รีวิวจิปาถะ Skin Care สารพัดอย่างที่เกี่ยวกับหน้า

รีวิวจิปาถะ ตั้งแต่ตัวที่หาได้ง่ายในซุเปอร์ จนกระทั้งตัวที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปซื้อ ใครเข้ามา เมนต์ให้กำลังใจด้วยนะจ๊ะ ปั่นรีวิวมาสองวัน ยังไม่เสร็จเลย (ปั่นไปเล่นไป)


สารบัญ

I. Cleanser
II. Secondary Cleanser/ Facial Wash
III. Toner
IV. Serum
V. Sunscreen
VI. Moisturizer
VII. Mask
VII. Eye Cream


สภาพ ผิวของ จขกท>> ผิวผสม ช่วงยูโซนแห้งนิดหน่อย แพ้ง่าย มีสิวเรื่อยๆ อายุก็เกินวัยมหาวิทยาลัยมาหลายปีมากๆ แล้ว เริ่มมีริ้วรอยตรงหน้าผาก มุมปาก คาดว่าเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ mimics

อนึ่ง การรีวิวนี้ มาจากประสบการณ์ + ความรู้ทาง คสอ. เท่าหางอึ่งของดิฉันเพียงผู้เดียว กรุณาใช้วิจารณญานในการอ่านและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แนะนำนะคะ


ขอให้สนุกกับการรีวิวนี้จ้า




การรีวิว เราจะใช้คำย่อดังนี้นะคะ

Pro = ส่วนที่ดีใน คสอ. นั้นๆ
Con = ส่วนที่ไม่ดีใน คสอ. นั้นๆ
For me = ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา ประสบการณ์การใช้ ความรู้สึกหลังใช้ ประเมินสินค้า

รูปส่วนมากเป็นของเราเองค่ะ แต่มีรูปบางส่วนมากจากเว็บสินค้านั้นๆ เนื่องจากเราหารูปไม่เจอ

เครดิตเรื่องส่วนผสมคสอ. จากเว็บ //phoebe.pn-np.net/index.php และเว็บ คสอ. ของยี่ห้อนั้นๆ จ้า



I. Cleanser

1. Nivea Refreshing Cleansing Milk

Pro: หาซื้อง่าย ราคาถูก ล้างออกสะอาดพอสมควร มีตัวบำรุงพอสมควร เป็น mineral oil base ค่ะ แต่ไม่สร้างความอุดตันให้กับผิวที่อุดตันง่ายของเราแต่อย่างไร เนื้อจะออกเหลวๆ
Con: อาจจะอุดตันง่ายสำหรับบางคน ถ้าแต่งหน้าจัดๆ ต้องล้างสัก 2 รอบจะรู้สึกสะอาดนะคะ

For me: เราจะใช้วิธีปาดคลีนซิ่งบนหน้า แล้วก็นวดเบาๆ สัก 2 นาที เช็ดออกด้วยสำลี หลังล้างผิวก็รู้สึกสะอาด สดชื่น ตามด้วย secondary cleanser ผิวก็สะอาดเอี่ยมแล้ว เราถือว่าตัวนี้ใช้ได้ค่ะ เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูกและล้างได้สะอาด เหมาะกับสาวที่อยู่ต่างจังหวัดเช่นเรา ใครตามหาแค่คลีนซิ่งล้างกันแดด ลองตัวนี้นะคะ


2. Aviance Cleansing Milk

Pro: ล้างออกได้สะอาดพอสมควร เนื้อหนักจะออกครีมผสมนม เป็น mineral oil base ไม่อุดตัน ราคาประมาณ 800 บาท (อันนี้แม่ซื้อให้ค่ะ เลยไม่ทราบราคาแน่นอน) ไม่อุดตันสำหรับผิวขี้อุดตันของนู๋ ม.
Con: เราว่า ราคาสูงและหาซื้อยากนิดหน่อย คิดว่าคล้ายๆ Nivea แต่เนื้อครีมจะหนักกว่า ล้างได้รู้สึกสะอาดกว่านิดหน่อย

3. Cleansing Express

Pro: หาซื้อง่าย ราคาโอเคค่ะ เช็ดสัก 2-3 รอบก็ออกหมด ถ้าใครชอบความรวดเร็ว ตัวนี้ให้ความรวดเร็วในการชำระล้างเมคอัพ ตามชื่อ ล้างสะอาด สดชื่น หน้าดูใสๆ เกลี้ยงๆ หลังล้างดี
Con: ไม่มี

For me: ส่วนตัว เราชอบพวกตัวล้างเมคอัพแบบนวดๆ มากกว่าค่ะ เราไม่ชอบเช็ดมาก เพราะเป็นคนมือหนัก กลัวหน้าเหี่ยวเร็ว แต่ตัวนี้ก็ถูกใจเรา ยามเวลาขี้เกียจ ขแแนะนำต่อค่ะ


II. Secondary Cleanser/ Facial Wash

สองตัวนี้ค่อนข้างมีส่วนผสมและสรรพคุณใกล้เคียงกันนะคะ เอามาเทียบกันเป็นคู่แฝดซะเลย

1. Clearasil Stayclear Skin Perfectuing Wash

Pro: หาซื้อง่าย ราคาถูกมาก เนื้อสคลับละเอียด ล้างแล้วไม่แห้งตึง รู้สึกสะอาด ล้างแล้วสิวหายเร็วดี เหมาะกับคนสิวขึ้นง่ายเช่นเรา มี Salicylic Acid แค่นั้นก็พอแล้ว
Con: น่าจะมีพวกส่วนผสมที่เป็นตัวบำรุงบ้าง นอกจากไว้แก้สิวแล้ว ก็ไม่ค่อยประทับใจอะไร

