I'll give you love…if you give me your heart
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
ภาวะฟื้นฟู

สวัสดีค่ะ โอ่งดินค่ะ

วันนี้จะมาขอเล่าสู่กันฟังสักนิดเกี่ยวกับการดูแลหน้าของแป้งในตอนนี้ค่ะ

ตอนนี้แป้งกำลังอยู่ในภาวะฟื้นฟูหน้าตัวเองอยู่ค่ะ สาเหตุก็เนื่องมาจากแป้งไปลันล้าที่ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง เห็นเค้าแนะนำอะไรว่าดี...เราก็พยายามไปหาซื้อมาใช้บ้าง

ทีนี้แป้งก็ได้ไปสอยเครื่องบำรุงผิวตัวนึงมาค่ะ ใช้กันหลายคนเค้าบอกว่าใช้แล้วหน้าใสขึ้น ฝ้า กระ จางลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่หน้าเราก็สภาพแบบนั้นเลย กระเต็มไปหมด เลยดิ่งไปหาซื้อค่ะ ครั้งแรกกะซื้อขนาดทดลอง แต่พอไปซื้อจริง ๆ กลับไม่มีค่ะ แป้งเลยต้องตัดใจซื้อผลิตภัณฑ์หนึ่งในเซ็ทนั้นมาใช้...ลดราคาแล้วก็เหลือ 900 กว่าบาท เป็น cleansing oil ล้างเครื่องสำอางเพราะแป้งแต่งหน้าไงคะ

ตอนใช้ก็รู้สึกว่า ..เออ ล้างออกหมดดี หน้าชั้นคงสะอาดและใสขึ้นแน่ ๆ เดี๋ยวจะเก็บเงินแล้วไปสอยมาทีละชิ้นให้ครบเซ็ท ทีนี้ล่ะ หน้าชั้นจะได้ขาวใส ไม่ต้องให้คนอื่นมาด่าว่า "ดำ" อีกต่อไป โฮะ ๆ ๆ

แต่สักพักก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองขึ้นผื่นค่ะ เริ่มขึ้นที่หน้าผากเป็นเม็ด ๆ แต่ก็ยังไม่คิดอะไรมาก แต่หลัง ๆ เริ่มลามมาที่แก้ม แล้วไอ้ผื่นนั่นก็แปรสภาพเป็นสิวอุดตัน และสิวอักเสบตามมาค่ะ ประกอบกับช่วงนั้นเครียดจัด โหมทำวิทยานิพนธ์พักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนเลยแปรปรวน ช่วยส่งเสริมให้สิวอักเสบขึ้นเอา ๆ ๆ

แอบดีใจเล็กน้อยที่ช่วงยุคมืดนั่นมีคนเห็นสภาพหน้ากันไม่กี่คน แต่ละคนก็เป็นคนสนิททั้งนั้น..พ่อแม่ พี่ชาย อาจารย์ พี่แล๊บ น้องแล๊บ แต่ละคนที่กล้าพูดก็พากันส่ายหัว เพราะไม่เคยเห็นหน้าแป้งเน่าขนาดนี้มาก่อน ยิ่งพี่ชายยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไล่ให้แป้งไปหาหมออยู่ทุกวัน...ใครมันจะไปฟะ ไม่มีตังค์เฟ้ย

ช่วงยุคมืดก็คือ หน้าแป้งทั้งเน่า ทั้งโทรม เป็นสิวสิบ ๆ เม็ด แถมเป็นสิวหัวหนองทั้งนั้นเลยนะคะ จากคนที่เฉลี่ยเดือนนึงมีสิวแค่เม็ดเดียวเท่านั้น คือช่วงใกล้มีประจำเดือน บางเดือนสิวก็ไม่ขึ้นเลย กลับกลายเป็นสิวแย่งกันขึ้นมากมาย ทั้งหน้าผาก แก้ม คาง จมูก เม็ดนึงยังไม่ทันหาย เม็ดใหม่ก็ขึ้นมาอีก ราวกับเป็นตัวตายตัวแทน!! (วิญญาณสิวที่จากมันไปคงอาฆาตแรง) ปวดก็ปวด อายก็อาย แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะงานก็หนัก แถมหาสาเหตุให้ตัวเองไม่ได้อีก

เน่าเฟะถึงขนาดที่วันสอบวิทยานิพนธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาเม้าท์กับอาจารย์อีกคนให้ได้ยินกันเลยว่า "ยัยแป้งมาสอบ..อะไรก็ไม่พร้อมสักอย่างเลยพี่ โน่นก็ไม่เสร็จ นี่ก็ไม่ทัน ยังดีนะ ที่วันนี้ยัยแป้งมันโทรม ถ้าหากว่ามันสวยมาสอบเนี่ย หนูจะโกรธมันแน่ ๆ นี่เห็นว่าโทรมเลยให้อภัย".....อ่า นี่ถือว่าเป็นข้อดีข้อเดียวของความเน่าของหน้าแป้งเลยค่ะ

พอสอบเสร็จ...ความเครียดก็หายไป แต่ทำไมหน้าชั้นยังไม่หายเน่าอีกฟะ!!!

ก็เลยลองลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เคยใช้ตอนก่อนหน้าจะเจ๊งค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือ ไอ้ขวดราคา 900 กว่าบาทนั่นแหล่ะ ตอนนี้เลิกใช้มาสามสี่เดือนแล้วค่ะ พักผ่อนก็เยอะขึ้น ตอนนี้หน้าตาก็เริ่มกลับเข้าสู่โหมดปกติ

คือ ไม่เป็นสิว ถึงเป็นก็น้อยมาก เป็นเม็ดเดียวแล้วก็หายไป ไม่มีตัวตายตัวแทนอีก (แสดงว่าวิญญาณสิวที่จากไปคงไม่เฮี้ยน กร๊ากกกกกกกกก)

แต่ตรงแก้มแป้งยังคงเป็นสิวอุดตันอยู่ค่ะ รู้สึกว่าจะน้อยลง ตอนนี้แป้งก็รักษาด้วยวิธีที่คิดขึ้นเอง คือ

ตอนล้างหน้าตอนเย็น จะถูทำความสะอาดให้นานขึ้น นับ 1-100 กันเลยทีเดียว

ใช้ cleansing milk ล้างหน้า แทน cleansing oil (หลังจากที่ค้นพบตัวเองแล้วว่าแพ้ oil)

ใช้ฟองน้ำขัดหน้า อาทิตย์ละครั้ง...เพิ่งไปถอยมาค่ะ ของ Oriental Princess อันละ 75 บาท ลด 25% เหลือ 61 บาทประมาณนี้ค่ะ

ขัดหน้าด้วยสครับ ตามแต่จะพอใจ คือจมูกแป้งมีสิวเสี้ยนเยอะค่ะ หัวขาว ๆ แต่ไม่แข็งนะคะ ไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการลอกค่ะ

ไอ้วิธิที่ใช้ไข่ขาวทาแล้วเอาสำลีแปะทิ้งให้แห้ง หรือใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน...เอาไม่อยู่ค่ะ มันไม่เคยออกมาเลย แค่ปลายเม็ดยังไม่มีให้ชื่นใจเลยค่ะ (เซ็ง) สิวเสี้ยนยี่ห้อแป้งต้องบีบเท่านั้น เหมือนเค้าจะเรียกว่า เสี้ยนหัวอ่อนน่ะค่ะ ต้องบีบออก แต่เดี๋ยวก็เป็นอีก แล้วมันทำให้แป้ง คัน คัน คัน จมูกมาก ๆ ยิ่งตอนทานข้าวยิ่งคัน ทำให้แป้งไม่ค่อยจะมีความสุขเวลาทานข้าวเท่าไหร่ตอนที่มันคันเนี่ย เลยต้องขัดบ่อย ๆ ค่ะ ขัดเสร็จแล้วบีบ แล้วล้างต่ออีกรอบ

ตอนล้างหน้าก็ใช้น้ำอุ่น แล้วปิดทับด้วยน้ำเย็นค่ะ เห็นเค้าว่ามันช่วยกระชับรูขุมขน....เอาวะ ลองดู

เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ แต่ก่อนหยดนิดเดียวค่ะ (กลัวเปลือง) ตอนนี้เทกันชุ่มโชกเลยทีเดียว แล้วก็เช็ดย้อนรูขุมขน

วันไหนที่ขัดหน้าก็จะใช้สำลีชุบโทนเนอร์มาแปะที่จมูกกับแก้มค่ะ ก็ไอ้ตรงนี้มันรูขุมขนกว้างนี่น่า แล้วโทนเนอร์ที่ใช้อยู่บอกว่ามีสรรพคุณช่วยกระชับรูขุมขน....มันก็ต้องลองกันหน่อย

จากนั้นก็ทาครีมค่ะ จากที่แต่ก่อน night cream ทาแบบเบาบาง (กลัวเปลืองอีกแล้ว) แต่ตอนนี้ทาแบบเยิ้มกันไปข้างนึงเลยค่ะ แล้วก็นวด ๆ ให้ครีมมันซึมเข้าผิว เทคนิคนี้แป้งเอามาจากคุณแม่ค่ะ เห็นคุณแม่เค้าใช้ครีมอะไรก็หน้าสวยเด้งไปหมด เคล็ดลับคือ คุณแม่จะบีบครีมในปริมาณที่ค่อนข้างมาก (มากถึงขนาดที่ลูกสาวเห็นแล้วจะเป็นลมค่ะ เพราะมันทำให้ครีมหมดหลอดอย่างรวดเร็ว) แล้วก็ทา ๆ นวด ๆ จนครีมเข้าผิวค่ะ...เทคนิคนี้แจ่มจริง ๆ นะคะ หน้าคุณแม่ผ่องมาก ๆ ...ลูกสาวอิจฉา >.<

กลับจากบ้านตอนเย็นก็รีบล้างหน้าเอาเครื่องสำอางออกค่ะ ล้างแบบให้ฝุ่นที่เราเจอมาทั้งวันหมดก่อน แต่ไม่ใช่หมดจด เพราะจะล้างหน้าเวอร์ชั่นหมดจดก็ตอนอาบน้ำค่ะ

ทำอย่างนี้อย่างจริงจังมาได้ประมาณสองอาทิตย์แล้วค่ะ รู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองเนียนขึ้น (หรือเพราะมันสึกไปเยอะก็ไม่รู้) แต่สิวอักเสบก็ยังคงมีอยู่ คงเพราะช่วงนี้กำลังจะเป็นผู้หญิง (มีประจำเดือน) แต่มีแค่เม็ดเดียวนะคะ ซึ่งแป้งถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติก่อนช่วงยุคมืดแล้วค่ะ เย้ ๆ ๆ (กรีดร้องดีใจ)

สิวอุดตันก็ลดลง ไม่มีเพิ่มขึ้นค่ะ ส่วนจุดด่างดำร่องรอยของสิวอักเสบซากอารยธรรมที่หลงเหลือจากยุคมืดก็จางลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ โดยที่แป้งไม่ได้ทายาแต้มตรงจุดด่างดำเลยนะคะ ตรงนี้น่าจะเป็นผลมาจากวิตามิน C ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่แป้งใช้อยู่ค่ะ

ส่วนไอ้ขวด 900 กว่าบาทเจ้าปัญหาก็ใช้ยังไม่ถึงครึ่งขวดค่ะ เก็บไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจว่าหน้าเราเคยเน่ามาก่อน เพราะมัน! เพราะมัน!! ว๊ากกกกกกกกกกก

ที่นำมาเขียนเล่าให้ฟัง ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เพื่อน ๆ ในโต๊ะเครื่องแป้งแนะนำมาไม่ดีนะคะ แต่อยากจะบอกว่า ควรจะศึกษาสิ่งที่เราสนใจให้มากกว่านี้ค่ะ อย่าด่วนตัดสินใจมือไวใจเร็วแบบแป้ง ทางที่ดีก็ควรเอาขนาดทดลองมาดูก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีอนุสรณ์ความงามแบบแป้งค่ะ เอิ๊ก ๆ

แต่แป้งว่าประสบการณ์ครั้งนี้มันดีอีกอย่างตรงที่ว่า มันทำให้แป้งรู้ตัวค่ะว่า "แพ้ออยล์"

โอ๊ย!!! อยากสวยเหมือนเดิมว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


Create Date : 05 มีนาคม 2551
Last Update : 5 มีนาคม 2551 22:28:28 น. 2 comments
Counter : 714 Pageviews.

 
มาเยี่ยมๆๆค่ะ


โดย: ctm วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:6:47:56 น.  

 
แวะมาบอกว่า สภาพหน้าเหมือนกันเลยค่ะ


พักแล้วก็พักอีก ยังไม่หาย

สงสัยต้องขอเอาวิธีคุณแป้งไปใช้มั่ง


โดย: ปลาตะป๋อน วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:18:01:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โอ่งดิน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหม...เขาว่ากันว่าถ้าคู่กันแล้ว ไม่ว่าต้องห่างกันไกลสักแค่ไหน...นานสักเท่าไหร่ สุดท้าย...ก็ต้องได้กลับมาคู่กัน

Friends' blogs
[Add โอ่งดิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.