สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ แต่งหน้ากันซะทีเนอะ หลังจากที่รีวิว ปาดสี มาหลายชิ้น จริงๆแล้วลุคแนวที่หนึ่งชอบและอยากแต่งนั้น ก็เดาไม่ยาก ไม่พ้นคาแรคเตอร์จากในหนังอีกเช่นเคย ^^

จริงๆหนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่หนึ่งรอดู เพราะเป็นผลงานกำกับของ Eli Roth ซึ่งฮีชอบทำหนังเอาใจขาโหด ขาเลือดสาด อยู่เป็นประจำ คือฮีเอาดีทางด้านนี้แบบสุดตัวก็ว่าได้ ตั้งแต่ที่ตัวอย่างปล่อยออกมาก็อยากดูมากๆ พอเข้าโรงแล้ว ก็รีบตีตั๋วทันที

the Green Inferno นั่นเอง จะเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาที่ต่อต้านการรุกรานป่าของนายทุน ที่จะทำให้ป่าและหมู่บ้านของชนพื้นเมืองอเมซอนถูกทำลาย แต่เคราะห์ร้ายเครื่องบินดันตก และนักศึกษาที่รอดก็ถูกจับไปเป็นอาหารโดยชนเผ่ามนุษย์กินคน ที่ตัวเองพยายามจะช่วยนั่นแหละ (เจ็บปวดมาก55) ทำให้เราแอบนึกถึง เปรตเดินดินกินเนื้อคน ที่เราเคยดูตอนเด็กๆ (เดี๋ยวนะ เด็กๆดูหนังแบบนี้หรอ 55) เรื่องนี้ผู้กำกับเค้าก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเปรตเดินดินนี่แหละ เนื้อเรื่องจริงๆก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากมาย แต่วันนี้ที่เราจะมาเล่นกันนั่นก็คือ เมคอัพของมนุษย์กินคนในเรื่อง ที่ติดตาหนึ่งมากๆ

นักล่าหัวมนุษย์ (the Bald Headhunter) เป็นเหมือนมือขวาของหัวหน้าเผ่า จะคอยออกไปรบ ออกไปไฟว้นั่นนี่ เมคอัพฮีเด่นมาก เพราะฮีทาตัวดำและหน้าเป็นสีเหลือง มีพรอพมีคอสตูมที่เต็มเกินเพื่อน เราก็เลยแอบจำตัวละครนี้ได้และก็อยากจะลองแต่งดูบ้าง เอาหละมาแต่งกันเลย

แอบนอกเรื่องนิดนึง อย่างที่เห็นว่าช่วงนี้หนึ่งไม่ค่อยแต่งหน้าก็เพราะเดือนที่แล้วหนึ่งพึ่งไปทำเลเซอร์เปิดหัวสิว ยิงกันสนุกสนาน เลยทำให้เกิดรอยแดงๆยุกยิกแบบนี้ขึ้น เลยอยากจะพักหน้าซักหน่อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว รอยๆที่เห็นก็จะไม่มีความนูนมากมายอะไร(แค่สีไม่สม่ำเสมอ) อย่าพึ่งตกใจหน้าเค้าน้าาา >_< สัญญาว่าจะพยายามทำให้เกลี้ยงๆเหมือนเดิม 555 อ่ะ ทาไพรเมอร์(งวดนี้อยากได้ที่ไม่แมท ยังดูฉ่ำบ้าง) และใช้กาวแท่งเก็บคิ้วและไรผมรอบใบหน้า

ร่างรอยต่อของหน้ากากด้วยดินสอสีขาว

ลงพื้นที่ด้านใน โดยลงทั้งหมดด้วยรองพื้นสีขาวก่อน จากนั้นลงครีมสีเหลืองในส่วนที่มีความเข้มกว่า และใช้สีเพนท์หน้าสีเหลืองในการทาผม ที่ต้องลงสีขาวก่อนเพื่อที่สีเหลืองจะดูสดกว่าลงครีมสีเหลืองทั้งหน้า

ลงอายชาโดว์สีเหลือง โดยใช้การกดๆเอา และเก็บรายละเอียดด้วยแปรงเล็ก

ลงรายละเอียดของตา โดยเริ่มจากครีมสีชมพูรอบๆก่อน จากนั้นลงครีมสีดำ และเซตด้วยอายชาโดว์สีดำพร้อมเกลี่ยรอยต่อของดำกับเหลืองให้มีความฟุ้ง เพื่อทำให้ขอบไม่ดูแข็ง การเว้นสีชมพูด้านในจะดูเป็นธรรมชาติกว่าถมดำซะมิดทั้งหมด

จากนั้นมาลงรายละเอียดที่ปาก ขั้นตอนเหมือนกับรายละเอียดที่ตา แต่ที่ลงสีชมพูหลังครีมสีดำเพราะเรารู้ขอบเขตของปากอยู่แล้วว่าสุดแค่ไหน จริงๆจะลงชมพูหรือดำก่อนก็ได้ จากนั้นเกลี่ยฟุ้งๆหากัน พร้อมกับทำให้ปากดูมีริ้วรอยและความเขรอะเพิ่มนิดหน่อย

