ตราบาปในชีวิตกับหนึ่งวันที่เหมือนเวลาทั้งชีวิตของข้าพเจ้าใน Extra Love Concert by FongBeer


สำหรับผมมันคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอีกครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเลือกจะไปพัทยาท่ามกลางภาวะที่ไม่พร้อมอะไรเลยสักอย่าง

เรื่องมันเริ่มขึ้นในวันอังคารที่ 27 มีนาคมเมื่อผมได้บัตรคอนเสิร์ตนี้มา 2 ใบ มันเป็นการออกไปดูคอนเสิร์ตแนวชายทะเลครั้งแรกในชีวิตข้าพเจ้าเลยไม่มี “มุมมองหรือภูมิต้านทาน” กับคอนเสิร์ตแนวนี้เลยสักกระผีกเดียวเริ่มแรกไม่รู้ว่าเราอุตริคิดอย่างไรในการสืบค้นว่า ไอ้มารีย่า ยอร์ชคลับนี้มันตั้งอยู่ส่วนใดของพัทยา ก่อนจะค้นพบความจริงว่ามันห่างจากตัวหาดพัทยาร่วม 20 กิโลเมตร แถมถ้าใครไม่มีรถดูท่าหลังจบคอนเสิร์ตท่านจะมีสภาพเหมือนโดนปล่อยเกาะฉันใดฉันนั้น

หลังจากทำรีเสิร์ชดูว่าการหาที่พักดูท่าจะไม่เวิร์คเท่าไหร่โชคดีที่เราได้รถที่เราได้เดินทางไปกับรถตู้ของ Sunday Morning ออร์แกไนซ์เซอร์ของผู้จัดโดยเสียค่ารถไปกลับ 350 บาทต่อคน ซึ่งเราต้องไปขึ้นรถตู้ที่ตึก GMM Grammy ก็ถือว่าช่วยข้าพเจ้าลด Cost ไปเยอะ (เพราต้องออกค่าเดินทางให้แม่ข้าพเจ้าด้วยแต่ประเด็นชวนคุณแม่ไปชิลล์ริมทะเล ยิ่งกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้า Failหนักกว่าเดิม)

วันเดินทาง 31 มีนาคม มาถึง เราก็ไม่รอช้ารีบเดินทางไปตึกแกรมมี่ตั้งแต่10 โมง ขึ้นรถ 11 โมง 45 ระหว่างเดินทางคนขับรถตู้ก็ดูชิลล์เกิ้น 13.00 น.เพิ่งแวะปั้มก่อนขึ้นทางด่วนไปพัทยาระหว่างเดินทางโชคดีประการหนึ่งคือข้าพเจ้าหนีบหนังสือ Hunger Game ภาค 2ไปด้วย พอถึงที่หมายก็อ่านจบ 1 เล่มพอดี (ทำไปด้าย!!)

ตัดตอนมาตอนรถเข้าเขตพัทยา ท้องฟ้าครึ้มโคตรน่ากลัวและไม่นานฝนก็เทกระหน่ำลงมาเหมือนพายุเข้า พอถึงที่มารีน่า ยอร์ชคลับแล้วเราก็ค้นพบว่าทางเข้าไกลมากจากปากทาง(มองสภาพแล้วว่าถ้าไม่มีรถนี่เข้าลำบากมาก) เราก็ไปนั่งคอยอยู่ในล็อบบี้โรงแรมบริเวณหน้างานก็ลมพายุโหมกระหน่ำจนเตนท์แทบปลิว ทำเอาการเปิดประตูงานล่าช้าไปราวห้าโมงเย็นผู้คนก็เริ่มๆทยอยมา

ที่แย่อีกประการหนึ่งคือเราไม่มีตัวเลือกในการหาข้าวกินเว้นเสียแต่ซื้อข้าวผัดกับข้าวไข่เจียวรสชาติชืดๆราคา60 บาท มากิน(พอประทังชีวิต) ก่อนจะเข้าไปในงานหิวโหยมากๆพอเข้าไปในงานแล้วก็ไปได้โลเคชั่นด้านขวาของเวทีหลังจากปูเสื่อโยคะได้10 นาทีก็มีวงเปิดมาเล่น “ตรงหน้า” เราเลยคือวงสาวๆอะไรก็ไม่รู้อ่ะเราจำชื่อไม่ได้กับวง Yes ser day แต่กลายเป็นว่าถึงจะเล่นตรงหน้าก็ไม่ได้ดูอะไรเลยเพราะบรรดาตากล้อง แฟนคลับเล่นมา “ขายถั่ว” เป็นอาบังกันหมด เลยนั่งนึกในใจว่าไหนๆจะมาเบียดๆอยู่หน้าที่นั่งขนาดนี้ปีนขึ้นหัวมาถ่ายรูปเลยก็ได้นะ

