|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
~~ห้วยน้ำดัง ...ปาย ...ปางอุ๋ง... ที่สุด ก็ได้ไปซะที ~~
นานมากแล้ว ...
เมืองปาย เป็นชื่อที่อยู่ในความใฝ่ฝัน แค่ได้ยินชื่อ ก็นึกภาพเห็นทุ่งนาเขียวสด สายหมอกลอยเรี่ย และ ริมน้ำปาย... กระท่อมเล็กๆ สะพานไม้ ชีวิตเรียบง่าย..
เวลาผ่านไปหลายปี ภาพเหล่านั้น ก็ยังอยู่ในจินตนาการเสมอ แต่คำบอกเล่าจากหลายๆคนที่ไปมา บอกว่า..ปาย ไม่ได้เงียบสงบ และเรียบง่ายเช่นที่เคยเป็น นักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้าไป ร้านอาหาร เกสต์เฮาส์ มากมาย ล้วนเสิร์ฟสำหรับนักท่องเที่ยว วิถีชาวบ้านจริงๆ เริ่มเลือนหายไป
แต่ถึงกระนั้น ฉัน...ก็ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ แน่วแน่ ว่า ฉัน..จะไปปาย (แน่วแน่จริงๆ ...ใช้เวลาซะหลายปี )
หลังปีใหม่ผ่านไป 5 วัน ก็ได้เวลา หนีฝนจากใต้ ขึ้นเหนือไปหาหนาว (ไม่ผิดหรอก ไปตั้งแต่หลังปีใหม่...แต่ไม่มีเวลาอัพบล็อกค่ะ ^^)
เชียงใหม่ ...เป็นจุดหมายปลายทางเริ่มต้น ของฉัน ซึ่งเพื่อนร่วมทางรออยู่ที่นั่น หลังจากพักที่เชียงใหม่หนึ่งคืน เช้ามืดวันรุ่งขึ้น พวกเราก็เริ่มออกเดินทาง อากาศหนาวมากๆๆๆ ในเช้าวันนั้น พวกเรา ออกเดินทางพร้อมด้วยเสบียงเต็มรถ (อันนี้สำคัญ
)
จุดหมายแรก คือ ห้วยน้ำดัง จริงๆแล้ว ถ้าจะชมความงามห้วยน้ำดังแบบเต็มๆ ควรจะมานอนค้าง เพื่อตื่นเช้ามาชมทะเลหมอก แต่เราไม่สะดวก เวลาไม่พอ
ระหว่างทางก่อนถึงห้วยน้ำดัง มีจุดชมวิว ให้แวะถ่ายรูปและเข้าห้องน้ำ

ยังไม่ถึงห้วยน้ำดัง ก็มีทะเลหมอกให้ดูแล้ว..

แล้วก็ออกเดินทางต่อ ตามทางที่โค้ง .. โค้ง และ โค้ง..

เราไปถึงห้วยน้ำดังค่อนข้างสาย 8 หรือ 9 โมงแล้ว แต่ทะเลหมอก ยังรอเรา อุณหภูมิ ขณะนั้น 15 องศา..
ดอกไม้สีขาว ..

ทะเลหมอก

....

ดอกไม้ กับท้องฟ้า และทะเลหมอกที่อยู่ไกลๆ ..

คือ กล้วยไม้ดิน หรือเปล่านะ..