For me: ซื้อตุนไว้ตอนมีสิวเท่านั้น เวลาผิวหน้าดีๆ ก็ใช้พวกล้างหน้าตัวอื่นค่ะ เป็นตัวล้างหน้าสามัญประจำบ้าน


2. Olay White Radiance Cream Cleanser

ส่วน ผสม: Water, PPG-15 Stearyl Ether, Glycerin, Stearyl Alcohol, Cetyl Betaine, Salicylic Acid, Distearlydimonium Chloride, Sodium Lauryl Sulfate, Oxidized Polyethylene, Cetyl Alcohol, Steareth 21, Behenyl Alcohol, PPG-30, Steareth 2, Fragrance, Disodium EDTA

Pro: หาซื้อง่าย ราคาถูก เนื้อสคลับละเอียด ล้างแล้วไม่แห้งตึง แต่ออกแห้งๆ ไปหน่อย มี Salicylic Acid เหมาะกับคนเป็นสิว
Con: ถ้าจะหวังความขาว อย่าหวังค่ะ ตัวนี้ผลัดผิวด้วย BHA และแก้สิวเท่านั้น ถ้าเทียบความชอบ เราชอบเนื้อของ Clearasil มากกว่าค่ะ

For me: ส่วนผสมเหมือนกับ Clearasil ตัวบนเปี๊ยบ (มาจากโรงงานเดียวกันเปล่าหว่า?) ความแตกต่างคือ Clearasil จะออกครีมๆ มากกว่า สคลับก็ละเอียดพอๆ กัน เราไม่เห็นความแตกต่างของสองตัวนี้มากนะค่ะ

ถือว่า ใช้แทนกันได้ และเหมาะกับคนเป็นสิว-รักษารอยจากสิวอยู่

มาดูตัวที่หาไม่ได้ในเมืองไทยบ้าง เผื่อใครมีโอกาสไปเที่ยว จะได้ลองใช้นะคะ

3. Nivea Visage Oxygen Power Reviving Cleansing Gel

ส่วน ผสม: Water, Cocamidoproyl Betaine, Sodum Myreth Sulfate, Acrylates Copolymer, Panthenol, Lauryl Glucoside, PEG 40, Hydrogenated Castor Oil, PEG 200 Hydrogentated Glyceryl Palmate, Lactose. Polyquarternium 10 Trisodium EDTA, Microcrystalline Cellulose, Benzophenone 4, Phenoxyethanol, Methylparaben, Propylparaben, BHT, Fragrance.

Pro: สดชื่นมาก เนื้อเนียน ไม่มีฟอง ล้างสะอาด มีเม็ดบีทซึ่งจะละลายระหว่างล้างหน้า รู้สึกสะอาดไม่แพ้งตึง
Con: ยังไม่เข้าเมืองไทยมั้ง

For me: ชอบค่ะ ราคาไม่แพง ประมาณ 4-5 ยูโร เหมาะล้างตอนเช้า-ล้างตอนที่ผิวหน้าปกติ ไม่มีสิว เป็นตัวที่เราถูกใจอีกตัวค่ะ


มีตัวล้างหน้าที่ชอบ ก็ต้องมีที่ไม่ชอบบ้างใช่ไหมคะ มาดูตัวที่ข้าพเจ้าไม่ต้องใจกันบ้าง

4. Caudalie Instant Foaming Cleanser


มา ดูส่วนผสมกันซิ :Water, Vitis Vinifera (Grape) Fruit Water, Disodium Laureth Sulfosuccinate, Sodium Laureth Sulfate, Lauryl Glucoside, Cocamidopropyl Betaine, Fragrance, Propylene Glycol, Potassium Sorbate, Sodium Propylparaben, Sodium Methylparaben, Sodium Dehydroacetate, Ethylhexyl Methoxycinnamate (Octonoxate), Ppg-26-Buteth-26, Butyl Methoxydibenzoylmethane (Avobenzone), Ethylhexyl Salicylate (Octisalate), Trisodium Edta, Peg-40 Hydrogenated Castor Oil, Citric Acid, Chamomilla Recutita (Matricaria) Extract, Salvia Officinalis (Sage) Leaf Extract, Methylparaben, Propylparaben

Pro: นึกไม่ออก
Con: รู้สึกว่าล้างไม่สะอาด ล้างแล้วเหมือนจะแห้งนิดๆ ไม่เหมาะกับผิวผสม-ค่อนข้างขี้แพ้แบบเรา ราคาประมาณ 500 บาท ถือว่าแพงมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพแบบนี้ เราเอาไว้ล้างตอนเช้าอย่างเดียว ให้มันหมดๆ ไป ไม่ชอบในฐานะ secondary cleanser

For me: ไม่เอาอีกแล้ว ใครจะซื้อก็คิดดีๆ นะ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

5. Balea sanfte Waschcreme mit Honigmelonenextrakt

Made in Germany อีกตัว ที่ทั้งถูกและดี (ราคาประมาณ 100 กว่าๆ มั้ง) แปลเป็นไทยว่า Balea ครีมล้างหน้าอ่อนโยน ด้วยส่วนผสมของเมลอนน้ำผึ้ง (อร่อยๆ)

ส่วนผสมน้า :Aqua, Elaeis Guineensis, Caprylic / Capric Triglyceride, Glycerin, Behenyl Alcohol, Cetearyl Alcohol, Glyceryl Stearate Citrate, Hydrogenated Cocoglycerides, Polyglyceryl-4 Isostearate, Phenoxyethanol, Methylparaben, Propylene Glycol, Tocopherylacetate, Sodium Carbomer, Parfum, Lactose, Disodium Cocoyl Glutamate, Hydroxypropyltrimonium Honey, Xanthan Gum, Butylparaben, Microcrystalline, Cellulose, Ethylparaben, Cucumis Melo, Hamamelis Virginiana, Sodium Cocoyl Glutamate, Propylparaben, Citric Acid, CI 77007, Sodium Benzoate, Potassium Sorbate, CI 73360, Titanium Dioxide

Pro: ถือว่าเป็น secondary cleanser ที่อ่อนโยน นิ่ม ล้างได้สะอาด ไม่แห้งหลังล้าง หรือเหมาะไว้ล้างตอนเช้าหน้าหนาว เหมาะกับคนผิวแห้ง มีเม็ดไมโครบีตนิ่มๆ ละลายขณะนวดหน้าค่ะ ล้างไปนิ่มไป หน้าเรานิ๊มนิ่ม

ตัวนี้ได้คะแนนสูงในเว็บ ciao.de (เป็นเว็บรีวิวสินค้าต่างๆ ของเยอรมันค่ะ) ราคาถูก หาซื้อได้ที่ห้าง DM

อ้อ ตัวนี้สามารถล้างเมคอัพบางๆ ได้ด้วยจ้า

Con: เราว่าไม่เหมาะกับคนกำลังเป็นสิว เพราะเหมือนจะมันๆ ไปหน่อยค่ะ เราคิดว่าตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้งๆ หรือพึ่งแพ้อะไรมา ตอนนั้นเราแพ้ คสอ สักตัวค่ะ หลังจากรักษาสิวหายแล้ว เราก็ใช้ตัวนี้ล้างหน้าในหน้าหนาว หน้าที่เยินและแห้งมากจากยารักษาสิว ก็ดีขึ้นเร็ว นอกนั้น ตอนที่ผิวเราดีๆ เราก็ไม่ค่อยเห็นผลจากตัวนี้เท่าไร

For me: แนะนำให้คนที่อยู่เยอรมัน ที่ผิวแห้งๆ ไว้ใช้ตอนหน้าหนาวค่ะ


III. Toner


กลับมาที่เมืองไทยของเราอีกรอบนะคะ มาดูโทนเนอร์ที่นู๋ ม. ใช้ช่วงนี้กัน

1. Neutrogena - Alcohol Free Toner

มี อะไรในนี้: Water, PEG-4, Butylene Glycol, Polysorbate-20, Ceteth 24, Choleth 24, Panthenol, Glyereth-26, Sodium PCA, Benzalkonium Chloride, Disodium EDTA, Sodium Chloride, Methylparaben, Propylparaben, Fragrance

Pro: หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง คิดว่าไม่มีส่วนผสมอะไรที่น่าจะแพ้ง่าย เบสิคมากๆ คล้ายๆ น้ำเช็ดหน้าตัวหนึ่ง เอาไว้เช็ดหลังล้างหน้าเพื่อความมั่นใจในความสะอาด ก่อนจะลงบำรุง เวลาผิวแพ้อะไร ก็เช็ดด้วยตัวนี้เพราะมันอ่อนโยนและไม่เพิ่มความระคายเคืองให้เรา

Con: ไม่ช่วยอะไรเลย เช็ดสะอาดอย่างเดียว

For me: รู้สึกชอบเวลาที่ผิวระคายเคือง ใช้ตัวนี้ตามแล้วโอเค ถ้าใครชอบเช็ดหน้าเพื่อความมั่นใจหลังล้างหน้า ก็ลองใช้ได้ค่ะ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ซื้อต่อ


2. OP - Natural Intensive C Radiant Toner

**สูตรไม่แน่ใจว่าถูกไหมนะคะ เพราะทิ้งกล่องไปแล้ว แต่คิดว่าใกล้เคียง จากบล๊อกฟีบี้จัง

Water, Propylene Glycol, Peg-7 Glyceryl Cocoate, Sorbitol, Hamamelis Virginiana (Witch Hazel) Extract, Disodium Cocoamphodipropionate, Citrus Aurantium Amara Flower Extract, Ascorbyl Glucoside, Fragrance, Medicago Sativa (Alfalfa) Extract, Tocopheryl Acetate, Bisabolol, Lactic Acid, Disodium Edta, Methylparaben, Propylparaben

Pro: มีวิตามินซี มีส่วนผสมของพวก Witch Hazel และส่วนผสมจากธรรมชาติบางตัว เราใช้หลังล้างหน้า ตอนที่หน้าดีๆ แล้วรู้สึกว่าหน้าใสดี สดชื่นดีค่ะ หน้าเหมือนจะค่อยๆ ดีขึ้นแบบช้าๆ รอยสิวจางไปนิดหน่อย

Con: เหมือนจะระคายเคืองนิดๆ ช่วงไหนผิวไม่ดี ยังไม่ใช้

For me: ถือว่าถูกใจค่ะ จะใช้ต่อเรื่อยๆ ยกเว้นเวลาที่หน้าแพ้อะไร ใช้ตัวนี้แล้วเหมือนหน้าจะช้ำๆ ระคายเคืองง่ายอย่างไรไม่รู้


IV. Serum/ Essence

จะมีบางตัวที่ในเว็บของเขาจัดเป็น Toner แต่เราเอามาใช้ลักษณะ Serum/ Essence มากกว่านะคะ