คอนทัวร์เบาๆด้วยสีเทาอ่อน เริ่มจากรอยย่อ สันจมูก และกรอบหน้า ที่ใช้สีเทาเพราะมีความเข้มรองจากสีดำ ตอนนี้ผิวจะไม่มีสีของเนื้อจริงอยู่ จะต้องอิงความเข้มสุดและใช้สีอ่อนกว่า ถ้าใช้สีน้ำตาล อาจจะดูอุ่นและดูเป็นมิตรไป 555

เน้นมิติที่ชัดเจนขึ้น โดยใช้อายชาโดว์สีดำกับส่วนยที่อยากให้ลึกลงไป และอายชาโดว์สีเหลืองอ่อนกับส่วนที่อยากไฮไลท์ สุดท้ายก็ลงสีเหลืองที่อ่อนสุดที่โหนกแก้มและหน้าผาก การไฮไลท์นี้ก็จะไม่ได้เห็นชัดมาก เอาแค่พอต่างกันนิดหน่อยดูเป็นธรรมชาติ เอาหละจริงๆเมคอัพเราก็มีจะสุดทางแล้ว เรามาทำพรอพสำหรับลุคนี้กันดีกว่า

ลุคนี้จะมีพรอพหลักๆอยู่ 3 ส่วน เริ่มจากสร้อยคอที่เป็นรูปกระดูกสัตว์ ปั้นตัวกระดูกด้วยดินเยื่อกระดาษ (หาซื้อได้ตาม B2S ในส่วนพวกดินน้ำมัน ปูนปาสเตอร์ คือดินเยื่อกระดาษจะแห้งเร็วและทำให้เนื้อเนียนได้ค่อนข้างยาก จึงเหมาะกับการทำพื้นผิวกระดูกมากๆ) ปั้นให้มีความโค้งชี้เข้าหาตัว จากนั้นใช้ดามพู่กันในการเจาะรูเพื่อร้อยเชือก กะรูกับขนาดเชือกให้ใกล้เคียงกันไม่ใหญ่หรือเล็กไป

ปั้นรัวๆไปเลยซัก 40 อันที่ลดหลั่นขนาดกันไปมา รอให้แห้งสนิทซักคืนนึง จากนั้นลงสีด้วยสีโปสเตอร์สีดำ ลงไม่ต้องเต็มพื้นที่ เว้นตรงกลางๆให้ยังโชว์สีขาวอยู่

พอแห้งดีแล้วก็ทำการร้อยเข้าในเชือก โดยสลับขนาดกันให้เฉลี่ยๆไป เราก็จะได้สร้อยขอกระดูกสัตว์แล้ว ด้วยความที่เมื่ออยู่กันเยอะๆและแขวนที่คอก็จะมีน้ำหนักหน่อย เลยเลือกเส้นเชือกที่แข็งแรงและขนาดไล่เลี่ยกับรอที่เจาะ จะได้ไม่แกว่งมาก

ส่วนที่ 2 เป็นปลอกแขนขนนก ใช้ผ้ามาขึงแล้วแปะขนนกลงไป (ด้วยแลคซีนหรือยิงปินกาวก็ได้) จากนั้นก็เอาผ้ามาทับและทำซ้ำอีก ทำซัก 3 ชั้น ชั้นนึกขนนก 6-7 อัน เลือกผ้าที่ไม่ลื่นมาก แบบที่มัดแล้วอยู่ ไม่ไหลหล่นลงมา (อันนี้ไม่แน่ใจชนิดของผ้า ต้องไปลองมัด ลองขยับดูว่าลื่นมั้ย)

ส่วนสุดท้าย กระดูกที่ติดกับจมูก โดยร่างโครงด้านในเพื่อเป็นแกน ควรใช้กระดาษที่แข็งหน่อยหรือซ้อนหลายๆชั้น เพราะเวลาเราโปะดินลงไปจะมีความหนัก แกนกระดาษต้องไม่พับหรืองอได้ จากนั้นค่อยๆห่อทั้งหมดด้วยดินเยื่อกระดาษ โดยเว้นส่วนที่จะใส่กับจมูกเอาไว้ รอให้แห้งสนิทคืนนึง

ห่อส่วนที่จะใส่กับรูจมูกด้วยแลคซีนสีดำเพื่อซ่อนและไม่บาดรูจมูก จากนั้นใช้เชือกมัดปลายกระดูกทั้งสองข้าง (เอาไว้ผูกด้านหลังหัว)

ลงสีด้วยสีโปสเตอร์สีดำพี่มีความเจือจางกว่าที่ใช้ลงสีสร้อย จะใช้พู่กันเต้มๆหรือใช้ฟองน้ำค่อยๆกดๆเอาก็ได้ แต่ไม่ต้องถมให้มิด ให้ลงโดยที่สีขาวยังโชว์อยู่ เหมือนเป็นกระดูกเลอะๆ เอาหละพรอพมาแล้ว มาแต่งกันต่อเลยจ้า