หลังจากเดินชมบรรยากาศ เอาหน้ารับลมหนาวเล่นๆ แล้วก็ได้เวลา อาหารเช้าของวันนี้ ที่แวะซื้อติดรถมา เมนูสุดหรูประกอบด้วย ปลาทอด แหนมซี่โครง น้ำพริกหนุ่มปลาร้า ข้าวเหนียว ขอบอกว่า อร่อยมากกกกกก... อยากถ่ายรูปมา แต่ไม่ทัน เพราะต่างคนก็หิวจัด ... จัดการเรียบไปแล้ว  แล้วก็ไม่ลืม ...กาแฟสดร้อนๆ 1 แก้ว แค่นี้ ชีวิตก็สดชื่นนนนน...
จบอาหารเช้า ก็ออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่ปาย... ค่ะ
เรามาถึงปายตอนใกล้ๆเที่ยง ผ่านโค้งพันโค้งมาอย่างปลอดภัย...โดยฝีมือการขับรถอันยอดเยี่ยมของเพื่อน มีฉันนั่งหลับ..เอ๊ย นั่งเป็นกำลังใจให้อยู่ข้างๆ

เข้าสู่เขตเมืองปาย ใครๆ ก็มักจะแวะถ่ายรูปกับร้านนี้ ...ร้านกาแฟน่ารัก ที่มีดอกไม้อยู่บนหลังคา

เราตระเวณหาที่พัก พร้อมๆ กับหาจุดที่จะเที่ยวไปด้วย เริ่มต้น ก็ไปไหว้พระ ที่วัด น้ำฮู ก่อนค่ะ เมืองปายต้อนรับเราด้วยแดดร้อนเอาการทีเดียวล่ะ วันนั้น
กว่าจะหาที่พักได้ ก็วนไปมาซะหลายรอบ ตอนนั้นไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ เพราะมันเหนื่อยและร้อน ลุ้นกับการหาที่พักด้วย
แล้วเราก็ได้รู้ว่า กระต๊อบคืนละ 100 บาท ริมน้ำ ที่เราเคยได้ยิน มันไม่มีอยู่จริงอีกแล้ว (ได้ยินมากี่ปีแล้วล่ะหล่อน ) เราคงได้ยินมานานเกินไป เพราะเดี๋ยวนี้ มันขึ้นมาเป็นหลังละ 1000-1500บาท ซะแล้ว

จริงๆแล้วที่พักราคาถูกคงมี แต่เราหาไม่เจอ และมันอาจอยู่ห่างไกลออกไปพอควร
ที่สุดเราก็หาที่พักที่ถูกใจได้ ลืมถ่ายรูปค่ะ - -"
บ่ายวันนั้น เรามีโปรแกรมไปล่องแพไม้ไผ่แม่น้ำปายค่ะ นัดกับคนที่จะมารับ ราวๆบ่ายสามโมง พอมีเวลาว่าง เราก็เลย นอนเอาแรง.. หลับเป็นตายกันหมดเลย ด้วยความเหนื่อยมาแต่เช้า
แล้วก็ ได้เวลา...ไปล่องน้ำปายกัน
น้ำปาย กว้างแต่ตื้น น้ำใสแจ๋ว เย็น น่าลงไปแช่เล่นมาก

...

เบื้องหลังคุณลุงที่ถ่อแพ..

...

แม่น้ำปาย...

เริ่มมาถึงจุดที่มีรีสอร์ทริมน้ำ

เราใช้เวลาล่องแพกัน 2 ชั่วโมงกว่าๆ.. เป็นช่วงเวลาที่เงียบ สงบ เย็น สบายใจมากจริงๆ..

รีสอร์ท ริมน้ำ..ชอบภูเขาเบื้องหลัง..