คอนเสิร์ตจริงเริ่มตอนหกโมงครึ่งโดยประมาณเปิดตัวด้วยPart แรกประกอบไปด้วยเอ็ม อรรถพล – รุจ เดอะ สตาร์ – ก้อง กรุณ ที่ไม่รู้จะชิลล์เกินไปป่ะใส่เสื้อกล้ามมาร้องเพลง – DJ เจ๊แหม่มก็มาช่วยทำให้บรรยากาศที่ชวนหลับกลับมาดูมีอะไรสักหน่อย เป็นการจบพาร์ทแรกแบบน่าเบื่อหน่วงๆยืดๆ

Part 2 ค่อยมีอะไรชื่นมื่นลูกตากับหูขึ้นมาสักนิดเมื่อชิน เปิดตัวมาแบบหล่อๆพร้อมกับเสน่ห์ที่เอนเตอร์เทนคนดูได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู “ถึงกูจะร้องไม่เก่งแต่กูก็เด็กสุดนะเว้ย” ฮาครืนๆ ก่อนจะเปลี่ยนให้ เอ๊ะ จิรากร มาร้องเพลง(ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าเขาเป็น นักร้องที่ดูตั้งใจร้องเพลงมากที่สุดในงานวันนี้เลยก็ว่าได้)ตามด้วยเบล สุพล (ถ้าใครชอบก็คงจะเพลิน แต่เรารู้สึกว่าการร้องเพลงสบายๆของเขามันฟังแล้วเอียนชวนอ้วกมากอ่ะ) ตามด้วยเต้ ภิรมภักดี(เจ้าของสปอนเซอร์หลัก “เบียร์สิงค์”) เราฟังเสียงร้องเขาแล้วเซงมากจนต้องควักIPOD มานั่งเล่น Temple Run (คือในใจคิดว่าถ้าแถวนี้มันมีอะไรให้หนีออกไปทำได้ คงหนีไปนอกงานแล้ว แต่ที่นี่มีแค่ เรือยอร์ชกับฟ้ามืดๆ เหมือนโดนปล่อยเกาะแบบที่ต้องรอเวลาอย่างเดียว เลยรู้สึกทรมานมากๆ)ต่อมาก็เป็นพี่ใหญ่ โมโนโทนตามด้วยบุรินทร์ที่ดูหลุดธีมคอนเสิร์ตมากเพราะพี่แกไม่เคยร้องเพลงที่ฟองเบียร์แต่งให้ แต่พี่แก็มาพร้อม Setlist เดิมๆและ ข้าพเจ้าถึงกับแทบอยากจะเอาหน้ามุดทรายเมื่อพี่แกร้องเพลง “หยุด”(นี่ถ้า I will Survive เป็นเพลงชาติเกย์ เพลงหยุดมันคงเป็นเพลงชาติของคนชอบดื่มตามร้านเหล้า)ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นหนึ่งช่วงที่เราเดินออกมาหาอะไรกินตามบูท