ทาตัว แขนและมือ ด้วยสีเพนท์หน้าแบบเนื้อน้ำ (มีขายตามร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ อันนี้หนึ่งซื้อร้านสมใจ) สีแบบน้ำจะทาง่ายแต่ถ้าทาเยอะๆพอแห้งแล้วจะร่วนออกมาเป็นผงๆ ซึ่งตรงกับเอฟเฟคที่อยากได้เพราะคนป่าถ้าจะติดทนนาน ดำเท่ากันหมดก็จะดูแข็ง ให้ดูเลอะบ้างหลุดบ้างได้อยู่ ใส่ปลอกแขนขนนก ใส่สร้อย ใส่กระดูกที่จมูก(วางปลายกระดูกบนใบหู มัดด้านหลังให้กระชับๆหน่อย)

เก็บรายละเอียดกุ๊กกิ้ก ลงอินเนอร์ตาสีขาวให้ดูตาโต ใส่คอนแทคสีดำสนิท ลงปากด้านในและฟันด้วยลิปสติกสีดำ เท่านี้ก็พร้อมจะไปล่าหัวมนุษย์กัยแล้วจ้า แฮ่!!

เรียบร้อยครับสำหรับลุค นักล่าหัวมนุษย์ (the Bald HeadHunter) จากเรื่อง the Green Inferno ซึ่งลุคนี้ดูเผินๆ ดูไม่มีอะไรเลย แต่ด้วยความง่ายนี่แหละที่ต้องทำให้รายละเอียดต่างๆดูธรรมชาติ ดูไม่คมไม่ฟุ้งจนเกินไป เพราะเป็นสีที่ค่อนข้างตัดกันอยู่ในตัว ตอนหนึ่งดูในหนังเนี่ย สีเหลืองเค้าจะสดๆแบบนี้เลย สีสดกว่าตัวหัวหน้าเผ่าที่จะมีอมส้มๆกว่า และตัวชาวบ้านทั่วไปจะเป็นสีแดง คือตัวนี้จะโดดเด่นมากๆทั้งสีสันและคาแรคเตอร์ (ความโหดด้วย55) เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ขาโหดคงจะไม่พลาด แต่ถ้าคาดหวังความโหดแบบเลือดสาด โหดเข่าอ่อน อาจจะไม่ได้โหดขนาดนั้น ยังเป็นความโหดที่พอรับได้ (แต่ฉากที่โหดที่สุดก็คือติดตาไปหลายวันและพาลไม่อยากกินเนื้อสัตว์เลย) เนื้อเรื่องมีอะไรมากกว่าการเอาชีวิตรอด มันยังแฝงประเด็นของการกระทำ เจตนา และนิสัยดิบๆของมนุษย์ไว้ด้วย

.

.

เมคอัพในลุคนี้จัดว่าง่ายมากๆ ไม่มีความซับซ้อนของลายหรือรายละเอียดยากๆเลย เพียงแต่ว่าต้องลงสีและเกลี่ยรอยต่อให้ดี ดูตั้งใจแบบไม่ตั้งใจเท่าไร ดูเลอะๆแบบประณีต55 หนึ่งเองหาโอกาสเล่นกับสีเหลืองสดๆมานานละ ลุคนี้เลยตอบโจทย์ความคัน เพราะมีอายชาโดว์สีเหลืองอยู่หลายอัน อยากใช้แบบเต็มๆดูบ้างสะใจดี ลุคนี้ต้นแบบเป็นคนหัวโล้น ถ้าใช้คู่กับที่ Bald Cap ก็จะเนียนกว่านี้ แต่หนึ่งไม่มี เลยใช้เทคนิคบ้านๆแบบนี้ไปก่อนละกัน 55 ส่วนที่สำคัญในการชี้เป็นชี้ตายความเต็มของลุคนี้คือพรอพ ซึ่งก็ลองนำวิธีการไปประยุกต์ดูครับ อาจจะใช้กับการทำพรอพพวกโครงกระดูกหรือหินปลอมก็ได้ ดินเยื่อกระดาษจะดีที่เค้าแห้งไว้ แต่ด้วยความที่ไวเลยจะทำให้เรียบเนียนได้ยากพอควร (ยิ่งทำในห้องแอร์ยิ่งแห้งเร็ว) หนึ่งเลยมองว่าเค้าเหมาะกันงานที่มีพื้นผิวแบบนี้ ลองดูนะครับ เก็บไว้เป็นไอเดียครับ

.

.

.

ขอบคุณนะครับที่เข้ามารับชม หวังว่าคงได้ประโยชน์
และสนุกสนานไปพร้อมๆกัน คิดเห็นอย่างไรก็โพสคุยกันได้นะครับ หวังว่าคงนำเทคคิคเล็กๆน้อยๆไปประยุกต์ใช้นะครับ ใกล้ฮาโลวีนแล้วด้วย เผื่ออยากทำพรอพครับ ลุคต่อไปจะเป็นอะไร รอติดตามชมกันนะครับ แล้วเจอกัน บ๊ายบายครับ จุ๊บๆ ^^