กุมภาพันธ์ 2551

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
รีวิวโทนเนอร์ที่เคยใช้ ภาค 1
รีวิวพวกโทนเนอร์ที่เคยใช้ค่ะ


Toner จะมีลักษณะเป็นน้ำๆ หรือเจลๆ มีหลากแบบ มีจุดประสงค์แตกต่างกัน หลักๆ คือเช็ดทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดหน้า บางตัวอาจจะมีส่วนผสมของตัวกันสิว เช่น salicylic acid, zinc etc. หรือมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นและบำรุงผิวหน้าเป็นพิเศษ


สำหรับเรา Toner เป็นสิ่งจำเป็นค่ะ เพราะนอกจากจะมั่นใจว่าได้เช็ดล้างเครื่องสำอางหมดแล้ว ยังได้เป็นการเตรียมผิวหน้าให้พร้อมกับขั้นตอนการบำรุงผิวต่อไปด้วย นอกจากนั้นโทนเนอร์บางตัวยังมีส่วนผสมที่โอเคสำหรับผิวเจ้าปัญหาแบบเรา


เราเคยไม่ใช้โทนเนอร์ระยะหนึ่ง ปรากฎว่าผิวหน้าแย่มาก ดูไม่ชุ่มชื่น หมอง แต่ก็เห็นหลายคนไม่ใช้ก็ได้ เอาเป็นว่า ถ้าจะถามว่าโทนเนอร์จำเป็นไหม คำตอบก็แล้วแต่บุคคลค่ะ


ใครผิวมีปัญหาน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินตรงนี้ค่ะ เอาไปลงที่อื่นดีกว่า


รีวิวอันนี้ไม่มีวันหมดค่ะ เพราะจะมารีวิวเพิ่มเรื่อยๆ เวลาได้ใช้ตัวใหม่นะคะ ฉะนั้นถึงชื่อว่า The Never Ending Review


วิธีเลือกซื้อโทนเนอร์ของเรา คือ 1. เลี่ยงส่วนผสมที่มีเเอลกฮลอก์เป็นหลัก และ 2. ดูความจำเป็นของผิวหน้าในช่วงนั้น เช่น ผิวแห้ง ผิวมีสิว เนื่องจากว่า ผิวของเรานั้นไม่เหมือนกันตลอดปี ฉะนั้นการได้โทนเนอร์ที่"เหมาะสม"กับแต่ละช่วงนี่จำเป็นมากค่ะ


แต่เรื่องการเลี่ยงแอลกฮลอก์บางทีก็เลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผิวที่สิวขึ้นง่ายแบบเรา (เพราะชอบใช้เรื่อยเปื่อยและก็แพ้ไม่เข็ด ฮา) โทนเนอร์หลายตัวที่เราชอบก็ผสมเเอลกอฮลอก์ โดยเฉพาะโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ salicylic acid เราเลยใช้เฉพาะตอนที่หน้ามีสิวหรือเฉพาะบริเวณที่มีปัญหา แค่ตอนเช้าหรือเย็นเท่านั้นค่ะ


ถ้าเป็นช่วงปกติ ผิวไม่มีสิว เราก็ใช้โทนเนอร์ที่ไร้ alcohol เสมอค่ะ ให้เหมาะกับผิวที่ออกจะแพ้ง่ายแบบเราด้วย ก็เน้นพวกที่มีส่วนผสมที่ลดการระคายเคืองและไม่มีตัวแปลกๆ ส่วนตัวเราชอบพวกโทนเนอร์ที่เน้นพวกส่วนผสมของธรรมชาติ สมุนไพรเป็นหลักค่ะ นอกจากนั้น เรานิยมใช้โทนเนอร์ในการละลายวิตซี (ส่วนตัวใช้ The body shop - Vit C Night Treatment หลอดส้มๆ น่ะค่ะ) และฉีดเพื่อให้หน้าชุ่มชื่นด้วยค่ะ


ฉะนั้น ในห้องน้ำของเรา จึงมีโทนเนอร์อย่างต่ำ 2-3 ชนิด เพื่อผลัดการใช้สำหรับผิวแต่ละช่วง


