แค่อุบัติเหตุเล็กๆ...
วันที่ 2 ที่มาทำงาน...หลังจากลงไปวัดพื้นถนนมา...ตัวไม่เจ็บอะไรมากมาย..แต่เจ็บใจพี่หมาเจ้ากรรมที่ดันวิ่งมาตัดหน้า...รถมอเตอร์ไซต์ กับ หมา นี่เข้ากันไม่ได้จริงๆ...
ด้วยความที่กระชั้นชิด..และ...ไม่มีวี่แววที่มันจะโผล่ออกมาตัดหน้า...อยู่ๆมันก็พรวดออกมาซะงั้น...
สรุปคือ..แม้แต่เบรคก็ยังแตะไม่ทัน...ชนเข้าแบบเต็มๆ...ไม่มียั้งเลย...เฮ้อ...
จำเหตุการณ์ตอนชนได้ติดตา...แม้กระทั่งตอนที่ตัวเรานอนทำแพลงกิ้งไถลไปกับพื้นถนนพร้อมยานพาหนะ...จากคนขี่รถ...มันกลับสภาพเป็นรถขี่คนซะแทน....
แวบแรกที่รถหยุดการลื่นไหล...ในใจนึกได้ทันที่เลยว่า...เจ็บหนักแน่ตู...เพราะจากความเร็วที่ชน บวกกับการโดนรถทับ...กลิ้งๆเป็นลูกขนุน...  
พยายามพยุงตัวแอบเข้าข้างทาง...เอ๊ย..ขาซ้ายรู้สึกชาดิกเลย...ขยับไม่ได้ด้วย..เอาแล้วไง...
มองซ้าย..ขวา..หน้า...หลัง...จะมีใครมาช่วยไหมว๊าาาาาาาา...
เงียบกริบ..เลย..ไม่มีรถผ่านมาสักคัน....
มองเข้าไปบ้านที่อยู่ใกล้ๆ...ไม่เห็นมีใครออกมาดูเลยฟะ..เสียงล้มก็ดังซะขนาดนั้น..ไอ้เจ้าหมาตัวนั้นก็วิ่งร้องลั่นหายเข้าไปในบ้าน...จะไม่มีใครได้ยิน...หรือสนใจเลยเหรอนี่...
สิ่งที่คิดได้คือ...โทรศัพน์...หาคนช่วยดีกว่า...
จึงกดโทรไปให้ทางบ้านมาช่วย...เอาสิ...พอรู้ข่าวว่ารถล้มเท่านั้น...แตกตื่นกันใหญ่เลย..
คำถามสารพัดถาโถมเข้ามาแบบตอบไม่ทัน....วางสายนึง...อีกสายนึงก็ดังต่อเข้ามาเรื่อยๆ...
" เออเนอะ...เรานี่ก็ยังมีคนเป็นห่วงอยู๋เยอะเหมือนกันนะนี่ "
ระหว่างที่รอคนทางบ้านมารับ....สังเกตถึงความเคลื่อนไหวบางอย่างได้จากบ้านที่หมาตัวนั้นวิ่งหายไป...
เพราะหมามันยังร้องเสียงดังไม่หยุด...จึงได้ยินเสียงตวาดหมาดังขึ้นมา...
" อ้าวเฮ๊ย....มีคนอยู่นี่หว่า...แล้วทำไมไม่ออกมาดูว่ะ " ได้แค่นึกในใจ...หลังจากที่ตอนนี้เริ่มขยับขาที่ชาได้แล้ว
สักพักเห็นเงาตะคลุ่มๆ..พร้อมแสงไฟฉาย..ลอดจากบ้านออกมา..ค่อยๆขยับออกมาจากในบ้าน..
เป็นป้าแก่ๆคนนึง...แกเดินออกมาจากบ้านได้สักนิด..แล้วก็ส่องไฟมาทางเราที่กำลังตรวจสภาพตัวเองอยู่...
ซึ่งไฟถนนตรงนั้นก็สว่างมากพอที่แกไม่ต้องใช้ไฟฉายก็พอจะรู็้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นนะตรงนั้น..
และก็แค่นั้นครับ...พอแกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น..ก็ก็เดินจากไปแบบเหมือนไม่เห็นอะไร...
 
ปล่อยให้เรายืนเจ็บแบบนั้นต่อไป...อ่าาาาาา...
บ้านตรงนั้นมีประมาณ 3 หลังซึ่งดูแล้วน่าจะมีคนอยู่ครบทุกบ้าน..แต่ไม่มีใครออกมาเลย...
นี่ถ้าเราสลบไป...ก็คงยังนอนอยู๋บนถนนแบบนั้นอีกนานแน่ๆ...
ผมไม่โทษเขาหรอกนะว่าทำไมไม่มาช่วย...แค่สงสัยว่าเขากลัวอะไรที่จะออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...เพราะรูปการเสียงรถผมที่ล้มดังมากๆ กับ เสียงหมาที่ร้องวิ่งเข้าบ้านไป..มันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น...เพราะบ้านกับถนน ติดกันซะขนาดนั้น...
ไม่ต้องการผู้รับผิดชอบหรอกครับ..แค่กำลังนึกว่าถ้าคนที่เรารู้จักเกิดเหตุการณ์แบบผม .. แล้ว ไม่สามารถช่วยตัวเองได้มากกว่าผม...ไม่ต้องนอนรอความช่วยเหลือ พร้อมกับความเจ็บปวดทั้งคืนเหรอนี่....
เฮ้อ...คิดแล้วก็รู็สึกเหนื่อยใจยังไงไม่รู้...
สุดท้าย...ผมไม่ได้ไปถามหาความรับผิดชอบจากใครนะครับ...คนทางบ้านมารับ กลับแล้วกลับเลย...รักษาตัวเอง...รับผิดเองที่พลาด + ประมาท..
โทรศัพน์...พกไว้ดีๆนะครับ...ช่วยท่านได้..
 
Create Date : 31 มกราคม 2555 |
|
31 comments |
Last Update : 31 มกราคม 2555 10:54:28 น. |
Counter : 1359 Pageviews. |
|
 |
|
รถวิ่งผ่านไปมาตั้งเยอะแยะ
ไม่มีคันไหนลงมาถามไถ่เลย
เก๊าะได้โทรศัพท์นี่แหละช่วยชีวิตไว้
โทร.หาเพื่อน
นั่งรอเพื่อนอยู่ริมฟุตบาตนั่นแหละ
เลือดก็ไหลไปเรื่อยๆ
นั่งดูรถผ่านไป
อื้ม โทรศัพท์สำคัญอย่างแรง