Santi หมูเรย์ was coming to town
You better watch out You better not cry You better not pout I'm telling you why Santa Claus is comin' to town ช่วงปีใหม่ถ่ายรูปเทอไว้เยอะมากเลยเพราะพาไปเที่ยวเยอะ กลายเป็นว่าไม่มีเวลา up blog ซะนี่ ค่อยๆ ทยอยลงล่ะกันน่ะ เริ่มที่ช่วงเทศกาลคริสมาตก่อน ปกติเราจะไปโบสถ์กันคืนวันที่ 24 Dec แต่ชั้นไม่ได้ไปปีนี้เพราะทำไอติมแบบเร่งด่วนอ่ะ เทอก็ไปกะป๊าและอากง ไม่มีรูปตอนอยู่ในโบสต์น่ะ เพราะเวลาอยู่ในโบสถ์ควรสำรวมเหมือนอยู่ในวัดน่ะลูก แต่ก็พอมีกลิ่นอายจากรูปที่ไปถ่ายที่หน้า Central World และสวนแถวร้านกาแฟ อยากให้ blog ดูมีสาระ ชั้นเลยไป search เล่าความเป็นมาของวันสำคัญนี้ให้เทอได้เข้าใจก่อน วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ เทศกาลคริสต์มาสเหมือนเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์โลกเพราะส่งบุตรชาย คือ "พระเยซู" ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยไถ่บาป และช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากการทำชั่ว ดังนั้นวันคริสต์มาสจึงเป็นวันที่มีความหมายสำคัญชาวคริสต์ทั่วโลก มีการส่งบัตรอวยพร ให้ของขวัญ แก่กันและกัน รวมทั้งประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟ และต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม ช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะมีองค์ประกอบสำคัญบางอย่างที่มีที่มาที่น่าสนใจน่ะอย่างแรกที่ขาดไม่ได้เลยก็ซานตาครอสนั่นเอง ว่ากันว่าซานตาคลอสคนแรกคือนักบุญ (เซนต์) นิโคลัส เป็นสังฆราชแห่งเมืองไมรา เหตุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซานตาครอสคนแรก เนื่องจากท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่ง แล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดีถุงเท้า จากที่ซานต้าโยนเหรียญตกไปอยู่ในถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้หน้าเตาผิง พอรุ่งเช้าเด็กหญิงตื่นมาเจอเหรียญเงินในถุงเท้าจึงดีใจมาก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่คนพากันแขวนถุงเท้าคริสต์มาสต์เพื่อรับของขวัญจากซานต้าต้นคริสต์มาส ต้นคริสต์มาสก็คือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยลูกแอปเปิ้ลและขนมปังเพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ต่อมาก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยจนกลายเป็นการประดับด้วยดวงไฟหลากสีสัน ขนม และของขวัญ คำอวยพรวันคริสต์มาส Merry X'mas เป็นคำอวยพรที่เราต้องได้ยินกันทุกวันนี้ คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า "สันติสุขและความสงบทางใจ" คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรขอให้ได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ สีประจำวันคริสต์มาส สีที่เกี่ยวข้องในวันคริสต์มาสประกอบด้วย สีแดง : เป็นสีของผลฮอลลี่ หรือซานตาครอส เป็นสีของเดือนธันวาคม ที่แสดงถึงความตื่นเต้น และหากเป็นสัญลักษณ์ตามศาสนา สีแดงจะหมายถึง ไฟ, เลือด และความโอบอ้อมอารี สีเขียว : เป็นสีของต้นไม้ สัญลักษณ์ของธรรมชาตื หมายถึงความอ่อนเยาว์และความหวังที่จะมีชีวิตเป็นนิรันดร์ เปรียบได้กับว่าเทศกาลคริสต์มาสคือเทศกาลแห่งความหวัง สีขาว : เป็นสีของหิมะ และเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา คือแสงสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และความรุ่งเรือง สีขาวนี้จะปรากฎบนเสื้อคลุมนางฟ้า, เคราและชายเสื้อของซานตาครอส สีทอง : เป็นสีของเทียนและดวงดาว เป็นสัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์และความสว่างไสวการทำมิสซาเที่ยงคืน การถวายมิสซานี้เกิดขึ้นหลังจากพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1 ได้ประกาศให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) ในปีนั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระเยซูเจ้าประสูติ เมื่อไปถึงตรงกับเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น เมื่อเดินทางกลับมาที่พักได้เวลาตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และ สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ยังมีสัตบุรุษหลายคนไม่ได้ร่วมขบวนไปด้วยในตอนแรก พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ในโอกาสวันคริสต์มาสระฆังวันคริสต์มาส เสียงระฆังในวันคริสต์มาสคือการเฉลิมฉลองให้กับการประสูติของพระพุทธเจ้า โดยมีตำนานเล่าว่า มีการตีระฆังช่วงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสเพื่อลดพลังความมืด และบ่งบอกถึงความตายของปีศาจ ก่อนที่พระเยซูผู้ที่จะมาช่วยไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์จะถือกำเนิดขึ้น และระฆังนี้มีเสียงดังกังวาลนานนับชั่วโมง ก่อนที่ในเวลาเที่ยงคืนเสียงระฆังนี้จะกลับกลายมาเป็นเสียงแห่งความสุขดาว ในความหมายของชาวคริสต์เตียนหมายถึงการแสดงออกที่ดีของพระเยซูคริสต์ ที่บัญญัติไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลว่า "The bright and morning star" มีความหมายพิเศษว่าดวงดาวเหล่านั้นได้แบ่งที่อยู่กับสรวงสวรรค์ ไม่ว่าจะมีกำแพงอะไรขวางกั้นระหว่างพื้นผิวโลกด้วยก็ตามของขวัญในวันคริสต์มาส การแลกเปลี่ยนของขวัญในวันคริสต์มาสเริ่มต้นจากเมือง Saturnalia ในช่วงยุคโรมัน ต่อมาชาวคริสต์รับประเพณีนี้เข้ามาด้วยความเชื่อว่า การให้ของขวัญนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับของขวัญประเภททอง, ยางสนที่มีกลิ่นหอม และ ยางไม้หอม ซึ่งพวกนักเวทย์จากตะวันออกที่เดินทางมาคารวะพระเยซูคริสต์ นำมาให้ตอนที่ท่านประสูติ ทั้งหมดนั้นก็คือการเฉลิมฉลองให้กับพระเยซู ที่เกิดมาเพื่อชำระบาปให้แก่ชาวคริสต์ทั้งหลาย และเป็นเทศกาลที่นำความสุข สนุกสนาน มาสู่หมู่มวลมนุษย์ ขอขอบคุณข้อมูลจาก - kapook.com - wikipedia.org - ru.ac.th - educatepark.com ปีนี้มีโอกาสไปถ่ายรูปหน้า Central World อีกแต่ก็ไม่ได้ถ่ายอะไรมากมายเพราะคนเยอะเกิ้นนน แต่ตกแต่งน่ารักดี ชอบไปหมดเลยอ่ะ เห็นลานเบียร์ก็ออกแบบได้เก๋ ชิว น่านั่งมากๆ เห็นแล้วก็อยากจะเช่าพื้นที่มาทำลานไอติมบ้าง อิ อิ อิ ชอบลูกแก้วนี้มากอ่ะ อยากเอาเทอเข้าไปนั่งถ่ายรูปบ้างแต่เห็นคิวแล้วยอมแพ้อ่ะจ้า เราอยู่กันไม่นานก็เข้าห้างไปหาอะไรกินดีกว่า อยากกิน Fish Market มากๆ ระหว่างเดินไปร้านอาหารก็ผ่านร้าน crepe น่ารักมากอ่ะ เดินทางไปก็เจอป๊าฟัดไป ทำหน้าออกรำคาญน่ะเนี่ย 5555 ชอบรูปนี้ เทอกาแดะดีอ่ะ ออกมายืนนอกร้านกั้นด้วยกระจก โกวิเอาน้ำมาให้กิน เทอก็รู้ว่ามีกระจกน่ะแต่เล่นด้วย เล่นไปขำไป 555 โกวิอยู่ด้วยก็แน่นอน ได้รูปครอบครัวสิค้า
. รูปบนนี่เหมือนไม่เป็นที่ต้องการของสามี พร้อมจะตัดรูปให้เหลือแค่ 2 พ่อลูกตลอดเวลา T_T ถ้ารูปเบลอๆ จะเหมือนรูปถ่ายติดวิญญาณมากๆๆ อ่ะ ณ จุดนี้ เข้าห้างทั้งที ป๊าขอไป shopping เสื้อผ้าแป้ป ชั้นเข้าไปลองเสื้อ ดูเทอดิ เหมือนรักแม่ติดแม่เนอะ มุดจะเข้ามาหาชั้นในห้องลอง กร้ากๆๆๆ ตอนจะกลับผ่าน Interactive screen ที่พื้นที่ให้เราเตะๆ รูปแล้วมันจะเคลื่อนไหวได้ เทอเข้าไปยืนก็มีเป้นเงาที่มือเทอ เทอก็งงใหญ่ มองว่ามันคืออะไร ขำมากๆๆ แรกๆ ก็เล่นหนุกๆ เลยพอตอนเอาถุงออกจากแขนเริ่มเห็นเงาบนมือแหละ ตอนนี้ไม่หนุกแล้วแบบว่าอะไรมาอยู่บนแขนช้านนนนน ขึ้นมาบนรถยังมองไม่เลิกอ่ะ ตลกดี ปีใหม่นี้ได้อยู่ใกล้ชิดกับเทอสุดๆ พาเทอไปโน่นนั่นนี่เต็มไปหมด เหนื่อยแต่ happy สุดๆ เลยลูกรักเอ้ย แล้วจะรีบ up blog น่ะเด้อ Merry Christmas ย้อนหลังน่ะจ้ะ ซานต้าป๊าวิน กะ ซานตี้มี๊อร
Create Date : 10 มกราคม 2554
24 comments
Last Update : 10 มกราคม 2554 13:38:05 น.
Counter : 2002 Pageviews.