1. SK II Facial Treatment Essence

ส่วน ผสม: Saccharomycopsis Ferment Filtrate, Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid

Pro: หน้ากระชับ เหมือนผิวจะเเข็งแรงขึ้น หน้าใส เนียนเรียบ กระจ่างขึ้น ทาใต้ตาได้ สุดยอด
Con: หาซื้อใน ตจว ยาก ราคาก็ค่อนข้างสูง

For me: เราถูกกับตัวนี้ค่ะ คิดว่าจะใช้ตลอดไป เพราะตัวนี้เห็นผลเร็วมาก แค่ 2 อาทิตย์ ก็รู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้นจริงๆ รอยสิวจางเร็ว สีผิวสม่ำเสมอ ที่สำคัญ รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้น เหมาะกับสาวแก่เช่นเรา แต่เห็นว่าหลายคนก็แพ้หรือไม่ถูกกับตัวนี้นะ

2. Kose Sekkisei Lotion

มี อะไรในนี้: Water, Alcohol, Glycerin, Angelica Acutiloba Root Extract, Coix Lacryma, Jobi Seed Extract (Jobs Tears), Dipotassium Glycyrrhizate, Hamamelis Virginiana Extract (Witch Hazel), Melothria Heterophylla Extract, Tocopheryl Acetate, Triticum Vulgare Germ Oil (Wheat), Citric Acid, Dl-C12-15 Pareth-8 Phosphate, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Polysorbate 80, Sodium Citrate, Sorbitan Sesquioleate, Triethylhexanoin, Ethylparaben, Methylparaben, Propylparaben, Fragrance

Pro: หน้าขาวขึ้นนิดหน่อย หน้าใสขึ้นค่ะ กระจ่าง รอยสิวจางไปเร็ว แทบไม่แตกต่างจาก SK II ยกเว้นเรื่องความตึงๆ ของผิว รู้สึกว่า ตอนใช้ SK II ผิวจะดูตึงๆ กว่าหน่อย
Con: Alcohol สูงมาก

For me: ตัวนี้เราซื้อมาเพื่อทดลองใช้เทียบกับ SK II โดยเฉพาะ เราทดลอง SK II เป็นเวลา 3 สัปดาห์กว่าๆ และลอง Kose ได้เกือบ 3 สัปดาห์เช่นกันค่ะ ผลออกมาว่า เราชอบ SK II มากกว่า เพราะ 1. ช่วยใต้ตาด้วย 2. ทำให้หน้าแข็งแรงอย่างรู้สึกได้ และทำให้ผิวดูใสแบบสุขภาพดี

ตอนนี้เราใช้ๆ kose ให้หมดไปค่ะ แล้วจะกลับไปใช้ SK II เหมือนเดิม


3. Dr. Rimpler Intensive Serum Nr. 2

ส่วน ผสมเทพของตัวนี้คือ: Aqua, Glycerin, Oleyl Erucate, Polyacrylic Acid, Mel, Hyaluronic Acid, Phospholipids, Sphingolipids, Ascorbyl Palmitate, Lecithin, Tocopherol, Hydrogenated Palm Glycerides Citrate, Xanthan Gum, Parfum, Sodium Hydroxide, Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Butylparaben, Propylparaben, Isobutylparaben

Pro: เนื้อน้ำนม ซึมเร็ว เหมือนเคลือบผิวไว้ ใช้แค่กลางคืนก็เห็นผล (ตอนกลางวันจะมันไปค่ะ) ใช้เพียง 1 อาทิตย์กว่าๆ ปรากฎว่า ผิวดูอิ่ม ใส นิ่ม นวล น่าขยี้ยิ่งนัก เราแบ่งกับคุณแม่นะคะ แม่เรานี่ผิวเด้งสุดๆ มีแต่คนทัก เซรัมตัวนี้มี HA, Vit C, Vit E, Honey, ส่วนผสมธรรมชาติอื่นๆ ผิวเนียนเรียบ มีน้ำมีนวล
Con: แพงอ่ะ แค่ 30 ml 37 Euro แป๊ปๆ ก็หมด

For me: Clarins Thirst Quenching Hydra-Care Serum จงหลบไป ขอนำเสนอเซรัมเติมน้ำให้ผิวสุดยอดจากเยอรมัน ที่เหมาะกับคนผิวผสมเช่นนู๋ ม. เนื่องจากเราใช้เซรัม Clarins ตัวนี้แล้ว มันเกินค่ะ รูขุมขนกว้างเลย เราก็หาเซรัมที่มี HA สูงมานานแล้ว แต่ไม่เคยพบที่ถูกใจ แต่ Dr. Rimpler เปลี่ยนชีวิตเรา ทำให้เราได้พบเซรัมที่มี HA สูง และส่วนผสมดีๆ ตัวหนึ่งค่ะ ตัวนี้เหมาะใช้ตอนที่หน้ากำลังเยินจากยาแก้สิวต่างๆ พอใช้ไม่กี่วัน หน้ากลับสู่สภาพใส เด้ง นวลเร็วมาก และคงสภาพต่อไป แม้ว่าจะเลิกใช้ (เพราะกินแกลบ) แล้วก็ตาม ใครไปเยอรมัน ลองหาซื้อนะคะ แนะนำๆ