เราจะแบ่งโทนเนอร์เองเป็น 3 ประเภทค่ะ (แบ่งเองนะ ไม่มีหลักการอะไรรองรับ) 1. ใช้ทำความสะอาดให้หมดจดหลังล้างหน้าตอนเย็น 2. เป็นตัวทำให้ชุ่มชื่นก่อนลงครีม 3. เป็นตัวบำรุง เราจะใส่ * ไว้ที่หลังชื่อโทนเนอร์แต่ละตัวล่ะกัน ว่าเราชอบใช้แบบไหน


สภาพผิวผู้รีวิว: ผิวผสม ขาดน้ำ คือ น้ำมันเยิ้มระหว่างมัน แต่พอจับๆ ดู เหมือนจะแห้งๆ คือน้ำมันจะลอยบนผิวหน้า แต่ข้างในเหมือนจะแห้งอยู่ มีรอยสิวปะปราย เเพ้ค่อนข้างง่าย ผิว OSPT มีรอยย่นที่หน้าผากและมุมปากเล็กน้อย คาดว่าจะเป็นรอยย่นที่เกิดจากการเเสดงอารมณ์ (mimic)


การรีวิวจะแบ่งเป็นแบบนี้นะคะ

Pro = ข้อดี ส่วนที่เราชอบ อะไรเด็ดๆ ของตัวนี้
Con = ข้อเสีย อะไรที่ไม่ดี อะไรที่เราไม่ชอบ
For me = การตัดสินในภาพรวม และการซื้อต่อ เป็นความเห็นส่วนตัวของเราคนเดียว อย่าเชื่อมาก



1. La Roche Posay – Hydraphase Toner *1*2 *3




Pro: มีสารให้ความชุ่มชื่นสูง เหมาะกับทุกสภาพผิว อ่อนโยน เหมาะกับผิวขาดน้ำแบบเรา ใช้เทใส่มือ ตบๆ แปะๆ ที่หน้า ไม่ก็ใช่สำลีเช็ดหลังล้างหน้า ใช้ละลายวิตซีก็ได้ค่ะ
Con: ถ้าใช้สำลีเช็ดจะหนืดๆ กลิ่นหอมเเปลกๆ แต่ก็โอเค

For me: ใช้เช้า-เย็นได้ ใช้เป็นตัวเช็ดทำความสะอาดหลังล้างหน้าหรือใช้ก่อนทาครีมตอนเช้าเพื่อให้ครีมซึมง่ายขึ้นก็ได้ ก็กลับมาหาหลายทีละ ไม่มีอะไรที่ทำให้แพ้ ซื้อเรื่อยๆ เวลาไม่รู้จะซื้ออะไร แต่แอบเบื่อ


ตัวนี้เราแนะนำให้คนที่ผิวแพ้ง่าย หรือผิวแห้ง ผิวที่แห้งข้างใน ผิวผสมก็ใช้ได้ค่ะ เป็น HG อันหนึ่งของเรา เวลานึกไรไม่ออก ก็ซื้อตัวนี้ค่ะ มันปลอดภัยกับผิวดี ใครอยากลองใช้โทนเนอร์แล้วคิดไม่ออกว่าจะซื้ออันไหน ลองดูตัวนี้นะคะ



2. La Roche Posay – Effaclar Toner*1





Pro: นอกจากพวกตัวลดสิวที่เราต้องการแล้ว ไม่มีอะไรดีเลย ช่วงไหนสิวบุกก็ใช้ ไม่ก็ใช้เฉพาะส่วนที่มีสิว ให้หมดๆ ไปซะ
Con: แอลกฮลอก์สูงมาก กลิ่นนี่แรงเชียว เปรียบได้กับว่าท่านใช้แอลกฮลอก์เช็ดหน้า ใช้แล้วรู้สึกหน้าเหี่ยวๆ ไงไม่รู้ อาจจะเราลองใช้ช่วงมีสิว หน้ากำลังเยินพอดีก็ได้

For me: ไม่เอาอีกแล้ว

แต่ถ้าใครผิวสิวขึ้นง่ายมากๆ และไม่แพ้ง่าย ก็อาจจะลองได้ค่ะ แต่ถ้าสิวหาย ให้เลิกใช้นะคะ เพราะมีแอลกฮอลก์สูงมาก อาจจะทำให้ผิวแห้งง่าย เป็นริ้วรอยง่ายในระยะยาวจ้า

3. Lancome – Tonique Comfort *2*3





Pro: มีสารพวก anti-oxidant เยอะ มีตัวให้ความชุ่มชื่น เหมาะเป็น pre-moisturizer มากกว่าโทนเนอร์ ใช้ก่อนลงครีมหรือใช้ละลายวิตซีก็ได้ ตามบล๊อกเจ้าแม่ฯ ท่านว่า ตัวนี้ดีกว่าเซรัมให้ความชุ่มชื่นหลายตัวอีก
Con: ช่วงไหนผิวกำลังระคายเคืองง่าย เป็นสิว ใช้ตัวนี้จะเเสบหน้ามาก ต้องใช้ตอนหน้าปกติเท่านั้น

For me: สารพัดประโยชน์ นอกจากใช้เป็น Toner แล้ว ยังใช้ละลาย Vit C ตอนเช้าก็ใช้เป็น Pre-Moisturizer ค่ะ ก่อนลองเดย์ครีมปกติ แต่ช่วงไหนแพ้ง่ายต้องหยุด คิดว่าอาจจะระคายเคืองกับน้ำหอม ถ้าช่วงไหนหน้าแข็งแรง เสริมตัวนี้ไปนี้หน้าเด้งๆ ดี

ระวังแพ้ ระวังการระคายเคืองง่าย ใครแพ้ง่ายๆ อุดตันง่าย อาจจะต้องเลี่ยงค่ะ ถ้าใครผิวแห้งมากๆ ลองเสริมตัวนี้ดู


4. Dr. Hauschka – Toner (Gesicht Spezial) *3





Pro: ฉีดสัก 3-4 ฟี๊ด ตบๆ แปะๆ ให้ซึม กลิ่นหอมมาก ผ่อนคลาย เหมาะกับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวค่ะ เน้นส่วนผสมสมุนไพร Witch Hazel ที่อ่านเจอว่าช่วยให้รูขุมขนเล็กลง (?) ตัวนี้ให้เครดิตว่า ลองตามมาดาม Scootella ค่ะ
Con: Alcohol สูงค่ะ ช่วงไหนหน้าแพ้ง่ายหรือแห้งง่ายก็จะไม่ใช้

For me: ตอนนี้ช๊อบชอบ ฉีดแล้วหน้าดูอิ่มบุญดี ยังไม่ถึงขั้นเป็น HG เพราะแอลกฮลอก์สูงไปนิด อาจจะซื้อต่อ ทำเป็นตัว pre-moisturizer ก่อนลงครีมทั่วไป


ยังไม่เข้าเมืองไทยค่ะ


5. Clarins – Toner Purifiante *1




Pro: มีพวกตัวบำรุงสำหรับผิวมัน-ผิวผสมที่ค่อนข้างโอเค เช็ดหลังล้างหน้ารู้สึกหน้าสะอาดดีๆ ช่วงที่ใช้ก็โอเคค่ะ ผิวก็ดูโอเค ไม่ดีขึ้นไม่แย่ลง


Con: น้ำหอมเยอะมาก และน่าจะมีตัวบำรุงที่ให้ความชุ่มชื่นอีกหน่อย


For me: ชอบค่ะ รู้สึกสะอาดและผ่อนคลายดีหลังเช็ด เกลียดกลิ่นหอมที่แรงจนทำให้มึนได้ อาจจะซื้อต่อถ้าลดราคาเยอะๆ


ใครหาอะไรที่เช็ดทำความสะอาดขั้นสุดท้ายได้ดีๆ มีส่วนผสมโอเค ลองตัวนี้ได้นะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่ายๆ ไหม


6. Clearasil – Toner for sensible skin *1





Pro: มีพวกส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายเคืองน้อยลงหลังล้างหน้า ไว้เช็ดทำความสะอาดวันที่คิดว่าหน้าสกปรกมากๆ


Con: alcohol สูง

For me: ไม่เอาอีกแล้ว ลาขาด ไม่ทำให้สิวยุบเร็วขึ้น ไม่ทำอะไรเลยค่ะ

ทุกอย่างซื้อในเยอรมันน้า อาจจะมีรูปแตกต่างไปจากที่ขายในไทยบ้างจ้า


7. Neutrogena Pore Refining Toner *1





Pro: ไม่มี alcohol ใช้ได้ทุกโอกาส

Con: เนื้อมันหนืดๆ ไม่ชอบเลย เช็ดแล้วรู้สึกไม่สะอาด

For me: อยากจะลองอีกที แต่หายไปจากตลาดเยอรมันแล้ว เท่าที่ทดลอง ไม่ทำให้รูขุมขนบานๆ ของข้าพเจ้าหุบลงค่ะ


จำส่วนผสมไม่ได้แล้วค่ะ ใช้มานานแล้ว




8. Nivea – Toner for sensible skin *1






Pro: ไม่มี alcohol
Con: ไม่มีอะไรน่าจดจำ

For me: ไม่ดีไม่เลว ขอผ่าน


9. L’Oreal – Hydra Comfort Toner*2



Pro: มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นและเคลมผิวหลังล้างหน้า

Con: หนืดๆ ไม่เหมาะกับการเช็ดหลังทำความสะอาด ไม่ชอบความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรตกค้างบนหน้าก่อนทาครีมบำรุง

For me: ให้อารมณ์ Lancome Tonique Comfort แม้ว่าสารบำรุงจะไม่เท่า ไม่ชอบ ไม่ซื้อต่อ ลงทุนซื้อ Lancome ดีกว่า



10. Avene – Cleanance Lotion*1





Pro: มีผงแป้ง ช่วยคุมความมันด้วย มีแตงกวานิดหน่อยช่วยผ่อนคลายผิวและลดการระคายเคือง มี zinc, salicylic acid ที่ช่วยเรื่องสิว ทำให้ยุบเล็กขึ้น แต่ก็ไม่เห็นความแตกต่างมาก เอาไว้เช็ดให้หน้าสะอาดๆ ช่วยสิวบุกเท่านั้นค่ะ
Con: มีแอลกฮอล์กค่ะ ซึ่งก็ปกติของโทนเนอร์แบบต้านสิว

For me: อาจจะซื้อต่อค่ะ ถ้าไม่เจอตัวไหนที่ดีกว่า เหมาะกับคนที่มีสิวง่าย



11. NUXE – Floral Toner *1*3





Pro: กลิ่นหอม ส่วนผสมดีมาก มี witch hazel and rose water ในปริมาณสูง ไร้แอลกฮลอก์ เช็ดแล้วรู้สึกสะอาด ไม่มีอะไรแย่กับผิวหน้า
Con: จริงๆ ก็ไม่มีนะ เช็ดแล้วก็ไม่รู้สึกผิวหน้าจะดีขึ้น แต่รู้สึกว่าสะอาดและผิวผ่อนคลายมากๆ เท่านั้น แล้วก็เหมือนจะแพงไปหน่อย อุอุ

For me: ซื้อต่อแน่ค่ะ ชอบเช็ดทีไร รู้สึกว่าสวนดอกไม้ลอยมา และสะอาด ตอนนี้รักตัวนี้สุดๆ ค่ะ นึกไรไม่ออกก็ใช้ สิวขึ้น แพ้ไร ก็ใช้ได้ตลอด มันอ่อนโยนและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพดีๆ จริงๆ