อีกรูป

เรากลับถึงที่พักกันช่วงเย็นๆ แวะถ่ายรูปดอกไม้หน้าที่พัก.. ฟ้ามุ่ย ..หรือเปล่านะ

ตกเย็น เราก็ออกไปเดินเล่นที่ตลาดกัน หาข้าวกิน อากาศเย็นดี อาจจะซักสิบกว่าๆองศาค่ะ
เย็นนั้น เรากินก๊วยเตี๋ยว แล้วก็โรตี ค่ำๆ ก็มีมันเผา ร้อนๆ กินท่ามกลางอากาศหนาว อร่อยมากกกก แล้วก็มีอาหารที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างหนึ่งคือ ข้าวปุก เป็นแป้งข้าวเหนียวเป็นแผ่นๆมาปิ้ง โรยด้วยงาดำ น้ำตาลอ้อย ใส่กระทงใบตอง หอม อร่อยมาก (อีกเช่นกัน )
เดินไป ก็ดูผู้คนไป ถ้าอากาศจะหนาวน้อยกว่านี้ และไม่บอกว่าที่นี่คือที่ไหน อาจมีใครเผลอคิดว่า นี่คือ ภูเก็ตหรือกระบี่.. ด้วยความที่มองไปทางไหน ก็มีแต่ฝรั่ง
ฉันว่านะ เมืองปายที่เห็น .. ถ้าไม่นับอากาศหนาวแล้วล่ะก็ ความแตกต่างของปาย กับเมืองท่องเที่ยวทางใต้ ต่างกันแค่ตรงที่ ปาย ไม่มีร้านดำน้ำ แค่นั้นแหละ... ส่วนอย่างอื่น ไม่แตกต่าง..
เอ้า...เอาเป็นว่า ความแออัดของปายยังน้อยกว่า ก็แล้วกัน.. อีกอย่าง ปาย ยังสามารถหาอาหารง่ายๆ ธรรมดาๆ กินได้ง่ายอยู่ค่ะ
ด้วยความที่อาหารล้วนน่าอร่อย เราเลยตบท้ายมื้อค่ำอีกที ด้วยการแวะร้านขนมจีนนั่งยองริมทาง (จริงๆเป็นร้านที่นั่งกับม้านั่งเตี้ยๆ โต๊ะเตี้ยๆ ) ขายขนมจีน มีน้ำยาต่างๆให้เลือก ฉันเลือก ขนมจีนน้ำเงี้ยว ..รสชาติ ธรรมดา แต่บรรยากาศคึกคัก ราคา 15 บาท ถูกดี กินไป ดูผู้คนไป ..คุ้มค่า คุ้มราคามากๆ
อิ่มแล้วก็เดินเล่นต่อพักใหญ่ๆ ก่อนกลับที่พัก ...นอน คืนนั้น หลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า ตื่นมา หนาวมากกกกก.. แต่ชอบค่ะ ชอบ
เช้ามืด เราออกไปเดินตลาดกันอีกครั้ง ตักบาตร ทำบุญกันก่อน แล้วก็ไปเดินเล่นริมน้ำปายค่ะ

...

ถ่ายรูปได้ไม่เยอะค่ะ เพราะแบตใกล้หมด - -"
อุณหภูมิในเช้าวันนั้น... หนาววววว

อาหารเช้าวันนั้นที่เมืองปาย โจ๊ก กาแฟ เข้ากับบรรยากาศหนาวๆที่สุดแล้ว
แล้วเราก็กลับที่พัก เก็บของ เตรียมอำลาปาย มุ่งหน้าไป ปางอุ๋ง..
ก่อนจากปาย ฉันถามตัวเองว่า.. รู้สึกอย่างไรกับปาย ที่อยากมามานาน คำตอบ ...ไม่ค่อยชัดเจน ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มาก ปายจึงไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวัง ฉันมองแค่ว่า อืมมมม เป็นอย่างนี้ นี่เอง ฉันไม่ใช่คนที่ตื่นเต้นไปกับร้านโปสการ์ด ร้านอาหารที่เอาของพื้นเมืองไปแต่ง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ฉันจึงเฉยๆ กับภาพที่เห็น
และ ค่อนข้างเสียดายที่ภาพความสงบงามที่เคยมี ที่เคยบอกเล่ากันมา ไม่มีให้เห็นมากนัก แต่ความเปลี่ยนแปลง คือนิรันดร์.. เมื่อนักท่องเที่ยวแห่กันไป ทุกอย่างก็เตรียมไว้รองรับ ตามดีมานด์ ซัพพลาย ธรรมชาติที่อ่อนแอ ก็ต้องถอยร่นออกไป เป็นธรรมดา...
ฉันไม่เคยเห็นปายในวันวาน วันนี้ ฉันจึงไม่ได้รู้สึกว่า มันเลวร้ายลง แต่คนปายแท้จริง ดั้งเดิม จะรู้สึกอย่างไร ... ฉันก็อยากรู้..
ก่อนออกเดินทางจากปาย แอบแวะเดินไปดูรีสอร์ทข้างๆ เห็นแล้วคิดถึงบ้านปู่ย่า ในอดีตชมัด รีสอร์ท ในทุ่งนาจำลอง (หรือทุ่งนาจริง ที่ปลูกรีสอร์ทลงไป ก็ไม่รู้)
คนเรา แสวงหาธรรมชาติ กันขนาดนี้ ทั้งที่คนเราอีกนี่แหละ ที่ทำให้ธรรมชาติ หายไปจากตัวเรา..

