แล้งจริงๆ ไม่มีน้ำเลยต้องรอหน้าฝนถึงจะทำนาได้ ตอนนี้ก็ได้แต่ปลูกดอกปอเทืองไปก่อนพวกเราก็นึกว่าเป็นดอกสโน ซะตั้งนาน ป้าเหงี่ยมบอกว่าดอกปอเทืองปลูกเพื่อบำรุงดินเวลาหน้าพักนา พระอาทิตย์กำลังตกลงพอดี ถ่ายรูปกันเละเทะเลย เด็กๆแถวนั้นก็มารวมตัว เล่นกันระหว่างรอพวกเราถ่ายรูปถ่ายหลายมุมพระอาทิตย์ตกแล้วตกอีก ก็พวกเราจะลามือ แค่มุมตรงนั้นซัดไปร้อยกว่ารอบ
และที่พวกเราได้เรียนรู้อีกอย่าง คือ บอกปอเทืองโดนแล้วคันนัก หลังจากนั้นพวกเราก็กลับบ้านไปทำอาหาร เวลาไปอยู่โฮมสเตย์ก็ต้องไปช่วยเขาทำอาหาร ป้าเหงี่ยม จะทำปลานึ่งกับผักที่เราเก็บมา กับ น้ำจิ้มแจ่วแล้วก้อยก็โชว์ฝีมือ กระหล่ำน้ำปลา กระหล่ำสด สุดๆ ทำอะไรก็อร่อย ป้าโขกโป๊กๆๆอยู่ 2 3 ทีได้น้ำจิ้มแจ่วที่อร่อยยยยยยมาก ปลาจับกันเอง ผักสดอาหารมื้อนี้อร่อยสุดๆๆ แค่มื้อแรกพวกเราก็อยากสมัครตัวเป็นหลานป้าแล้ว อยู่โฮมสเตย์ ก็สนุกที่ได้กินข้าวกับเจ้าของบ้าน คุยนู่นคุยนี่กันพอคุยกับป้าเหงี่ยม ก็รู้ว่าป้าเหงี่ยมแกไม่ธรรมดา ชอบความคิดแกสุดๆ ถ้าผู้นำชุมชนมีความคิดก้าวไกล รับรองชุมชนแข็งแกร่งแน่ วันแรกก็อิ่มท้องไปแล้ว พวกเรากินแล้วนั่งคุยกันอีกซักพักก็ผลัดกันไปอาบน้ำ แล้วก็นอน ถึงจะไม่มีแอร์แต่อากาศตอนกลางคืนก็เย็นสบายดี พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ไปขึ้นดอย จบวันไปแบบประทับใจต้งแต่เริ่มแรก วันที่สอง เรานัดเขาแต่เช้าขึ้นไปจุดชมวิว ห้วยต้นไฮ นัดรถมารับ ตอน 5.00 เพราะพวกเราจะขึ้นไปรอพระอาทิตย์ตกอันนี้เราต้องเสียเพิ่มต่างหาก ค่ารถค่าพาขึ้นไปก็ 250 บาทพวกเราไว้ลายนักวิ่งสาว ก็เลยพกรองเท้ากีฬาไปด้วย ดูเป็นสปอร์ตเกริลสุดๆจริงๆแล้ว ตอนแรกจะเอาชุดไปวิ่ง วิ่งสวยๆ กลางบ้านนา เผลอแพล๊บบอกไม่มีเวลาเปลี่ยนมาเดินเขาแทน พวกเราเดินขึ้นเขาตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่ได้ติดไฟฉายมา ก็เลยใช้ไอโฟนนี่แหละ คลำๆๆ ไปมา ประมาณ 45 นาที พวกเราก็ถึงยอด ยะฮู้ แต่ด้วยความฟิต หรือรากฐานการขาที่แข็งแรง ของพวกเราคนนำทางยังเอ่ยปาก พวกพี่แข็งแรงจริง อย่า มา ดู ถูก พอออออ
เรามาถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นก็เลย นอนรอต้องแคร่ ข้างบนนั้นแหละคะอากาศข้างบนดีสุดๆ ดีจนพวกเราจะเผลอรับไป นั่งๆนอน ดูดาวไป พระอาทิตย์ก็ขึ้นข้างบนนั้นมีกลุ่ม เราก็อีกกลุ่มแค่นั้น ก็เลย เพลินๆ กันไป ข้างบนนั้นคนนำทางจะชงกาแฟให้เราด้วยที่เก๋ไปกว่านั้น ถ้วยกาแฟใส่ในกระบอกไม่ไผ่ เพลินเลย ป้าเหงี่ยมบอกเมื่อก่อนจุดชมวิวอันนี้ยังไม่มี แต่พอแกกลับจากไปดูงานที่ญี่ปุ่น แกคิดเลยว่าต้องมีจุดชมวิว ก็เลยเป็นจุดชมวิวอันนี้
พวกเราลงจากดอยอย่างไว เพราะหิวข้าวกันแล้วป้าเหงี่ยมบอกลงมาแล้วมากินข้าวกัน อาหารเช้าวันนั้นเป็นไก่ทอด น้ำพริกหนุ่มแล้วก็คะน้าปลาเค็ม แล้วก็ข้าวเหนียวเราไม่เคยกินคะน้าปลาเค็ม อร่อยๆ แบบนี้นานแล้ว คะน้าสด ปลาเค็ม ไม่ได้เค็มมาเกินไป ป้าเหงี่ยมที่เรายอมรับฝีมือ สุด แกโยนนั่นโยนนี่ไปแล้วอร่อยทุกอย่างเลย
พอพวกเรากินข้าวเสร็จก็นั่งคุยนั่นคุยนี่กันป้าเหงี่ยมบอกอยู่ต่างจังหวัดอย่างงี้ แทบไม่ต้องใช้เงินเลย ทุกอย่างปลูกเองหมดข้าว ผัก ปลาก็หาเอา แกไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์ด้วย แกบอกวันนั้นไปกรุงเทพเห็นเด็กต่อแถวกินขนมปังกันก้อนละ 200 แกเล่าไปขำไป แกบอกทำใมมันแพงจังลูก พวกเรานั่งเงียบเลย555 แพงจริงแต่อร่อยเหมือนกันนะคะ
กิจกรรมตอนสายๆ ของวันนี้เป็น ขี่จักรยานดูชุมชนโดยมีไกด์เด็กเมื่อวานเป็นคนนำทาง น้องๆ น่ารักดี ที่เราไปดูก็เป็น ที่ทอผ้าหมูบ้านนี้มีเชื่อเสียงเรื่องผ้าทอ หมักโคลน มานมนาน ป้าเหงี่ยมบอก แกทำเรื่องให้ออกงาน OTOPบ่อยๆจนคนติด คนต่างชาติก็มา จนตอนนี้เขามีร้านเปิดที่ สวนจตุจักร คนในชุมชนก็มีรายได้จริงจังเราชอบชุมชนอย่างงี้
อีกบ้านเป็นบ้านคุณตา ที่ทำของเล่นจากไม้ ตอนนี้คุณตาเริ่มแก่แล้วก็เลยเป็นรุ่นลูกที่ยังทำอยู่ ของเล่นน่ารัก ราคาไม่แพง คุรตาอารมณ์ดี สีซอให้ฟังด้วย คุณตาไม่ได้หมายความว่าไรใข่ใหม ตอนเที่ยงๆพวกเราออกไปข้างนอกไป อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เราชอบอุทยานประวัติศาสตร์ของสุโขทัยทุกทีเลยเขาจัดการดีทำสถานที่ สวยดี เราใช้บริการ รถรางของเขาข้างใน สบายดี นั่งวนๆเพลินๆถ่ายรูปไป
ระหว่างทาง ดอกปอเทืองเต็มเป็นสวนเลย พวกเราถึงกับต้อง จอด ถ่ายรูปกันหน่อย กลับบ้านไปป้าเตรียมส้มตำไว้ให้เรา ส้มตำปลาร้าของป้า เด็ดกว่า ทุกร้านที่เคยกินมา ป้าตำแบบถาด ใหญ่กินกับผักข้าวเกรียบที่เป็นของฮิตของที่นี่ ข้าวเกรียบว่าวเอาไปทอด กินกับทุกอย่างข้าวก็ได้แกงก็ได้ วันนี้เรากินกับส้มตำ มันเข้ากันสุดๆ ทั้งครอบครัวมากินด้วยกัน