12. Caudalie – Grape water *2





Pro: กลิ่นหอมมาก ชอบกลิ่นค่ะ เหมาะเป็นน้ำแร่มากกว่าเช็ด คสอ. ด้วยมั้ง ไว้ฉีดให้ชุ่มก่อนลงครีม หรือไว้ละลายพวกวิตซี แล้วก็ฉีดเป็นน้ำเเร่ระหว่างวัน ฉีดก่อนแต่งหน้า ฯลฯ
Con: ไม่มีอะไรพิเศษ จริงๆ ก็ไม่ต่างกับน้ำแร่ทั่วไป ยกเว้นแค่กลิ่นหอมๆ เป็นแค่น้ำองุ่น ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์มาก นอกจากทำให้ผิวผ่อนคลาย สดชื่นเท่านั้น

For me: ไม่ซื้อต่อค่ะ






Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2551 21:27:37 น.
Counter : 5577 Pageviews.

7 comments
  
(='o'=)。.ღ. ส่วนใหญ่ จะชอบแบรนด์ญี่ปุ่นน่ะจ๊ะ เพราะจะแพ้ น้ำโซนเมกา กะฝาหรั่งอ่ะ
... ยี่ห้อข้อ 9. น่ะ ถ้าผลิตที่โน้น น่าจะดีกว่าที่เมืองไทยนะคะ เพราะ เพื่อนป้ากี้เค้าทำวิจัยบอกว่าคุณภาพวัตถุดิบ เดียวกะ อีกยี่ห้อเลยจ๊ะ
โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:28:41 น.
  
น้องมีนของเล่นเยอะจังเลย
โดย: A Princess วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:40:16 น.
  
Nuxe ของเขาดีจริงค่ะ

สาวใหมมีลิปใหม่สองสีและกะว่าจะซื้ออันที่สามอยู่

เข้ามาทักทาย
โดย: สาวใหม วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:05:07 น.
  
แวะมาอ่านจ้ะ...

แต่งบล็อกใหม่ใช่ไหมจ๊ะมีน :-))
โดย: มิถุนายน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:02:26 น.
  
โอว..ของเล่นเยอะเจงๆ
โดย: Bankie IP: 124.120.14.174 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:41:23 น.
  
กำลังกาที่เหมาะกับผิวตัวเองอยู่ค่ะ เป็นสิวผดไม่หายซักที พอแกะเล่นก็เละเลย
โดย: Chulapinan วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:21:06:05 น.
  
ขอบคุณนะคะ สำหรับข้อมูลดีๆ แต่ว่า ปวดตาจังเลย ค่ะ ต้องเพ่ง
โดย: แนน IP: 124.122.187.14 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:12:37:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นู๋ ม.
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กรุณาอย่าคาดหวังอะไรจากบล๊ิอกนี้ เขียนขึ้นตามความพอใจ มีอยู่เพื่อความพอใจ มีแต่ของเล่นๆ ของไร้สาระ เรื่องเรื่อยเปื่อย เรื่องบ้าๆของเจ้าของบล๊อก

นู๋ ม. เป็นคนสาวหมวย สวย เอ็กซ์(วายเเซต)กินเก่ง บ่นเก่ง ด่าเก่งด้วย หาใครที่เจ้าอารมณ์ ขี้โวยวาย คิดอะไรสไตล์เด็กเเนวมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

ความฝันในอนาคต คือ อยู่อย่างสงบ โดยไม่มีใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว

อารมณ์ตอนนี้ = กำลังเซ็ง เนื่องจากโดนยุ่งเรื่องชีวิตรักเหลือเกิน เกิดมาสวย(ยี้)ก็งี้ มีแต่คนอยากรู้อยากเห็นเรื่องเรา

Life of Mine เปิดให้อ่านเฉพาะ Friend's Blogs นะจ๊ะ ใครมีชื่ออยู่ทางขวาแล้ว ล๊อกอินแล้วอ่านได้เลยจ้า


**********************************

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด



หลังไมค์ถึงนู๋ ม.

ใครนำรูปหรือบทความอะไรเราไปใช้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผิดกฎหมายนะคะ และเราเอาจริงนะ แบบว่ารวยอ่ะ มีเงินจ้างทนาย จะค้าขายอะไร ให้ไปเสริช์รูปจากเว็บเจ้าของผลิตภัณฑ์เองนะคะ