ตอนหน้า เราจะไปปางอุ๋งกัน..
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแวะชมค่ะ..
Create Date : 27 มกราคม 2551 |
Last Update : 27 มกราคม 2551 17:04:23 น. |
|
15 comments
|
Counter : 2101 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:18:16:49 น. |
|
|
|
โดย: iamorange วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:18:52:26 น. |
|
|
|
โดย: แครอทเค้ก วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:20:21:49 น. |
|
|
|
โดย: เหงาจับใจ วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:21:39:33 น. |
|
|
|
โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:21:51:45 น. |
|
|
|
โดย: baby_15 วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:22:23:01 น. |
|
|
|
โดย: แครอทเค้ก วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:22:35:58 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:12:28:29 น. |
|
|
|
โดย: Somouinaka วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:16:31:21 น. |
|
|
|
โดย: ณ มน วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:11:53:13 น. |
|
|
|
โดย: จขบ. ไม่ได้ลอกอินจ้า IP: 203.170.234.20 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:20:00:29 น. |
|
|
|
โดย: ก้อง (ตะวันยิ้ม) IP: 124.121.171.86 วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:21:07:38 น. |
|
|
|
โดย: fedexfc วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:55:22 น. |
|
|
|
โดย: ไวท์ลูแปง IP: 202.91.19.204 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:07:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ไปทื่ปายเมื่อเดือน พ.ย. ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากปากคำคนที่ไปมาแล้วไม่ประทับใจเช่นกันครับ คิดอย่างเดียวว่า ชีวิตนี้ต้องไปปายให้ได้ซักครั้ง ผลปรากฎว่า
"ประทับใจมากครับ" แม้ว่าปายจะมีอินเตอร์เน็ต 2 Mb ให้ใช้ จะมีฝรั่งตาน้ำขาวขวักไขว่ จะมีไฮโซไทยใส่กุชชี่ สวมชุดราตรีเดินเชิดหยิ่งข้างถนน (ไม่รู้ว่ามาเที่ยวหรือมาเดินแคทวอล์คนะครับ) แต่ก็ยังทำให้ผมประทับใจอยู่เช่นเคย กับความเป็นปาย ซึ่งเทคโนโลยี กับผู้คนไม่สามารถเปลี่ยนมันไปได้หรอกครับ มันอาจจะดูลดน้อยลง แต่มันยังมีให้เห็นถ้าเราเลือกที่จะมองมัน ผมถึงเข้าใจว่า ทำไมหลายๆ คน ไปปายก็ยังประทับใจอยู่ตลอด จนต้องไปอีก ไปอีก และไปอีก
ส่วนผมเอง ตอนนี้ก็วางแผนแล้วครับ ที่จะไปเยือนที่นี่อีก และไม่พลาดที่จะไปนั่งจิบกาแฟที่ร้านรถตู้โฟล์คสีชมพู กับร้านสไตล์แม่มดแน่นอนครับ