เด็กที่พาเราไปเที่ยวด้วยกินส้มตำมันต้องกินหลายๆ คนถึงจะสนุก แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ มันเพลินจริงๆ เวลาไปอยู่ต่างจังหวัดที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีมาก ไม่ได้มีนุ่นนี่มา ก็นั่งคุยกันไป เบื่อๆ ก็ออกไปกินกาแฟที่เป็นของลูกสาวป้าอีกคน อ่านหนังสือหาที่เที่ยวใหม่กันไปเวลาไปเที่ยวได้ทริปใหม่เพิ่มขึ้นทุกที ได้เวลาเข้าครัว วันนี้ ป้าเหงี่ยมก็คงยังทำอาหารอร่อยเหมือนเดิมป้าบอกวันนี้คงได้นอนดึก เพราะพรุ่งนี้มีคนญี่ปุ่นมาดูงาน 50 กว่าคน ตกเย็นชาวบ้านมาบ้านป้ากันเพียบเลยมาช่วยกันทำ พรุุ่งนี้วันพระใหญ่ เราจะไปทำบุญที่วัดกัน วันที่สาม
เราไปโชคดีที่ตรงกับวันพระใหญ่ด้วยตอนเช้าก็เลยไปทำบุญที่วัดแถวบ้านกันเมื่อวานตอนไปในเมืองเราซื้อของใช้ที่จะทำสังฆทานมาด้วยป้าเหงี่ยมตื่นมาแต่เช้ามาทำอาหารถวายพระพุทธ พวกเราช่วยกันทำนู่นนี่แล้วป้าเหงี่ยมก็เอาผ้าถุงมาให้เราใส่ ผ้าถุงที่เป็นผ้าที่ขึ้นชื่อของที่นี่ หาบกันไปที่วัด คนเยอะเลย เวลาไปวัดต่างจังหวัดเราอิ่มใจมากทุกที ได้ฟังสวด ถวายพระดอกไม้ที่เอาไปถวายก็เป็นดอกไม้อะไรก็ได้ที่เก็บได้ พอพระฉันเสร็จ ก็ยกข้าวมากินด้วยกันกลางศาลามีแต่คนแย่งกินข้าวก้นบาตร เราก็ด้วย 555 สนุกดีคะ
พอถึงพวกเราก็เก็บของ เตรียมตัวกลับกรุงเทพ เป็น 3 วัน 2 คืน ที่เราเก็บความประทับใจไปเต็มกระเป๋า เรายังคอยติดตามเพจ บ้านนา ตลอด มีโอกาสต้องกลับไปอีกแน่นอน เห็นดงโสนแล้วอยากตำน้ำพริกไปจัง อิอิอิ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 พฤษภาคม 2559 เวลา:18:21:54 น.
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Tristy Food Blog ดู Blog Sai Eeuu Food Blog ดู Blog ALDI Travel Blog ดู Blog Max Bulliboo Klaibann Blog ดู Blog patthanid Photo Blog ดู Blog PanGWeT Travel Blog ดู Blog โดย: ชมพร วันที่: 10 พฤษภาคม 2559 เวลา:21:49:55 น.
อ่านแล้วประทับใจมากๆ ครับ สำหรับทริปบ้านนาต้นจั่น น่าไปๆ
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2559 เวลา:20:29:15 น.
|
Pangeataround
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] P a n g e a t a r o u n d FB: Pangeataround IG: Pangeataround
Group Blog
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |