สวัสดีครับ วันนี้น้อยหนึ่งมารีวิว อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งของ Gino McCray
ในเครือ BeautyBuffet ครับ^^
กับ BeautyBuffet เราก็รีวิวกันมามากมายหลายอย่างแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยรีวิวเกี่ยวกับ
บรรดา ไฮไลท์ และ เฉดดิ้ง ของเค้าแบบจริงๆจังๆเลย จนทางแบรนด์ส่งมาใช้ บอกตรงๆว่า
เค้าทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ
Gino McCray Smooth Focus&Define(สองกล่องด้านขวา) / Light&Shadow Corrector Set(ด้านซ้าย)
เป็นเครื่องสำอางที่ใช้ในการไฮไลท์และเฉดดิ้งทั้งหมดที่เค้ามี^^
แกะออกมาดูดีกว่า แพคเกจด้านในเป็นพลาสติกสีดำ เหมือนกล่องด้านนอก
เพราะคอนเซปเค้าเป็นแบบ The Professional Make Up แพคเกจก็จะเรียบหน่อย
ลองไปดูที่ละชิ้นกันครับ^^
Gino McCray The Professional Make Up Smooth Focus&Define Hi-Light
เป็นไฮไลท์เนื้อครีมสีนวลๆ ไม่ขาวจนเกินไป เนื้อครีมจะไม่มีวิ้ง ไม่มีชิมเมอร์ จะเป็นครีมสว่างๆ
ใช้ไฮไลท์บริเวณ สันจมูก ใต้ตา โหนกคิ้ว โหนกแก้ม ควรใช้ก่อนลงแป้ง(หลังลงรองพื้น)
หรือแล้วแต่ว่าจะประยุกต์ใช้แบบไหน แนะนำนิดนึง ถ้าจะใช้ ใช้นิสสสสสเดียวพอนะ55
เพราะครีมค่อนข้างเข้มข้น แตะมานิดเดียวก็พอจ้า
Gino McCray The Professional Make Up Smooth Focus&Define Shading
เป็นเฉดดิ้งเนื้อฝุ่น ไม่มีชิมเมอร์ เป็นสีแมทสนิทจริงๆ เป็นน้ำตาลไปทางเหลือง ไม่ออกแดงจนเกินไป
ส่วนตัวแล้วชอบเฉดดิ้งหรือบรอนเซอร์ เนื้อแมทมากกกก เพราะมันดูธรรมชาติดี(ถ้าใช้ไม่เยอะ)
แล้วที่ตัวนี้ก็แมทจริงจัง แตะนิดเดียวก็ใช้ได้แล้ว ส่วนตัวชอบใช่ตัวนี้เฉดดั้งจมูก เพราะสีเข้มกำลังดี
Gino McCray The Professional Make Up Light & Shadow Corrector Set
เปิดออกมาแล้วแฮปปี้มาก555 เป็นการรวมตัวกันของสิ่งที่ใช้สร้างมิติทั้งหมด
มีคอนซีลเลอร์ 2 สี(เนื้อครีม) บรอนเซอร์ และ ไฮไลท์(เนื้อฝุ่น) แอบแถมแปรงน้อยมาให้นิดนึงด้วย
Swatch สีจากซ้ายไปขวา : Concealer No.01 / Concealer No.01 / Bronzer Powder / Highlighter Powder
ตัวคอนซีลเลอร์เบอร์ 01 จะออกเหลืองกลางๆไม่เข้มหรือสว่าง ใช้ปกปิดพวกรอบสิวให้สม่ำเสมอได้
ส่วนเบอร์ 02 จะออกไปทางสว่างอมชมพู เอาไว้เป็นคอนซีลเลอร์ใต้ตา หรือเอามาใช้เป็นไฮไลท์เนื้อครีมก็ได้ พาเลทนี้ตัวไฮไลท์กะเฉดดิ้งจะต่างกับสองอันก่อนหน้า นั่นก็คือ มีชิมเมอร์ประกายทองละเอียดๆอยู่ในเนื้อด้วย แต่ก็ไม่ได้ทองมากเท่าไร เดี๋ยวลองเปรียบเทียบให้ดูจ้า
Swatch สีจากซ้ายไปขวา : Smooth Focus&Define Hi-Light / Light & Shadow Corrector Set
ไฮไลท์สองตัวนี้ต่างกันเยอะอยู่ เพราะตัวนึงเป็นเนื้อครีม ตัวนึงเป็นแบบฝุ่น
ตัวเนื้อครีมก็จะชัดเจน สว่างกว่า แต่ตัวฝุ่นก็จะเหมือนมีแสงตกกระทบมีประกายสีทองเบาๆ
ส่วนตัวแล้วชอบแบบฝุ่น เพราะใช้ง่ายดี สว่างกำลังดีด้วย^^
Swatch สีจากซ้ายไปขวา : Smooth Focus&Define Hi-Light / Light & Shadow Corrector Set
พอมาเทียบกันแล้ว ก็จะเห็นว่าต่างกันพอสมควร เรื่องความฉ่ำวาวและโทนสี
ด้านขวาจะดูเหลืองกว่าหน่อย เพราะมีชิมเมอร์สีทองช่วยสะท้อนแสง แต่ชิมเมอร์ก็ไม่ได้น่ากลัวจนปัดยาก ส่วนตัวมองว่า
ถ้าอยากได้การคอนทัวร์ที่จริงจัง แบบแก้ไขรูปหน้าไรงี้ แนะนำแบบแมท เพราะจะชัดเจน ควบคุมง่าย
แต่ถ้าอยากได้เป็นผิวดูโกลว์ๆบรอนเซอร์ ปัดรวมๆให้อุ่นๆขึ้น ก็ใช้แบบชิมเมอร์ปัดทั่วๆกรอบหน้า ก็สวยดี
แล้วแต่ชอบ และวิธีการใช้ของแต่ละคนจ้า^^ (สีคล้ายนาร์สเลยเนอะ)
.
.
หมดแล้วจ้า เหล่าอุปกรณ์สร้างมิติที่เอามารีวิวให้ชมกัน
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใช้ทำอะไร ทาตรงส่วนไหน อยากได้เอฟเฟคแบบไหน ก็เลือกเอาได้เลยจ้า
เนื้อแมทกะชิมเมอร์ก็ให้เอฟเฟคที่ต่างกันเรื่องการกระจายแสงและดูดเงา555
เนื้อแมทจะดูเป็นธรรมชาติ เน้นเรื่องการสร้างมิติ แบบโครงชัดๆ ส่วนที่มีชิมเมอร์
ก็จะทำให้ดูโกลว์ๆ บ่มแดด กระจายแสงสู่ชุมชนกันไป^^
.
.
.
ขอขอบคุณ Beauty Buffet ครับ ที่ส่งของเหล่านี้มาให้ทดลอง และให้น้อยหนึ่งได้ทำ Review นี้ขึ้นมา
หวังว่า Review นี้คงสนุกสนานและมีประโยชน์ต่อพี่ๆเพื่อนๆ
ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ Beauty Buffet นะครับ เอาไว้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ
ขอบคุณที่รับชมครับ ^^ แล้วเจอกันครับ
ต้องไปจับจองเป็นเจ้าของซะหน่อยแล้นนน