4. Olaz Regenerist Anti-Aging Serum

ของ ถูกแต่ดีมีจริงๆ นะ:Cyclopentasiloxane, Water, Glycerin, Polymethylsilsesquioxane, Niacinamide, Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Panthenol, Butylene Glycol, Propylene Glycol, Palmitoyl Pentapeptide-3, Tocopheryl Acetate, Camellia Sinensis Leaf Extract, Allantoin, Cetyl Ricinleate, Bis-PEG/PPG-14/14 Dimethicone, PEG-100 Stearate, PEG-10 Dimethicone/Vinyl Dimethicone Crosspolymer, Disodium EDTA, Sodium Metabisulfite, Ethylparaben, Propylparaben, Methylparaben, Benzyl Acohol, Fragrance

Pro: เราใช้มาหลายขวดแล้ว เป็นเซรัมสามัญประจำบ้าน ต้องติดบ้านเสมอ ใช้ตอนเช้าเดี่ยวๆ หรือว่าใช้ตอนกลางคืนอย่างเดียวก็ได้ค่ะ ตัวนี้ทำให้ริ้วรอยเราจางๆ รู้สึกว่าผิวเรียบเนียน และแข็งแรงขึ้นแบบค่อยๆ เป็นค่อยไป มี Niacinamide วิตามินอี และตัว anti-oxidant บ้าง หาซื้อง่าย ราคาโอเค
Con: ตอนที่แพ้อะไร เราก็ใช้ตัวนี้ไม่ได้ เหมือนจะอุดตัน ต้องเก็บไว้ใช้ตอนที่หน้าเป็นปกติ ตอนนั้นจะพีคสุดๆ อ้อ สูตรที่มีน้ำหอม กลิ่นจะแรงมาก ที่เยอรมันจะมีสูตรไม่มีน้ำหอมด้วย เรารู้สึกว่าสูตรไม่มีน้ำหอมจะได้ผลมากกว่าสูตรมีน้ำหอมนะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า


For me: ซื้อเรื่อยๆ ค่ะ เป็นเซรัมสามัญประจำบ้าน และเราใช้ตัวนี้แล้วได้ผล

5. Dr. Rimpler Whitening Serum

ส่วนผสมมีแต่ active ingredients นะคะ
Arbutin, Seidenproteine, Aloe Vera

Pro: เราใช้ตอนที่อยู่เยอรมันค่ะ เพราะตอนนั้นหน้าหมองจากการตากแดดมาก เนื่องจากประเทศเยอรมันไม่มีพวก whitening ขายตามซุเปอร์ทั่วไป เราก็บังเอิญมาเจอยี่ห้อนี้ในเน็ต ก็เลยสั่งมาใช้ เป็นโลชั่นเนื้อน้ำนม หลังจากหมดกระปุกแล้ว ก็เห็นผลว่า หน้าใสขึ้น ขาววขึ้นนิดหน่อย ผิวดูเรียบเนียนดีค่ะ แต่ก็ระดับหนึ่งเท่านั้น
Con: กลิ่นเหม็น ซึมยากนิดหน่อย ไม่ขาวขึ้น แต่ดูเนียนใสมากกว่า


For me: สำหรับเราคิดว่า มันโอเค คือ มันจะไม่เนียนสุดๆ ไม่ใสสุดๆ ทำให้ขาวขึ้นนิดหน่อย พวก whitening ซื้อ คสอ. เอเชียจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ


V. Sunscreen


เราขอรีวิวกันแดดในฐานะเครื่องสำอางมากกว่าคุณภาพของการกันแดดนะคะ เพราะเราไม่ค่อยเจอแดดมาก เลยไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนกันแดดได้ดีที่สุด

1. KA Whitening Sunscreen Spf 50+ PA +++

Pro: ไม่มันหลังทา ไม่วอก ทาง่าย เป็นเนื้อออกครีม ไม่ทำให้มันเพิ่มขึ้น ใช้ได้ค่ะ ดูธรรมชาติมากๆ มีวิตามิน B3 และตัวบำรุงอื่นๆ จี๊ดหนึ่ง
Con: เป็นกันแดดที่ไม่ใช่เป็น makeup base ส่วนตัวเราชอบกันแดดที่เป็น makeup base ด้วย เพราะขี้เกียจโป๊ะหลายรอบ เหมือน คสอ. จะดูหมองๆ นิดหน่อยตอนเย็น


For me: สมแล้วเป็นตัวดังตัวหนึ่งห้องแป้ง แต่เราคิดว่าเหมาะกับผู้ชาย หรือคนที่ไม่ชอบแต่งหน้ามากกว่า เราไม่ชอบกันแดดที่ดูธรรมดาไปค่ะ ชอบแบบที่เป็น makeup base ในตัวมากกว่าค่ะ คิดว่าไม่ซื้อต่อ


2. Biore Bright Face Milk SPF 50+ PA +++

Pro: โลชั่นน้ำนม ทาง่าย หลังทาจะมันเล็กน้อย แต่รอสักพัก ความมันจะหายไป แล้วก็แต่งหน้าตามปกติ หน้าจะดูใสๆ สว่างๆ ดี บางวันก็ทาแป้งเด็กแล้วออกไปตลาดไม่ต้องแต่งหน้าก็ได้ ชอบหน้าดูใสๆ
Con: Alcohol สูง


For me: ชอบที่เป็น makeup base ด้วย เราชอบตัวนี้แต่ก็ไม่ชอบ Alcohol มากเท่าไรค่ะ อาจจะซื้อต่อ