แต่ความพีคและตลกน้ำตาเล็ดมันมาอยู่ช่วงของสาวมาช่าที่เปิดตัวมากับชุดตำรวจเว้าสูง แต่ที่มันพีคมากคือทุกคนเข้าใจว่ามาช่าจะมาร้อง Music Lover เพราะอินโทรมันขึ้นมาแบบนั้นพอมาช่าบอกเอ้าลุก คนทั้งหาดก็ลุกมา แต่พอเข้าเพลงจริง นางเอาเพลง I’m Backขึ้นมาร้องนี่สิ คนดูก็อึ้งรับประทาน (เราก็ด้วยเป็นหนึ่งในนั้น)แถมนางก็เต้นแบบ เอิ่ม พี่ช่ายังเมาเครื่องบิน ใน 407 อยู่ใช่ไหมโดนพี่หลอกแล้วสติสตังค์ยังไม่กลับมาครบ จบเพลงมาช่าก็พูดแบบเมาๆ ตากรึ่มๆ บอกว่า “เนี่ยช่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยดูชุดสิคะ เห็นมะ นี่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยจริงๆนะ” ย้ำซ้ำๆหลายๆรอบ จนในใจนั่งนึกพี่แกเป็นอะไรเนี่ย(จบงานแม่ข้าพเจ้าถามว่า “มาช่า เป็นอะไรคะคุณลูก ฮา.......) ความพีคของนางยังไม่หมดเท่านี้เพราะนางเล่นไปลากฟองเบียร์ขึ้นมาตอนนางร้องเพลง “ผู้ชายห่วยๆ” ที่มันตลกคือมาช่าบอกให้คนดูร้องท่อนฮุคว่า “จะเสียดาย ผู้ชายห่วยๆ อย่างเธอทำไม” แต่ร้องขึ้นมาบนเวทีที่มีฟองเบียร์ยืนอยู่ตลกไหมล่ะ เหมือนพี่แกขึ้นมารับกรรมอะไรบางอย่าง

22.15 ดูคนรอบหาดกำลังจะเมาได้ที่กันหมดละไม่แพ้กับศิลปินบนเวที เปิดพาร์ทมาแบบอิเล็คโทรนิคของ กวาง AB Normal ตามด้วยวง ZealETC บี พีรพัฒน์ และ แบงค์ วงแคลชตามสูตรสำเร็จเพลงภาคบังคับของพวกเขา แต่เราเดินออกมาจากงานตอนแบงค์ร้องได้ 2 เพลงเพราะกลัวจบงานแล้วมันจะโกลาหล คนเมาไม่ได้สติเยอะแยะเต็มไปหมด เลยมานั่งคอยรถตู้เพื่อกลับบ้าน

สรุปภาพรวมในงานนี้

1.เหมือนคอนเสิร์ตที่ ทริบิวต์ให้วง POTATO ที่ไม่มีปั๊บเลยก็ว่าได้เพราะเพลง 40% ในงานนี้มีแต่เพลงของวงนี้ทั้งนั้น (แน่ล่ะฟองเบียร์แต่งเพลงให้)

2.คนดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจมาฟังเพลง แต่ตั้งใจมาชิลล์สมาคมกินเบียร์ริมทะเลกับเพื่อนมากกว่า

3.พอคนดูไม่ตั้งใจฟัง นักร้องก็ไม่ตั้งใจร้องเหมือนมาร้องๆให้จบๆรับตังค์กลับบ้านดีกว่ามาตรฐานในการร้องเพลงพูดได้คำเดียวว่าสติของข้าพเจ้าที่สมประดีและยังไม่มีแอลกอฮอลล์เข้าปากมีนักร้องที่ร้องเพลงได้ตามมาตรฐานตัวเอง มีไม่ถึง 10 คนส่วนที่เหลือร้องแบบขอทีไปที บางคนฟังแล้วถึงกับต้องกุมขมับ

4.ของกินแพงมากตามประสาคอนเสิร์ต Festival สรุปเมื่อวานแค่ค่ากินตลอดเวลาคอนเสิร์ตหมดไปแล้ว450 บาท ไมได้กินอะไรเยอะนะแต่ตลอดเวลาหกชั่วโมงครึ่ง ไม่กินก็คงลากสังขารไม่ไหว

5.ห้องน้ำดูปริมาณเพียงพอแต่มันจะไม่พอเมื่อคนดูเริ่มยึดห้องน้ำเป็นบ้าน เพราะกินเบียร์เข้าไปเยอะ

6.SetList เพลงซ้ำซาก น่าเบื่อ การเรียงเพลงเรื่อยๆมาเรียงๆธีมคอนเสิร์ตชัดเจน แต่การนำเสนอให้เกรด C+ เพราะเราไม่ได้สัมผัสถึงตัวตนของฟองเบียร์เลยเหมือนคอนเสิร์ตที่เอาศิลปินคนนู้นนี่นั่นมาร้องจนจับฉ่ายไปหมดแถมเพลงที่ไม่ใช่ของฟองเบียร์ก็ยัดเข้ามาเพราะกลัวคนดูเบื่อ เลยกลายเป็นว่ามันก็เหมือนคอนเสิร์ตตามผับและร้านเหล้าที่เน้นร้องไปเรื่อยๆ ไม่ใช่คอนเสิร์ตตามลักษณะในเชิงพาณิชย์

