หมอใหญ่เมืองน้ำหอมเกลี้ยกล่อมชาวฝรั่งเศสทั้งหลายว่า อย่าได้ไปอายในการระบายกลิ่นอายของร่างกายออกไป เพราะจะเป็นการรักษาสุขภาพของตนเองให้อยู่ดี

นายแพทย์เฟรเดริค ซัลด์มานน์ กล่าวว่า “เราควรจะเรอ ผายลม หรือขับเหงื่อให้มันออกไปโดยเสรี เพื่อจะกดโอกาสที่จะเป็นมะเร็งให้เหลือน้อยลง” หนังสือพิมพ์รายวัน “เดลี่ เทเลกราฟ” ฉบับดังของอังกฤษ รายงานว่า หมอเฟรเดริคได้บอกไว้ในหนังสือที่เขาเขียนขึ้น กล่าวว่า “คนเราควรจะผายลมให้หมด เพื่อจะได้กำจัดก๊าซที่เกิดขึ้นในตัววันละ 2 ลิตรให้หมด เพราะมันเป็นไปตามขบวนการตามธรรมชาติ การกลั้นเอาไว้อาจเป็นอันตรายกับลำไส้”

ขณะเดียวกัน เขาก็ได้แนะนำเสริมว่า การเรอก็เช่นกัน ควรจะเรอออกมาหลังอาหารทุกมื้อ เพราะมันเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคไส้เลื่อน

อันเป็นโรคที่คนฝรั่งเศสเป็นกันมากถึงหนึ่งในสามเขายังชี้ให้เห็นว่า การปล่อยให้มีลมอยู่ในกระเพาะ จะทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก ซึ่งจะล่อให้เกิดโรคมะเร็งของหลอดอาหารได้ “เหตุที่เกิดเป็นโรคนี้ในฝรั่งเศสกันมาก ก็เพราะไม่ยอมเรอออกมานั่นเอง” หมอซัลด์มานน์ยังชวนให้โยนยาต้านการหลั่งเหงื่อทิ้งไปเสีย เพราะการขัดขวางเหงื่อออก ไม่แต่เพียง เป็นการปิดกั้นการขับของเป็นพิษ หากมันยังเป็นสิ่งดึงดูดเพศตรงกันข้ามอย่างหนึ่งด้วย ที่ควรทำก็คือ การเพลาการเคี้ยวหมากฝรั่งลงจะดีกว่า โดยเฉพาะไม่ควรจะเคี้ยวตอนเดิน และควรจะลดกินน้ำอัดลมลง.