3. Aviance Daily D-N-A Protect SPF 50/ PA +++

Pro: ทำให้หน้าดูใสๆ สว่างๆ เป็นกึ่งๆ makeup base ในตัว ทาง่าย หลังทาก็มันเล็กน้อยค่ะ เนื้อเป็นกึ่งน้ำนมผสมครีม มีพวก anti-oxidant หลายตัว
Con: มันสว่างไปนิดหน่อย และมันนิดหน่อย ทามากไปก็วอกเป็นคาบุกิ

For me: ก็ใช้ได้ค่ะ อย่างที่บอก เราชอบกันแดดที่เนื้อวิ้งๆ เป็นกึ่ง makeup base แต่ Aviance ดูวอกไปหน่อย


VI. Moisturizer

1. Clarins Moisture Quenching Hydra-Care Cream

ส่วน ผสม: Water, Glycerin, Stearyl Heptanoate, Caprylic/Capric Triglyceride, Dioctyl Succinate, Silica, Cetearyl Alcohol, Hydrogenated Peanut Oil, Algae, Glyceryl Stearate, PEG-100 Stearate, Pinus Sylvestris, Cereus Grandiflours, Butylene Glycol, Cetearyl Glucoside, Propylene Glycol, Polyacrylamide, Fragrance, Dimethicone, Hydrolyzed Wheat Protein, Aesculus Hippocastanum, Mannitol, Panax Ginseng, Tilia Cordata, Sucrose, Faex, Calcium Panthothenate, Biotin, Hydrolyzed Lupine Protein, Tecoma Curialis, Polyacrylic Acid, C13-14 Isoparaffin, Laureth 7, Sodium Polyacrylate, Tocopheryl Acetate, Tetrasodium EDTA, Triclosan, Sorbic Acid, Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Propylparaben, Butylparaben, Isobutylparaben, BHT, Mica, Barium Sulfate, Titanium Dioxide, Chlorphenesin Phoebe's Review: n/a


Pro: มีสารที่ผิวจำเป็น ตัวนี้ใช้เช้าหรือเย็นก็ได้ ไม่มันค่ะ มีพวก anti-oxidant เยอะดี ให้ความชุ่มชื่นสูง หน้าเนียนใสทันทีที่ใช้
Con: น้ำหอมเยอะเหมือนกัน และอาจจะอุดตันเล็กน้อย

For me: เริ่ดค่ะ เหมาะใช้เป็นตัวสุดท้ายในตอนกลางคืน เราจะวอร์มครีมบนฝ่ายมือก่อน แล้วก็ตบๆ ให้ครีมเข้าหน้า ตัวนี้ทำให้รอยย่นตรงหน้าผากจางลงไปค่ะ ผิวใสปิ๊ง รู้สึกว่าผิวผ่อนคลาย และทำให้ครีมอื่นๆ ที่เราใช้ร่วมด้วย ทำงานได้ดีขึ้น มากกว่าใช้ตัวนี้เดี่ยวๆ เราคิดว่า ตัวนี้ซีลครีมตัวอื่นๆ ได้ยอดเยี่ยมค่ะ ซื้อต่อแน่นอน


2. Chanel Precision Hydramax + Active

ได้ตัวทดลองมาค่ะ ใช้เฉพาะกลางคืนประมาณ 2 อาทิตย์

ส่วน ผสม: Water, Glycerin, Octyldodecyl Neopentaoate, Cyclohexasiloxane, C12-15 Alkyl Benzoate, Peg-40 Stearite, Octyldodecanol, Camellia Kissi Seed Oil, Silica, Glycerin Stearate, Ammonium Acrylooyldimethyltaurate/Vp Copolymer, Butyrospermum Parkii, Phytosteryl Canola Glycerides, Saccharide Isomerate, Dimethicone, Cetyl Alcohol, Steareth-2, Methylparaben, Fragrance, Panthenol, Chlorphene-Sin, Propylene Glycol, Sodium Carbomer, Propylparaben, Benzophenone-3, Thermus, Thermophillus Ferment, Lauroyl Lysine, Ceratonia Siliqua, Fruit Extact, Disodium Edta, Phenoxyethanol, Sodium Hyaluronate, Citric Acid, Potassium Sorbate, Butylparaben, Tocopherol, Ethylparaben, Ascorbyl Palmitate, Biotin, Red 330, Blue 1

Pro: มีตัวให้ความชุ่มชื่นบ้าง แต่ก็ไม่เยอะมาก น่าจะเหมาะกับสาวรุ่นมากกว่าสาวใหญ่แบบเรา
Con:เราคิดว่าคล้ายๆ Clarins ตัวบน แต่ Clarins ดีกว่าตรงที่ทำให้ผิวเรารู้สึกชุ่มชื่นมากๆ กว่าชาเนลตัวนี้ค่ะ

For me: โอเคค่ะ แต่ไม่ประทับใจ


VII. Mask

1. Kose Mask White มาส์กดำโคเซ่อันเลื่องลือ

มี อะไรบ้างในนี้: Water, Polyvinyl Alcohol, Alcohol, Ascorbyl Glucoside, PPG 10 Methyl Glucose Ether, Titanium Dioxide, Angelica Acutiloba Root Extract, Artemisia Capillaris Flower Extract, Coix Lacryma Jobi Seed Extract (Jobs Tears), Coptis Japonica Root Extract, Paeonia Suffruticosa Root Extract, Bentonite, Butylene Glycol, Citric Acid, Diethylhexyl Sodium Sulfosuccinate, Dipropylene Glycol, Disodium Phosphate, Polyglyceryl 10 Laurate, Polyglyceryl 10 Pentaoleate, Silica, Sodium Hydroxide, Methylparaben, Phenoxyethanol, Fragrance.


Pro: หลังลอกแล้วหน้าขาวเด้งมาก เป็นไปได้อย่างไร! เท่าที่ดูมี Vit C สูง มีพวก anti-oxidant และให้ผิวชุ่มชื่นหลายตัวค่ะ เป็นมาส์กในฝันของเราตัวหนึ่ง ตอนแรกได้ยินชื่อมานานมาก แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้ ลองใช้ได้เดือนแล้ว สรุปว่า ถูกใจค่ะ เวลาเราลอกทีสิ้วเสี้ยนติดมาเล็กน้อย แต่เราไม่เจ็บหน้านะคะ สงสัยหน้าด้าน คุณแม่เราเจ็บมาก ลอกทีน้ำตาไหล ทำอาทิตย์ละครั้งค่ะ
Con: ไม่มี นอกจากมี Alcohol สูง ซึ่งเราคิดว่าก็ปกติสำหรับพวก peel off mask นะคะ นอกจากเคยอ่านเจอว่า ใช้บ่อยๆ จะรูขุมขนบาน แต่อิฉันก็ไม่ใช้บ่อยน่ะ


For me: ขอบคุณห้องแป้ง ที่ทำให้ดิฉันได้พอเนื้อคู่อีกชิ้นค่ะ


กลับมาฝั่งยุโรปอีกซะที มาดูซิ ว่าสาวๆ ฝรั่งมีอะไรใช้กันบ้าง เริ่มจาก Korres ยี่ห้อแสน Cult จากประเทศกรีซ

2. Korres Wild Rose Mask

ส่วน ผสมดีๆ ของตัวนี้: Water, Ci77891, Glycerin, Behenyl Alcohol, Butyrospermum Parkii Fruit (Shea Butter), C12-13 Alkyl Lactate, Dicaprylyl Carbonate, Dicaprylyl Ether, Rosa Canina Oil, Cetearyl Alcohol, Beeswax, Mannitol, Argania Spinosa Kernel Oil, Ceteth-20 Phosphate, Persea Gratissima (Avocado) Oil Unsaponifiables, Sodium Ascorbyl Phosphate, Allantoin, Ascorbic Acid, Ascorbyl Palmitate, Benzyl Benzoate, Benzyl Salicylate, Butylphenyl Methylpropional, Caprylyl Glycol, Citric Acid, Citronellol, Dextrin, Dicetyl Phosphate, Ferulic Acid, Hexyl Cinnamal, Hydroxyisohexyl 3-Cyclohexene Carboxaldehyde, Isohexadecane, Alpha-Isomethyl Ionone, Panthenol, Peg-8, Phenoxyethanol, Polysorbate-80, Potassium Hydroxide, Sodium Acrylate/Acryloyldimethyltaurate Copolymer, Sodium Citrate, Sodium Gluconate, Sodium Phytate, Waltheria Indica Leaf Extract


Pro: ช่วยด้านความชุ่มชื่นสูงมาก ผิวเนียน ใส เด้งหลังจากการมาส์ก มีพวก anti-oxidant เยอะค่ะ เวลาที่โทรมๆ มาส์กตัวนี้ไป ผิวดูสดชื่นขึ้นมาเลย ราคาประมาณ 15 ยูโร (มั้ง) ใช้ได้เป็นปี เวลามาส์กจะอุ่นๆ หน้าค่ะ ได้คะแนนสูงใน makeupalley
Con: หาซื้อได้ในยุโรปเท่านั้น มาช่วยกันลุ้นให้เข้าไทยกันเถอะ


For me: รักตัวนี้ค่ะ เราคิดว่า มันทำให้หน้านุ่มนวล เนียนดีค่ะ และมีแต่ส่วนผสมของธรรมชาติ กลิ่นก็หอม สะอาด มาส์กดำ Kose นี่อาจจะลอกแรงไปหน่อย แต่ตัวนี้จะออกแนวมาส์กนิ่มนวลค่ะ


จากกรีซแล้ว มาเยี่ยมฝรั่งเศสกันบ้างนะคะ ขอแนะนำยี่ห้อ nuxe เป็น คสอ. ที่ทำมาจากธรรมชาติอีกยี่ห้อค่ะ ราคาประมาณ origins และดังระดับหนึ่งในยุโรปค่ะ

3. Nuxe Refreshing Moisture Mask

มาส์ กตัวโปรดตัวหนึ่งของเรามีอะไรบ้างนะ: Water, Hydrogenated Cocoglycerides, Adansonia Digitata (Hydrolysed Adansonia Digitata Extract), Ethylhexyl Hydroxystearate, Butylene Glycol, Cetyl Alcohol, Cyclopentasiloxane, Prunus Dulcis (Sweet Almond Protein), Glycerin, Sodium Acrylate/Sodium Acryloyldimethyltaurate Copolymer, Macadamia Ternifolia (Macadamia Ternifolia Seed Oil), Adansonia Digitata Oil, Isohexadecane, Phenoxyethanol, Tocopherol, Oleyl Alcohol, Lecithin, Polysorbate-80, Methylparaben, Glycyrrhetinic Acid, Cyclohexasiloxane, Tetrasodium EDTA, Zanthoxylum Alatum (Zanthoxylum Alatum Extract), Ethylparaben, Butylparaben, Propylparaben, Isobutylparaben, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Chlorphenesin, Propylene Glycol, Nymphaea Alba (Nymphea Alba Extract), Lilium Candidum (Lilium Candidum Bulb Extract), Iris Florentina (Iris Florentina Extract), Limonene.


Pro: anti-oxidant มากมาย ตัวทำให้หน้านิ่ม ชุ่มชื่น นิ่มนวล ส่วนประกอบที่เน้นธรรมชาติ กลิ่นหอมยวลใจ
Con: ได้ข่าวว่า nuxe พึ่งเข้าที่เมืองไทยนะคะ อาจจะหายากหน่อย อาจจะอุดตันได้นิดหน่อยด้วย คสอ. ของ nuxe ค่อนข้างอายุสั้น ตัวนี้มีอายุแค่ 6 เดือนค่ะ

For me: ซื้อต่อแน่นอนค่ะ เรารักตัวนี้ด้วยค่ะ กลิ่นหอมมาก ใช้ตอนเครียดๆ นี่ผ่อนคลายสุดๆ เนื้อครีมจะนิ่มๆ ไม่วอก ทาแล้วมันเข้าผิวเร็วกว่ามาส์กหลายๆ ตัวค่ะ

เป็น ตัวที่เราใช้เป็น overnight mask เวลาหน้าหนาว หรือเวลาที่ผิวแย่มากๆ มาส์กไว้ซัก 15 นาที แล้วฉีดน้ำแร่นวดๆ ให้เข้า แล้วก่อนนอนก็ตามด้วยโลชั่นเนื้อเบาก็ได้ค่ะ ตื่นมานี่หน้านิ่มๆ ใสๆ ใช้เป็นประจำหน้าดูแข็งแรงดี

4. Lancome Hydra Intense Hydrating Gel Mask Mask with Natural Water Captors

ส่วน ผสม: Water, Alcohol Denat, Glycerin, Dimethicone, Tea-Carbomer, Polyacrylamide, C13-14 Isoparaffin, Tocopheryl Acetate, Sodium Hyaluronate, Peg-8, Silica, Dimethiconol, Imperata Cylindrica Extract / Imperata Cylindrica Root Extract, Acrylates / C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Methylparaben, Laureth-7, Fragrance, Ci 77007/Ultramarines

Pro: เราอยากได้มาส์กที่มีพวก Sodium Hyaluronate พอดี เห็นตัวนี้ลดราคาก็ถอยมา ส่วนผสมที่ดีๆ ก็คงเป็น Sodium Hyaluronate, วิตามินอี และพวกสกัดจากธรรมชาตินิดหน่อย เนื้อจะเป็นเจลใส ทาแล้วตึงๆ หน้านิดๆ ค่ะ ทาไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก ทาแล้วเย็นๆ คงเพราะ alcohol
Con: Alcohol สูงค่ะ และผิวหน้าก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง

For me: ไม่เอาอีกแล้ว ขายทิ้งไปแล้วค่ะ

VII. Eye Cream

ครั้งนี้มีตัวเดียวค่ะ (ปกติเราใช้ตัวเดิมๆ เคยรีวิวแล้วในบล๊อก)

La Roche Posay Redermic Eyes Daily Fill-In Anti-Wrinkle Firming Care Sensitive Eyes

ส่วน ประกอบจ้า: Water, Glycerin, Cyclopentasiloxane, Ascorbic Acid, Propylene Glycol, Isohexadecane, Silica, PEG/PPG-18/18 Dimethicone, Alcohol Denat., Nylon-12, Potassium Hydroxide, Sodium Styrene/MA Copolymer, Madecassoside, Sodium Hyaluronate, Disodium EDTA, Acrylates Copolymer, Tocopherol, Isobutane, Phenoxyethanol, Sodium Benzoate, Methylparaben, Propylparaben.

Pro: ใช้แล้ว ริ้วรอยใต้ตาจางลงจริงๆ ค่ะ ใช้แค่ 3 อาทิตย์รู้สึกว่าริ้วรอยใต้ตาจางลงเล็กน้อย เนื้อครีมจะออกเหลวๆ หน่อย นุ่ม ชุ่มชื่นหลังทาทันที ซึมง่าย ไม่เลอะตอนแต่งตา ตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมไม่ค่อยมีคนชมเลย ทั้งที่ๆ มีวิตามินซี (5% มั้ง) มี HA, Vit E และมี madecassoside ที่ว่า ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน (แต่ไม่แน่ใจว่าทำให้ระคายเคืองได้ไหม) ก็มาอ่านในส่วนผสมว่า มี Alcohol นี่แหละ ไม่น่าละคุณฟีบี้ให้หัวใจแค่ดวงเดียว

Con: คงเป็น Alcohol

For me: แม้จะมี Alcohol แต่เราใช้แล้วเห็นว่า ริ้วรอยใต้ตาจางๆ ลงนิดหน่อยค่ะ แล้วใต้ตาก็ชุ่มชื่นดี เราจะใช้ผสมหรือสลับกับ La Roche Posay Hydraphase Eye Gel แท็กทีมคู่กัน ใต้ตาเราดีขึ้นแบบรู้สึกได้ค่ะ จริงๆ เราไม่อยากทาครีมที่มี Alcohol ใต้ตานะ แต่ตัวนี้ขอสักตัวล่ะกัน จนกว่าจะเจอตัวที่ดีกว่านี้


จบรีวิวเพียงเท่านี้จ้า

ตัวที่เหลือจะรีวิววันอื่นล่ะกัน วันนี้เหนื่อยแล้ว มีคำถามอะไรยินดีจ้า ยกเว้นเรื่องราคาของ เพราะจำไม่ค่อยได้

Create Date : 05 พฤษภาคม 2552 Last Update : 5 พฤษภาคม 2552 11:44:35 น. Counter : 6720 Pageviews.		12 comments
Share Tweet