I can do everything But, I will do only I want

<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ตุลาคม 2550
 

ลำนำวิหคสวรรค์ เล่ม 7

ช่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาแห่งความเกียจคร้านกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเดือนที่เด็กๆ ปิดเทอมกันแล้วคนทำงานอย่างเราไม่ได้ปิด TT^TT ฝนก็ตกทุกวันอากาศก็เย็น หวัดก็ถามหา เป็นไอ้นั่นโน่นนี่เยอะไปหมด แถมเดือนนี้ทั้งเดือนมีภาระกิจไม่ได้ขาดเลยสักนิด จากบล็อคที่แล้วที่เคยเกริ่นไว้ว่าจะมาพูดถึงนิยายเรื่องนี้ก็ขอบอกก่อนสั้นๆ ว่า ไม่ได้มารีวิวแบบนักวิเคราะห์วิจารณ์อันเนื่องจากทำไม่เป็น + บวกเหนื่อยไม่อยากเขียนมาก



เมื่อวันเสาร์โน้นมีโอกาสได้ลงเป็นแรดเมืองกรุงกับเขาเลยไปเอาหนังสือที่สั่งจองเอาไว้จากคราวก่อนมาด้วย เรื่องลำนำวิหคสวรรค์ ตอน พระอาทิตย์ทรงกลด ได้มาก็นั่งอ่านไปบนรถตอนขากลับบ้านเลย อ่านแล้วก็ถอนหายใจ เฮ้อ...เฮ้อ...อยู่ตลอด ด้วยเพราะลุ้นว่าเมื่อไหร่หรงเถียนจะออกมาเสียทีคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว อ่านไป 75 หน้าก็ยังไม่ออกมา จนมีเรื่องฮาเฮใน msn เรื่องบอร์ดบอร์ดหนึ่งที่ประสาทแดรกมากๆ ไม่รู้ว่ามันจะยุ่งอะไรกับเรานักหนา เลยนั่งขำกันด้วยความเวทนาซะงั้นก่อนขอตัวลาเหล่าสมาชิกไปนอนแคะสะดืออ่านลำนำต่อ... เล่มนี้คุณเฟิ่งน่งก็ยังคงดำเนินเรื่องน่าติดตามเช่นเคย แต่บางฉากก็เดาง่ายเหมือนกัน เช่น หนอนบ่อนไส้ในกองทัพที่แสดงท่าทีออกมาให้เดาออกแต่แรก และบทลงท้ายของคู่รักที่ไม่รู้ว่าควรจะสงสารดีหรือไม่

เล่มนี้องค์ไทเฮามีบทเด่นเสียจนทะลุทะลวงไส้ติ่ง จนแอบคิดว่าแหมผู้หญิงอะไรช่างน่ากลัวและเนียนได้ขนาดนี้ ฉลาดจนไม่คิดว่ามันจะมีคนแบบนี้อยู่ได้จริงๆ (แต่ก็มีอยู่แล้วล่ะ) คำที่ว่าสมแล้วที่เป็นแม่ของหรงเถียนที่เฟิ่งหมิงคิดถึงนั้น น่าจะกลับกันเป็นว่า สมแล้วที่หรงเถียนเป็นลูกของพระนางเสียมากกว่า จึงได้เชื้อแถวที่เหี้ยมและปราดเปรื่องมาในคราเดียวกัน

เล่มนี้แอบกลัวสองแม่ลูกในความโฉดไม่แพ้กันที่ใช้สงครามเชื้อโรคมาดำเนินการในการหาทางนำตัวหมิงอ๋องกลับสู่อ้อมอกตามเดิม และเมื่อถึงจุดแตกหักที่ต้องเข้าห้ำหั่นกันจริงๆ แล้วนั้น การถูกทหารกว่าหมื่นห้อมล้อม การที่ต้องเสียชีวิตผู้คนและกำลังทหารไปมากเพื่อชิงตัวคนๆ เดียวกลับคืนมาเนี่ยมันน่ากลัวจริงๆ ภาพของสงครามที่ฟันกันคอขาดฉับเลือดสาดกระเซ็นพื้นดินหลั่งนองไปด้วยทะเลเลือดและไฟสงครามมันเป็นเรื่องที่สุดจะคิดถึงได้ สงครามที่มีแต่การสูญเสีย ทหารที่ยอมตายเพื่อประมุขของตน ตัวอาจพร้อมยอมพลีแต่แล้วคนข้างหลังพวกเขาล่ะ พ่อแม่ ลูก เมีย ที่อยู่เบื้องหลังจะทำยังไงกันต่อไป คิดแล้วก็คิดถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนที่นั่นจะหวาดกลัวกันขนาดไหน แล้วคนที่ลงไปคอยป้องกันปกป้องพวกเขาล่ะ กลัวบ้างไหม? กลัวว่าตัวเองที่เป็นเสาหลักของบ้านจะทำให้คนข้างหลังหวาดหวั่นกันแค่ไหน เฮ้อ..สงครามหาได้มีข้อดีไม่ มีแต่ความสูญเสียที่ยากยิ่งแก่การนำกลับมา....

แต่ในเรื่องนี้หากคิดในแง่ของความน้ำเน่าที่พระเอกรักนางเอกสุดหัวใจต่อให้ตัวตายวายชีวีข้าก็จะต้องช่วงชิงนางอันเป็นที่รักกลับคืนมาให้จงได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล เพราะกำลังพลของข้าสูญสิ้น หากมีเพียงน้อยนิดหยิบมือ เรื่องที่จะบุกฝ่าวงล้อมเข้าไปชิงนางก็คงทำได้ยากนัก วิธีที่จะทำโดยที่เสียกำลังพลของตนเพียงน้อย (แต่ไม่สนใจความเสียหายของอีกฝ่าย) ก็คือการหาทางทำให้มันป่วยทั้งกองทัพนี่แหละ

จากเรื่องของการรบพุ่งเพื่อช่วงชิงคนรักกลับคืนมาเป็นหลักแล้ว เรื่องรองลงมาของนิยายภาคต่อเล่มนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของท่านราชครูลู่ตันกับต้าอ๋องที่ไร้น้ำยา รักกันปานไหนความตายก็ต้องมาพรากจากไปอยู่ดี ฉากหิมะโปรยปรายนั้นทำเอากลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว คิดแล้วก็เศร้าสลดใจ ลู่ตันทำทุกอย่างเพื่อองค์ต้าอ๋อง ทั้งชิงตัวหมิงอ๋องจากเมืองซีเล๋ยมาเพื่อให้อยู่ดูแลสุดที่รักสุดหัวใจ ทั้งคิดแผนการต่างๆ มากๆ แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเหลวลงเพราะแผนที่ตัวเองเป็นเครื่องผูกมัดตัวเองเอาไว้ ในท้ายที่สุดแล้ว ....ทุกอย่างที่ลงทุนลงแรงก็กลับต้องสูญเปล่าไปเพราะต้าอ๋องที่ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่เมื่อขาดตน.... ตอนบอกว่าลู่ตันเหลือชีวิตอยู่ไม่มากก็ไม่ต้องเดาไปไหนไกลเลย ไอ้ต้าอ๋องมันตายตามชัวร์ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตาย....

แถมจบไปแบบไม่มีฉากกิ๊กกันให้เห็นของเฟิ่งหมิงกับหรงเถียนอีกนี่แหละที่พาลจะหงุดหงิด ฮ่าๆๆๆ พวกนี้นี่ชอบแอบกิ๊กกันไม่ให้เรารู้ เหมือนดูหนังฉากเข้าพระเข้านางแล้วอยู่ๆ กล้องก็แพนออกมาที่ใบไม้มีหยดน้ำกำลังหยะดแหมะๆ อะไรทำนองนั้นเลย

จบแล้วก็กะว่าเล่มหน้าคงเป็นศึกช่วงชิงบัลลังก์ซีเล๋ยกลับคืนแน่ๆ ถ้าให้คิดถึงตรงนี้ก็คงตั้งชื่อตอนว่า Return of the king แล้วหน้าปกก็จะเป็นหรงเถียนโครสหน้าใกล้ถือดาบไว้กลางแสกหน้า (บร้าาานั่นมัน อารากอนแย้ว~~) ไอ้เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเฟิ่งน่งเค้าจะใช้ทั้งหมดกี่เล่มในการชิงบัลลังก์ต้าอ๋องคืนมา แต่ที่แน่ๆ เพื่อนเราหนึ่งรายถอดใจไปแล้วหนึ่งคนว่า เล่ม 7 นี่จบภาค 3แล้วใช่ไหม พอตอบว่าใช่เพื่อนบอกเลยว่า ชั้นจะหยุดไว้แค่นี้แหละ ซึ่งแบบว่าเฮ้ย! ทำไมคิดเหมือนกันจังวะ กรูก็ว่าจะหยุดเลิกอ่านเหมือนกัน แต่ขอต้าอ๋องชิงบัลลังก์คืนให้ได้เสียก่อนถึงจะเสกสมอารมณ์หมายน่ะ

สาเหตุเพราะในไทยเล่ม 7 ออก ที่ไต้หวันเล่ม 16 ก็ออกแต่...ยังไม่จบมันยังจบไม่ลงอยู่ดี คิดได้แค่ว่า ทนทู่ซี้อ่านต่อไปไม่ไหวแล้ว มันก็ไอ้เรื่องเดิมๆ อีหรอบเดิมๆ แย่งกันไปเมืองนั้น หลงเข้าไปเมืองนี้อยู่แบบนี้เอง ให้อ่านจน 16 เล่มก็คงเป็นอีนังแครอลดีๆ นี่เอง ดังนั้น จึงขอยกธงขาวยอมแพ้ออกจากศึกนี้แต่โดยดี (เพียงแต่เพื่อนกรูมันยกธงก่อนตั้งแต่เล่มนี้แฮะ) หวังใจไว้ว่า.. การชิงบังลังก์คงไม่ยืดเยื้อไปเกิน 2 เล่มล่ะนะ เพราะถ้าขืนเลยมาจนถึงเล่ม 10แล้วล่ะก็ อีเดี๊ยนก็คงปล่อยลอยแพแล้วล่ะค่ะ 10 เล่มก็เกินพอกับการอ่านแล้ว ที่สำคัญแค่ 7 นี่ก็เกินกว่ากำลังเดี๊ยนเหมือนกัน ในรอบ 20กว่าปีมานี้มีนิยายเรื่องนี้นี่แหละเป็นเรื่องที่ 2 ที่ดิฉันสามารถอ่านยาวมาได้ขนาดนี้ (เรื่องแรกเลยแฮรี่ค่ะ) เพราะงั้น ซาโยนาระค่ะ หรงเถียน เดี๊ยนคงไม่อยู่รออ่านคุณจวบจนได้ใต้หล้ามาครองแน่ๆ ลาก่อนเฟิ่งหมิงที่เหมือนอิริวเหลือเกิน

with love from Mrs.Tachibana
ปล.พาริวเรียวออกจากป่ามังกรได้แล้วเว้ยยฮ่าๆๆๆ


Create Date : 11 ตุลาคม 2550
Last Update : 11 ตุลาคม 2550 11:02:20 น. 6 comments
Counter : 1720 Pageviews.  
 
 
 
 
แม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
น้องเมนท์แล้วลืมก๊อบ
บล๊องแกงส์ก้อเป็นเรอะ โฮกกกกกกกกกกกกก
เมือ่กี้เมนท์ยาวเหยียด
หมดกำลังใจเมนท์แล้ววว
แต่ว่าน้องเพิ่งอ่านถึงตอนที่อัสวินโดนฆ่าเองฉากนั้นเคตะเท่ห์มากกกกกกกกก ยามช้อนตัวน้องริวขึ้นมาในอ้อมกอดฉากนั้นง่า
การแก่งแย่งชิงอำนาจมีมาตั้งแต่ยุคโน้นยันยุคนี้ ถึงเทคโนโลยีจะล้ำสมัย วิทยการจะก้าวไกล ความละโมบโลภมากของคนก็ไม่ได้ลดน้อยลงซักนิด สิ่งที่ได้มาก็มีแต่ความสูญเสีย
เซ็ง เคือง ไม่เขียนแล้ว เคืองงงงบล๊อกแกงส์ แง่งงง
 
 

โดย: จีจี้ IP: 125.25.153.251 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:9:54:12 น.  

 
 
 
ถอดจิตตั้งแต่เล่ม 6 จนบัดนี้ยังไม่ได้อ่าน เพราะดูเหมือน ความวายที่เป็นหนึ่งเดียวในนิยายเรื่องนี้ที่ตรึงอิชั้นไว้ได้นั้น มันเริ่ิมราร้างโรยเสียแล้ว สิ่งเดียวที่ยังชื่นชมคือสำนวนการแปลของเฟื่องเท่านั้น ถ้าจะอ่านต่อก็เพราะนี่แหละมั๊ง 5555+

ที่บอกว่าเรื่องนี้ มันเหลือตรึงตูได้ แค่เพราะมันเป็น วาย ก็เพราะ ด้วยเนื้อหา การเดินเรื่อง และรูปแบบการวางพล๊อต มันก็ไม่ได้ต่างไปจาก เจาะเวลาหาจิ๋นซี ที่มีประเด้นที่การแย่งนางเอกที่เก่งเกินยุคเวลา ตามแบบฉบับ คำสาปฟาโรห์เลย

พูดตรงๆก็คือ เฟิ่งน่งอะแด๊ป เจาะเวลาหาจิ๋นซีมาจน... เกินกว่ากรูจะทนเสียงกรีดร้องของอีโก้ในใจกรูแล้วทนอ่านต่อไปได้ 5555+

ไม่ได้ ลอก แต่ก้ไอ้แรงบันดาลใจดีๆนี่เอง แถมวางพล๊อต เดาทางได้ เพราะมันก็ทางกระบี่เดียวกับหวงอี้เด๊ะๆ จนกรูเหลือจะรับ

นะ แต่ขอย้ำว่านี่ความคิดอิชั้นคนเดียวเท่านั้น น้องนุ่งผู้ใดที่ไม่เคนยอ่านเจาะเวลาหาจิ๋นซี คงไม่คิดอย่างเดี๊ยนแน่ หรือใครอ่านแล้ว บางคนก็คงไม่คิด แต่อิชั้นนั้น ถ้าอีโก้มันตะโกนฟ้องว่า นี่มิใช่ออริจินัล ไม่มีแนวทางของตัวเองแน่นอน เมิงเดาเรื่องออก เพราะมันมีแนวให้เดา กรูจะอ่านไปทำไม กลับไปอ่านเจาะเวลาฯใหม่อีกรอบมิดีกว่าหรือ อิชั้นก้เลย... ไม่มีกะใจจะอ่านซะแย้ว

แต่ชอบงานของเฟื่อง ใครรู้จักเฟื่องฝากบอกเฟื่องด้วยแล้วกัน เรื่องนี้ที่อ่านเพราะเฟื่องนะเนี่ย คนเดียวเลยจริงๆ 555+
 
 

โดย: ayde IP: 125.24.237.35 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:11:25:52 น.  

 
 
 
หึหึหึ

พี่น่ะหยุดไว้ตั้งแต่เล่ม 1 กว่าๆ แล้วล่ะเมย์เอ๊ยยย เล่ม 2 ยังไม่จบเลย จริงๆ อยากบอกว่า เล่มที่สนุกที่สุด (ในความคิดพี่) น่าจะเป็นเล่ม 1 นี่แหละ เพราะถ้าก้าวแรกดี ก้าวต่อไปคนก็จะตามกันเป็นพรวนแหละ แต่ก็นะ ตามความรู้สึกแล้ว ก็เป็นเรื่องที่เขียนได้ดีนะ โดยรวมก็ใช้ได้เลย หากไม่ใช่ว่า อ่านไปแล้ว รู้สึกเหมือนแครอลอย่างที่ว่า แล้วก็เหมือนคนเขียนเค้าไม่คิดเองเลย พวกกลวิธีพิชัยยุทธ์ต่างๆ นานา นั้นน่ะ เหมือนพี่อ่านสามก๊กเวอร์ชั่นวายเลยน่ะ แบบอ่านไปก็อ๊ะ นี่มันตอนขงเบ้งงี้ๆๆ นี่หว่า อ๊ะ นี่มันตอนจูล่งงี้ๆๆ นี่หว่า อ๊ะ นี่มันตอนเล่าปี่งี้ๆๆ นี่หว่า แบบนี้อ่ะ แม้แต่กลอนต่างๆ ก็เอามาจากกวีชื่อดังที่มีร่ำเรียนกันอยู่ในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะมีคนเถียงว่า อ้าว ก็เฟิ่งหมิงมาจากอนาคตไง ก็เอาของปัจจุบันเล่าให้คนในอดีตฟังสิ แต่จะถามว่าคนแต่งคิดเองใหม่ไม่ได้หรือไง แล้วบอกวานี่เป็นกลอนที่ดังในยุคนั้นๆ โน้นๆ ก็ได้ คนอ่านไหนมันจะรู้หมดทุกกลอนกัน แต่นี่กลับเอากลอนแบบวรรคทองที่ยกย่องกันในยุคนั้นๆ มาอ้างเลย แบบมันเลยตลกน่ะ (หากใครชอบก็อย่าถือแล้วกัน ที่พี่พูดซะขนาดนี้) ไม่อยากบอกเลยว่า กลอนหรือคำพูดวรรคทองในเรื่องนั้น เป็นคำที่มาจากภาษิตหรือสำนวนสุดฮิตเลย ก็เลยคิดว่าทำไมคนแต่งไม่คิดจะคิดเองซักนิดเลยหรือไงเนี่ย

สำหรับพี่เลยไม่มีอะไรใหม่เลย ถ้าอ่านคงเอาความสนุกแบบพ่อแง่แม่งอนเข้าช่วย ซึ่งจริงๆ แล้ว มันก็หาอ่านได้ทั่วไปตามนิยายวายทั้งหลาย ก็เลยไม่รู้จะเอาอะไรเป็นตัวล่อให้สนใจต่อไปได้ พี่น่ะชอบอ่านนิยายที่แฝงแง่คิด ไม่ใช่อ่านประวัติศาสตร์ที่ร่ำเรียนมานานโขแล้ว ก็เลยรู้สึกเฉยๆ มากกับพล็อตเรื่องของเรื่องนี้ทั้งหมด ถ้าถามว่าอยากอ่านต่อไปมั้ย ก็ตอบตรงนี้ว่า เฉยๆ แล้ว

ไปล่ะ มาร่วมแจมแค่นี้ ไปทำงานต่อดีกว่า
 
 

โดย: หนูชิวชิว โหมดหัวฟู IP: 124.120.122.129 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:12:44:36 น.  

 
 
 
เห....พี่หนูชิวชิวโผล่มาได้จะได ฮ่าๆๆๆ

ก็ใช่ไงถึงบอกว่าจะหยุดอ่านไงเพราะไม่ชอบเรียนประวัติศาสตร์ง่ะ

ยิ่งให้อ่านอะไรที่รบกันไปชิงก้นมายิ่งไม่เอาใหญ่ ถึงบอกว่า ขอซัคเซสแค่หรงเถียรกลับสู่บัลลังก์ได้เป็นพอ

พ่อแง่แม่งอน งั้นต้องอ่านคีย์ กร๊ากกกก
 
 

โดย: เหม่เหม IP: 202.129.36.210 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:12:55:54 น.  

 
 
 
อ้อ ลืมไปอีกเรื่อง
เห็นด้วยว่า เล่ม 1 สนุกสุด เพราะอ่านเล่มอื่นแล้วมันไม่ค่อยมีอะไรให้สนใจแล้วอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ในเมื่อมันรักกันไปแล้ว
 
 

โดย: เหม่เหม IP: 202.129.36.210 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:13:00:22 น.  

 
 
 

เห็นกระทู้แล้วอยากให้ไปหาอ่าน

ของอ.เฟิ่งน่งอีกเรื่องนึงอ่ะ

ชื่อจอมนางคู่บัลลังเน้อ

หนุกมากมาย เรื่องนี้รับรองแจ่ม

 
 

โดย: House IP: 71.93.175.203 วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:10:44:44 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

meichan
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




"ข้าพเจ้าไม่ขอข้องเกี่ยวกับผู้ใด"


ข้าพเจ้ารักอิสระเสรีภาพ ไม่ยึดติดอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นเสรีชนที่ไม่ใยดีหรือยินร้ายกับเรื่องของใคร

ข้าพเจ้ารักสงบ แต่ไม่เคยได้ความสงบจากคนทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ชอบความวุ่นวาย แต่จะถูกจุ้นจ้านจากคนอื่นอยู่ร่ำไป ข้าพเจ้าหวังความจริงใจ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ข้าพเจ้าเท่านั้นที่ให้ไปโดยไม่ได้สิ่งนั้นกลับมา

เตือนใจตัวเอง
ความซวยของข้าพเจ้า คือการรักคนอื่นมากเกินไปทั้งที่เค้าไม่ได้อะไรกับตัวข้าพเจ้าเลย




New Comments
[Add meichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com