การเผยแผ่พระพุทธศานาในทวีปยุโรป
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปยุโรป การเผยแผ่และการนับถือศาสนาในทวีปยุโรป พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เข้าไปในทวีปยุโรป โดยผ่านทางประเทศกรีซก่อนในช่วงพุทธสตวรรษต้น ๆ แต่ทว่ายังไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนักจนกระทั่งหลังจากพุทธศตวรรษที่ ๒๑ เป็นต้นมา เมื่อชาวยุโรปได้ประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย เช่น อินเดีย ศรีลังกา พม่า เขมร ลาว และบางส่วนของจีนเป็นอาณานิคมแล้ว ก็พบว่าชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลักธรรมคำสั่งสอนอันลึกซึ้ง มีเหตุมีผลถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงบังเกิดความสนใจและเมื่อได้ทำการศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่าง ๆ เพิ่มเติม ก็ประจักษ์ว่าหลักธรรมของพระพุทธศาสนาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างดียิ่ง จึงมีการนำหลักธรรมดังกล่าวออกเผยแพร่ในหมู่ชาวยุโรปด้วยกัน เหตุผลที่ทำให้ชาวยุโรปเริ่มสนใจพระพุทธศาสนาก็เพราะประทับใจ หลักการของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนให้บุคคลอย่าเชื่อถือคำสอนของพระองค์โดยทันที จนกว่าจะได้ใคร่ครวญพิจารณาหรือทดลองปฏิบัติดูก่อน เมื่อเห็นผลแล้วจึงค่อยเชื่อ นอกจากนี้ หลักธรรมของพระพุทธศาสนาก็เน้นถึงความมีเมตตากรุณา ความรัก การไม่เบียดเบียนต่อกัน ส่งเสริมเสรีภาพ ภราดรภาพ และความเสมอภาค จึงส่งผลให้มีชาวยุโรปประกาศตนเป็นพุทธมามกะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราสามารถแบ่งรายละเอียดเป็นประเทศๆ ได้ดังนี้ การเผยแผ่ศาสนาในประเทศอังกฤษ การเผยแผ่ในประเทศอังกฤษเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2393 โดยนายสเปนเซอร์ อาร์ดี ตีพิมพ์หนังสือชื่อ “ศาสนจักรแห่งบูรพาทิศ” ออกเผยแผ่ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก จนกระทั่งเมื่อ เซอร์ เอ็ดวิน อาร์ดนลด์เขียนหนังสือเรื่อง “ประทีปแห่งเอเชีย” ออกสู่สายตามหาชนใน พ.ศ.2422 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวอังกฤษก็เริ่มตื่นตัวหันมาสนใจในพุทธศาสนามากขึ้นเรื่อย ๆ โยชาวอังกฤษได้ร่วมมือกับชาวพุทธในประเทศต่าง ๆ ก่อตั้งสมาคมเพื่อดำเนินงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษขึ้นหลายสมาคมที่สำคัญได้แก่สมาคมบาลีปกรณ์ จัดพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นภาษาอังกฤษ พุทธสมาคมระหว่างชาติ (สาขาลอนดอน) ของพม่า ตีพิมพ์หนังสือชื่อ “พระพุทธศาสนา” พุทธสมาคมแห่งเกรตบริเตนและไอร์แลนด์ออกวารสารชื่อ “พุทธศาสตร์ปริทัศน์” สมาคมมหาโพธิ์ (สาขาลอนดอน) ของศรีลังกาออกวารสารชื่อ “ชาวพุทธอังกฤษ” และ “ธรรมจักร” เป็นต้นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในอังกฤษนี้ถึงแม้พุทธสมาคมต่าง ๆ จะนับถืนิกายแตกต่างกัน เช่น นิกายเถรวาท นิกายมหายาน นิกายเซน นิกายสุขาวดี ฯลฯ แต่ทุกสมาคมก็สมัครสมานสามัคคีกันดี โดยมีการจัดกิจกรรมและประชุมกันบ่อยครั้ง ทั้งนี้เพื่อทำให้พระพุทธศาสนาสามารถเผยแผ่ออกไปได้อย่างกว้างขวาง อนึ่งได้มีการจัดตั้งวิหารทางพระพุทธศาสนาขึ้นหลายแห่งในประเทศอังกฤษ เป็นต้นว่าพุทธวิหารลอนดอนของประเทศศรีลังกา วัดของมูลนิธิสงฆ์อังกฤษที่ถนน แฮมสเตท และมีวัดของชาวพุทธศรีลังกา ที่ตำบลซิลิค กรุงลอนดอน วัดทิเบตที่บิดดอล์ฟ ประเทศสกอตแลนด์ วัดไทยพุทธประทีปที่กรุงลอนดอนเกิดขึ้น ต่อมาก็มีวัดอื่น ๆ เช่น วัดป่าจิตตวิเวก เมืองแฮมไชร์ วัดป่าสันติธรรม เมืองวอริค วัดอมราวดี และวัดสังฆทาน เมืองเบอร์มิงแฮม พระภิกษุไทยได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา สอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ชาวพุทธในประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะป่า จิตตวิเวก วัดอมราวดี และวัดป่าสันติธรรม ได้มีชาวอังกฤษมาบวชศึกษาปฏิบัติจากหลวงพ่อชา สุภัทโท พระวิปัสสนาจารย์ผู้มีชื่อเสียง แล้วกลับไปเผยแผ่ยังประเทศของตน งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาจึงกระจายไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้พระเขมธัมโม ได้เข้าไปสอนนักโทษตาม ทัณฑสถานต่าง ๆ โดยความร่วมมือของรัฐ ผลักดันให้คุกเป็น สถานปฏิบัติธรรมของนักโทษ และโครงการองคุลีมารเพื่อช่วย เหลือนักโทษ โดยมิได้แบ่งว่านับถือศาสนาพุทธหรือศาสนาอื่น ๆ กล่าวโดยสรุป ปัจจุบันมีชาวอังกฤษประกาศตนเป็นพุทธมามกะมากขึ้นเรื่อย ๆ และจากรายงานในวารสาร “ทางสายกลาง” ของ พุทธสมาคมลอนดอนระบุว่า มีสมาคมและองค์การต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาจัดตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษแล้วประมาณ 32 แห่ง การเผยแผ่ศาสนาในประเทศเยอรมนี ชาวเยอรมันได้ยอมรับพระพุทธศาสนาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว แต่เป็นเพียงชนส่วนน้อยเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อลัทธินาซีเรืองอำนาจ พระพุทธศาสนาก็เริ่มเสื่อมไปจากประเทศเยอรมนี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ พระพุทธศาสนาค่อย ๆ ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ในประเทศสาธารณรัฐเยอรมนี (เยอรมันตะวันตก) โดย ดร.คาร์ล ไซเกนสิตคเกอร์ และ ดร.ยอร์จ กริมม์ ได้ร่วมมือตั้งพุทธสมาคมเยอรมันขึ้นที่เมืองไลป์ซิก เมื่อ พ.ศ. 2464 เพื่อทำการเผยแผ่หลักธรรมและดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา การเผยแผ่พุทธศาสนาในประเทศเยอรมันตะวันตก ดำเนินการโดยเอกชนร่วมมือกับภิกษุสงฆ์จาก ญี่ปุ่น ไทย ศรีลังกา ไทย ทิเบต จัดพิมพ์วารสารแลจุลสารออกเผยแผ่ เช่นกลุ่มชาวพุทธเก่าตีพิมพ์วารสารชื่อ “ยาน” สมาคมพระธรรมทูตศรีลังกาและชาวพุทธในเมืองฮัมบูร์ก ออกวารสารพระพุทธศาสนาฉบับภาษาเยอรมัน นอกจากนี้ก็มีการจัดแสดงปาฐกถาอภิปราย และสนทนาธรรมที่กรุงเบอร์ลินตะวันตกประมาณ 5 – 10 ครั้งต่อเดือน รวมทั้งยังมีศาสตราจารย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องราวทางด้านพระพุทธศาสนานิกายสุขาวดีอยู่ในกรุงเบอร์ลินตะวันตก เมืองมิวนิกและฮัมบูร์ก เป็นประจำอีกด้วย เมื่อเยอรมนีตะวันตกได้รวมเข้ากับเยอรมนีตะวันออกเป็นประเทศเดียว ก็พอที่จะคาดการณได้ว่าคงจะมีชาวเยอรมันประกาศตนเป็นพุทธมามกะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองฮัมบูร์ก เบอร์ลิน สตุตการ์ต มิวนิก โคโลญ และ แฟรงค์เฟิร์ต ส่วนการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญ มักจะกระทำกันที่ “ศาสนสภาแห่งกรุงเบอร์ลิน” ปัจจุบันนี้ที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีวัดไทย 3 วัด คือ วัดพุทธวิหาร ที่เมืองเบอร์ลิน วิตเตนัว วัดไทยมิวนิค ที่เมือง มิวนิค และวัด พุทธารามเบอร์ลิน ซึ่งเป็นศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเยอรมนี การเผยแผ่ศาสนาในประเทศฝรั่งเศส การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศฝรั่งเศสเริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2471 โดยกลุ่มพุทธศาสนิกชนชาวฝรั่งเศส ซึ่งมี นางสาวคอนสแตนต์ ลอนสเบอรี เป็นผู้นำ ได้ร่วมกันจัดตั้งพุทธสมาคม ชื่อ “เล ซามี ดู บุดดิสเม” ขึ้นที่กรุงปารีส พุทธสมาคมแห่งนี้นอกจากจะทำการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนิกายเถรวาทแล้ว ก็ยังได้จัดให้มีการแสดงธรรมอภิปรายเรื่องราวของธรรมะ ออกวารสารพระพุทธศาสนารายเดือน ฝึกอบรมการนั่งสมาธิและวิปัสสนาให้แก่ผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ยังได้นิมนต์พระสงฆ์จากประเทศไทย พม่า ลาว เดินทางไปแสดงพระธรรมเทศนาที่กรุงปารีส และนางสาวคอนสแตนต์ ก็ยังเป็นผู้ริเริ่มการแปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วย ปัจจุบันสถานะของพระพุทธศาสนาในฝรั่งเศสยังไม่รุ่งเรืองนัก การเผยแผ่และการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาดำเนินการโดยพระภิกษุจากไทย ญี่ปุ่น ศรีลังกา กลุ่มพุทธศาสนิกชน จากประเทศฝรั่งเศสและประเทศอังกฤษ และเมื่อถึงวันวิสาขบูชา ของทุก ๆ ปี ชาวพุทธในกรุงปารีสจะประกอบพิธีเวียนเทียนกัน ที่วิหารของพุทธสมาคม โยมีวัดไทยตั้งอยู่ 2 แห่ง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศอดีตสหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียตจัดเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีดินแดนครอบคลุมถึง 2 ทวีป คือ ยุโรปและเอเชีย จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เข้าสู่สหภาพโซเวียตซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า “รุสเซีย” เมื่อครั้งที่พวกมองโกลภายใต้การนำของพระจักพรรดิเจงกิสข่าน ยกทัพมารุกราน ยุโรปเมื่อ พ.ศ. 1766 และสามารถปกครองรุสเซีย อยู่เป็นเวลานานประมาณ 250 ปี แต่ทว่ามีชาวรุสเซียเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยอมรับพระพุทธศาสนา ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีผู้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเผยแผ่ในรุสเซียอีก เช่น มาดามเชอร์บาตรสกี และ มร. บี.เอ็น. โตโปรอฟ แปลหนังสือธรรมบทจากภาษาบาลีเป็นภาษารุสเซีย นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดตั้งพุทธสมาคมขึ้นในรุสเซียด้วย มีชื่อว่า “บิบลิโอเธคา พุทธิคา” แต่การเผยแผ่พุทธศาสนาก็ทำได้ในขอบเขตที่จำกัด เนื่องจากสหภาพโซเวียตมีระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ จึงสั่งห้ามมิให้บุคคล องค์การ สมาคม ทำการโฆษณาเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของศาสนาจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากทางการเสียก่อน การประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาครั้งใหญ่ที่จัดทำขึ้นในสหภาพโซเวียต ก็คืองานเฉลิมฉลอง 25 พุทธศตวรรษ เมื่อ พ.ศ. 2500 ที่กรุงมอสโก ปัจจุบันเมื่อมีการแยกตัวเป็นรัฐเอกราชต่าง ๆ ก็ทำให้ชาวพุทธกระจายกันออกไปแต่ละรัฐ เช่น สหพันธรัฐเซีย สาธารณรัฐลิทัวเนีย สาธารณรัฐคาซัคสถาน เป็นต้น ซึ่งโดยมากมักจะนับถือนิกายตันตระ ส่วนวัดมีเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งโดยวัดส่วนใหญ่จะถูกดัดแปลงทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา และบางแห่งก็ถูกดัดแปลงทำเป็นสถานที่ราชการ วัดสำคัญ ๆ ได้แก่ วัดไอโวกินสกีมหายานและวัดอีโวลกาในสหพันธ์รัสเซีย เป็นต้น การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเนเธอร์แลนด์ พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เข้าสู่ประเทศเนเธอร์แลนด์โดยผ่านมาทางพ่อค้าชาวดัตช์และชาวพื้นเมืองจากประเทศอินโดนีเซียและศรีลังกา ซึ่งเดินทางเข้ามาศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม แต่ทว่าก็มีผู้นับถืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวพุทธในกรุงเฮก ได้ฟื้นฟูชมรมชาวพุทธขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2498 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นศูนย์กลางในการพบปะสังสรรค์กันของพุทธศาสนิกชนในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชมรมนี้จะเปิดประชุมทุกวันอังคาร สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ซึ่งในการประชุมทุกครั้งจะเริ่มต้นด้วยการบรรยายหลักธรรมของพระพุทธเจ้า แล้วอ่านพระสูตรพร้อมกับอธิบายความหรือขยายความเพิ่มเติม และก่อนเปิดประชุมจะมีการฝึกสมาธิก่อน ปัจจุบันการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเนเธอร์แลนด์ ดำเนินงานโดยพระภิกษุสงฆ์จากประเทศไทย ศรีลังกา และญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ และมีวัดไทยเกิดขึ้น เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ วัดพุทธราม และวัดพุทธวิหารอัมสเตอร์ดัม โดยพระ ธรรมทูตที่ผ่านการอบรมจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ไปอยู่ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นที่คาดกันว่าในอนาคตอันใกล้นี้คงจะมีชาวดัตช์หันมายอมรับนับถือพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นมากเรื่อย
Create Date : 20 มิถุนายน 2562 |
Last Update : 20 มิถุนายน 2562 12:58:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 24168 Pageviews. |
|
|
|