7.การเดินทางมามารีย่า ยอร์ช คลับ ถ้าไม่มีรถมามันเป็นตัวเลือกที่หายนะเลยทีเดียว

8.ภาพรวมดูคอนเสิร์ตนี้จบแล้วอยากตะโกนลงทะเลว่า เมื่อวานฉันน่าจะไปทำอะไรอย่างอื่นที่มีประโยชน์กับชีวิตมากกว่านี้แต่ก็โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง ไว้อาลัยด้วยประกาล ฉะนี้




Create Date : 01 เมษายน 2555
Last Update : 1 เมษายน 2555 12:38:39 น.
Counter : 1574 Pageviews.

4 comments
  
โดย: new pek วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:12:57:16 น.
  
ผมว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คุณบอกนะครับ แต่ผมคิดว่ามันเป็นมุมมองของคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของคอนเสิร์ตครั้งนี้มากกว่า คอนเสิร์ตใหญ่ ศิลปินเยอะ ราคาบัตรก็สูง แถมจัดต่างจังหวัด ผมคิดว่าทีมงานคงจะต้องการสกรีนคนที่อยากฟังจริงๆ เพราะนอกจากจะมีเงินซื้อบัตรราคาแพงแล้ว ยังต้องมีรถ เพื่อเดินทางไปดูไกลถึงพัทยาอีกด้วย

อันนี้คุณได้บัตรฟรี (ประหยัดไปตั้งสามพัน) แถมนั่งรถตู้ ถ้ายังจะคาดหวังไปชิลล์ที่ทะเลชายหาดของโรงแรม ผมว่ามันจะยากหน่อยนึง หรือถ้าอยากจะไปชิลล์ที่หาดพัทยา ก็อาจจะลำบากโบกรถสองแถว แถมค่ากินก็ไม่ได้ถูกเลย คุณอาจจะบ่นพัทยาที่ทำให้คุณเสียค่าเตียงผ้าใบแพงๆ อีกก็ได้นะ

ผมว่าถ้าคุณจะวิจารณ์ โดยเอาตัวเองเป็นที่ตั้งขนาดนี้ล่ะก็ เห็นใจธุรกิจคนอื่นเค้าเถอะ อย่าให้คนอื่นๆ ที่บังเอิญเข้ามาอ่านบล็อกคุณ รู้สึกติดลบกับงานนี้ (หรืองานไหนๆ) โดยที่เจ้าของงานไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ผมว่ามันไม่แฟร์เลย คำว่า"ไดอารี่" กับ"บล็อกบันเทิง" มันต่างกันมาก เขียนภาษาไทยให้แม่นเป๊ะกว่านี้ก่อนดีไหมครับ แล้วค่อยว่ากัน

ไว้อาลัยด้วย"ประการ"ฉะนี้

โดย: คนที่ไปดูมาเหมือนกัน IP: 124.122.3.36 วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:11:26:23 น.
  
@คนที่ไปดูมาเหมือนกัน

ขอบคุณครับ : )
โดย: Onlineza วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:13:37:35 น.
  
ไดอารี่ส่วนใหญ่คนจะเขียนความจริง ... เราเชื่ออย่างนั้นนะ
โดย: คนที่มาอ่านเหมือนกัน IP: 118.175.64.210 วันที่: 4 เมษายน 2555 เวลา:17:04:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Onlineza
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล้อกของผมนะครับ

ถึงแม้จะแต่งบล้อกให้สวยงามไม่ค่อยเป็น แต่รับรองว่าเข้ามาในบล้อกแห่งนี้ มีเรื่องราวให้อ่านมากมายกว่าที่คิด

เร็วๆนี้อ่านจะเพิ่มเติมหัวข้อพากิน พาเที่ยวเพิ่มถ้ามีเวลานะครับ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ

Fanpage : http://www.facebook.com/EntertainmentBite
https://entertainmentbite.wordpress.com/
เมษายน 2555

2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog