ช่วงนี้กำลังมีต้นไม้ใหม่ที่หลงใหลอีกแว้ว ก็คือ กล้วยไม้รองเท้านารี แต่เนื่องจากได้ฟังกิตติศัพท์มาว่าเลี้ยงยากนักยากหนา เนื่องจากรองเท้านารีหลายสายพันธุ์ชอบอาการเย็น มาเลี้ยงในกทม.จึงไม่ออกดอก แล้วก็เลี้ยงไม่เหมือนกัน รองเท้านารีชอบเครื่องปลูกที่เย็น ชื้น แต่โปร่ง ไม่ชอบแฉะๆ ก็เลยพยายามหาข้อมูลในการเลี้ยง แต่เซิร์ทหาไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ ก็เลยไปหาจากในหนังสือแทน ก็ได้หนังสือเกี่ยวกับรองเท้านารีมาเล่มนึง ก็เลยอยากเอามาเขียนแบ่งปันให้ผู้อยากเลี้ยง แต่ไม่รู้จะต้องดูแลยังไงมาฝาก
ปัจจัยสำคัญในการปลูกเลี้ยง1.โรงเรือน เนื่องจากรองเท้านารีมักอ่อนแอจากการกระแทกของเม็ดฝน โรงเรือนจึงควรกันฝน
2.เครื่องปลูก ควรเป็นวัสดุที่ช่วยระบายน้ำได้ดี เก็บความชื้นได้ดี อายุใช้งานนาน ไม่จำเป็นต้องมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืช ไม่เป็นแหล่งสะสมโรคและคราบเกลือ ที่นิยมใช้ ได้แก่ อิฐมอญ ถ่านทุบ ออสมันดา ใบทองหลาง ใบก้ามปู ดินขุยไผ่ เปลือกถั่วลิสง โฟมหักเป็นชิ้นเล็กๆ นอกจากนี้ยังมี แร่หินภูเขาไฟ เม็ดดินเผา และเพอร์ไลต์ (perlite) เป็นส่วนผสมของเครื่องปลูก แต่มีราคาสูง
3.น้ำ คุณภาพน้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรเป็นน้ำสะอาด สำหรับน้ำประปาควรทิ้งไว้ 2-3 วัน เพื่อให้คลอรีนระเหยไปก่อน ไม่ควรใช้น้ำบาดาล
4.แสงแดด รองเท้านารีต้องการแดดเพียง 30 40 % หากได้รับแสงมากเกินไปจะทำให้รากชะงักการเจริญเติบโต มีการคายน้ำมากขึ้น ใบอาจเกิดรอยไหม้หรือดอกมีสีซีด
5.ความชื้นสัมพัทธ์ ควรมีความชื้น 45 % ในเวลากลางวัน และ 80 % ในเวลากลางคืน แต่อากาศต้องถ่ายเทดี เพื่อป้องกันโรคระบาด
6.อุณหภูมิ ต้องการอุณหภูมิ 25 28 องศา แต่อาจสามารถมากกว่านี้ได้ในบางพันธุ์ เช่น รองเท้านารีเหลืองปราจีน เป็นต้น
7.ภาชนะปลูก ควรเป็นกระถางดินเผา เพราะมีรูพรุน ระบายอากาศและน้ำได้ดี แล้วยังสามารถเก็บความชื้นได้ดีอีกด้วย กระถางจะเก็บความเย็นซึ่งช่วยให้รากเจริญเติบโตดี นอกจากนี้ควรเลือกกระถางที่เหมาะกับขนาดต้น ไม่ควรใช้กระถางที่ใหญ่เกินไป
ข้อมูลจาก...หนังสือกล้วยไม้รองเท้านารี สำนักพิมพ์บ้านและสวน